ความคิดเห็นที่ 3
ยินดีให้คำแนะนำครับ
ขออนุญาติแนะนำเฉพาะในส่วนของสินทรัพย์ทางการเงินอย่างเดียวนะครับ สินทรัพย์อื่นพวกทองคำ หรือ อสังหาริมทรัพย์รบกวนให้ท่านอื่นช่วยตอบแล้วกันครับ
เงินลงทุนส่วนหนึ่งที่ยังต้องการสภาพคล่องเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน หรือใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน ยังไงเสียก็คงหนีไม่พ้นต้องฝากในบัญชีออมทรัพย์ คราวนี้ก็มาถึงออมทรัพย์ที่แนะนำนะครับ ธนชาติ ให้ดอกเบี้ย 3% บัตร ATM ก็สามารถถอนต่างธนาคารได้สูงถึง 14 ครั้งภายใน 1 เดือน น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆของคุณ tumsinit
แต่หากไม่สะดวกกับธนชาต และมีบัญชีธนาคารอยู่ที่อื่น ก็ลองพิจารณา Money Market Fund ดูนะครับ ซื้อขายได้ทุกวันทำการ สภาพคล่องใกล้เคียงกับเงินฝากออมทรัพย์แต่ความเสี่ยงสูงกว่าเล็กน้อย แต่ไม่ว่ากองทุนไหนของบลจ.ใด ส่วนใหญ่ก็ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่าออมทรัพย์ของธนชาตินะครับ ส่วนตัวก็แนะนำ ทหารไทยธนรัฐ (TMBTM) ของ บลจ.ทหารไทย เพราะเป้นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดในประเทศ และผลตอบแทนย้อนหลังก็ประมาณ 4.0-4.4%ต่อปี และถ้าต้องการผลตอบแทนมากกว่านั้น ก็สามารถโยกมาลงทุนกับกองทุนทหารไทยธนบดี ซึ่งลงทุนในตราสารที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า (แต่ก็เสี่ยงสูงกว่า)
---------------------------
แหล่งพักเงินข้างต้นที่แนะนำ ยังไงก็ควรมีไว้นะครับ เพราะสิ่งสำคัญที่คนไทยพลาดโอกาสก็คือ เงินของเราไปอยู่ในเงินฝากออมทรัพย์มากเกินไป ทั้งๆที่ดอกเบี้ยได้ไม่ถึง 1%
ลองคิดผลตอบแทนคร่าวๆให้ดูนะครับ สมมติว่าแบ่งมาลงทุนในกองทุน TMBTM ซัก 1 ล้าน ผลตอบแทนต่อวันก็ตามนี้ครับ 1,000,000*4%/365 = 109 บาท ดีกว่าอยู่ในออมทรัพย์นะครับ ผลตอบแทนที่ได้รับจากกองทุนนี้เรารับรู้ได้เลย ไม่เหมือนออมทรัพย์ที่ต้องรอให้คำนวนงวดละ 6 เดือน
---------------------------
มาถึงเงินส่วนที่ 2 นะครับ อาจเป็นเงินที่ไม่ต้องการสภาพคล่องสูง แต่ระยะไม่ยาวจนเกินไป เพื่อหลีกเหลี่ยงความเสี่ยงเมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ก็ควรลงทุนกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น อายุ 3 เดือน 6 เดือน หรือไม่เกิน 1 ปี ซึ่งแต่ละ บลจ.มีออกมาเสนอขายเรื่อยๆ โดยมีนโยบายการลงทุนและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน อย่างตอนนี้ที่ขายหมดไปทั้งๆที่เปิด IPO แค่วันเดียวก็ UOBP 3M2 ของ บลจ.ยูโอบี อายุโครงการ 3 เดือน 28 วัน หมดเร็วมากๆครับ หรือกองที่กำลังเปิดอยู่ของ บลจ.ทหารไทย ก็มี กองทุนทหารไทยพันธบัตร อายุ 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี มีความเสี่ยงต่ำเพราะลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐเกือบหมดพอร์ต
กองทุนประเภทนี้สามารถติดตามข่าวคราวเรื่อยๆจากตัวแทนขาย หรือ ดูในโต๊ะสินธรนี้ก็ได้ครับ
-----------------------------
เงินก้อนสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ที่ควรลงทุนใน Financial Asset ก็อาจแบ่งมา 10-20% ลงทุนในกองทุนรวมหุ้น หรือซื้อหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีๆ หากรับความเสี่ยงได้บ้าง โดยหลักการเลือกพิจารณาไม่ว่าจะ หุ้น หรือ กองทุน ก็เหมือนกันครับ ปันผลดี P/E ต่ำ ผลการดำเนินงานย้อนหลังดี ถ้าเป็นกองทุนก็แนะนำดูของ บลจ.อเบอร์ดีน นะครับ ของเค้าดีจริง
ส่วนที่ไม่อยากแนะนำแบบเจาะจง ก็เพราะนักลงทุนแต่ละคนมีความเสี่ยงเฉพาะที่แตกต่างกันในรายละเอียด บางคนเก็บเงินให้ลูก บางคนออมเพื่อใช้ตอนเกษียญอย่างเดียว หรือบางคนเพราะต้องการทำกำไร คุณ จขกท. ต้องพิจารณาให้รอบคอบนะครับ
ส่วนที่เหลือเด๋วรอท่านอื่นมาตอบต่อละกันครับ
------------------------- โชคดีในการลงทุนครับ
จากคุณ :
Mr.Messenger
- [
23 ส.ค. 49 16:21:48
]
|
|
|