ความคิดเห็นที่ 1 ฝากประจำแบบธรรมดาไม่จำเป็นต้องฝากทุกเดือนนะครับ มีเงินเมื่อไหร่ก็เอาไปฝาก แต่ละก้อนที่นำไปฝาก ไม่เกี่ยวข้องกันครับ จะลงทุนครั้งนี้ ลงทุนในนามตัวเอง หรือในนามคุณพ่อครับ และตัวคุณ KPH มีรายได้ และฐานภาษีที่กี่เปอร์เซ็นต์ครับ แล้วคุณพ่อยังทำงานอยู่หรือเปล่าครับ ประเด็นที่ถามก็เพื่อดูว่า ผลประโยชน์จากการฝากประจำของคุณ KPH จะได้เต็มหรือเปล่า เนื่องจาก ฝากประจำนั้น จะต้องเสียภาษี ณ ที่จ่าย 15% ทันทีที่เงินฝากครบกำหนด ยกตัวอย่างเช่น ฝากประจำกับ KBANK 1 ล้านบาท ดอกเบี้ย 5.0% ระยะเวลา 8 เดือน จะได้ผลตอบแทนเท่ากับ = 1,000,000 * 5.0% * (8/12) = 33,333 บาท ซึ่ง 33,333 บาทนี้ต้องเสียภาษี ณ ที่จ่าย 15% จึงทำให้เงินได้รับจริงเท่ากับ = 33,333 * (1-0.15) = 28,333 บาท โดยประมาณนะครับ (อัตราดอกเบี้ยแท้จริงก็คือ 4.25%) แต่ทั้งนี้ หากเราเป้นบุคคลผู้ไม่มีราย ภาษีตรงนี้สามารถเครดิตคืนได้ทั้งหมดครับ หรือหากฐานภาษีที่ 10% เราสามารถขอ credit ส่วนที่เกินไป 5% กลับมาได้ ลองพิจารณาเรื่องประเด็นภาษีก่อนนะครับ ถ้าคิดออกแล้วก็มาว่ากันต่อ " แล้วอย่างนี้มีที่ๆให้ผลตอบแทนดีกว่าโดยที่ไม่ต้องเสียภาษีไหม " คำตอบคือ กองทุนรวมตราสารหนี้ภาครัฐบาล สำหรับคนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำครับ ซึ่งแต่ละ บลจ.มีเสนอขายกันอยู่เกือบทุกเดือน ถ้าสนใจเป็น กองทุนพันธบัตร ของ บลจ.ทหารไทย มีเสนอขายปลายเดือนนี้นะครับ มีให้เลือกลงทุนทั้งแบบ 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี ผลตอบแทนที่ได้นั้นสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำหลังจากหักภาษีแน่นอนครับ ---------------------- หรือหากมองว่าพันธบัตรรัฐบาลอย่างเดียวดูจะได้ผลตอบแทนต่ำเกินไปหน่อย และอยากเพิ่มผลตอบแทน (ความเสี่ยงก็เพิ่มนะครับ) ลองพิจารณาเป็น กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ที่มีอายุครบกำหนดแน่นอน อย่าง TMBFI162D ของทหารไทย อายุ 5.5 เดือน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาคสถาบันการเงิน ผลตอบแทนประมาณการ 4.8% หรือ UOBP3M3 ของ บลจ.ยูโอบี อายุ 4 เดือน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐฯ และภาคสถาบันการเงิน เกินมาก 80% ของพอร์ต มีนโยบายคุ้มครองเงินต้น ผลตอบแทนประมาณการ 4.70%-4.80% ทั้งสองกองให้ผลตอบแทนที่สูงเงินฝากประจำหลังหักภาษีนะครับ แต่ก็มีความเสี่ยงที่สูงกว่าเงินฝาก สุดท้ายนะครับ คุณ KPH อาจกันเงินอีกส่วนหนึ่งเพื่อรักษาสภาพคล่องในยามฉุกเฉินเพื่อต้องใช้จ่ายจริงๆ ในกรณีที่เงินฝากประจำ หรือกองทุนรวมตราสารหนี้ที่ลงทุนยังไม่ครบกำหนด โดยลงทุนใน กองทุนรวมตลาดเงิน ซึ่งลักษณะเฉพาะของกองทุนนี้คือ ซื้อขายได้ทุกวันทำการ แต่ตอนขายจะได้รับเงิน T+1 หรือ T+2 สภาพคล่องต่ำกว่าการกด ATM ของธนาคาร แต่ผลตอบแทนสูงกว่ามากครับ (ปัจจุบันค่าเฉลี่ยผลตอบแทนของกองทุนตลาดเงินในตลาดอยู่ที่ประมาณ 4.0%-4.4%) หากเปรียบเทียบกับเงินฝากประจำแล้วก็ต้องบอกว่าดีกว่ามากครับ สามารถเลือกดูความเสี่ยงเฉพาะของแต่ละกองทุน ลองดูความเห็นของกองทุนประเภทนี้บางส่วนจากกระทู้นะครับ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I4680978/I4680978.html http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I4654302/I4654302.html ------------------------ ค่อยๆศึกษา น่าจะพอได้ไอเดียในการลงทุนนะครับ จากคุณ : Mr.Messenger - [ 6 ก.ย. 49 10:36:51 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เอาอย่างนี้สิครับ ตอนนี้ให้คุณลงทุนอะไรที่มันเสี่ยงน้อย ๆ ก่อน... เช่น ฝากประจำ ซื้อหน่วยลงทุน..... แล้วระหว่างนี้ให้คุณหาความรู้ไปเรื่อย ๆ หาความรู้เกี่ยวกับการลงทุนน่ะ... พอคุณมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น คุณก็จะหาวิธีการลงทุนได้เองครับ... อย่าพึ่งรีบร้อนครับ ใจเย็น ๆ .... จากคุณ : บอนน์ - [ 6 ก.ย. 49 11:16:33 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทำ Link ต่อให้ครบ ครับ จะได้เป็นกระจก 2 ด้าน - http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I4684228/I4684228.html - http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I4682855/I4682855.html - http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I4679248/I4679248.html - http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I4672128/I4672128.html จากคุณ : pjuk - [ 6 ก.ย. 49 11:19:53 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณมากครับสำหรับ คำแนะนำที่เป็นประโยชน์อย่างมากเลยครับ ตอนนี้มี Some Ideas แล้วนะครับ อยากจะบอกคุณ Mr.Messenger ที่ถามผมไปว่า 1. การลงทุนในครั้งนี้อาจจะเป็นของคุณพ่อครับท่านคงยังไม่ไว้ใจผมในการนำเงินของท่านไปลงทุนครับ 2. ตอนนี้ผมอายุ 24 ครับถึงจะทำงานแล้วก็เถอะ รายได้ก็เหมือนกันพนักงานประจำสำหรับเด็กจบใหม่ (พึ่งจบโท) นะครับ เดือนละ 15,000 คงที่ครับ ไม่มี commission  หรือ Benefit Allowance ครับ 3. ตอนนี้คุณพ่อไม่ได้ทำงานแล้วล่ะครับ แต่เมื่อก่อนคุณพ่อเป็นเจ้าของกิจการอยู่แล้วแต่ตตอนนี้หยุดแล้วครับ ไม่ได้ทำงานบริษัทแต่อย่างใดครับ - แล้วอยากจะถามต่อไปครับว่า ในบรรดา บลจ. ต่าง ๆ ในตอนนี้มีที่ TMB (ธนาคารทหารไทย) และ SCB (ธนาคารไทยพาณิชย์) เท่านั้นหรือครับที่มีการลงทุนที่ดี ผลกำไรดี แล้วมีความมั่นคงน่ะครับ เห็นเพื่อน บอกว่าที่ Phatra, Alberdeen, AJF และ K.BANK (ธนาคารกสิกรไทย) ก็ดีเหมือนกันไม่ใช่หรือครับ ก็เลยอยากจะทราบว่า บลจ. เหล่านี้น่าลงทุนหรือไม่ครับ - อยากจะขอให้ช่วยกรุณา ลอง Estimate Investment Plan and prefer seperate money ก็จักขอบพระคุณมากครับตาม  Style ของแต่ละท่านหน่อยได้ไม๊ครับ โดยอาจจะให้เงิน และ จุดประสงค์ของผมเป็น Model ตั้งต้นก็ได้ เพื่อช่วยให้ผมได้มีความกระจ่างยิ่งขึ้นในการลงทุนมากขึ้น เพราะจากที่ผมเข้ามาดูที่ web pantip และเข้ามาห้องสินธร 3 วันมานี่ ผมเชื่อว่าหลายท่าน เช่น คุณMr.Messenger, คุณpjuk, คุณ ก., ฯลฯ (ขออภัยบางท่านท่านที่ไม่ได้กล่าวชื่อนะครับ) มีความรู้ ความสามารถ และมีจิตอันเป็นกุศล ในการให้ความรู้ คำอธิบาย ตลอดจนแนวทางปฎิบัติ และแง่คิดที่เป็นประโยชน์ในการลงทุนครับ หรือหากท่านต้องการติดต่อผมโดยตรงกรุณาติดต่อที่ Personal E-mail ก็ได้ครับ หากท่านสะดวก kong_lek@hotmail.com natthaphon_m@hotmail.com natthaphon.m@royalporcalain.co.th E-mail แล้วแต่สะดวกจริง ๆ ครับ ขอแสดงความนับถือและขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ครับ จากคุณ : KPH (KPH) - [ 6 ก.ย. 49 13:48:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอแนะนำว่า ช่วงระหว่างศึกษาข้อมูลการลงทุน ก็เอาเงินไปฝากบัญชีออมทรัพย์ที่ธอสหรือธนาชาติ ได้ดอกเบี้ย 3% เรียกว่าก็ไม่ขี้เหร่นะคะ จากคุณ : หนูขิง - [ 6 ก.ย. 49 14:01:51 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ข้อความคุณ KPH นี้ ผมอ่านแล้วรู้สึกเหมือนจดหมายข้าราชการเลยครับ (- -") จริงๆไม่ต้องเป็นทางการขนาดนี้ก็ได้นะครับ เข้าเรื่องดีกว่า ตอบคำถามข้อแรกก่อนนะครับ ข้อมูลในกระทู้พันทิพย์นี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งในการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนทั้งหลายนะครับ ไม่ใช่ว่าต้องเชื่อทั้งหมด (ขนาดพระพุทธเจ้ายังตรัสกับสาวกของพระองค์ ว่า อย่าเชื่อคำสอนของพระองค์ แต่จงศึกษาและพิสูจน์ด้วยตนเอง) ในสินธรก็เช่นกันครับ เราเห็นแต่ TMBAM หรือ SCBAM บางคนเข้ามาก็เหมาว่า แสดงว่า บลจ. 2 ที่นี้ ทำผลงานได้ดีที่สุด ซึ่งไม่เป็นความจริงครับ แต่เนื่องจากผู้ที่สนใจในการลงทุนกับ 2 บลจ. ข้างต้นนี้ในสินธรมีจำนวนมาก เราจึงเห็นกระทู้ถามตอบสองที่นี้ซะส่วนใหญ่ แต่ถ้าจะให้บอกว่าที่ไหนอีกที่ดี อันนี้ต้องศึกษาเอาเองนะครับ (อาจตอบไม่โดนใจเท่าไหร่นะครับ) ยกตัวอย่างเช่น AJF และ Aberdeen ซึ่งมีผลการดำเนินงานในกองทุนรวมประเภทตราสารทุน ที่โดดเด่นกว่ากองทุนอื่น หรือ บลจ.กรุงไทย ที่มีนโยบายของ บลจ.เองเลยว่า จะไม่ลงทุนในตราสารหนี้ประเภทอื่นนอกเหนือจากพันธบัตร หรือว่าจะเป็น บลจ.วรรณ ที่มีชื่อเสียงขึ้นมาจาก FLEXAR จะเห็นว่าแต่ละที่ก็มีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันไปครับ -------------------------- ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมที่คุณ KPH ให้ผมมา ก็พอจะฟันธงได้เลยครับว่า ฝากประจำของ KBANK ดอกเบี้ย 5.0% ในนามของคุณพ่อ ถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะคุณพ่อไม่มีภาระภาษีที่ต้องจ่ายแล้ว ฉะนั้นสามารถขอหนังสือหักภาษี ณ ที่จ่าย จากทางธนาคาร ตอนเงินต้นครบกำหนด นำไป credit ภาษีคืนได้ในตอนยื่น ภงด. นะครับ แต่ถ้าไม่อยากให้เงินจมอยู่กับเงินฝากประจำมากเกินไปก็สามารถนำอีกส่วนหนึ่งมาลงทุนในกองทุนรวมตราสารตลาดเงิน ซึ่งให้ผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากออมทรัพย์ แต่สภาพคล่องน้อยกว่านิดเนิงแทนดีกว่าครับ ลองค้นกระทู้เก่าๆดูนะครับ มีพูดไว้เยอะแล้วเหมือนกัน จุดประสงค์ของคุณพ่อคุณ KPH คือ เสี่ยงต่ำและเงินต้นอยู่ครบ กองทุนตราสารตลาดเงิน + เงินฝากประจำ + กองทุนรวมตราสารหนี้ภาครัฐบาล น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายนะครับ -------------------------- โชคดีในการลงทุนนะครับ จากคุณ : Mr.Messenger - [ 6 ก.ย. 49 15:00:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่สามารถรับความเสี่ยงได้เลย ฝากแต่ธนาคารเถอะครับ ช่วงนี้ผลตอบแทนดีกว่าเดิมเยอะ ถ้าเล่นตราสารหนี้ก็ให้เอาเฉพาะ ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล กองทุนตราสารหนี้ เคย default มาแล้วในช่วงปี 2540 การขอคืนภาษีนั้น ผู้ที่สามารถขอคืนภาษีได้ต้องเป็นผู้มีหน้าที่ยื่นแบบ ภงด 90 หรือมีเงินได้เกินกว่า 60000 บาทต่อปี ถ้าคุณพ่อของคุณไม่มีรายได้เลย ก็ขอคืนภาษีไม่ได้ ผมแนะนำว่า ใช้ชื่อของคุณเป็นผู้ฝากเงินดีกว่า รายได้ของคุณยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายอยู่แล้ว จะได้ credit ภาษีคืน ( ยกเว้นฐานภาษีรายได้ของคุณจะมากกว่า 500000 บาทต่อปี credit ภาษีจะไม่คุ้มค่า ) จากคุณ : ไรเฟิล - [ 6 ก.ย. 49 15:51:56 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขออนุญาตเพิ่มเติมความเห็นอีกเล็กน้อยนะครับ (อย่างเพิ่งเบื่อผมซะก่อนนะ) จากความเห็นของคุณ ไรเฟิล " การขอคืนภาษีนั้น ผู้ที่สามารถขอคืนภาษีได้ต้องเป็นผู้มีหน้าที่ยื่นแบบ ภงด 90 หรือมีเงินได้เกินกว่า 60000 บาทต่อปี ถ้าคุณพ่อของคุณไม่มีรายได้เลย ก็ขอคืนภาษีไม่ได้ " ถูกครึ่งหนึ่งครับ ยกตัวอย่างเช่น หากเราฝากประจำในธนาคาร หรือลงทุนในหุ้นแล้วรับปันผลมา แล้วมีดอกเบี้ยรับมากกว่า 60,000 บาทต่อปี รายได้จากทั้งสองทางนี้ ถือเป็นรายได้ที่สามารถยืน ภงด.90 นะครับ ดังนั้นสามารถ credit ภาษีคืนได้ ถึงแม้จะมีรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝากเพียงอย่างเดียว แต่เกิน 60,000 บาทขึ้นไป คำนวณภาษีดีๆนะครับ จากคุณ : Mr.Messenger - [ 6 ก.ย. 49 16:36:11 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณมากครับ สำหรับคำตอบ และคำแนะนำต่างๆ ของ คุณMr.Messenger, คุณไรเฟิล, คุณหนูขิง etc. อยากว่างั้นงี้เลยนะครับคือว่า ที่เขียนแบบนี้ก็เพราะว่า ถือว่าเป็นการขอร้องและเป็นการขอให้ช่วยอย่างหนึ่งล่ะครับเพราะว่า พวกคุณช่วยสละเวลามาตอบให้ และการที่พวกคุณมาเป็นธุระตอบให้ก็จะต้องได้รับความขอบคุณเป็นการตอบแทน แต่ถ้าอยากจะให้พิมพ์แบบไม่ราชการ ผมก็จะพยายามนะครับ อิอิ ( ! ' _ ' ! ) อยากถามเรื่องของสัดส่วนในการลงทุนน่ะครับ คือ ความคิดเห็นอันบนของคุณMr.Messenger เรื่องข้อแนะนำเรื่องของการฝากประจำที่ K.BANK น่ะครับ ควรลงทุนจำนวนเท่าไรดีครับ ขอเป็นจำนวน Exactly หรือเป็น Percentage ก็ได้ครับ และในส่วนของการ Sseperate เงินในหน่อวยต่าง ๆ เพื่อรักษาสภาพคล่องของการลงทุนครั้งนี้น่ะครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : KPH (KPH) - [ 6 ก.ย. 49 18:24:25 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มิบังอาจแนะนำฟันธงนะครับ ทั้งนี้ต้องดู Breakeven point ของรายได้จากดอกเบี้ยของคุณพ่อ รวมกับรายได้อื่น (ถ้าหากมีนะครับ) ว่าเกิน 60,000 บาท ต่อปีหรือเปล่า ถ้าไม่เกิน ก็แนะนำว่า ลดสัดส่วนการฝากเงินในธนาคาร และ Over Weight ในกองทุนรวมตราสารหนี้พันธบัตรรัฐบาลแทนนะครับ เพราะหาก credit ภาษีคืนไม่ได้ ก็น่าจะหาที่อื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า (อันนี้คือในกรณีที่คุณพ่อไม่ยินยอมให้ฝากธนาคารในชื่อของคุณ KPH นะครับ) แต่ถ้ายินยอมก็ฝากได้เลยครับ ถ้าเอาแบบ conservative มากๆก็ตามนี้ครับ ฝากประจำ 50% กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาลที่อายุไม่เกิน 6 เดือน 20% กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาลที่อายุไม่เกิน 1 ปี 20% กองทุนตราสารตลาดเงินอีก 10% หรือหากอยากขยับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นไปอีกก็ ฝากประจำ 40% กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาลที่อายุไม่เกิน 6 เดือน 25% กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาลที่อายุไม่เกิน 1 ปี 30% กองทุนตราสารตลาดเงินอีก 5% แต่ถ้าเงินลงทุนรวมต่ำกว่า 1 ล้าน แนะนำให้ยุบกองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาลที่อายุไม่เกิน 6 เดือนไปดีกว่าครับ แล้วไปเพิ่มสัดส่วนในเงินฝากประจำกับพันธบัร 1 ปีแทน สาเหตุก็เพื่อขจัดความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยออกไปหากอยู่ในช่วงขาลงครับ ------------------------ โชคดีในการลงทุนครับ จากคุณ : Mr.Messenger - [ 6 ก.ย. 49 23:30:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณมาก ๆ ครับ คุณMr.Messenger  ตอนนี้ตัดสินใจได้แล้วครับ และกำลังเลือก บลจ. และหน่วยลงทุน ตามหนังสือชี้ชวนอยู่ครับ แหม! จะลงทุนทั้งที่นี่ลำบากจริง ๆ นะครับ ต้องอ่านหนังสือมากเลย ผมอ่านหนังสือการลงทุนเก่า ๆ เมื่อสมัยก่อนตอนที่บ้าซื้อและเอกสารของกลต., ตลาดหลักทรัพย์, Thaimutual Fund, AIMC ฯลฯตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา จนตาบวมเลยครับ แล้วก็มา Bush up ความรู้ตอนเรียนเศรษฐศาสตร์ และตอนอบรม NIP ใหม่ด้วย เฮ้อ!!! เหนื่อยจริง ๆ แต่ก็หวังว่าการลงทุนครั้งนี้ ขอให้ผมประสบความสำเร็จนะครับ (อวยพรตัวเอง555) สาธุ.... ขอบคุณทุกคน โดยเฉพาะคุณMr.Messenger (ให้ credit หน่อยเพราะตอบเยอะ5555)  อีกครั้งนะครับ แล้วถ้าอนาคตข้างหน้าถ้าผมมีความรู้มากขึ้นถ้าอยากจะถามเรื่องเกี่ยวกับการสลับสับเปลี่ยนกองทุน หรือว่าอยากจะเอาเงินไปลงทุนในส่วนที่มีความเสี่ยงที่สูงขึ้น ก็จะขอรบกวนอีกครั้งนะครับ ขอบคุณมาก มากกกกกกกกกกกกกก ครับบบบบบบบบบบบ จากคุณ : KPH (KPH) - [ 7 ก.ย. 49 11:06:36 ]

ความคิดเห็นที่ 13 --------------------------- โชคดีในการลงทุนนะครับ จากคุณ : Mr.Messenger - [ 7 ก.ย. 49 17:20:18 ]