ความคิดเห็นที่ 1 Daily Get NAV ไม่ยอมทำงานครับ ดูที่นี่แทนได้ครับ ( http://www.scbam.com/inc/navmail.html  - ฮิ ฮิ พึ่งรู้มาครับ เหมือนกับที่ได้จาก E-mail เลย) สรุปออกมาแล้วครับ SCBSFF +0.0023 บาท SCBRF +0.0023 บาท ไม่แรงมากเท่าไหร่ แต่ถ้าเทียบตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. (วัน Mark to Market) มาถึงปัจจุบัน วันนี้ มากสุด ครับ ปกติ SCBSFF +0.0017 ถึง 0.0019 บาทต่อวัน SCBRF +0.0017 ถึง 0.0019 บาทต่อวัน --------------------------- แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 49 20:02:19 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 49 19:59:21 จากคุณ : pjuk - [ 22 ก.ย. 49 19:57:45 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณครับพี่ แต่สำหรับผมตอนนี้ ผมขอเครียดกับ scbset ก่อนครับ คุณ pjuk พอมีการวิธีการเล่น scbset ช่วงนี้ ช่วยแนะนำหน่อยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : อ้อม (jidlid) - [ 22 ก.ย. 49 20:17:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ใช้วิธีเดียวกับตอน ก.ค. - มิ.ย. ครับ เพราะเรารอดมาได้จากช่วงนั้นด้วยวิธีนี้แหละครับ *** มั่นใจในอนาคต ด้วยการเฉลี่ยต้นทุน ให้ลงต่ำ หรือใกล้เคียงกับราคาปัจจุบันให้มากที่สุด อย่าปล่อยให้ราคาปัจจุบัน ต่ำกว่าต้นทุนของเรามากเกินไป *** *** อย่าถอดใจ ซื้อครั้งเดียวแล้วหยุดรอ ต้องสู้ครับ *** จากคุณ : pjuk - [ 22 ก.ย. 49 20:25:44 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ทำไงครับพี่ ช่วงเดือน ก.ค. -  มิ.ย. ผมยังไม่ได้ศึกษา ขอความรู้ด้วยครับ จากคุณ : supachai6363 - [ 22 ก.ย. 49 23:00:06 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คุณ pjuk ครับ ไม่ค่อยเข้าใจเลยครับ ทำไม Yield ของ government bond เพิ่มขึ้นแล้ว ราคาของตราสารหนี้ถึงลดลงล่ะครับ แล้วคำว่า Mark to Market แปลว่าไรเหรอครับ? -_-'' รู้น้อยอะคับ รบกวนหน่อยนะคับ แหะๆ จากคุณ : ตัวหนอน (ตัวหนอนไม้ไผ่) - [ 23 ก.ย. 49 00:59:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณครับ pjuk, จากคุณ : หมูอวบ - [ 23 ก.ย. 49 01:45:57 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : robbiepit - [ 23 ก.ย. 49 08:53:01 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ช่วงเดือน ก.ค - มิ.ย เป็นเวลาที่เลวร้ายมากสำหรับดัชนีครับ เพราะไหลรูดลงทุกวัน ไหลแบบดิ่งเหว และนานเป็นเดือนครับ ซึ่งถ้าใครเริ่มลงทุนก่อนช่วงเวลาดังกล่าวก็ถือว่าติดอยู่บนดอยเลยครับ แล้วถ้าใครกระโดดลงแบบตัดใจ ก็ถือว่าเจ็บหนักครับ แต่ถ้าเราค่อยๆ เดินลง คือขายออกบางส่วน ไว้เอามาเล่นต่อ เมือดัชนีต่ำกว่าจุดขาย แต่เก็บไว้บางส่วนเพื่อเกิดมีสวนกลับ และต้องซื้อเพิ่มถ้าจำเป็น เพื่อไม่ให้ต้นทุนเฉลี่ยของเรา อยู่สูงกว่า ราคาปัจจุบันที่ต่ำลงจนมากเกินไปครับ ที่สำคัญที่สุด ต้องกล้้าที่จะมีความหวัง และเป้าหมายที่มั่นคง และเชื่อในคำว่าประเทศไทย ที่ไม่เคยจนมุมครับ จะต้องมีคนดีมาช่วยแก้ปัญหาได้แน่นอน  และที่สำคัญเราทุกคนมีที่ยึดเหนียวจิตใจความเป็นไทยอยู่ที่เดียวกันครับ จากดัชนี 200 จุดมาถึง 6-700 จุดได้ ทำไมดัชนีแค่ 6-700 จะเป็น 800 จุดไม่ได้ละครับ จากคุณ : pjuk - [ 23 ก.ย. 49 09:18:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 government bond - พันธบัตรรัฐบาล จะเป็นตัวแทนของตราสารหนี้ที่มีอายุคงที่  โดยไม่มีการชดเชยความเสี่ยง Yield - เป็นผลตอบแทนที่ควรจะได้เมื่อเราจ่ายเงินซื้อพันธบัตรเก่า มาเพื่อเก็บจนครบอายุ เมื่อเทียบกับสิ่งที่ควรจะได้ถ้าซื้อของที่ออกใหม่ Mark to Market คือราคาที่ถูกกำหนด (คำนวณ) ขึ้นมาเพื่อให้ได้ Yield ตามที่ควรจะได้ ----------- สิ่งที่เกี่ยวข้องกันจนเป็นเรื่องคือ : พันธบัตรรัฐบาลจะมีอายุคงที่ และให้ผลตอบแทนแบบคงที่ตลอดอายุ นั่นหมายถึงแม้เวลาผ่านไปเท่าไหร่ก็ตาม ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยก็ยังจ่ายเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่อายุคงเหลือก็จะน้อยลง แม้ของรุ่นใหม่ออกมา ที่มีอายุ เท่ากับอายุคงเหลือของตัวแรก แต่ให้ผลตอบแทนมากขึ้นกว่าของเก่า นั่นหมายความว่าถ้าจะขายของเก่าให้คนอื่น ก็จำต้องขายให้ราคาน้อยลงเพื่อที่เมื่อครบอายุแล้วจะต้องได้เงินต้นคืนพร้อมกับผลตอบแทนรวมแล้ว เท่ากับการซื้อของใหม่  นี่คือที่มาของ Yield ขึ้นราคาลดลงครับ ส่วน Yield ลง ราคคาขึ้น ก็กลับกันครับ คือของใหม่ออกมาให้ผลตอบแทนน้อย คนก็อยากซื้อของเก่ามากกว่า คนมีของเก่าก็ต้องเล่นตัวโก่งราคา ทำให้ราคาสูงขึ้นครับ จากคุณ : pjuk - [ 23 ก.ย. 49 10:01:27 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สำหรับตัวผม สำหรับ SCBSET ช่วงนี้ผมไม่ค่อยอยากจะซื้อเพิ่มล่ะครับ.........แค่ที่มีอยู่ก็อดทน และ หวังให้มันกลับมาเหมือนเดิมในเร็ววัน.....  ผมว่าช่วงนี้เดายากนะครับ..แต่อย่างน้อยเราต้องอดทนสักหน่อย.....อย่าไปหวังให้ดีขึ้นในวันสองวันเลย........ จากคุณ : under down deep - [ 23 ก.ย. 49 10:44:18 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนนี้ก็ค่อยๆ ยึดแนวทางที่ คุณ pjuk เคยบอกเอาไว้ยังจำได้ดีแต่ปัญหาคือเงินที่จะเฉลี่ยต้นทุนเริ่มหมดแล้วละครับ คงต้องใช้วิธีขายออกบางส่วน ไว้เอามาเล่นต่อ เมื่อดัชนีต่ำกว่าจุดขาย แต่เก็บไว้บางส่วนเพื่อเกิดมีสวนกลับ และต้องซื้อเพิ่มถ้าจำเป็น เพื่อไม่ให้ต้นทุนเฉลี่ยของเรา อยู่สูงกว่า ราคาปัจจุบันที่ต่ำลงจนมากเกินไปครับ จากคุณ : thasorn01 (thasorn01) - [ 23 ก.ย. 49 16:42:03 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เพิ่งโยกscbsffเป็นเงินสด ทะยอยเก็บหุ้นปันผลดีๆและไม่ใช่หุ้นการเมือง ตอนนี้เลยต้องไปดถามดูหุ้นเป็นตัวๆ  ช่วงนี้ต้อง เลือกเป็นรายตัว............ที่ถือยาวได้ (ส่วนนี้แอบเล่นที่บ้านไม่รู้)....แต่ถ้าดีดตัวเร็วถึง10% ก็ขายมาลงscbsff เหมือนเดิม จากคุณ : 99 (99life) - [ 23 ก.ย. 49 19:09:24 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ pjuk ครับผมขอรบกวนถามหน่อยครับ ว่าต้นทุนฉลี่ยที่เราบันทึกเองที่พี่บอก กับต้นทุนฉลี่ยของ scb easyfund อันไหนมันตรงกับความเป็นจริงมากกว่ากันครับ เพราะที่เราบันทึกเองเวลาขายมันจะไปเฉลี่ยของแต่ละครั้งที่ซื้อ ผมก็เลยข้องใจครับ ของผม scbdv ตรงกันทั้ง 2 ครับ เพราะว่าไม่มีการขาย แต่ set ไม่ตรงกันครับ แล้วที่สำคัญ ที่บันทึกเองมันสูงกว่าใน scb easy ครับ ขอบคุณครับ.. จากคุณ : ต้นข้าว (jidlid) - [ 23 ก.ย. 49 20:09:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่แน่ใจว่ามีอะไรผิดพลาดตรงไหนหรือเปล่าครับ เพราะถ้าการบันทึกเอง แล้วทุกครั้งที่มีการขายคืน ต้องใช้วิธีเฉลี่ยจากทุกรายการที่ซื้อมาก่อนที่จะขายเสมอนะครับ แต่ถ้าเลือกตัดขายจากบางรายการ (ซื้อ) จะไม่ถูกต้องครับ ถ้าอย่างไรดูที่ Easy Fund จะถูกต้องแน่นอนครับ (ผมลองตรวจสอบ จากที่ผมทำเอง ได้ค่าตรงกันครับ) จากคุณ : pjuk - [ 23 ก.ย. 49 21:00:20 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ทุกครั้งที่ซื้อ ต้นทุนเงินใหม่ = ต้นทุนเงินเดิม + เงินลงทุนใหม่ ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วย = ต้นทุนเงินใหม่ /  หน่วยคงเหลือใหม่ ทุกครั้งที่ขายคืน ต้นทุนเงินใหม่ = ต้นทุนเงินเดิม - (ต้นทุนเฉลี่ย * จำนวนหน่วยที่ขาย) ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วย = ต้นทุนเงินใหม่  /  หน่วยคงเหลือใหม่ จากคุณ : pjuk - [ 23 ก.ย. 49 21:08:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณมากครับ วันนี้ไม่ไปเที่ยวไหนหรือครับพี่ จากคุณ : ต้นข้าว (jidlid) - [ 23 ก.ย. 49 22:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ต้องขอเก็บแรงไว้สำหรับวันจันทร์หน่อยครับ........ จากคุณ : pjuk - [ 23 ก.ย. 49 22:40:18 ]

ความคิดเห็นที่ 18 วันจันทร์ Yield ยังลงต่ออีกครับ SCBRF เลยรับไปเต็มๆ อีก 1 วันแล้วครับ จากคุณ : pjuk - [ 25 ก.ย. 49 23:13:10 ]