ความคิดเห็นที่ 1 เหมือนกันเลย เสียมากกว่าได้ แต่ยังไงๆ ก็ยังไม่คิดจะเลิกเล่น แต่พยายามไม่ให้เจ๊งมากกว่านี้ จากคุณ : หนูแดง (giftaus) - [ 15 ก.ย. 49 21:53:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เล่นมาสามปี หมดเงินไปเกือบล้าน หมดเงินกับการ day trade สเปะสปะไปเยอะ แถมเจ็บตัวการการถือ war เน่าๆอย่าง fns-w1 ไปหลายแสน ขนาดทำใจ cut ไปตั้งแต่ 5 บาทกว่า เพราะเป็นแม่งเม่าโง่ๆที่ถือคติไม่ขายไม่ขาดทุน cut loss ไม่เป็น ไม่น่าเชื่อ เพิ่งจะจับทางถูก คิดว่าต่อไปน่าจะเจ็บตัวน้อยลง ได้มากขึ้น จากคุณ : Everclear - [ 15 ก.ย. 49 22:01:46 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมคิดว่าผมเป็นคนเลี้ยงปลาเลี้ยง stec ไว้ตอนสี่บาทกว่า ตอนนี้ผมเลี้ยงมาได้ประมาณเดือนกว่าแล้ว ผมคิดว่าจะขายประมาณ หกบาทกว่าคุณว่าคุ้มไหมครับ เพราะว่าเป้าหมายของผมอยากทำแค่ให้ได้มากกว่าเงินเดือนนิดหน่อย หรือว่าผมลงทุนแบบชาวนาดีครับ 3 เดือนเก็บเกี่ยวที ......(ผมชอบไม่เกินสองตัวคุณว่าเสี่ยงไหมครับ) จากคุณ : หน่อไม้ซาง13 (หน่อไม้ซาง13) - [ 15 ก.ย. 49 22:24:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เคยได้รอบใหญ่ตอนช่วงปี 46-47 ที่มันขึ้นยาวจาก 400 ถึง 800 จุด ปีนั้นกำไรเยอะมาก หลังจากนั้นผ่านมา 3 ปี พยายามรักษาระดับ ประคองตัวไปเรื่อยๆ ไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลง ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี ได้กำไรประมาณ 15-20 % ของ port ลงทุน แต่ style ผมไม่ได้เล่น daytrade แล้วก็ไม่ได้แช่หุ้นด้วย แต่เน้นโจมตีเป็นรอบๆ เน้นจังหวะชัวร์เท่านั้น Trick ส่วนตัวคืออย่าคิดว่าจะทำยังไงให้ได้เงินมากๆ ในเวลาสั้นๆ แต่ให้คิดกลับกันว่าทำยังไงให้ได้เงินชัวร์ๆ จะมากจะน้อยไม่สน โดยความเสี่ยงน้อยที่สุด จากคุณ : Notelio - [ 15 ก.ย. 49 22:54:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นด้วยกับความเห็น 4 เลยครับ ตัวที่ผมได้มาก็เล่นแบบนั้นทั้งนั้น ส่วนตัวที่ผมเสียก็ "อยากได้เงินมากๆ ในเวลาอันสั้น" ทุกตัวเลย จากคุณ : มือใหม่ - [ 15 ก.ย. 49 23:17:52 A:58.8.63.152 X: TicketID:127277 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อ่านหนังสือมา 1 ปี เล่นหุ้นลมมา 1 ปี ถึงเข้าสนามรบ...หักลบกลบนี้ กำไรนิดหน่อย... จากคุณ : V$@P (ก้องหล้าลูกพ่อขุน) - [ 15 ก.ย. 49 23:34:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อย่าเล่นหุ้นครับ   ให้ลงทุนในหุ้น.... ไม่ใช่กำไรหลายสิบ หลายร้อยเปอร์เซนต์แต่ เป็นกำไรหลายสิบ  หลายร้อยเท่า... เป็นเรื่องธรรมดาๆ จากผลของการทบต้นของกำไรครับ แล้วที่บอกว่าเป็นการพนันชนิดหนึ่งนั้น  ขอเถียงหัวชนฝาครับ   การลงทุนในหุ้นให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ตราสารหนี้  ซึ่งจากอดีตอยู่ราว 12% ต่อปี เรียกว่า ถือหุ้นเฉลี่ยๆ แบบปาเป้า  หรือซื้อกองที่อิงดัชนี  ก็ได้กำไรอยู่แล้วเห็นๆ เพราะตลาดหุ้นและ ราคาหุ้น วิ่งขึ้นตามกำไรของบริษัทที่เพิ่มขึ้น   แต่การหมุนหุ้นมากไป  จะทำให้เสียค่าคอมฯ ได้มากกว่า 12% ของเงินลงทุน นั่นเข้าข่ายว่า.... คุณกำลังเล่นพนันอยู่หรือเปล่า ถ้าไม่หมุนหุ้นมากเกินไป  ไม่เล่นหุ้นปั่นมากเกินไป  ไม่ถือหุ้นเน่ามากไป   เชื่อว่าระยะยาวแล้วได้กำไรแน่นอนครับ   แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 49 00:19:04 จากคุณ : เฟยหง - [ 16 ก.ย. 49 00:10:47 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เล่นซัก 3-4 ปี แล้วลองมาทบทวนการเล่นตัวเองสิครับ ว่าทำไมถึงขาดทุน เรามีจุดเสียตรงไหน ผมเคยเจ๊งเกือบหมดพอร์ตมาแล้ว จากทุนเกือบ 4 แสน เหลือ หมื่นกว่าบาท (สุดยอดมั้ยครับ) แต่ไม่เลิกนะครับ หน้าด้าน อิ อิ 2 ปีแรก มั่วมากๆ อ่านหนังสือมาเยอะเลยแต่ทำไม่เห็นได้เลย (แรกๆ อยากเป็นวอเรน อยากเป็นหมอฟัน อิ อิ ) แต่เวลาเข้าสนามจริงๆ ตลาดทำอารมณ์กับสมาธิเราปั่นป่วนไปหมด แถมเจอเวิร์ลเทรด สงครามอิรักด้วย เละเลยครับ ปีที่ 3 ผมเริ่มตั้งหลักใหม่ แต่ก็ไม่ดีขึ้น ได้มาก็เสียหมด และเริ่มคิดได้ว่า สงสัยเราไม่เหมาะกับหุ้นมั้ง แต่เอ.. บางทีเราก็ทำกำไรได้นี่ แสดงว่าเราทำถูกบางจังหวะ แต่บางจังหวะเราทำผิด เอ๊ะ เราผิดพลาดตรงไหน เริ่มปีที่ 4 เอาใหม่ซิ นั่งจ้องจอเลย สังเกตๆๆๆๆๆ เออแฮะ มันมีบางจุดนี่นา ที่เราสามารถทำกำไรได้ และหลังจากผมไปอ่านบทความของท่านนึง ที่ว่าทำกำไรเดือนละแค่ 10 % แล้วทบต้นไปเรื่อยๆ ผลตอบแทนจะมากมายมหาศาลในเวลาไม่กี่ปี เป็นหลักหลายร้อยเปอร์เซนต์เลยครับ ผมเลยมานั่งคำนวณใหม่ พบว่าการทำกำไรวันละ 1-2 % ทุกวัน เดือนนึงก็ได้หลายเปอร์เซ็นต์นา แล้วไอ้การทำกำไรนิดหน่อยแค่วันละ 1-2 % เนี่ย ไม่ใช่เรื่องยากเลย แค่ใช้การสังเกตสักหน่อย (ตรงนี้เป็นเรื่องของ ปสก ครับ) บางครั้งได้มากกว่า 5 % ซะอีก บางทีดวงเฮงด้วย 20 % ยังเคยได้มาแล้ว แค่วันเดียวเอง แล้วถ้าการสังเกตเราผิดพลาดล่ะ(แน่นอนย่อมมี) ก็ขายทิ้งสิครับ กำหนดตายตัวไปเลย ขาดทุนเกิน 5 % ขายด่วน มันจะเด้งไปไหนก็ช่างหัวมัน แต่อย่างน้อยเราไม่ขาดทุนเพิ่มแน่นอน ผมใช้หลักการง่ายๆแบบนี้แหละ ตอนนี้จะเข้าปีที่ 6 แล้ว ผ่านมาจะ 2 ปีนี่ ผมทำกำไรเดือนนึงพอร์ตโตขึ้นเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20 % ทุกเดือน ทุกสถานการณ์ด้วย (เคยห่วยสุด 16 % มากสุด 38 %) แต่อยากบอกว่า ผมไม่ใช่คนเก่ง เทคนิคเคิลกร๊าฟผมดูไม่เป็น วิเคราะห์ข่าวก็ไม่ได้ ค่า pe ไม่เคยดู ผมดูอย่างเดียวคือลักษณะการเคลื่อนไหว และวอลุ่ม จุดสำคัญที่สุดคือ 1 ขาดทุนต้องขายครับ เราเข้าผิดตัว ผิดจังหวะแล้ว รีบตัดมันทิ้งทันที 2 อย่าโลภ กำไรเข้าเป้าแล้วขายเลย มันจะวิ่งไปไหนก็ช่างมัน (ผมถึงขายหมูบ่อยพอควร แต่เคยลองทิ้งให้วิ่งแล้วพบว่า ใน 20 ตัวจะวิ่งไกลๆแค่ 1 ตัว ที่เหลือย้อนกลับมาที่เดิมหรือไม่ก็จากกำไรเป็นขาดทุนซะ ผมเลยตั้งกฎไว้ว่า มีกำไรต้องขายครับ เพราะเราไม่รู้อนาคตและเราได้ตรงนั้นแน่นอนชัวร์ๆ ขายแล้วมันขึ้นผมไม่เจ็บใจเท่ากับ ไม่ยอมขายแล้วมันลงนี่สิ เพราะโอกาสทำกำไรมาแล้ว แต่ดันปล่อยมันทิ้งไป โง่มากๆ) ผมมองหุ้นเป็นเกมส์ ไม่ใช่การพนัน เพราะการพนันใช้ดวงถึง 90 % แต่หุ้น เราใช้ฝีมือ 90 % ครับ เราจำกัดความเสี่ยง ความไม่รู้ได้ เพียงแต่เราไม่ทำกันเอง เราไปดูคนอื่นทำกำไรเท่านั้นเท่านี้ เราก็อยากได้เหมือนเขา แต่เราลืมไปว่า คนที่เป็นเซียนนั้น เค้ามีวิธีเล่นที่ยอดเยี่ยมขนาดไหน เค้ามี ปสก มากขนาดไหน ผมเคยเล่นตามแบบคนอื่นและพบว่า ผมเล่นไม่ได้ ผมไม่เก่งขนาดนั้น ผมเจ๊งตลอดเลย ผมทำตามกฏของผมและพบว่า เป็นการเล่นที่สบายๆที่สุดแล้ว ไม่เครียดเลย หุ้นจะตกเท่าไหร่ผมเฉยๆ เพราะเมื่อหุ้นตก ผมไม่มีหุ้นเลยซักตัว การเล่นของผมเป็นแบบ ตีหัวเข้าบ้านอย่างที่สุด จ้าวเค้าพาไปไหนผมไปด้วย แต่ผมได้จนพอใจแล้วผมก็สลัดออกมา จ้างจะทิ้งหรือจะไปต่อก็ช่างเค้า แต่ต้องออกตัวก่อนว่า พอร์ตผมมันเล็กๆนะครับ ไม่กี่ล้านบาท จึงทำแบบนี้ได้ ผมวิเคราะห์แล้วว่า การเล่นแบบของผมคงต้องมีพอร์ตที่ไม่ใหญ่มาก(เต็มที่ 10 ล้าน) ไม่งั้นการซื้อขายของผมอาจจะกระทบวอลุ่มของหุ้นตัวนั้นๆได้ และราคาจะไม่ไปตามที่ผมคิด ทุกท่านลองหาแนวทางของตัวเองดู แล้วจะรู้ว่าตลาดหุ้น มันพอมีโอกาสให้ทำกำไรอยู่ แต่ส่วนตัวผมแล้ว ผมจะระลึกเสมอว่า การทำกำไรจากหุ้นเป็นเรื่องยากมากๆครับ เพราะหุ้นขึ้นยากกว่าหุ้นลงเยอะ ดังนั้นเราได้กำไรมาแล้ว เราต้องรู้ถึงคุณค่าของมันให้มากๆ รักษามันไว้ให้ได้ อย่าหลงระเริงกับกำไร อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง แล้วเราจะอยู่รอดครับ ปกติผมไม่ค่อยได้เข้าที่นี่หรอก ผมอยู่ห้องกระทิงเขียว ใช้ชื่อ wishmaster ที่นั่น มีเซียนเก่งๆอยู่ 3-4 คนครับ ใครเห็นการเล่นของพวกเค้าแล้วจะทึ่ง ผมเทียบไม่ติดเลยอะ จากคุณ : ยำทุเรียน - [ 16 ก.ย. 49 00:40:57 A:58.9.25.126 X: TicketID:110000 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เราเล่นสไตล์แบบคุณยำทุเรียนนี่แหละ แต่ตอนนี้เป็นช่วงเริ่มต้นอยู่ เค้าเรียกว่ายังอยู่ในช่วงขาดทุน หาประสบการณ์ อิอิ ยิ่งเล่น ก็ยิ่งเจ๊ง แต่ไม่เคยกลัว เพราะเซียนทุกคนย่อมต้องผ่านการเจ๊งมาก่อนทั้งนั้น น่าเสียดายแต่ว่า เงินเราไกล้จะหมดแล้ว แบบว่าเอามาเจ๊งหุ้นซะหมด แถมยังกำลังสร้างบ้านด้วย เลยต้องเพลาๆมือหน่อย ถ้าไม่งั้น คงยังเล่นไม่เลิก ตอนนี้ ยังเล่นแบบสะเปะสะปะ มั่วซั่ว ใช้อารมณ์ ชอบวัดดวง เลยเสียซะเป็นส่วนใหญ่ แต่อีกหน่อย เชื่อว่าหลังจากผ่านประสบการณ์เจ๊งจนเชื่อง ก็คงจะนิ่งและสุขุมกว่านี้ ตอนนี้ยอดขาดทุนสะสมราวๆครึ่งล้าน ถือว่ายังจิ๊บจ๊อยอยู่เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ จากคุณ : หนูขิง - [ 16 ก.ย. 49 00:58:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เล่นมา 2 ปี เงินหายไป 20% ของพอร์ท แต่ส่วนมากหายไปเพราะปีแรกๆโดนเป็นแผลอักเสบ ช่วงหลังกำลังทวงที่หายไปคืนอยู่ ไม่รู้สิ้นปีจะเหลือที่เท่าไหร่ แต่หลังจากเจ็บตัวไปบ่อยๆจึงได้คิด ว่าทางไหนเหมาะกับเรา เรื่องขาดทุนแรกมองว่าเป็นประสบการณ์ หลังๆไม่ทำอย่างตอนแรกแล้วเลยสบายหน่อยค่อยๆเก็บกลับ ง่วงแล้วไปนอนก่อนนะครับ จากคุณ : เสือ_กลิ่นหอม - [ 16 ก.ย. 49 02:21:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เริ่มเล่นได้ปลายปีที่แล้ว...ซื้อมั่วซั่วแต่กำไรไปเรื่อยจนถึงช่วงกุมภาพันธ์ปีนี้ เริ่มสนใจหุ้นปั่น.. เลยได้ประสบการณ์ จนขาดทุนไปครึ่งพอร์ต... ประจวบกับตอนดอกเบี้ยฝากประจำ 3 เดือนขึ้นไป 5% เลยเอาเงินไปฝากประจำซะดีกว่า ขี้เกียจลุ้นตัวเกร็ง เลิกนั่งเล็งกราฟเอาเวลาไปทำงาน ไว้มีโอกาสดีๆ หุ้นไทยจะไป 1000 จุดค่อยเข้าไปขาดทุนใหม่ครับ จากคุณ : Go2Better - [ 16 ก.ย. 49 02:45:21 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เริ่มเล่นได้ไม่นานครับ ไม่เคยขาดทุน... กำไรไม่เยอะครับ ประมาณ 3-5% ต่อเดือน.... ก่อนเข้ามาเล่นหาความรู้มานานพอสมควรครับ.... ไม่เคยแตะ วอแรนซ์ และหุ้นปั่นเน่า ๆ หุ้นพื้นฐานดีราคาแพง ๆ ก็ไม่เอาครับ...ชอบเล่นหุ้นตามแบบตัวเองครับ... ไม่ตามใคร ไม่เชื่อโบรก และที่สำคัญไม่เคยบอกใครด้วยว่าซื้อตัวใหน เพราะกลัวพฤติกรรมของหุ้นเปลี่ยนครับ... จากคุณ : บอนน์ - [ 16 ก.ย. 49 03:54:23 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พยายามเลิก daytrade เฝ้าเฉยๆ มั่นใจค่อยซื้อหรือขาย นานๆที ค่า comm นี่หนักนะ .2675 ไปกลับ ก็ .5 กว่าๆ ต่อวัน ทีละนิดแบบไม่รุ้ตัว สิบกว่าปีนี่ สร้างบ้านสวยๆได้เป็นหลังเลย กำไร หายไปตรงนั้นแหละ สำหรับผม แต่ผมคิดช่วยเขาน่ะ มาร์เป็นญาติสนิทผมเอง เขาล้มเพราะหุ้นช่วงปี 40 แล้วก็ตกงาน ก็เลยต้อง daytrade พักใหญ่ประคองให้เขารอด ตัวเองแทบไม่ได้อะไรเลย จากการ trade แบบนั้น แต่เขาอยู่ได้มาหลายปีแล้ว ผมก็เลยเล่นตามที่ตนคิด กำไรครับ ปีนี้หุ้นแย่ๆ โดนเสี่ยประชัยเอาไปหนัก ก็ยังรอดมาเป็นกำไรสองอาทิตย์หลังนี้เอง จากการไม่ daytrade (บ้างแต่น้อย) เมื่อก่อน ไปกลับ 1 เปอร์เซนต์ แต่ง่ายกว่านี้มาก ผมเริ่มเล่นวันแรกที่มีระบบ net settlement น่ะแหล่ะ ตอนนั้นได้ทุกวัน มากสุดวันละครึ่งเหม่ง เดี๋ยวนี้วันดีๆแค่ สองหมื่น พลาดโดนเป็นหมื่น เลยไม่เล่นดีกว่า วิธีเล่นที่ควรได้กำไร คืออย่าโลภมาก อย่าเอามันมากอดไว้มากๆ ถ้าซื้อจำนวนมากในหุ้นที่ไม่ใหญ่มาก เวลามันขึ้นก็คืนเขาไปบ้าง ค่อยๆคืน มันจะค่อยๆขึ้นให้เรา ไม่ต้องหวังขายยอด โชว์ฝีมือ หรือ ซื้อได้ low ไว้อวดเพื่อน ดู trend ให้ออก ดูกลุ่มให้ออก ใครมาก่อน ใครมาหลัง หรือไม่มา หรือ สวนทาง ....ขี้เกียจแล้ว จากคุณ : I bet - [ 16 ก.ย. 49 07:10:19 A:58.147.56.201 X: TicketID:127220 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สนับสนุนความเห็นที่ 7 ครับ..... ช่วงแรกจากการเล่นสะเปะสะปะ ไม่มีจุดยืน ด้อยความรู้ เสียไปเกือบล้าน ไอ้ที่ได้ไม่พอกลบ จนตอนนี้จับหลักได้ เริ่มใหม่ ตอนนี้ในพอร์ตบวก 3% (ไม่รวมปันผล) ย้อนดูอดีตหุ้นทุกตัวที่ถือล้วนพื้นฐานดี ต้นทุนต่ำมาก ถ้าถือจนถึงวันนี้แค่ปีเดียวดูแล้วกำไรบางตัวเกิน 100 % แต่ทำไมถึงไม่ถือยาว ทั้งๆที่วิเคราะห์ด้วยตนเองแล้วมันต้องไปไกลแน่ แล้วทำไมถึงขาดทุน ต้องยอมรับว่าบทวิเคาระห์โบรคเกอร์มีส่วนทำให้ผิดพลาด 100 % พอราคาไปได้สักพักไปเจอบทวิเคราะห์จากโบรคเกอร์แนะนำขายบ้าง เต็มมูลค่าบ้าง แล้วจะถือทำไมละครับ ขายสิครับ ขายแล้วไปจับตัวอื่นต่อที่เขาเชียร์อยู่ เปลี่ยนตัวเป็นว่าเล่นจนทุนหาย  มาทบทวนกลยุทธอีกครั้ง อ่านตำราหาความรู้เพิ่มเติม อ่านบทวิเคราะห์บ้างเป็นข้อมูลประกอบแต่ไม่เชื่อ จนมั่นใจว่าน่าจะเอาชนะตลาดได้ มาปรับแต่งพอร์ตใหม่ และส่วนตัวมั่นใจว่ายังมีโอกาสอีกมาก ถ้าสามารถปรับนิสัยการเล่น จากคุณ : เม่ามีชัย - [ 16 ก.ย. 49 08:11:02 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ดีจัง  นึกว่าเคยเจ๊งอยู่คนเดียว จากคุณ : P_ปรัชญา - [ 16 ก.ย. 49 08:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เพิ่งเข้ามาช่วงเดือนเมษาปีนี้เอง ตอนนั้น set อยู่ราวๆ 780 แล้วมันก็ลงๆๆๆๆๆ มาเรื่อยๆ ก็กำแน่น ไม่ยอม cut ดันไปคัทแถวๆ 600กว่าๆ ผลก็คือขาดทุนไปกว่า 10% ทุกวันนี้ก็พยายามเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ปัจจุบันยอดขาดทุนลดลงเหลือประมาณ 8% กำลังพยายามทำให้มันเป็น 0% อยู่ แต่เราไม่ได้เล่นหุ้นปั่นนะ เพราะว่าไม่มีเวลาติดตาม เห็นคุยกันถึงหุ้นปั่นแล้วดูสนุกสนานดีจัง โดยเฉพาะพี่หนูขิงเล่าได้สนุกมากๆ ขนาดพี่เค้าขาดทุนเค้ายังเล่าเป็นเรื่องตลกได้เลย อิอิ จากคุณ : เหม่งคุง - [ 16 ก.ย. 49 08:29:18 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มันตลกเศร้าเคล้าน้ำตาน่ะสิ น้องเหม่งคุง ฮือๆ อยากจะเลิกมาตั้งหลายหนแล้ว เลิกไม่สำเร็จซักที แต่นี่เงินไกล้จะหมดเต็มแก่แล้ว อีกไม่นานคงต้องเลิกไปเอง จากคุณ : หนูขิง - [ 16 ก.ย. 49 09:19:26 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนนี้เริ่มนับหนึ่งใหม่ portแรกนับหนึ่งในตอนต้นปี เข้าตอนเจ็ดร้อยกลางๆๆ หักล้างไปหมดแล้วโดนเอาปันผลหักล้างกันไปกำไรก็หักล้างกันไป :) portสองก็นับหนึ่งใหม่ ตัวนี้เริ่มมาประมาณห้าเดือนที่แล้ว โดนเจ้าดาวตกสอยไปรอบก่อน กว่าจะทำมันกลับคืนที่เดิมได้ใช่เวลา สามเดือนกว่า ตอนนี้กำไรเป็นกำไรจากปันผลทั้งหมดที่ได้จากPortนี้ ของผมมันเปิดตอนสูงแต่เอาตัวรอดได้ เล่นแบบมวยวัด แต่ตอนนี้มวยวัดอย่างไง ก็ไม่มีเวลา ต้องทำตัวเหมือน ซ่อนตัว แต่ต้องขอกระบี่อิงฟ้า ที่ออกจากฟักแล้วต้องมีสังเวย :) จากคุณ : Myth&Miracle - [ 16 ก.ย. 49 09:33:20 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รู้สึกดีแฮะ เพื่อนๆแนวเดียวกันเยอะดี แสดงว่าต้องทำบางอย่างที่แตกต่างแล้ว ไม่งั้นคงเหมือนกันหมด จากคุณ : นั่งรอเธออยู่ - [ 16 ก.ย. 49 09:57:30 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เพื่อนร่วมทางเยอะคะ หนูขิงอย่าเพิ่งไปไหนนะ นี่แค่เริ่มต้น เดี๋ยวก็เก่งเอง จากคุณ : nantucket - [ 16 ก.ย. 49 13:58:26 ]

ความคิดเห็นที่ 21 โชคดีจัง เรายังกำไร อิอิ ชอบความเห็นคุณ wishmaster เห็นด้วยครับ เราต้องมีกฎในการเล่น และต้องทำให้ได้อย่างเคร่งครัดเสมอ ไม่ว่ากฎนั้น จะอ้างอิงจากอะไร เทคนิค(งูๆปลาๆ หรือ ระดับเซียน, พื้นฐาน, step ราคา ฯลฯ) ที่แน่ๆ กฎนั้น ต้องไม่ได้รับผลจากอารมณ์ของเรา และต้องไม่ส่งผลกลับไปให้อารมณ์แปรปรวนยิ่งขึ้นไปอีก และสุดท้าย กฎต้องไม่กลับไปกลับมา แม้ว่า บางครั้ง มันจะผิดเป้าหมายไปบ้าง แต่ถ้าส่วนใหญ่โอเค ทำไมจะต้องเปลี่ยน(human error เป็นเรื่องปกติในทุกวงการ นับประสาอะไรกับตลาดหุ้นที่เป็นแหล่งรวมของอารมณ์มนุษย์ซึ่งแปรปรวนง่ายยิ่งกว่า การหวังผล 80%up มีค่าความเป็นไปได้น้อยมากๆ ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า ทำอย่างไร ให้ถูกมากกว่าผิด และเวลาผิดเสียน้อยๆ เวลาถูกได้มากๆ นี่คือ keyword สำคัญครับ) ไม่งั้น เราก็ได้แค่เสี่ยงโชคไปวันๆ ที่ได้มา ก็พร้อมจะเสียคืนไปอยู่ตลอดเวลา คนที่เล่นแต่หุ้นปั่น โดยไม่มีกฎแน่ชัด (แล้วหวังลมๆแล้งๆว่าตลาดจะต้องดีขึ้นสักวัน ขอถูกจังๆสักที) คงจะเข้าใจความหมายได้ดี(และจะมีประโยชน์อะไร เพราะเมื่อถูกจังๆ ก็พร้อมจะเสียจังๆกลับคืนไปได้เหมือนกัน) ส่วนตัว เล่นมา 2 ปีกว่าเกือบ3 ปี จาก6 หลัก กลายเป็น 7 ต้องเรียกว่าฟลุ๊คมากๆ(ผมเป็นคนที่อยู่มุมตรงกันข้ามกับความรู้สึกของคนเล่นหุ้นเสมอ ผมไม่เชื่อในเรื่องฝีมือ ผมให้น้ำหนักโชค 80% ฝีมือ อะไร ผมไม่ค่อยมี ถ้ามีจริง ต้องผ่านช่วงที่ set ลง จาก 1700 กว่าจุดโน่นมาได้ โดยทำกำไรได้ด้วย ถ้าผมไปเริ่มเล่นช่วงนั้น ผมก็คงหมดตัวแน่นอน นี่ผมโชคดี ที่ได้มาเริ่มเล่นช่วงนี้ ช่วงที่ set ทรงๆ นี่คือ 1 ในตัวอย่างของความหมายของคำว่า โชค สามล้อถูกหวย ให้ซื้อหุ้นตอนขึ้นจาก 300 ไป 800 ซื้ออย่างไรก็ถูกตัว ใครเริ่มเล่นตอนนั้น แล้วรวย มีแน่ และเยอะด้วย หรือเราจะเรียกว่า นี่แหละฝีมือ? )   แต่ไม่ใช่ ผมไม่เคยขาดทุนหนักๆ  ขาดทุนหนักสุด 6 แสนใน 1 วัน(ก็ชอบเล่นแต่วอร์ พอดีวันนั้น ตัวที่ถือ ติด top loser อันดับ 2 แล้วใส่เงินไปเป็นเปอร์เซนต์ที่เยอะ แล้วหวังล้มๆแล้งๆ กับภาพที่ตัวเองสร้างขึ้น) อดีต เล่นแบบเชิงรุกเป็นหลัก ต้องการส่วนต่างมากๆ ตัวไหนมั่นใจมาก ใส่เต็มๆ โดยเฉพาะตัวอินไซด์ แต่มักจะโชคดีอยู่บ้าง เพราะไม่ค่อยโดนหลอก(ไปจริง แต่ไม่ถึงเป้าประจำ อิอิ) มีกฎที่สำคัญที่ทำให้อยู่รอดมาได้ตอนเล่นใหม่ๆ ทั้งๆที่ยังไม่แม่น คือ 1 ไม่เล่นเกินตัว 2 ไม่ฝืนตลาด เล่นเฉพาะรอบมา ไม่มาไม่เล่น ไม่ได้เล่นทุกวัน 3 เทคนิคดี แต่แพ้เจ้า เทคนิคไม่ใช่พระเจ้า มันไม่ได้รู้ไปเท่ากระแสเงินของผู้นำ ถ้าผิดทาง ไม่ตามกฎ ต้องยอมแพ้ และไม่เอาคืน (เงินไปเที่ยวเดี๋ยวเดียวก็ได้คืน) 4 อินไซด์มา ต้องขอดู แต่ไม่อยู่จนถึงยอด เพราะเจ้าชอบให้เป้าโอเวอร์ ขายแล้วไม่เสียดาย ขอให้กำไรเน้นๆก็พอ 5 ซื้อหุ้นตอนที่คนไม่อยากซื้อ ขายหุ้นตอนที่คนไม่อยากขาย ทั้งในรายนาที รายชั่วโมง และรายวัน ซื้อแล้วลงไม่ถึงจุด stop ไม่สน ขายแล้วขึ้นต่อ ไม่สน ไม่ไล่ เป็นชาวสวน ไม่ใช่ชาวไล่ ไม่กลัวไม่ได้ซื้อ แต่กลัวไม่ได้ขาย ปัจจุบัน ความคิดเปลี่ยนจากตอนเล่นใหม่ๆพอควร เพราะเลิกเล่นหุ้นปั่นแปะแล้ว(ยกเว้น นานๆครั้ง เล่นเอามันส์ เพื่อเคาะสนิมวิชา) จากเป้าหมายที่เน้นเชิงรุก ต้องการส่วนต่างมากๆ กลายเป็นเน้นเชิงรับ ในแง่ของการรักษาพอร์ตให้โตอย่างมั่นคง คิดว่า เข้าใจเรื่อง ความเสี่ยงมากขึ้น จึงไม่อยากคืนเงินตลาดเร็วเกินไป(เชื่อว่า เราคงไม่ฟลุ๊คไปตลอดชีวิต) ดังนั้น ทำอย่างไร ให้เราไม่ฟลุ๊ค เงินได้มา แล้วรักษาไว้ได้ กำลังคิดและทดลอง trading model บางแบบที่กำลังคิดเอง เพื่อใช้กับ tfex ซึ่งไม่ใช้ technical analysis เลย แล้วให้ได้กำไรในระยะยาวค่อนข้างแน่ ไม่ว่าตลาดจะเป็นอย่างไร(น้อยบ้างมากบ้างไม่เป็นไร) และได้เริ่มเก็บข้อมูลไปบ้างแล้ว(โดยมีตัวเปรียบเทียบ เป็นการซื้อขาย ตามการวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่างง่าย) เพื่อดูว่า ผลตอบแทนที่ชัวร์กว่า จะได้กำไรน้อยกว่ามากหรือไม่ ซึ่งคิดว่า อาจจะต้องใช้เวลาเก็บข้อมูลเป็นปีๆครับ ส่วนตัวแล้ว ผมเชื่อว่าหุ้นเป็นเกม สนุกกับมันได้ แต่อย่าหลงไหลมัน จนติด ถ้าติด คงเหมือนเหล้า "จน เครียด กินเหล้า" ดังนั้น "เลิกหุ้นปั่น เลิกจน"  ด้วยความห่วงใย จากคณะกรรมกรตลาดลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดชิทหายล่วงหน้า เพราะถ้าคุณเสีย มากกว่าที่คุณจะเสียได้ คุณจะรู้ว่านรกมีจริง โชคดีครับ จากคุณ : ไม่มีปาฎิหารย์ในตลาดหุ้น (DARINGYOUSENDMEHOME) - [ 16 ก.ย. 49 15:16:13 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เลิกไม่ได้หรอกพี่หนูขิง เพราะแฟนคลับของพี่ รวมถึงเราด้วย ไม่อนุมัติให้พี่เลิกเล่น อิอิ จากคุณ : เหม่งคุง - [ 16 ก.ย. 49 16:06:48 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอปรบมือให้ คห.ที่ 21 ครับ style การเล่น แนวคิดใกล้เคียง กับผมมาก ดีจริงๆครับ ได้อ่านความเห็นของคนหลากหลาย แล้วเจอคนที่ทัศนคติ แนวคิดคล้ายกัน ขอให้โชคดีเช่นกันครับ จากคุณ : Notelio - [ 16 ก.ย. 49 16:36:06 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ตอบ..จขกท..ก่อนนะคับ...ผมสังเกต แทบทุคคนที่ชอบพูดว่าการเล่นหุ้นคือการพนัน ตัวคนพูดเองนั้นแหละ เล่นหุ้นแบบการพนัน ถ้าใครที่ลองสังเกต ท่านที่วนๆอยู้ในห้องสินธรนี้ หลายๆคนจะออกมาด่าเสมอว่า การเล่นหุ้นไม่เป็นการพนัน เพราะท่านที่พูดแทบทุกท่าน ไม่ได้เล่นหุ้นแบบการพนัน งง มั๊ยคับ ...สำหรับผมนะ....การเล่นหุ้น ไม่ใช่การพนัน ถ้าคุณไม่เล่นแบบการพนัน....และผมก็ไม่ได้เล่นหุ้น ผมทำมาหากินกับหุ้นเหมือน พวกท่านๆหลายๆคนที่ทำมาหากินกับงานประจำของท่านนั้นแหละ ความเห็นที่ 8 กับ 21 ผมชอบมาก...และผมอยากให้หลายๆท่านที่คิดว่า เล่นหุ้นแล้วเป็นการพนัน อ่านซ้ำอีกกครั้งนะคับ ผมใช่วิธีการเดียวกับท่านยำทุเรียน คือพยายามกำไรทีละน้อยแต่มันคง แล้วกำไรทบต้นไปเรื่อยๆ ไม่พยายามทำกำไร วันละ 20% แล้วอีก 3 วันต่อมาโดนกินไป 10% แล้วอีกวันก็โดนกินซ้ำอีก 10% เล่นแบบนี้เล่นยังไงก็ไม่มีวันรวย ถ้าอยากรวยต้องเล่นยังไงก็ได้ไม่ให้เจ๊ง เพราะการกำไรทุกเดือนเอาแบบไม่ทบต้นเลยนะ เล่นกำไรเดือนละแค่ 5 % หนึ่งปีเล่นกำไรแค่ 10 เดือน ทั้งปีก็กำไรป้าเข้าไป 50% ของเงินต้นแล้ว เมื่อท่านวางแผนว่า 1 เดือนจะกำไร 5% ท่านก็วางแผนต่อว่า ทุกๆ 2 อาทิตย์ ท่านจะกำไร 2.5% ได้มั๊ย แล้วมันเยอะมั๊ย.... ก็แค่ประมาณว่าซื้อ tta 25 บาทเอาไปขาย 25.75 บาท...หรือซื้อ top 59.50 เอาไปขาย 61 ก็ได้แล้ว ..... ในเมื่อคนในห้องนี่ผมเห็นอ่านๆนี่กำไรกันคนละ เป็นสิบๆช่อง กันตั้งหลายคนเวลาเล่น .... ถามว่ามันง่ายขนาดนั้นเหรอ เพราะถ้าคุณมีเงิน 10 ล้าน คุณจะกล้าซื้อ tta 25 บาท 4 แสนหุ้นมั๊ย....เพื่อการทำกำไร 2.5 % ที่คุณวางแผนไว้.... ถ้าเปลี่ยนเป็น คุณมี 10 ล้าน แต่คุณลงเงินจริงแค่ 5 ล้าน แล้วคุณอยากกำไร 2.5 % ของเงิน 10 ล้าน คุณก็ต้องเล่นให้ได้กำไร 5 % ของเงินลงทุน 5 ล้าน ....คุณซื้อ tta 25 บาท 2 แสนหุ้น แล้วคุณขายที่ 26.75 มันจะดูง่ายและไม่เสี่ยงจนเกินไปกว่ามั๊ย...อันนี้ก็แล้วแต่ นิสัยของแต่ละคน ...ระบบการวางแผนการเงินสำคัญมาก.... จากคุณ : no_lagging - [ 16 ก.ย. 49 19:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อีกเรื่องที่สำคํญไม่แพ้กัน  คือ  การพยายามหาแนวทางของตัวเอง....หาวิธีการเล่นของตัวเองให้เจอว่าเล่นแบบไหนแล้วกำไรก็เล่นแบบนั้นไป  อย่ามั่วเปลี่ยนกฎตัวเองบ่อยๆเวลาเจ๊ง  อย่าเปลี่ยน indy บ่อยๆเวลาเล่นกราฟแล้วสอยดอยหรือขายหมูมาซื้อหมี   ให้พยายามแก้ข้อผิดพลาดที่ตัวเองก่อน  จะโทษว่า indy ตัวนี้มันไม่ดี  เพราะผมเชื่อว่ากราฟไม่หลอก  แต่เราอ่ะหลอกตัวเองว่าเราไม่โง่  ทั้งๆที่จริงๆแล้วเราโครตโง่เลย 555 อย่าพยายามไล่ตามคนโน้นว่าเล่นแบบนั้นดี  อีกวันเล่นแบบนี้ดีกว่า  ไล่ตามชาวบ้านไปเรื่อยแต่ไม่เคยหันกลับมามองตัวเองว่าเราพลาดตรงไหน  กราฟโปรแกรมนั้นดี  โปรแกรมตัวนั้นออกใหม่  indy ตัวนั้นมีอะไรพิศดาร  อยากได้ไปหมด  เพราะทุกอย่างไม่มีอะไรที่จะดีที่สุดและเหมาะสมกับทุกๆคน  หาอะไรก็ได้ที่เราเล่นแล้วสบายๆ  เล่นแล้วกำไร  เมื่อทำได้แบบนั้น  จำสูตรการเล่นของเราเอาไว้  แล้วทำซ้ำๆ ผมเชื่อว่า  หลายๆคนที่เล่นแล้วกำไรๆกันในห้องนี้   ต่างก็มีสูตรฌแพะของตัวเอง  ที่ไปเล่าให้ใครฟังแล้วอาจจะขำๆ จากคุณ : no_lagging - [ 16 ก.ย. 49 19:34:46 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ลงทุนในหุ้น จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย แล้วแต่เป้าหมายของแต่ละคน ผมตั้งเป้า12%ต่อปีก็พอ ถ้าได้เกินนั้น ถือเป็นโบนัส สำหรับผมตอนนี้ จะซื้อหุ้นตัวไหน ต้องเน้นที่ผลประกอบการเป็นหลัก แล้วต้องมีปันผลสูงกว่าอัตราดอกเบี้ย เมื่อเทียบกับราคาซื้อ แนวโน้น ถ้ายังดี ให้เก็บ ยิ่งลงยิ่งต้องเก็บ อย่ากลัว อย่างน้อยๆมีปันผลค้ำไว้อยู่ ถ้าแนวโน้มไม่ดี ไม่แตะ จนกว่าราคาจะลงมา ให้เห็นว่าราคาที่ซื้อคุ้มกับปันผลที่จะได้ ยังไงราคาหุ้นต้องขึ้นตามผลประกอบการ รับรอง ไม่มีขาดทุน มีแบ่งบางส่วนไว้เล่นหุ้นปั่น ซื้อเฉพาะตอนลงแรงๆ แต่ต้องลงตามตลาดนะ ไม่ใช่ลงเพราะข่าวร้ายของตัวมันเอง แล้วเก็บไว้ขายที่สูงกว่า แบบนี้ก็ไม่มีขาดทุน ที่มีลงทุนตอนนี้ก็พี่ปิ พี่อลิสมัน พี่เอสเอ็น พี่เอสวี แล้วก็พี่ยูมิท แต่ละตัวกินปันผลก็คุ้มแล้ว จากคุณ : ptt - [ 16 ก.ย. 49 19:35:51 A:203.188.47.185 X: TicketID:107886 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อ่านและคิดตาม สรุปว่าตัวเองโง่จริงๆๆ ตั้งหลักใหม่ดีกว่า ขอขอบคุณทุกความเห็นนะครับ จะเก็บไว้ศึกษาเป็นแนวทางการเล่น จากคุณ : kom2003 - [ 16 ก.ย. 49 20:49:39 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ได้นะ  (เรื่องจริง ๆ ไม่ได้โกหก) ปีแรก เล่นตอน กุมภาพันธ์ 47  ได้มา 5 % ปี 2    48   ได้  12 % ปีนี้ค่อนข้างแย่กว่าปีที่แล้ว  แต่ก็ดีว่าปีแรก  คาดว่าน่าจะได้   8 % ปีหน้า ประสบการณ์เริ่มแข็ง  คาดหวังว่า ควรได้ 15 % รายได้ 40 % มาจากเงินปันผล  ซื้อขาย ไม่บอยมากนัก จากคุณ : ต้นไม้และทะเล - [ 16 ก.ย. 49 20:51:22 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อืมม ได้อ่านความคิดของหลายท่าน นับว่าได้ประโยชน์อีกไม่น้อยเลย ดีจังครับ.. ส่วนคุณหนูขิง (คนดังในนี้ อิ อิ) การหา ปสก เป็นเรื่องที่ดีครับ แต่อย่าถลำลึกขาดทุนจนมากมายเกินไปล่ะครับ เพราะถ้าเกิดตลาดเข้าภาวะเลวร้ายสุดๆ แล้ว เมื่อนั้นการทำกำไรจะยากยิ่งกว่าตอนนี้อีกหลายเท่าเลย ถึงตอนนั้นแล้ว กำลังใจจะถดถอยและทำให้เราเซ็งหุ้นไปเลยนะครับ ช่วงนี้หุ้นเริ่มเล่นง่ายขึ้นกว่า 1 เดือน 2 เดือนที่แล้ว ผมว่าต้องเริ่มทำกำไรเน้นๆบ้างแล้วล่ะนะ โชคดีทุกท่านครับ... จากคุณ : ยำทุเรียน - [ 16 ก.ย. 49 20:52:39 A:58.9.32.254 X: TicketID:110000 ]