ความคิดเห็นที่ 1 คนเรามีความต้องการไม่เหมือนกัน นี่แหละปัญหา จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 2 ต.ค. 49 12:27:04 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ปัญหาของประเทศนี้ คือ ไม่พอเพียงจริงครับ   เพราะ ประเทศเราขาดแคลน ความรู้ ปัญญา ความขยัน ความอดทน ความตั้งใจครับ จากคุณ : Nonining - [ 2 ต.ค. 49 12:31:52 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เขียนได้ดีครับ คุณ:::GANTZ:::  ผมขอร่วมด้วย ยอม  ส ล ะ เ ว ล า ร อ  ด้วยคน บทความข้างล่างดีมากครับ โหวดให้ไปแล้ว http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I4757748/I4757748.html จากคุณ : Mr.Zack - [ 2 ต.ค. 49 12:34:57 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมเองก็คิดว่าปัญหามันอยู่ที่ว่าเราจะทำอย่างไรให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างสังคมเมืองกับชนบทแคบลงกว่านี้ วิธีการแก้ปัญหาใหญ่นี้ คือ การให้ปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพที่ดีอย่างเท่าเทียมกัน คนชนบทเค้าถึงมีโอกาสลืมตาอ้าปากกันได้ ประเทศเราทุกวันนี้มันมีทุนเพียงพอแล้วหรือ ที่จะให้ปัจจัยเหล่านั้นอย่างเท่าเทียม คนรวยในเมืองคุณอยากเล่าเรียนศึกษาเท่าไหร่ก็ได้จนคุณพอใจ คนจนในชนบทเค้าได้รับการดูแลดีเพียงใดในปัจจุบัน คนรวยในเมืองคุณเจ็บป่วยคุณสามารถรักษาเลือกโรงพยาบาลได้อย่างที่คุณต้องการ คนจนในชนบทยังไม่มีแม้แต่การรักษาขั้นพื้นฐาน เพราะอะไรครับ เพราะถ้าเราจะทำให้เท่าเทียมกันได้เราต้องพัฒนาตัวเองให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว สังเกตดูประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศมีตัวเลขความเหลื่อมล้ำนี้ต่ำกว่าประเทศที่กำลังพัฒนาอยู่มาก ทำอย่างไรล่ะครับเราถึงถึงจุดนั้น ณ จุดนี้เปรียบแล้วประเทศเรามองโดยรวมยังเปรียบเสมือนคนที่ยามเจ็บป่วยยังไม่สามารถได้รับการรักษาที่ดีได้ เสมือนคนที่ไม่สามารถเล่าเรียนศึกษาตามที่ตนเองต้องการได้ ต้องหาเช้ากินค่ำอยู่ ไม่ได้มีเงินเก็บยามฉุกเฉินมากมายนัก ถ้าเราเป็นดั่งนี้แล้ว เราจะบอกตัวเราเองว่าเรา พอเพียง เพียงเท่านี้กันเหรอ ถ้าสักวันหนึ่งเรามีอยู่มีกินอย่างสบาย ยามเจ็บป่วยก็มีรักษาได้อย่างที่ควรเป็น ยามอยากศึกษาเล่าเรียนก็ทำได้อย่างใจต้องการ (การพัฒนาคนเป็นเรื่องสำคัญ) เมื่อนั้นเราควรที่จะพอเพียงได้แล้ว แต่ไม่ใช่วันนี้แน่นอน จากคุณ : i_ss - [ 2 ต.ค. 49 12:40:29 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขออนุญาตออกความเห็นครับพี่ GANTZ ถือว่าถกกันที่แนวคิด ถูกผิดวันนี้คงไม่มีใครตัดสินได้ ผมมองว่าที่ผ่านมา 4-5 ปี หลายคนอาจจะมองว่าเป็นรายการ รวยกระจุก จนกระจาย แต่มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น นโยบายหลายอย่าง ที่หลายคนดูแคลนว่าเป็นประชานิยม ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ แต่เป็นของจริงที่เข้าถึงประชาชน เงินกองทุนหมู่บ้าน หลายส่วนอาจถูกนำไปใช้ผิดประเภท ซื้อมือถือ ซื้อมอร์เตอร์ไซค์ แต่ส่วนมาก ได้ไปปลดภาระหนี้ให้กับคนจนจำนวนมาก ให้มีโอกาสลืมตาอ้าปาก 30 บาทรักษาทุกโรค ช่วยให้คนจนๆ มีสิทธิ์รักษาโรคหลายโรค ที่เมื่อก่อนไม่มีปัญญารักษา ยอมปล่อยให้ตายไปตามยะถากรรม หมออาจจะต้องทำงานหนักขึ้น รัฐอาจจะต้องควักกระเป๋าจ่ายมากขึ้น แต่ก็เพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศ โครงการส่งนักเรียนไปนอก ที่ถูกดูแคลนว่ามาจากเงินสกปรก ก็ช่วยพลิกชีวิตคนอีกหลายคนที่ไม่เคยมีโอกาสแม้แต่จะคิดว่าจะไปเรียนเมืองนอกได้ไปเรียน เอาแค่โครงการเหล่านี้ ผมกลับมองว่านี่แหละเดินตามรอยเศรษฐกิจพอเพียง เพียงแต่ว่าผู้นำ มาจากมุมของทุนนิยมจ๋า จึงมาบดบังแนวทางนี้ไปหมด ถ้าการหยุดครั้งนี้เพื่อตั้งหลัก เพื่อสร้างฐานให้มั่นคง ก่อนจะขึ้น wave 5 ผมก็ยอมได้ครับ ขออย่าให้เป็นเพียงแค่การช่วงชิงอำนาจ หรือความแค้นส่วนตัว จากคุณ : Livestock - [ 2 ต.ค. 49 12:44:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่กี่ กม จากกรุงเทพ....  ยังมีคนยังต้องการความพอเพียง อยู่อีกมาก...   อย่าว่าแต่คำว่า ค ว า ม พ อ เ พี ย ง กับความเป็น อยู่ในปัจจุบันเลย... คนเป็นพ่อและแม่ ยังไม่อยู่ที่จะตอบ คำคำถามเค้าเหล่านั้นว่า  ค ว า ม พ อ เ พี ย ง คืออะไร http://www.pantip.com/cafe/isolate/topic/M4737439/M4737439.html แต่เรากำลังถามไถ่กันว่า... หุ้นจะขึ้นหรือลง... แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 49 12:48:05 จากคุณ : Mr.Zack - [ 2 ต.ค. 49 12:44:20 ]

ความคิดเห็นที่ 7 และถ้าเราบอกว่าจะนำประเทศโดยเศรษฐกิจแบบพอเพียงแบบที่เค้าพูดกัน ผมว่าคนไทยคงขี้เกียจขึ้น โง่ขึ้น มีคนประเภทเช้าชามเย็นชาม มากขึ้น  เพราะเข้าใขว่ามันคือความพอเพียง ที่บอกอย่างนี้เพราะ ผมเคยเห็นโฆษณานึง ที่พูดถึงคนนึงที่ทำงานเกิดเงินเดือนแต่ ตกงาน เลยเปลี่ยนไปขายปลาท่องโก๋  แล้วโฆษณาก็บอกว่านี่แหละ เศรษฐกิจพอเพียง แต่สำหรับผม ผมว่าแบบนี้เรียกว่าเศรษฐกิจแบบขาดแคลน เพราะขาดแคลนความรู้ จนตกงาน  ถ้าจะแก้ไปเพิ่มความรู้เพิ่มความขยันจะได้หางานที่ดีกว่า มันถึงเรียกว่าพอเพียง เพราะ สามารถอยู่ได้ ถ้าเพิ่มความารู้ก็จะพอเพียงแล้ว แต่ กลับทิ้งความรุ้ ทิ้งสิ่งที่เคยทำ ไปทำสิ่งที่ไม่ต้องใช้ความรู้  ซึ่งถ้าคนทั้งประเทศทำจะเกิดอะไรขึ้น จากคุณ : Nonining - [ 2 ต.ค. 49 12:45:48 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อยากพอเพียงเหมือนกันครับ แต่ผมมีที่ 10 ไร่ -ต้องใช้ปุ๋ย ไร่ละ 3 กระสอบ ๆ ละ 600 บาท ก็ตก 1800 บาทต่อไร่10 ไร่ก็ 18000 บาท -ยาฆ่าแมลง ขวดละ 500 ต่อ 2 ไร่ มี 10 ไร่ ก็ใช้เงิน 2500 บาท -ยาฆ่าหนอน หนังเหนียว หนอนกระทู้ อย่างละขวดต่อไร่ ขวดละ 800 บาท 10 ไร่ ก็ 20 ขวด 16000 บาท -ยาฆ่าเชื้อรา ไอ้ตัวนี้แพงมาก ขวดละ 1200 บาทต่อไร่ 10 ไร่ ก็ล่อไป 12000 บาท -ฮอร์โมน ปุ๋ยเกร็ด ยาเร่ง ชุดละ 500 บาทต่อไร่ 10 ไร่ก็ล่อไป 5000 บาท    อันนี้ ยังไม่รวมค่าเมล็ดพันธ์ อีกไร่ละ 800บาท ค่าไถที่ ค่าขึ้นแปลง แรงงานถางหญ้า ค่าแรงคนเก็บผัก  ค่าน้ำมัน ไปส่งที่ตลาด ค่าถุงพลาสติกบรรจุผลผลิต อื่นๆๆอีกมากมาย เฮ้อ แล้วถ้าไม่ให้ปลูกแล้วผมจะทำอะไรเป็น ให้ไปทำอย่างอื่นก็กลัวขาดทุน ให้ทำผักอนามัยปลอดสารพิษก็ไม่มีตลาดรองรับอย่างพอเพียง ทำออกมาราคาร่วง ก็ไม่มีใครรับผิดชอบ กรรมๆๆๆๆ จากคุณ : หนุมานมาเอง - [ 2 ต.ค. 49 12:51:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่าแนวคิดศก.พอเพียงเป็นเรื่องที่เหมือนกับปรัชญา และเข้าใจถ่องแท้ยาก คลาดเคลื่อนได้ง่าย หลายคนตีประเด็นไปว่าศก.พอเพียงคืออยู่เฉย ๆเช้าชาม เย็นชาม แต่ผมว่ามันไม่ใช่ จากคุณ : umdadevil - [ 2 ต.ค. 49 13:00:24 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นด้วยกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวง แต่ไม่เ็ห็นด้วยกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงภาคบังคับ จากคุณ : plus1 - [ 2 ต.ค. 49 13:00:58 ]

ความคิดเห็นที่ 11 - ถ้าคนยังเป็นหนี้อยู่  คิดดอกร้อยล๊ะ 20 ต่อวัน  มาเฟียฟันค่าดอกเบื้ยสะดือปลิ้น ..............  เป็นหนี้อยู่จะทำงัย - รถก็ไม่มี     แต่ที่ทำงานไกลไปไม่สะดวก  การที่คนอยาก มีรถไฟฟ้า    ไปทำงาน ไกลๆได้  เช้ามาทำงานในเมือง เย็น  นั่งรถไฟฟ้าไปอยู่ชานเมือง   แบบนี้เรียกพอเพียงมั๊ย - ตามชนบท   ผู้คนมีฝีมือ  ประดิษฐ์สิ่งของ   ตะกร้าหวาย ทำอาหาร   ปั้นแต่ง   แต่ขาดเงินทุน  ขาดตลาดรองรับ จนกระทั่ง  รัฐบาล  ให้เงินทุน  หาตลาดให้   ทำให้ ชาวบ้านมีรายได้     แบบนี้มันเข้ากับปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงมั๊ยครับ - 30 บาทรักษาทุกโรค   ที่จริงแล้วผมไม่เคยใช้แล้วไม่คิด อยากจะใข้   เพราะผมคิดว่าผมต้องการการบริการที่มาก กว่านี้   อันนี้ผมพอเพียงมั๊ย ..........  แล้วชาวบ้านที่ไม่มี ค่ารักษา  ชีวิตมีแต่หนี้   ผมเห็นเค้ามาใช้  30 บาท ใน เคสเล็กๆเช่นหวัด   ผมก็เห็นบางคนได้แต่  พารา  แต่ใน เคสที่ใหญ่ๆต้องผ่าตัด   ผมก็เห็นว่าเค้าได้ใช้ประโยชน์ จริงๆ    แบบนี้  พอเพียงมั๊ยครับ ........ - ในเมื่อชีวิตยังอยู่ใต้เส้นความยากจน     ความพอเพียง จึงยังไม่เกิด     เมื่อไร  ที่ชีวิตขึ้นมาเหนือเส้นความยากจน เมื่อนัน    ปรัชญา  เศรษฐกิจพอเพียง      ควรเป็นแนวทาง ของโลกใบนี้  ไม่เฉพาะประเทศไทย ...............  ผมเห็น ด้วยกับแนวคิดของ  นายหลวง  ท่าน   เพราะเมื่อผู้คน ใช้ทรัพย์ยากรกันเกินตัว   โลกใบนี้ก็มีแต่การแย่งชิง ทรัพย์ยากรกัน    สุดท้ายแล้วก็ฉิบหายกันทั้งโลก ...... จากคุณ : ล้าน5 - [ 2 ต.ค. 49 13:10:15 ]

ความคิดเห็นที่ 12 จขกท.ต้องเป็นคนที่มองโลกแง่ดีสุดๆเลยเชียว คุณว่าเวลาที่ผ่านไป ที่คนข้างหน้าจะรอให้คนข้างหลังเดินตามมาทัน  แล้วเดินไปด้วยกัน แน่ใจหรือ ไม่ใช่คนข้างหน้าก็รอหรือเดินช้าๆ  คนข้างหลัง ยิ่งเดินยิ่งไกล  เพราะแอกบนบ่ามันหนักเหลือใจ  สุดท้ายก็คลาน แล้วหมดแรงคลานในที่สุด  ภาพอย่างนี้มันมามาในอดีต เค้าเรียกนิยายน้ำเน่า  แล้วมันก็มาซ้ำกันซะอีก อ้อ  แล้วคนกลุ่มหน้าที่เค้าเดินช้าๆหรือหยุด  รออยู่นี่ เพื่อนบ้านเค้าเดิน  เค้าวิ่งไปถึงไหนแล้ว  ทรัพยากร  น้ำมัน  เทคโนโลยี่ เราผลิตได้เองมั้ย  ถามเถอะ สุดท้าย  ไม่ใช่ว่าเป็นอัมภาต ล้มตายกันทั้งประเทศนะ จากคุณ : ตาลเฉาะ - [ 2 ต.ค. 49 13:30:06 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เติ้งเสี่ยวผิง เคยกล่าวว่า "หลักการของคอมมิวนิสต์ เป็นหลักการที่ดีกว่าทุนนิยม เป็นหลักการที่ทำให้ทุกคนเสมอภาคกันในทุกๆด้าน แต่ปัญหาคือ ประเทศจีนยังยากจนเกินไป พอใช้หลักการของคอมมิวนิสต์ปุ๊บ คนจีนเลยยากจนกันทั่วหน้า" หลักการดีๆ มันต้องใช้ให้ถูกจังหวะและเวลา...ครับพี่น้อง จากคุณ : Jaffa - [ 2 ต.ค. 49 13:30:49 ]

ความคิดเห็นที่ 14 **แก้ไข** แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 00:21:24 จากคุณ : บังอรภิรมย์ - [ 2 ต.ค. 49 13:37:55 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่เศรฐกิจอย่าง ประหยัดขัดสน ต้องอดออม ตามที่มีบุคคลบางกลุ่มพยายามบิดเบือน อย่างมิกเกรงพระอาญา แต่หมายถึง วิถีชิวิต และการประกอบอาชีพอย่างพอเพียง เช่น ไม่ทำเกินตัว แต่ต้องมีเป้าหมายความหวังมีความทะเยอทะยาน แต่ต้องคำนึงถึงความสามมารถของตนด้วย อย่าทำเกินตัว แต่ต้องพอเพียงและใช้ทรัพย์ยาการให้คุ้มค่าที่สุด เพราะถ้าไม่พอเพียง ที่พยามไปย่อมไม่สำเร็จ ช่วยเหลือใครก็ต้องช่วยให้พอ แบบยั่งยืน ไม่ใช่ช่วยพอเห็นพิธี คนที่มีมากควรแบ่งปันส่วนที่ล้น ช่วยคนที่ด้อยกว่าไม่ใช่อ้างว่าพอแต่ไม่เผื่อแผ่ ตัวอย่างโครงการเศรษฐกิจพอเพียง เช่นโครงการต่างๆที่ ในหลวงท่านทำเป็นตัวอย่าง ในสวนจิตร ในโครงการหลวงอื่นๆ นั้นคือตัวอย่าง ไม่ใช่คนจนก็อยู่อย่างจนๆ ไม่ต้องทะเยอทะยานกินแต่ผักแต่หญ้าไปวันๆ ไม่ต้องพัฒนาตัวเอง  หรือคนรวยคนมีอิทธิพลก็อยู่แบบสบายๆ หยุดหาเพิ่ม ไม่ต้องหาเผื่อแผ่ใครได้ ไม่ใช่เศรฐกิจพอเพียง แต่เป็นเศรษฐกิจแบบคอมมูน จากคุณ : โก่งสาย ยิงทันที - [ 2 ต.ค. 49 13:54:10 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ทำไมบางคนไม่มีความไม่คิดนโยบายใหม่ๆ เพื่อต่อยอดเพื่อเสริม จากพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียง มีแต่คนอ้างเพื่อเสริมความน่าเชื่อถือตนเฉยๆ คิดนโยบายใหม่ๆเองเพิ่ม และทำให้เป็นผล ไม่เป็นหรือไง เฮ้อ ประเทศไทย จากคุณ : โก่งสาย ยิงทันที - [ 2 ต.ค. 49 14:02:36 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ::: เศรษฐกิจพอเพียง คืออะไร ::: “เศรษฐกิจพอเพียง” (Sufficiency Economy) เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดรวมถึงการพัฒนาและบริหารประเทศ ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ ทางสายกลาง คำนึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจ และการกระทำ อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความเข้าใจที่หลากหลายและไม่ชัดเจน ถึงความหมายและหลักแนวคิดที่แท้จริงของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จึงได้จัดทำหนังสือ “เศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร” ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะอธิบายความหมายของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งกรอบแนวคิดของหลักปรัชญาฯ ที่มุ่งเน้นความมั่นคงและความยั่งยืนของการพัฒนา อันมีคุณลักษณะ ที่สำคัญ คือ สามารถประยุกต์ใช้ได้ในทุกระดับ ตลอดจนได้อธิบายคำนิยามของความพอเพียง ที่ประกอบด้วย ความพอประมาณ ความมีเหตุมีผล มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ภายใต้เงื่อนไขของการตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมที่ต้องอาศัยเงื่อนไขความรู้และเงื่อนไขคุณธรรม นอกจากนี้ ภายในหนังสือเล่มนี้ยังได้กล่าวถึง ทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาภาคเกษตรอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และเป็นตัวอย่างการใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงในทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม โดยแบ่งได้เป็นแบบพื้นฐานกับแบบก้าวหน้า ซึ่งมีอยู่ ๓ ขั้น และในตอนท้ายของหนังสือยังได้สรุปถึงการสร้างขบวนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงที่ สศช. ได้ริเริ่มดำเนินการเพื่อเป็นการเสริมสร้างให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาไปได้อย่างมั่นคงภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ และนำไปสู่ความอยู่เย็นเป็นสุขของประชาชนชาวไทย เนื้อหาฉบับเต็มเชิญ Download ได้ที่นี่ครับ http://www.sufficiencyeconomy.org/show.php?Id=134 จากคุณ : Livestock - [ 2 ต.ค. 49 14:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มีคนหวังใช้โอกาส เข้ามาเป็นทีมเศรฐกิจ ในโลกนี้ไม่มีใครดี 100 % แต่ขออย่าให้เจอ และคนที่มีแต่ฝีปากแต่ไรฝีมือเข้ามาทำงาน เพราะค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน เศรษฐกิจธุระกิจของตัว ยังไม่รอด แต่อยากเข้ามาบริหารเศรฐกิจประเทศ ถ้าผิดพลาด ก็โทษนั่นโทษนี่ และรับผิดชอบเพียงด้วยการลาออก แต่ความเสียหายที่เกิด ประชาชนที่ทุกข์ทนต้องรับเคราะห์ ไม่มีใครรับผิดชอบเลย จากคุณ : โก่งสาย ยิงทันที - [ 2 ต.ค. 49 14:18:07 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณครับ พี่ Livestock...  ไหนๆวันนี้ได้รู้จักกับคำว่า พ อ เ พี ย ง กันมาสมควรแล้ว....  วันนี้มารู้จักคำว่า ป ร อ ง ด อ ง ด้วยก็ดีนะครับ   ไม่มีที่ download แต่มีที่ให้อ่านฉบับเต็ม (อีกครั้ง) http://itweb.lib.ru.ac.th/webboard/00165.html ส่วนหนึ่งของพระราชดำรัส'ในหลวง ให้'ปรองดอง-สามัคคี' ทุกคนต้องแก้ไขไม่ขัดขากันเอง ขอให้สุขเหมือน'แฮปปี้ แอส เดอะ คิง' พูดเลยเถิดค่อนข้างจะมากไปหน่อย ที่ท่านมานี้ รู้สึกว่าให้มีความรื่นเริง ให้ พยายามที่จะพูดกันให้รู้เรื่อง ถ้าพูดกันรู้เรื่อง เมืองไทยคงจะดีขึ้น ถ้าพูดไม่รู้เรื่อง ซึ่งเดี๋ยวนี้พูดไม่รู้เรื่องจริง เพราะทำไม เพราะแต่ละคนมีทิฐิของตัว แม้แต่ตัวเองยัง มีทิฐิกับตัวเองก็ใช้ไม่ได้ นี่บอกเป็นปริศนา ไม่อยากจะบอกว่าใครไม่ดี หรือใครทำ ไม่ดี ใครทำไม่ถูก ไม่มีใครทำไม่ถูก ทุกคนทำถูก ตามหลักตัวเราทำถูก ไม่มีทำ ไม่ถูก นอกจากบางคนที่เขา แม้...ข้าพเจ้ารู้ดีว่าไม่ดีอย่างนั้น แต่คนที่ทำบอกว่า ข้าพเจ้าทำไม่ถูก เกือบไม่ดี ส่วนมากบอกว่าข้าพเจ้าทำถูกเสมอ แต่ถ้าบอกว่า ข้าพเจ้าทำถูก อีกคนบอกว่า ฯพณฯทำไม่ถูก เอ๊ย..ไม่ใช่ ฯพณฯทำไม่ถูก มันก็ขัด กัน แต่ถ้าคนหนึ่งบอกว่าข้าพเจ้าทำไม่ถูก ทำถูกก็มีบ้าง อีกคนก็บอกเข้าใจกันได้ ถ้าเข้าใจกันได้ คนในเมืองไทย 62 ล้านกว่า สามารถปรองดองกัน สร้างความมั่น คงในประเทศ คนอื่นช่าง ชาวต่างประเทศเขาเข้าๆ ออกๆ ทุกนาที แต่ส่วนรวมของคนที่เป็นเจ้าของประเทศ อย่าให้ขัดแย้งกัน และยอมรับว่าถูก บ้าง ไม่ถูกบ้าง จะมีความสุข แล้วอย่างนี้ที่บอกว่ามาถวายพระพร สำหรับส่วนตัว เราก็เห็นแก่ตัว อยากมีความสุข ไม่ใช่ไม่อยากมี อยากมีความสุข แต่ใครมา ทะเลาะกันต่อหน้า คนนี้ไม่ดี ข้าพเจ้าดี ท่านเองก็ไม่ดี อย่างนี้ไม่มีความสุข คนที่บอกว่าท่านไม่ดี คนนี้ก็ไม่มีความสุข คนที่ถูกว่าท่านไม่ดี คนนั้นก็ไม่มีความ สุข หากยอมรับว่าข้าพเจ้ามีดี มีไม่ดี ท่านมีดี ท่านมีไม่ดี ช่วยกันพูด ช่วยกัน แก้ไข ท่านไม่ดีตรงไหน คิดออกไหม ข้าพเจ้าไม่ดีตรงนี้ต้องแก้ไข ทุกคนก็สบาย มีความสุข ข้าพเจ้าก็มีความสุข ที่มาให้พรก็ได้ผล พระเจ้าอยู่หัวมีความสุข ใช้คำว่าพระเจ้าอยู่หัวมีความสุข ก็ไม่รู้ดูท่าทางแปลก เขาว่าพระเจ้าอยู่หัวมีความ สุขไม่ได้ ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่ง เขาว่าพระเจ้าแผ่นดินมีความสุขเสมอ ใครๆ ว่ามีความสุขเหมือนพระเจ้าแผ่นดิน แฮปปี้ แอส เดอะ คิง(Happy as the King) ไม่จริง แต่ว่าถ้าท่านทุกคนว่าท่านทำถูก ท่านก็รู้ว่าถูก ท่านทำผิดก็รู้ว่าผิด อีกคน ทำผิดทำถูก ก็รู้กัน เดอะคิงจะแฮปปี้ แอส เดอะ คิง ได้ เป็นอันว่าถ้าท่านทำอย่าง นั้นได้ ท่านมีความสำเร็จในกิจการ ถือว่าวันนี้เป็นกิจการอย่างหนึ่ง ท่านมาคอยตั้ง นาน มานั่งเมื่อยอยู่ แต่เป็นกิจการที่มีความสำเร็จ ถ้าท่านอยากให้กิจการใดๆ สำเร็จ ขอให้ทำอย่างที่ว่า อย่างที่บอก ขอบใจท่าน ถ้าท่านจะปฏิบัติให้พระเจ้า แผ่นดินมีความสุขเหมือนพระเจ้าแผ่นดิน ขอให้ท่านก็มีความสุขเหมือนกัน จากคุณ : Mr.Zack - [ 2 ต.ค. 49 14:31:13 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมอ่านแค่ 3 link ของคุณ "เอ..ชีวิตมันขาดไรไปน๊า" ก็ขออนุญาตวิจารณ์เลยว่าแนวคิดนี้เป็นยังไง เป็นที่รู้กันว่าชาวบ้านชาวไทยมีปัญหาเรื่องการควบคุมค่า ใช้จ่าย เป็นที่รู้กันว่าข้างบ้านมีตู้เย็น บ้านข้าก็ต้องมีตู้เย็น ข้างบ้านมีมอเตอร์ไซค์ บ้านข้าก็ต้องมีมอเตอร์ไซค์ เหล้าหรู ถ้าใหม่หน่อยก็เป็นรถกระบะคอมมอนเรล เพราะฉะนั้นศก.พพ.คือการไม่ใช้จ่ายเกินตัว ไม่ซื้อของที่ ไม่จำเป็น ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน อยู่ได้ด้วยตัวเอง ต่อมาก็คือไม่ผลิตเกินความต้องการ ไม่ผลาญทรัพยากร เกินกว่าที่ต้องใช้ ไม่ต้องกู้เงินต่างชาติมาประทังตัวเองมาก นัก โดยรวมระดับโลกแล้ว การใช้แนวคิดศก.พพ.ร่วมกัน ยัง เป็นการป้องกันภัยจากทุนนิยมในระยะยาว ภัยจากทุนนิยม ในระยะยาวคืออะไร ในระยะยาวทุนนิยมทำให้ทรัพยากร ถูกผลาญ "โลกทั้งโลกมีทุกสิ่งเพียงพอสำหรับทุกคน แต่ ไม่เพียงพอสำหรับคนโลภเพียงคนเดียว" แนวคิดทุนนิยม ที่มีความโลภเป็นส่วนประกอบ จะมีความพังพินาศอยู่ที่ ปลายทาง โดยสรุปผมว่าศก.พพ.กับความมั่งคั่งไปด้วยกันได้ แต่เป็น การสร้างความมั่งคั่งแบบยั่งยืนกว่า จากคุณ : umdadevil - [ 2 ต.ค. 49 14:45:03 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อมวลประชาทั่วหน้า ยื้มร่า ประเทส แล เศรษฐกิจก็เป็นปึกแผ่น ไม่ต้องผงะ หวั่นและไหว กับ ข่าวโน้น ข่าวนี้กันบ่อยๆ หากเข้าใจคำว่าพอเพียง และรู้จักพอกันเสียบ้าง และคิดให้ไกลจากกระเป๋าตังค์ส่วนตนสักหน่อย แนวคิดพอเพียง ย่อมไม่มีวันล้าสมัย ! เห็นด้วยกับพ่อแก๊นส์... และเอาใจช่วย ผู้คิดดี ทำดี อย่างสุดใจขาดดิ้น จากคุณ : โสมรัศมี - [ 2 ต.ค. 49 14:51:45 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คห7 "ผมว่าคนไทยคงขี้เกียจขึ้น โง่ขึ้น มีคนประเภทเช้าชามเย็นชาม มากขึ้น  เพราะเข้าใขว่ามันคือความพอเพียง " คำว่าพอเพียงไม่ได้หมายความว่าให้เป็นคนเช้าชามเย็นชาม คุณกำลังเข้าใจอะผิดหรือเปล่า พอเพียงสำหรับผมคือไม่ทำอะไรเกินกำลังของตัวเอง จากคุณ : microspy - [ 2 ต.ค. 49 15:00:14 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ที่มันแย่คือมีบางคนทำตัวเช้าชามเย็นชามแล้วบอกว่า นี่แหละพอเพียง จากคุณ : umdadevil - [ 2 ต.ค. 49 15:24:15 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แล้วจะรู้ไงว่า เกินกำลัง หรือ ไม่เกินกำลัง หรือ แทบจะไม่ได้ทำเลย บางคนบอกว่า ทำงาน แปดโมง เลิก ห้าโมงก็เกินกำลังแล้ว บางคนบอกว่า ทำงานทุกวันเช้าทุกมืด ก็ยังไหว  สบาย จริง ๆแล้วใครเกินกำลัง หรือ ใครไม่ทำงานเต็มกำลัง จะใช้อะไรมาตัดสิน แต่วันนี้ เรากำลังจะไปยกย่องคนตกงานแล้วไปขายปาท่องโก๋ ขายขนมปัง  ว่าทำตัวแบบเศรษฐกิจพอเพียง   เรากำลังจะบอกว่า คนที่ไปกู้เงินเค้าเพื่อ ลงทุนทำธุรกิจ เรียกว่า ทำเกินกำลัง   เรากำลังบอกว่า   คนที่ทำงานกินเงินเดือนแล้วกลับบ้านมาปลูกผักไว้กินข้างบ้าน นั้นดี ทั้ง ๆ ที่เอาเวลาไปหาความรู้ เพิ่มทักษะ เพื่อสู้รบในการแข่งขัน จะดีกว่ามั้ย เพราะปลูกผักมันโลละสิบบาท เสียเวลารดน้ำ ใส่ปุ๋ย ตั้งนาน ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศนี้ จากคุณ : Nonining - [ 2 ต.ค. 49 15:41:19 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ใช่เลยครับ คุณ 23 ผมก็คิดแบบนั้นเป๊ะเลย จากคุณ : Nonining - [ 2 ต.ค. 49 15:42:36 ]

ความคิดเห็นที่ 26 มันคล้ายๆกับคนบางคน ทำอะไรมักง่าย แล้วบอก ผมเป็นคนง่ายๆ คนที่เป็นคนง่ายๆ ไม่ได้แปลว่าเป็นคนมักง่ายซะหน่อย ความพอเพียง ในทรรศนะของผมคือการใช้ชีวิตที่ไม่เกิน ขีดแดงของตัวเอง ต้องประเมินกำลังตัวเองได้ ทำงานได้เท่านี้ควรใช้อะไรได้ ควรเป็นเจ้าของอะไรได้ ไม่ใช่ว่า มีเงินเดือน นิดหน่อย แต่อยากขับรถยุโรป อยู่บ้านเดี่ยว 100 ตารางวา ด้วยคิดว่า ค่างวดต่อเดือนผ่อนได้ แต่คุณเป็นหนี้ไป 30 ปี โดยไม่มีความเสี่ยงได้แน่หรือ   เหมือนขับรถ เราขับรถเล็ก วิ่งประมาณ 100 พอถูก Benz แซงด้วยความเร็ว 140 ก็ฮึดตามจะแซงกลับให้ได้ โดยคิดว่า เข็มไมล์ยังมีเหลือ เขาทำมาให้ตั้ง 220 เอาละวะ แซงให้ได้ พยายามทำอะไรเกินตัว อย่าลืมว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้น รถเล็กของเราคงยับ และต้องขึ้นรถรับจ้างไปทำงานแน่ แต่รถ Benz เขามีจอดอยู่บ้านอีกหลายคัน ผมพึ่งเปลี่ยนมือถือไป ไม่นาน เพราะพัง ก่อนหน้านั้น ใครโทรมาหยิบมารับยังขำตัวเอง ของเรามันทำอะไรไม่ได้เลยบางทีรุ่นที่ คนขับ taxi ใช้ยังแพงกว่าเลย เด็กนักเรียน ก็ใช้ดีกว่าเรา ... อะไรคือพอเพียง .. วันที่ผมซิ้อโทรศัพท์ .. อืมม์ เอารุ้นนี้ดี รุ่นนั้นดีนะ แล้วก็ซื้อมาด้วยความรู้สึกว่า ไอ้ 16,900 บาทมันแพงนะ ชายรุ่นๆ 2 คน มาดูโทรศัพท์รุ่นเดียวกะเรา และพูดว่า เฮ้ยซื้อเลย ถูกจะตายห่า แค่ พันกว่าบาท ผมมองปราดเดียว ด้วยความรู้สึกว่า เฮ๊ย ถูกไงของมันวะ อืมม์ เราดูคนละบรรทัดกัน ผมดู บรรทัดบน ราคาเงินสด แต่ 2 หนุ่มนี้ ดูบรรทัดล่าง ราคา x% * 12 เดือน ... อะไรคือพอเพียง .. จากคุณ : :::GANTZ::: - [ 2 ต.ค. 49 16:48:30 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ๐๐๐๐๐๐๐๐๐อะไรจำเป็นที่จะซื้อก็ต้องซื้อ๐๐๐๐๐๐๐๐ อะไรที่ทำเองใด้ก็ควรจะทำเอง ไม่ต้องไปซื้อให้เสียเงิน จากคุณ : * (ยางก้นถ้วย) - [ 2 ต.ค. 49 16:56:27 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ชอบตรงนี้ครับ "มันไม่ดีกว่าหรือ ถ้าข้างหน้าหยุดรอให้ข้างหลังนิดนึง เมื่อ ไล่มาใกล้ๆกัน เราค่อยเร่งออกไปใหม่ได้ พร้อมๆกัน เพื่อช่องว่างที่ไม่แตกต่างกันมากนั้น ถ้าทำได้จริงๆ ผมว่าผมคนนึง ที่ยอมสละเวลา รอ !!! " โหวตให้ จขกท. ครับ จากคุณ : คึกคัก15 - [ 2 ต.ค. 49 17:29:28 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คคห. 24 ยังคิดต่างไปจากผมอีกเยอะ เอาเถอะผมลองขยายความอีกสักหน่อย พอเพียง ที่ผมรู้สึกคือ มี 10 ให้ใช้ 5 กล้าๆก็ใช้ 8 เสี่ยงตายแบบไม่ต้องกันเหนียว ก้ใช้หมด 10 แต่ทุกวันนี้ มี 10 ใช้ 12 ใช้ 20 อ่ะ ไม่พอก็ซอยลงมาเหลือเดือนละ 5 หลายๆเดือน เรียกว่า ผ่อนส่ง เอาเงินอนาคตมาใช้ในปัจจุบัน พอเพียง..คงไม่ได้แปลว่าให้หยุดความทะเยอทะยานที่ 10 แล้วอดทนใช้ที่ 5 แต่หมายถึงว่าถ้าอยากได้ 12 อยากได้ 15 อยากได้ 20 ให้หาวิธีให้ทำให้ได้ 12 15 20 แล้วค่อยใช้ ไม่ได้ให้กูหนี้ ยืมสิน เอาอนาคตมาใช้ คุณ 24 บอกว่า ------------------------------------------ แล้วจะรู้ไงว่า เกินกำลัง หรือ ไม่เกินกำลัง หรือ แทบจะไม่ได้ทำเลย บางคนบอกว่า ทำงาน แปดโมง เลิก ห้าโมงก็เกินกำลังแล้ว ---> พวกพนักงานประจำใช่มั๊ย มนุษย์เงินเดือน มักพยายามทำงานให้น้อยกว่าเงินที่ได้ เพื่อเป็นกำไรไง จึงชอบบ่นว่างานหนัก บางคนบอกว่า ทำงานทุกวันเช้าทุกมืด ก็ยังไหว  สบาย คนที่ทำงานเยอะๆแล้วไม่บ่นบอกสบาย เพราะสุขใจกับผลงานที่ได้ ภูมิใจ มักเป็น self employ ไงครับ จริง ๆแล้วใครเกินกำลัง หรือ ใครไม่ทำงานเต็มกำลัง จะใช้อะไรมาตัดสิน ถ้ายกตัวอย่างนี้ คงตอลำบากครับ เพราะ จขกท BIAS ไปแล้วตั้งแต่แรก คุณ 24 ว่า  เรากำลังจะไปยกย่องคนตกงานแล้วไปขายปาท่องโก๋ ขายขนมปัง  ว่าทำตัวแบบเศรษฐกิจพอเพียง   เรากำลังจะบอกว่า คนที่ไปกู้เงินเค้าเพื่อ ลงทุนทำธุรกิจ เรียกว่า ทำเกินกำลัง   เอาที่ผมเจอมานะครับ คนกู้เงินทำธุรกิจ ไม่ใช่ว่าทำเกินกำลัง เพราะเขากำลังจะสร้างกระแสเงินสดในอนาคต ถ้ากู้มาแล้วทำพอดีตัว พอเพียง แล้วค่อยขยายกรอบไปเรื่อยๆ บางคนบอกกู้มาล้านนึง เริ่มทำธุรกิจ บางคนบอกจะเอา office ใหญ่ อุปกรณ์สำนักงานหรู เริ่มต้นก็สร้างค่าใช้จ่ายมหาศาล ยังไม่ได้หาลูกค้าเลย จะอยู่ต่อทำกำไรได้อย่างไร ดังนั้นถือว่า ถ้ากู้มาแล้วทำธุรกิจก็โอเค ไม่ใช่กู้ซื้อรถแบบไม่ต้องดาวน์ ผ่อนเต็มวงเงินที่สุดเท่าทีทำได้  กู้ซื้อมือถือ หรือ กู้ซื้อของเป็นหนี้บัตรเครดิตมากๆ จ่ายขั้นต่ำ แล้วบอกว่าฉันบริหารเงิน .. จากคุณ : :::GANTZ::: - [ 2 ต.ค. 49 17:43:23 ]

ความคิดเห็นที่ 30 โหวตให้หลาย ๆ ที สำหรับสิ่งดี ๆ ที่ได้อ่านในกระทู้นี้ ขอบคุณน้อง :::GANTZ::: รูปหล่อ จากคุณ : ม่ายสาว-พราวเสน่ห์ - [ 2 ต.ค. 49 18:06:26 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คุณ :::GANTZ:::  ครับ ที่ #24 เขาอธิบาย เขาหมายถึงว่า "มนุษย์เรานั้นมีมาตรฐานไม่เหมือนกัน" หรือที่เรียกว่า Fuzzy Logic สำหรับคนไทยสูง 180 cm. เราก็ถือว่าสูงแล้ว แต่สำหรับฝรั่ง 180 มันสูงปกติ ถ้าสูงจริงๆต้อง 200 cm. แล้วเราจะเอามาตรฐานใดมาตัดสิน ถ้าคนไทยบอก ต้องการมีเงินอย่างน้อย 10 ล้านบาท ถึงจะเพียงพอ แต่คนถือปืนบอกมีเงินปีละ 1 ล้านก็พอแล้ว ยังงี้ไม่กลายว่า "เราอยู่อย่างพอเพียงภาคบังคับ" เหรอครับ จากคุณ : Jaffa - [ 2 ต.ค. 49 19:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ :::GANTZ::: ครับ ถ้าประเทศไทยในปัจจุบัน เราดำเนินนโยบายพอเพียงเช่นที่คุณกล่าวมา ต่อไปเราไม่กู้หนี้ยืมสิน เราอยู่กันอย่างเพียงพอและพอเพียง โอเค ผมอยู่ได้ คุณอยู่ได้ เพราะเรามีโอกาสที่ดีกว่าชาวบ้าน ชาวชนบท (หรือจะเรียกชาวรากแก้ว) ปัจจุบันเราเจ็บป่วยเราเลือกโรงพยาบาลที่เราคิดว่าดีกับเราอย่างเหมาะสมได้ เราอยากจะศึกษาหาความรู้เราก็ให้การศึกษาอย่างที่เราต้องการได้ เรามีเงินเก็บออมยามฉุกเฉิน แต่ชาวบ้านล่ะครับ ถ้าวันนี้ประเทศเราไม่เร่งพัฒนา เราไปเรื่อยๆ ตามฐานะเรา ไม่กู้หนี้ยืมสินมาเพื่อแปลงเป็นทุนในวันข้างหน้า ฐานะอย่างประเทศต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนหรืออาจจะไม่มีโอกาสเลย ที่เราถึงจะพร้อมที่จะให้การศึกษาอย่างเท่าเทียมแก่ทุกๆคน เพื่อให้เค้ามีโอกาสที่ดีเท่าๆกับเรา เราถึงจะพร้อมที่จะให้การสาธารณสุขที่ดีเท่าเทียมกันถ้วนหน้าเพื่อให้เค้ามีโอกาสที่จะใช้ชีวิตที่ดีเหมือนอย่างเรา ถ้าเราโตเรื่อยๆอย่างช้าๆ ถึงจะมั่นคงจริง แต่ถ้าโลกมันหมุนไปเร็วกกว่าที่เราโต เช่นถ้าเราโตปีละ 1% แต่โลกโตปีละ 2.5% มันเท่ากับเราพัฒนาขึ้นอย่างช้าๆแน่หรือ หรือเรากำลังพัฒนาลงอย่างช้าๆกันแน่ เราจะไม่มีวันได้ผุดได้เกิด ผลก็คือประเทศเราจะไม่มีปัญญาสร้างโอกาสให้แก่ประชาชนได้ใช้ชีวิตอย่างดีและเท่าเทียมกันได้เลย เพราะทุนมีแต่จะหดลงๆๆ (มองแบบสัมพัทธ์) และสุดท้าย คนชนบท คนจน จะไม่มีวันได้พุดได้เกิดหรือไม่ก็ยากมาก เพราะถ้ามองภายใน เริ่มต้นชีวิตเค้า ทุนเค้าก็น้อยกว่าพวกคนในเมืองเยอะแล้ว มันจะลืมตาอ้าปากได้อย่างไร ถ้าปัจจุบันเราพร้อมอย่างนั้น เราสามารถโตได้มากกว่าโลกและมีช่วงเผื่อฉุกเฉินที่เพียงพอ ถ้าเราทำได้ด้วยฐานะในปัจจุบันไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน ผมเองก็จะเรียกร้องให้เราพอเพียง ไม่กู้หนี้ยืมสิน ไม่สร้างภาระความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงแก่อนาคตเช่นกัน จากคุณ : i_ss - [ 2 ต.ค. 49 23:18:49 ]

ความคิดเห็นที่ 33 -ขอบคุณ พี่ Jaffa ที่มาร่วมสนุก (แอบแซว พี่ jaffa ไม่เคยเปลี่ยนรูปเลย อิอิ) จากคุณ : :::GANTZ::: - [ 2 ต.ค. 49 23:20:11 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คุณ i_ss ครับ ถ้าเราโต้กันไปเรื่อยๆ คงได้ประเด็นกว้างมากเลยนะครับ เพราะแต่ละคนยืนบนพื้นฐานการรับรู้ และแหล่งข้อมูลที่ต่างกัน บางทีความคิดผม อาจจะไม่เหมือนรัฐบาลในบางจุดก็ได้ ผมไม่เคยบอกว่า เราจะอยู่กันอย่างพอเพียง ไม่กู้หนี้ยืมสินเลยครับ ลองถอยกลับไปอ่านดูครับ เราสามารถเป็นหนี้ ได้ ถ้ามีศักยภาพในการหามาใช้คืนหนี้นั้น เรากู้ได้ ถ้าเรารู้มาว่า เงินนั้นสามารถนำมาคืนได้ ในเวลาที่เหมาะสม ภายใต้การเพิ่มขึ้นของรายได้ เป็นหนี้ดี ไม่ใช่หนี้เน่า หรือ ทำเพื่อหมุนเงิน ภายใต้วินัยทางการเงินที่ดี นั่นคือ ผมไม่สนับสนุนการใช้ชีวิต แบบติดขีดแดง นั่นคือ เราขยายการใช้จ่ายไปเท่ากว่าหรือมากกว่ารายได้ ทำให้ เสี่ยงที่จะรักษาวินัยทางการเงินไว้ได้ "เราควรส่งเสริมประชาชนทั่วไป เน้นว่าทั่วไป ให้คิดแบบนี้ แต่ประเทศคงไม่ใช่หรอกครับ แนวคิดนี้ ในหลวงทรงสอนพสกนิกรของท่าน มิใช่ประเทศชาติ" จากคุณ : :::GANTZ::: - [ 2 ต.ค. 49 23:32:54 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คุณ :::GANTZ::: ครับ ผมเองก็ไม่มีเจตนาโต้เถียงกับท่านเลย ถือว่าเราคุยแลกเปลี่ยนความรู้กันนะครับ จากคุณ : i_ss - [ 2 ต.ค. 49 23:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ที่จริง รัฐบาลชุดที่ผ่านมา รนณรงค์ให้ชาวบ้านทำบัญชีรับจ่าย ผมเห็นด้วยมากเลย เป็นส่วนที่ดีมากๆ จะได้รู้ว่าเมื่อแบ่งรายจ่ายเป็นหมวดหมู่แล้ว อะไรที่เราจ่ายไปโดยไม่จำเป็น (ความจำเป็นของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน) ส่วนเรื่องการพัฒนา แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงก็ไม่ได้ต่อต้านการพัฒนานะครับ http://www.sufficiencyeconomy.org/show.php?Id=134 จากลิงค์ของคุณ LiveStock มาโหวตให้ครับ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : GABLIEL - [ 3 ต.ค. 49 00:12:20 ]

ความคิดเห็นที่ 37 -ขอบคุณครับ พี่  i_ss  ที่เข้าใจ ขอบคุณและน้อมรับในความคิดเห็นครับ (แต่ผมเขียนว่า โต้ จริงๆ นา ไม่ได้โต้เถียง #34) จากคุณ : :::GANTZ::: - [ 3 ต.ค. 49 00:19:58 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มาเชียร์จานค่ะ จากคุณ : sea angel - [ 3 ต.ค. 49 00:43:11 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อ่านแล้วเซ็ง ถ้าจะให้รอน่ะได้แต่ถามจริงเถอะชนชั้นกลางกระจอกๆในกทมเนี่ย รอกันไหวไหมเห็นออกมาประท้วงรัฐบาลทักษิณที่ผ่านมาได้ทำการช่วยเหลือและทุ่มเงินที่จะพัฒนาแล้วช่วยเหลือคนจนในต่างจังหวัด แต่ไอ้คนกทมเนี่ยแหละตัวดีเพราะมันไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับนโยบายไทยรักไทยก็เลยต้องล้มรัฐบาลอย่ามาอ้าง ว่าจะรอได้ คนที่รอไม่ได้ก็คือพวกคุณนั่นแหละ อธิพลตัวจริงน่ะอยู่ในกทมแถวไหน ลองเดากันดู ตอนนี้น่ะถึงแค่รอยังไงๆต่างจังหวัดก็ตามไม่ทัน จากคุณ : guyver - [ 3 ต.ค. 49 06:21:17 A:58.136.95.12 X: TicketID:121200 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อิทธิพลของชาวกทม นโยบายทักษิณอาจจะมีบางอย่างที่หาเสียงใช่แต่หลายๆอย่างเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจของท้องถิ่งและภูมิภาค ถ้าอยากจะรอกกันจริงๆทำไมเห็นออกมาโว้กว้ากกันจัง จากคุณ : guyver - [ 3 ต.ค. 49 06:23:52 A:58.136.95.12 X: TicketID:121200 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มาอ่านเฉยๆครับ เรื่องนี้ ความรู้ผมยังแค่หางอึ่งเอง จากคุณ : DARINGYOUSENDMEHOME - [ 3 ต.ค. 49 07:25:03 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คือ แค่จะบอกว่าประเทศไทยนี้ ไม่ได้มีปัญหาเพราะคนไม่ประหยัดครับ ปัญหาของประเทศนี้ คือ คนไทยหาเงินไม่เป็นครับ   เพราะ 1. ไม่มีความรู้ 2. ไม่ขยัน 3. ไม่มีโอกาส คำถามคือ ถ้าประหยัดมากขึ้น แล้วมันจะขยันขึ้น หรือ ความรู้มากขึ้น หรือเปล่าครับ ( แต่ผมยอมรับว่า ประหยัดมากขึ้นจะเป็นการเพิ่มโอกาสครับ ) แต่สำหรับ ผม ถ้าขยันมากขึ้น และความรู้มากขึ้น จะเกิดการประหยัดมากขึ้นครับ ดังนั้น ผมว่าถ้าจะบอกว่าประเทศไทย ควรสร้างคนให้ขยัน ความรู้มาก ๆ   ดีกว่ามาเน้นว่าให้คนประหยัดครับ เพราะมันตรงประเด็นมากกว่า แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 49 07:28:25 จากคุณ : Nonining - [ 3 ต.ค. 49 07:27:28 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อย่าลืมว่าค่าใช้จ่ายของคนชั้นล่างและชนชั้นกลางในสังคมต้องเสียเงินค่าส่วย ค่าดอกเบี้ยแพงๆ ค่าอื่นๆที่ไร้สาระมากมาย แค่จัดการให้คนเหล่านี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายยุบยับเหล่านี้ผมเชื่อว่าประชาชนเขาทำมาหากินได้อย่างพอกินพอใช้อยู่แล้ว ถามว่าใคร พวกไหนที่คอยไปรีดไถเงินคนหาเช้ากินค่ำเหล่านี้ ทำไมเขาต้องจ่ายค่าส่วยทางเท้า ทำไมเขาต้องจ่ายค่าเช่าที่วางขายของให้เข้ากระเป๋าผู้มีอิทธิพลในสังคมโดยไม่ต้องเสียภาษี ถ้ามีการกำจัดพวกทำนาบนหลังคนแล้วผมเชื่อว่าประชาชนไทยจะอยู่อย่างพอเพียง หาเช้ากินค่ำได้อย่างสบายๆ 1.หาที่ทำกินให้ชาวบ้าน ถ้าชาวบ้านไม่มีปัจจัย 2.ขจัดพ่อค้านายทุนหน้าเลือดที่คอยปล่อยเงินกู้คิดค่าดอกเบี้ยแพงลิบ คอยกดราคาผืชผลต่ำๆแล้วเอาไปขายต่อในราคาสูงๆ 3.ขจัดมาเฟียส่วยทางเท้า ที่คอยมารีดไถเงินชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำ(ใคร???? คือขบวนการมาเฟียเหล่านี้ มีอิทธิพลสูงแค่ไหน ฝังรากลึกในเมืองไทยมานานแค่ไหน?) 4.ให้สวัสดิการรักษาพยาบาลประชาชนให้เบาแรงลง ไม่ต้องเป็นภาระหนักอึ้งเวลาเจ็บป่วย 5.ให้ความรู้ช่วยเหลือชาวบ้านให้มีอาชีพทำการงานได้ 6.ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากฝีมือ แรงงานชาวบ้านให้มีตลาดรองรับทั้งในและต่างประเทศ 7.ถ้าชาวบ้านไม่มีเงินลงทุนก็สามารถที่จะเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย เช่นไปที่กองทุนหมู่บ้าน หรือไปที่ธนาคารคนจน(ออมสิน) 8.รณรงค์ให้ชาวบ้าน ละ ละ เลิกในอบายมุขทั้งหลายเช่นยาเสพติด สุรา บุหรี่ การพนันนอกกฏหมาย ฯลฯ ก็ไม่รู้ว่าที่ผ่านๆมา เคยมีรัฐบาลยุคใดบ้างที่สนใจให้การสนับสนุนช่วยเหลือเพื่อให้ชาวบ้านสามารถยืนอยู่บนลำแข้งของตัวเองได้อย่างจริงๆ มากกว่าที่จะมาพูดจาสวยหรู แต่การกระทำไม่มีอะไรให้จับต้องได้เลยพูดแต่ว่าตัวผู้นำมีความซื่อสัตว์ สมถะ ไม่รู้ว่าว่าได้ช่วยทำอะไรออกมาเป็นรูปธรรมมากกว่าที่คิดจะขายตัวเองให้เป็นภาพลักษณ์ลอยๆเท้งเต้งอยู่ได้แต่บนหิ้งเท่านั้น จากคุณ : kaisin - [ 3 ต.ค. 49 08:27:49 ]

ความคิดเห็นที่ 44 รัฐบาลที่ซื่อตรง รัฐมนตรีทุกคนซื่อตรง ข้าราชการทุกคนซื่อตรง พ่อค้าเอกชนทุกคนซื่อตรง ประชาชนทุกคนซื่อตรง แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว.. จากคุณ : นนท์ลิขิต (นนท์ลิขิต) - [ 3 ต.ค. 49 10:43:50 ]

ความคิดเห็นที่ 45 โหวตครับ  เห็นด้วยกับแนวคิดพอเพียง  แต่ มันมีรายละเอียดเยอะมาก  คนส่วนใหญ่สับสน คนในเมือง  ก้อว่าโครงการต่าง ๆ  จะล้มเลิก   มันเปลือง  ไว้มีเงินค่อยทำ  แล้วเมื่อไหร่ล่ะ คนบ้านนอก  ก้อว่าจะล้มกองทุนต่าง ๆ  มันผลาญงบ  ทำงัยดี ต้องประกาศมาชัด ๆ  ว่าจะทำยังไง  ถึงจะพอเพียง 1 2 3 ...  บอกมาเป็นข้อ ๆ  ไปเรยย์ อนาคตประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงอย่างไร ไม่ใช่ให้ไปตีความกันเอาเอง โปรดอย่าให้ประชาชนเข้าใจสับสน จากคุณ : จอนฟอน - [ 3 ต.ค. 49 10:47:56 ]

ความคิดเห็นที่ 46 โหวตให้ครับ จากคุณ : endophine - [ 3 ต.ค. 49 11:41:39 ]

ความคิดเห็นที่ 47 "การพัฒนาและบริหารประเทศ ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ ทางสายกลาง คำนึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจ และการกระทำ" - สร้างเขื่อนป่าสัก โครงการแก้มลิง ไม่ให้น้ำท่วม กทม. รักษาฐานเศรษฐกิจไว้ ไม่ให้เสียหาย => เศรษฐกิจพอเพียง ครบทุกข้อ จากด้านบน - เอาเงินมาสร้างทางด่วน รถไฟใต้ดิน ในกทม. เป็นแก้ปัญหา การจราจร ปลายทาง โดยมูลค่า project มหาศาล => ด้วยเงินก้อนเดียวกัน สร้างหัวเมืองหลัก ในแต่ละภูมิภาค ให้มีส่วนเชื่อมต่อสาธารณูปโภค ไม่โกงกินโครงการ และผลักดันให้เศรษฐกิจในส่วนภูมิภาคดีขึ้น ทำให้คนอยู่ใกล้ถิ่นตัวเองมากขึ้น ไม่ต้องมาแออัด ในกทม และปริมณฑล พ่อแม่ไม่ต้องมาทำงานไกล มีเวลาดูแลลูก สังคมดีขึ้น => ถ้าทำให้ครบ เศรษฐกิจพอเพียง - ปล่อยให้มีน้ำท่วมพืช ไร่ และการเกษตร อันเป็นอาชีพหลักของประเทศ ไม่มีการวางผังเมือง ปล่อยให้ ใครก็ได้ ถมที่ ตามอำเภอใจ หรือไม่มองในมหภาค ปล่อยให้มีการทำลายป่าไม้ แค่ไม่วางแผน ก็จะเป็นเศรษฐกิจพอเพียงได้ไง - เปิดประเด็น magaproject เพื่อให้มีผลประโยชน์ ได้สูบได้กินกัน ไม่ได้วางแผน มองให้ครบทุกด้าน อย่างงี้หรือ เศรษฐกิจพอเพียง - เหมือนคนเล่นหุ้น ใครความสนใจ คนกำไร เพียงหยิบมือเดียว ให้ทุนการศึกษา กับ คนเก่ง เพียงหยิบมือเดียว แล้วคัดมาเรียน ตัดเอายอดหัวกระทิ ไปอยู่บริษัท หรือ กิจการของตนเอง ส่วนคนที่เหลือปล่อย ให้เป็นตามยถากรรม นโบบายการศึกษา ที่เป็นเศรษฐกิจพอเพียงไปอย่างไงทำให้ครบ ยังมีจุดโหว่ ให้ซ่อมให้แซมอีกเยอะแยะ ประเทศไทย ช่วย ๆ กันคิด ให้ได้ ตามที่คุณ livestock post ครับ ถ้าคุณเป็นรัฐบาลที่ดีควรทำอย่างไง เป็นประชาชนที่ดีควรทำอย่างไง ขอบคุณครับ จากคุณ : NO Holy Grail - [ 3 ต.ค. 49 12:01:49 A:203.153.175.123 X: TicketID:055660 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อันดับแรก กลุ่มบุคคลที่ควรจะต้องปรับปรุงตัวเลยนั่นคือ พวก นักการเมือง พวกหัวโบราณ รุ่นเก๋าวัยดึก พวกแก่ๆ เงินทองก็มีรวยไม่รู้จะเอาไปถมทะเลที่ไหนเนี่ย กลุ่มคนพวกนี้ ควรจะเว้นวรรคทางการเมือง หรือออกมาจากวังวนการแย่งชิงอำนาจบ้างได้แล้ว แล้วเอาเวลาที่เหลืออยู่ของชีวิตไปทำประโยชน์ด้านอื่น เช่น สอนหนังสือ วิทยากรที่ต่างๆ หรือมูลนิธิ จะได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้คนรุ่นหลัง และเป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินเกิดบ้าง แบบนี้แหละคือความพอเพียงอย่างนึง อีกส่วนนึงคือ ต่อไปนักการเมืองรุ่นใหม่ๆ ไม่ว่าจะฝ่ายไหนเข้ามาก็ตาม ก็บริหารประเทศชาติแบบพอเพียงได้ โดยไม่โกงไม่กิน ตั้งใจทำงาน พัฒนาชาติ เงินเดือนเอาไปเท่าเดิมอย่างที่เป็นอยู่ก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่ก้เข้าใจนะว่า งานการเมืองมันมีรายจ่ายที่แสดงไม่ได้อีกมาก ถ้าจะกินเงินจากโครงการก็กินแต่พองาม ซัก 2-5% ก็พอแล้ว เวลาทำโครงการอะไรต่างๆ จะได้ไม่ต้องใช้เงินประเทศชาติแพงมากนัก ไม่ใช่แบบทุกวันนี้ โกงทีนึงกินกันเท่าตัวเลย สุดแสนจะโลภมาก แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่ประเทศชาติถึงจะเข้าสู่เศรษฐกิจแบบพอเพียง เท่านั้นยังไม่พอ ปากก็บอกว่าให้คนประหยัด พอเพียง แต่พวกนักการเมืองทั้งหลายวันๆอยู่บ้านหรูหรา รถยนตร์เป็นสิบคัน ที่ดินอีกสารพัด สมบัติงกสร้างกันเข้าไป เนี่ยแหละมันถึงไม่พอเพียงแบบนี้ไง .............. จากคุณ : คนรักประเทศไทย - [ 3 ต.ค. 49 14:20:40 A:203.118.85.133 X: TicketID:128769 ]

ความคิดเห็นที่ 49 อ่ออ แล้วที่สงสัยอย่างนึงทำไมรถประจำตำแหน่งพวกรัฐบาลถึงต้องเป็น รถเบนซ์ (รุ่นใหม่ล่าสุดอีกต่างหาก) ด้วยหล่ะ เอาแค่ โตโยต้า ฮอนด้าไม่ได้เหรอ แค่ให้สามารถพาตัวคุณไปทำงานตามที่ต่างๆก็น่าจะพอเพียงแล้ว เห็นเวลาอยู่ในรถก็ไม่กี่นาทีเอง เพราะยังไงก็มีตำรวจกั้นนำทางอยู่แล้ว ถ้าลดรายจ่ายพวกนี้ได้นะ ประเทศชาติจะเหลือเงินอีกเท่าไหร่ แถมประหยัดน้ำมันอีกต่างหาก จะใช้นโยบายความพอเพียง ผมก็อยากจะเห็นพวกนักการเมืองทำเป็นตัวอย่างก่อนจริงๆ รับรองประเทศเจริญแน่นอน จากคุณ : คนรักประเทศไทย - [ 3 ต.ค. 49 14:25:02 A:203.118.85.133 X: TicketID:128769 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เอ ห้องสินธร เป็นห้องราชดำเนินป่าวเนี่ย จากคุณ : cocker - [ 3 ต.ค. 49 15:47:29 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เห็นด้วยกับ คณ 42 อย่างยิ่ง ส่วน 44  ผมว่า เป็นความฝันอันสูงสุด จากคุณ : Mudady - [ 3 ต.ค. 49 15:57:15 ]

ความคิดเห็นที่ 52 มองแบบ จุลภาค   หรือแบบ เศรษฐกิจส่วนบุคคล          ถ้าเป็นด้านรายรับ  ก็คือ หารายได้ให้มากจนพอเพียงกับ การใช้จ่าย  และมีเหลือเก็บออม          ถ้าเป็นด้านรายจ่าย  ก็จ่าย ให้พอสมควร พอกับรายได้ที่มี จะได้ไม่ขัดสน มองแบบ มหภาค  เศรษฐกิจของประเทศ           ด้านรายรับ   ก็ต้องส่งเสริมคนในประเทศ ให้มีความสามารถ                            ทำกิจการ  ให้ประเทศได้ดุล  ไม่ใช่ขาดดุล          ด้านรายจ่าย  ก็ต้องทำโครงสร้างของประเทศให้ประชาชน มีชีวิตอยู่ได้อย่างสุขสบาย                            โดยมีรายจ่ายน้อย                            เช่นทำให้ประชาชน รักที่จะเข้าวัด มากกว่า เข้าเทคฯ                            หรือ ใช้รถเมล์ รถไฟฟ้า มากกว่าซื้อรถยนต์มาขับ จากคุณ : Mudady - [ 3 ต.ค. 49 16:27:22 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ถ้าเป็นผม ผมจะเริ่มที่การศึกษาครับ การจะใช้เศรษฐกิจพอเพียง(ที่ผมเห็นว่าเป็นเศรษฐแนวพุทธแบบ Simplify) ต้องเริ่มจากการให้การศึกษาปลุกฝังให้คนทำงานเพื่องาน ไม่ได้ทำงานเพื่อเงิน นอกจากนั้นยังต้องให้โอกาสเขาได้ทำงานที่ตัวเองถนัดด้วย จากคุณ : Nexus - [ 3 ต.ค. 49 20:25:04 ]

ความคิดเห็นที่ 54 บอกให้คนยากคนจนจงพอใจจนต่อไป แต่ ครม.ยังขี่รถเบนซ์ ตีกอล์ฟ มันคืออะไร....น่าสมเพช จากคุณ : ราษฏร ตาดำดำ (skzero) - [ 3 ต.ค. 49 23:09:10 ]

ความคิดเห็นที่ 55 สรุปง่ายๆเลย เห็นด้วยกับความเห็นที่ 42 ครับ "ปัญหาของประเทศนี้คือคนไทยหาเงินไม่เป็นครับ" จากคุณ : คนรักประเทศไทย - [ 3 ต.ค. 49 23:52:20 A:203.118.85.233 X: TicketID:128769 ]

ความคิดเห็นที่ 56 หลักพอเพียง คือ เน้นพื้นฐาน ใช้อย่างพออยู่พอกิน และ ทำสิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างพอมีพอกิน หมายความว่าอย่างไร ยกตัวอย่างแบบชาวบ้านๆ ก็ มีไร่ทำกินอยู่1ไร่ จะทำอย่างไรให้ 1 ไร่หล่อเลี้ยงชีวิตครอบครัว1ครอบครัวได้ แน่นอน ถ้าทำไร่ปกติ ต้องซื้อปุ๋ย ซื้อยาฆ่าแมลงกู้หนี้ยืมสินเค้ามา ถ้าใช้ยาก็ต้องมานั่งปรับปรุงดิน ให้สามารถปลูกพืชครั้งต่อไปได้ นั่นคือ จนตาย อดอยาก เป็นหนี้ นั่นไม่ใช่เศรษฐกิจแบบพอเพียง แต่การที่ทำให้1ไร่ สามารถเลี้ยงดูครอบครัวให้อยู่กินได้ก่อนนั่น อันดับแรก พูดง่ายๆต้องทำ1ไร่ให้มีผลผลิตสูงสุด ยาฆ่าแมลง แต่เดิมที่จำเป็นต้องซื้อ ไม่จำเป็นต้องซื้อ เพราะนำพืช ที่มีอยู่ในไร่มาทำเป็นยาฆ่าแมลงแทน ใช้การเกษตรผสมผสาน นำของเหลือใช้มาทำปุ๋ย ทำให้ไม่ต้องใช้ปุ๋ย แต่มีปุ๋ยธรรมชาติ และใช้การเกษตรแบบ3มิติ ทำให้ 1 ไร่สามารถปลูกพืชได้สูงสุด จากเดิมที่เป็น2มิติ 3มิติอย่างไร เช่น สร้างรั้วตะแกรงทำให้ได้พื้นที่ปลูกเพิ่ม สำหรับไม้เลื้อย ทำการปลูกพืช ไม่ใช่แบบแนวราบอย่างเดียว ซึ่งโครงการพระราชดำริ เป็นแนวทางที่ทำได้มาแล้ว และการเกษตรในอนาคตจะเป็น 3 มิติครับ นั่นคือแบบชาวบ้านๆ และเรื่องการเกษตร ปัจจุบัน ถ้าไม่ใช่ผู้ทำการเกษตรแล้ว จะทำอย่างไร เราควรดูโครงการพระราชดำริสวนจิตรลดาเป็นตัวอย่าง ทุกโครงการนั้น เกิดมาจากจุดๆเดียว นำสิ่งที่เหลือใช้มา ขยายต่อยอด ทำให้มีมูลค่าสูงสุด จากเงินหมื่นกว่าบาทที่ในหลวงพระราชทานมาครั้งเดียว เริ่มจากการเกษตร ปลูกข้าว นำเงินที่ได้มาเลี้ยงตัวเอง นำสิ่งเหลือใช้ในกิจกรรมมาวิจัย ทำให้มีมูลค่าสูงสุด กลายเป็นโครงการมูลค่าพันล้าน โดยไม่ได้รับเงินสนับสนุนใดๆ ไม่ว่าจะไบโอดีเซล สาหร่ายเกลียวทอง หรืออื่นๆ เริ่มจากจุดๆเดียว และมีแนวโน้มจะพัฒนาได้มากกว่านั้น พื้นฐานก็ง่ายมากๆ มีน้อยก็ทำน้อย ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แล้วใช้อย่างพอเพียง อะไรที่เหลือก็นำมาต่อเติมขยายใช้ประโยชน์ จากน้อยๆก็อุ้มชูตัวเองได้ อุ้มชูตัวเองได้จะขยับขยายได้ ขยับขยายได้ก็จะทำธุรกิจได้ครบวงจร เป็นธุรกิจที่ยั่งยืน เศรษฐกิจพอเพียง ในหลวงทรงทำได้จริงๆมาแล้ว เหลือแต่เผยแพร่ให้ประชาชนนำไปใช้จริงๆเท่านั้นแหละ จากคุณ : Robonin S.knight - [ 4 ต.ค. 49 04:11:01 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ...# 53 ถ้าเป็นผม ผมจะเริ่มที่การศึกษาครับ ... ก็ถูกน่ะครับ...แต่ประเทศที่ให้เยาวชนเรียนหลักสูตร-หนังสือเล่มเดียวกันเดียวกันทั่วประเทศ ก็เป็นหลักการที่ดี ทำให้เด็กไทยทุกคนเสมอมีการศึกษาเสมอภาคกัน แต่ปัญหาก็คือ ความรู้ ในโลกนี้มัน เกิดขึ้นเร็วและล้าหลังไวมาก รัฐไทย-ครูไทยยังยากจนและยังโง่เกินไปเกินกว่า จะตามทัน อีก ทั้งยัง หาใด้ไม่พอกินพอใช้ ไม่พอผ่อนรถยนต์คันงาม เขาก็เลยไปทำอาชีพ เสริมกันหมด ไม่มีใครใส่ใจเด็กไทย ...จึงทำให้เด็กไทยสมัยนี้โง่เสมอกันทั่วหน้า ก็คือพยายามจะบอกว่าประเทศไทยนี้ ไม่ได้มีปัญหาเพราะคนไม่ใด้เรียนหนังสือน่ะครับ แต่ ไม่ใด้สอนให้คนไทยคิดเป็น การเรียนรู้ มันต้องสอนให้คนคิดเป็นด้วยตนเอง มันถึงจะต่อยอด พัฒนาออกไปใด้ ...คนมันจะคิดเป็น มันต้องลงมือทำจริงๆก่อน เช่นการยกของ..ทำอย่างนี้ เหนื่อย ..ทำอย่างนี้เปลืองไม่คุ้ม ...ทำอย่างนี้เสียโง่ให้คนกลาง ..เมื่อเจ็บ เมื่อเหนื่อย มันก็จะ คิดถึงการนำการแก้ปัญหามาใช้ เช่นนำระบบรอกพวงมาใช้ ...คิดระบบประหยัด พลังงานมา แทน แต่บ้านเราคนมันคิดกันไม่เป็น...ดูตัวอย่างๆ ง่ายๆ แค่ ซิอิ้ว น้ำปลา - โฆษณาขายทั่วประเทศ ขนใส่รถจากกรุงเทพ ให้เปลืองน้ำมันทำไม กะอีแค่ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม พื้นๆ(กินแล้วก็...คี่ แค่นั้นแน่ะครับ) ก็ยังคิดกันไม่เป็น ...ปัญหาเด็กขาดอาหาร-ขาด โปรตีน??? แทนที่จะรู้จัก แปรรูปถั่วเหลืองถั่วเขียวให้เป็น เต้าเจี้ยว ซิอิ้ว ให้เป็นแหล่งโปรตีน ให้ลูกหลานตัวเองกิน แทนที่จะไป-ขายหมู-ผ่านพ่อค้าคนกลาง ขนเข้ามาในกรุงเทพแล้วใส่ ขวดกลับไปขายที่บ้าน นอก??? โง่กันไหม ขนไปขนมา แค่ของพื้นๆ ก็คิดกันไม่เป็น ...อีกเช่น กลางวันต้องขับรถปิคอัพ 3000 ซีซี 10 กิโล ไปกลับ เพื่อไปกินก๋วยเตี๋ยวชามเดียว คิดไม่เป็นว่ามันขับรถไปมันกิโลละ เท่าไหร่ ..ลูก เมีย ใครขัดใจไม่ใด้ กินตรงนี้ไม่อร่อย ไม่แซ่บ ...ตัวกิเลสพื้นๆทั้งนั้นเลย วน เวียนอยู่แค่ ...1.กิน 2.ขี้ 3.ปี้ 4.เมา ผมจึงจะว่า...ให้ประเทศไทยสร้างเด็กรุ่นใหม่ ให้คิดเป็น ประหยัดเป็น อย่าแต่งเติมเสริมองค์ กินอยู่ให้มันพิสดารมากนัก กินง่าย อยู่ง่าย แต่เรียนรู้ให้หนัก และมีประสิทธิภาพ...มันน่าจะ ตรงประเด็นกว่า ..น่ะ ..น่ะ จากคุณ : gripslord@yahoo.com - [ 4 ต.ค. 49 06:25:48 A:210.246.70.64 X: TicketID:128950 ]

ความคิดเห็นที่ 58 มาเสริมน่ะ การศึกษาเพิ่มเติมของคนไทย น่ะ อนาถ ที่สุดแล้ว ถ้าไม่นับห้องสมุดโรงเรียน ห้องสมุดมหาวิทยาลัย ห้องสมุดประชาชน (ซึ่งย่ำแย่) ประเทศไทยมีห้องสมุดเพื่อชนชาวไทยแห่งเดียว คือ หอสมุดแห่งชาติ มีหอสมุดไหนที่เข้าไปใช้ได้อีกช่วย list ด้วยครับ นึกไม่ออก กับห้องสมุดมารวย ที่ตลาดฯ ..แค่นั้น จากคุณ : :::GANTZ::: - [ 4 ต.ค. 49 08:22:41 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ผมว่ามันก็พูดยากนะครับ เพราะก็ไม่รู้ว่าปัญหามันควรแก้ที่ตรงไหนดี ห้องสมุดห่วยหรือมีจำนวนน้อยไป -> คนเลยไม่เข้า หรือคนมันห่วยไม่มีความต้องการใช้ห้องสมุด -> ห้องสมุดมันเลยเป็นสิ่งที่ไม่มีคุณค่าพอที่จะพัฒนา (ไม่คุ้มต่อปริมาณความต้องการ) ปัญหาของปัญหาต่างๆ ส่วนมากคือจะ ทำยังไงให้คนส่วนใหญ่ได้รับการศึกษาที่ดีเพียงพอ ลองให้เกรียติให้ศักดิ์ศรีให้เงินทองที่คุ้มค่าเพียงพอให้คนเก่งๆไปเป็นครูตั้งแต่อนุบาล ประถม มัธยม ไม่ใช่ออกันแต่ที่มหาวิทยาลัยรัฐใหญ่ๆ จากคุณ : i_ss - [ 4 ต.ค. 49 12:43:49 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ไม่ทราบว่ายังพอจำกลอนที่ตอนเด็กๆท่องได้หรือเปล่า  มีสลึงพึงประจบให้ครบบาท อบ่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ มีน้อยจ่ายน้อย ค่อยบรรจง อย่าใช้ลงให้มากจะยากนาน ดิฉันว่า พอเพียงหนะ สอนให้เราประหยัด อดทน ขวยขวาย ช่วยเหลือตนเองก่อน ไม่มักง่ายอยากได้อยากมีเหมือนคนอื่นโดยไม่ดูสถานะของตน  ซึ่งเราต้องยอมรับว่าเยาวชนเดี๋ยวนี้ฟุ้งเฟ้อขึ้นมากเลยกตัญญูน้อยลง (เคยเห็นเด็กบางคนไถเงินย่าไปซื้อของฟุ่มเฟือยทั้งที่จะไม่มีกินอยู่แล้ว)  ถ้าเรายอมพักฟื้นให้สังคมแข็งแรงกว่านี้ น่าจะดีสำหรับคนรุ่นต่อไป จากคุณ : เรียนรู้ - [ 4 ต.ค. 49 13:31:25 ]

ความคิดเห็นที่ 61 โหวตครับโหวต   (เสียงน้อยๆนี้ขอช่วยสนับสนุนจขกท.อีกคนนึงครับ) แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 49 20:12:18 จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 4 ต.ค. 49 20:12:03 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คปค ควรปฏิวัติระบบการศึกษาไทยเป็นอันดับแรกเลย คปค และรัฐมนตรี จะต้องเป็นแบบอย่างให้สังคม ทั้งการประพฤติ ปฏิบัติ การใช้จ่าย การแสดงออก ให้คนในสังคมเห็น ตัวอย่างที่ดี และถูกต้อง ของเศรษฐกิจพอเพียง ในหลวงท่านทรงเป็นแบบอย่างที่ถูกต้องอยู่แล้ว ไม่ต้องตีความเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงอย่างไรอีก อยู่ที่แต่ละคนจะปฏิบัติได้สักส่วนเสี้ยวของแบบอย่างที่พระองค์ท่านปฏิบัติกันมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะพวกนักการเมืองทั้งหลาย จากคุณ : ขอบฟ้า จันทรา ดาบ - [ 4 ต.ค. 49 21:17:59 ]

ความคิดเห็นที่ 63 พอเพียง มันต้องหาตัวตนของตัวเอง แล้วก็ตัวตนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่าเอากรอบของเราไปตีให้คนอื่น พอเพียงคือไม่เกินตัว แต่ตัวของคนมันขนาดไหนละ คนตัวใหญ่จะให้ใส่เสื้อตัวเล็ก มันก็ใส่ไม่ได้ คนตัวเล็กให้ใส่เสื้อตัวใหญ่มันก็ไม่งาม จากคุณ : 821 (บัตรผ่าน 821) - [ 5 ต.ค. 49 09:21:47 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เศรษฐกิจพอเพียง มีกำลังเท่าไหร่ทำเท่านั้น ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น อย่าก่อหนี้ เพื่อของฟุ่มเฟือย เช่น ปลูกข้าว อย่าง #8 อยากพอเพียงเหมือนกันครับ แต่ผมมีที่ 10 ไร่ -ต้องใช้ปุ๋ย ไร่ละ 3 กระสอบ ๆ ละ 600 บาท ก็ตก 1800 บาทต่อไร่10 ไร่ก็ 18000 บาท -ฮอร์โมน ปุ๋ยเกร็ด ยาเร่ง ชุดละ 500 บาทต่อไร่ 10 ไร่ก็ล่อไป 5000 บาท (ไม่มีเงิน พอจะต้องกู้ ?? ปลูกเท่าที่มีเงินอยู่ หรือ หาทางทำให้ดินดี โดนใช้เงินน้อยกว่านี้ ได้มั้ย เช่นหมักปุ๋ยใช้เอง?) -ยาฆ่าแมลง ขวดละ 500 ต่อ 2 ไร่ มี 10 ไร่ ก็ใช้เงิน 2500 บาท -ยาฆ่าหนอน หนังเหนียว หนอนกระทู้ อย่างละขวดต่อไร่ ขวดละ 800 บาท 10 ไร่ ก็ 20 ขวด 16000 บาท -ยาฆ่าเชื้อรา ไอ้ตัวนี้แพงมาก ขวดละ 1200 บาทต่อไร่ 10 ไร่ ก็ล่อไป 12000 บาท (จำเป็น จริงหรือ ยาฆ่าแมลง ถ้าปลูกแบบไร้สารได้ ราคาจะดีกว่ามั้ย) อันนี้ ยังไม่รวมค่าเมล็ดพันธ์ อีกไร่ละ 800บาท ค่าไถที่ ค่าขึ้นแปลง แรงงานถางหญ้า ค่าแรงคนเก็บผัก ค่าน้ำมัน ไปส่งที่ตลาด ค่าถุงพลาสติกบรรจุผลผลิต อื่นๆๆอีกมากมาย >> เมล็ดพันธ์ จริงๆ น่าจะขอได้ที่ เกษตร ตำบล วิธีปลูก ทำไงให้ไม่ต้องใช้ ยาฆ่า ... มากๆ ทำไง จะ ทำปุ๋ย ใช้เอง ปรับสภาพดิน ให้ใช้ได้นานๆ ทำยังไงให้ได้กำไร ตามสมควร คือ มีที่ 10 ไร่ เงิน แสนนึง อย่าบ้าทำ เอารวยตูมเดียว สิบไร่ ใช้ทุนแสนนึง ทำให้เกิดเงิน งอกออกมาก่อน แล้ววน loop ไปเรื่อยๆ นายหลวง ท่านทำมานานแล้ว รัฐบาลเกือบทั้งหมด ไม่เคยเหลียวแล ดีแต่ปาก ค้าขาย รับราชการ หรือ ใช้ชีวิต แบบอื่นก็เหมือนกัน มีเงิน มีของในมือ เท่าไหร่ ทำให้เกิดกำไร ก่อน ไม่ใช่กู้หนี้ มาค้าขาย แล้ว อะไรที่ต้องกู้จริงๆ อย่าง ซื้อรถ มาส่งของ ไปส่ง ลูก มันต้อง กู้ซื้อ ก็กู้ ไม่ใช่มีรถไฟฟ้าหน้าบ้าน นั่งตูมเดียวถึงที่ทำงาน ยังทะลึ่งกู้ซื้อรถขับ อย่างนี้ไม่ใช่ เวลากู้ซื้อ ก็ซื้อให้พอดี ฐานะ ไม่ใช่เอะอะ ก็ คัมรี่ แอกคอร์ด เบ็นซ์ ถ้ามีตังซื้อ ก็ไม่ว่ากัน เศรษฐกิจไม่พอเพียง เหมือน เล่นหุ้น แล้ว คุณกู้เงินมาเล่นหุ้น อ่ะ ... ทำไมเข้าใจกัน ยากจัง เศรษฐกิจพอเพียง ที่พิมพ์ก็ภาษาไทยนะ จากคุณ : เศรษฐกิจพอเพียง - [ 5 ต.ค. 49 09:23:40 A:203.130.128.156 X: TicketID:055955 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เล่าเรื่องคนที่ทำงานให้ฟัง  ว่าปัญหาที่เกิดจริงในสังคมเป็นอย่างไร มีเจ้าหน้าที่ (ในหน่วยงานราชการ) ยืมเงินนอกระบบ  กู้คนนั้น คืนคนนี้  (หมุนไปหมุนมา) จนกระทั่งวันหนึ่ง หมุนไม่ไปแล้ว จึงได้มาเล่าให้ดิฉันฟัง  เพื่ออยากจะแก้ปัญหา  รวมเงินที่กู้ประมาณ 80,000 บาท  ดิฉันก็มารวบรวมรายละเอียด รายได้ รายจ่าย (ทำบัญชี) จึงทราบว่าในแต่ละเดือนเงินที่เขาส่งให้เจ้าหนี้นั้น เป็นการส่งแต่ดอกเบี้ย เพราะร้อยละ 10 20  จึงแก้ปัญหาโดย 1. ให้ยืมเงินไปใช้หนี้เจ้าหน้าที่ดอกแพงที่สุด และทยอยช่วยใช้ไปจนหมดจากเจ้าหนี้ที่ต้องเสียดอก 2. หลังจากนั้น นำเงินที่ต้องเสียดอกในแต่ละเดือน มาจ่ายให้ดิฉันแทน  เพื่อเป็นการตัดต้น         จนมาถึงเดือนนี้ (ครบ 1 ปี)  เขาสามารถใช้หนี้หมดไปแล้ว บางที ก่อนที่จะเกิดความพอเพียง  ต้องมีอะไรที่เพียงพอก่อน (เป็นหนี้ ต้องมีเงิน (ที่ปลอดดอกเบี้ยหรือดอกเบี้ยต่ำ) ไปชำระ ถ้าไม่มีชีวิตนี้ คงใช้หนี้ได้แค่ดอกเบี้ย  ตอนนี้ เขามีชีวิตที่ดีขึ้น ทำงานก็ดีขึ้น หน้าตาสดใสมากกว่าเดิม จากคุณ : พู่เจริญ (พู่เจริญ) - [ 5 ต.ค. 49 12:56:24 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ประทานอภัยทุกท่านนะครับ อยากให้ทุกท่านลองศึกษาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงดูก่อนครับ เศรษฐกิจพอเพียง คือการเน้นสายกลางครับ ไม่ตึงไม่หย่อนไปครับผม "อยากมีรายได้มากขึ้น" ทฤษฎี นี้ไม่ห้ามครับ แต่ทฤษฐีนี้ ห้าม "อยากมีรายได้มากขึ้นโดยไม่สนใจพื้นฐานครับ" และข้อสำคัญคือ คนที่จะนำไปใช้ หรือนำไปเผยแพร่ เข้าใจมันพอที่จะนำไปเผยแพร่หรือเปล่า นั่นก็อีกเรื่องครับผม ลองศึกษาดูก่อน เพราะผมก็ไม่เก่งกาจสามารถถึงขนาดมาสอนใครได้ครับ คนที่รู้จักพลิกแพลงและนำทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับตนเองนั้นย่อมได้เปรียบคนที่ไม่รู้จักพลิกแพลงแน่นอนครับ ไม่ว่าจะทฤษฎีไหนๆ ก่อนอ่าน อย่าเริ่มอ่านด้วย ฐิธิ นะครับ เดี๋ยวจะอ่านไม่รู้เรื่องและเข้าใจ ทฤษฎี จริงๆ ครับ กลายเป็นจับผิดซะเปล่าๆ ครับผม แล้วก็นอกเรื่องนิดนึง มีคนเคยทำสำรวจจากผู้ที่เริ่มทำธุรกิจครั้งแรก จากสิบบริษัท จะรอด ประมาณ 1 ถึง 2 บริษัทเท่านั้นนะครับ เท่าที่จำได้ คำถาม แล้วพวกที่ไปไม่รอด อีก เกือบ 8 บริษัทหละ จะเป็นอย่างไร (ถ้าเริ่มด้วยการกู้โดยไม่ดูความสามารถในการรับภาระดอกเบี้ยหรือพื้นฐานของตัวเอง แล้วเขาเหล่านั้นเป็นอย่างไร) ขอบคุณครับ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87 http://www.thaingo.org/cgi-bin/content/content2/show.pl?0357 http://subweb2.dpt.go.th/dpt_kmcenter/index.php?option=com_content&task=view&id=12&Itemid=2 http://www.chaipat.or.th/chaipat/journal/aug99/thai/self.html http://www.kanchanapisek.or.th/speeches/1998/1204.th.html http://www.dsdw.go.th/statistic/pdf/article_8.pdf#search=%22%E0%B8%97%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%B8%B5%20%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%22 http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2005q4/article2005oct06p4.htm http://www.pmat.or.th/4rum/22aug06/dev_org.pdf#search=%22%E0%B8%97%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%B8%B5%20%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%22 http://kyotoreview.cseas.kyoto-u.ac.jp/issue/issue3/article_292.html ปล. ถ้าทุกท่านคิดว่าลองอ่านแล้ว ยังไม่เข้าใจหรือยังไม่รู้อีกว่า แก่นแท้ ของตัวทฤษฎี เป็นอย่างไร ลอง เข้า google เสิร์ช คำว่า เศรษฐกิจพอเพียง หรือ sufficiency economic ดูนะครับ มีเยอะแยะไปหมด อยู่ที่ว่าท่านจะสนใจอ่านหรือเปล่า หรือแค่ คิดว่าชื่อพอเพียง หมายถึง พอเพียงเท่านี้ไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม แล้วท่านก็มาโพสด้วยความเข้าใจผิดของท่าน ก็ไม่น่าจะเป็นการดีนะครับผม ขอบคุณครับอีกรอบ จากคุณ : เอ..ชีวิตมันขาดไรไปน๊า - [ 5 ต.ค. 49 16:54:50 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ไปเที่ยวจังหวัดแพร่มาเมื่อปลายปีที่แล้ว ไปนอนเล่นบ้าน เพื่อนในอำเภอหนึ่ง ทั้งอำเภอไม่มีเซเว่น เกือบครึ่งหนึ่ง ของหมู่บ้านไม่มีคลื่นมือถือเลย ยัง งง ว่าคนอำเภอนี้อยู่ กันไปได้ยังไง น้ำเต้าหู้ถุงละ 3 บาท ปาท่องโก๋ตัวละบาท ปริมาณและคุณภาพทัดเทียม กทม.ทุกประการ เลยคุยกับ คนขายว่าขายถูกแบบนี้จะได้กำไรยังไง เขาบอกไม่ได้ ขายเน้นกำไรมีความรู้สึกไม่อยากปล่อยเวลาช่วงเช้าผ่าน ไปเฉยๆ พอสายหน่อยก็ไปทำไร่ทำนากันแล้ว มีความสุข ที่ได้มาขายมาเจอผู้คนไม่ได้คิดจะขายแบบร่ำรวย ถ้าก่อน หน้านี้ผมเจอคนแบบนี้คงคิดว่าขี้เกียจ ทำอะไรแบบตำข้าว สารกรอกหม้อแน่ๆ แต่คุยกับแม่ค้ารายนี้แล้วผมรู้สึกเขา ไม่โง่เหมือนอย่างที่ผมคิด การที่อยู่ในเมืองมากไปทำให้ คิดว่าความสมบูรณ์พร้อมสรรพทั้งรถ บ้าน เงินสด ถ้ามีสิ่ง เหล่านี้สมบูรณ์พร้อมเมื่อไหร่เราคงมีความสุขแต่อีกมุม หนึ่งของประเทศ คนที่ไม่มีสิ่งเหล่านี้เลยเขาก็มีความสุข กับชีวิตเขาได้ มีอีกสิ่งหนึ่งที่ได้เห็นแล้วรู้สึกดีคือคนที่นี่เข้า วัดกันเยอะมาก ผมบางทีถ้าไม่ใช่งานศพเพื่อน หรืองาน บวชคนรู้จักบางทียังไม่เหยียบเข้าวัดเลย พระที่คล้องคอ บางทีก็ไม่ใช่ใส่เพราะศรัทธาแต่ใส่เพราะมีราคาดูดีด้วยซ้ำ กลับจากแพร่คราวนั้นได้ข้อคิดอะไรกลับมามากมาย รวม ทั้งเข้าใจคำว่าเศรษฐกิจพอเพียงมากขึ้น จากคุณ : DEDETE - [ 6 ต.ค. 49 14:28:44 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ผมว่า คำว่าเศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้หมายความว่า ใครต้องรอใคร ใครมีศักยภาพแค่ไหนก็ทำไปเต็มความสามารถของตน แต่ที่สำคัญคือต้องประมาณตนว่ารับความเสี่ยงไหวหรือเปล่า นี่คือมุมมองในแง่ของบุคคล แต่ในแง่ขององค์รวม ภาครัฐก็ต้องออกนโยบายมาเพื่อช่วยเหลือคนที่มีศักยภาพน้อยกว่า ให้มีโอกาสหรือมีศักยภาพเพิ่มขึ้น ลดความช่วยเหลือคนที่มีศักยภาพสูงลงด้วยเหตุผลที่ว่าเขาสามารถยืนด้วยตนเองได้ดี แต่เท่าที่ผ่านมาจะมีแต่การคัดสรรผู้ที่มีศักยภาพสูงเพื่อส่งเสริมให้เจริญยิ่งยิ่งขึ้นไปอย่างนี้ยิ่งทำให้ช่องว่างระหว่างคนยิ่งห่างขึ้น จากคุณ : Robotron - [ 6 ต.ค. 49 15:53:57 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ข้าราชการไทยรู้จักเศรษฐกิจพอเพียงมานานแล้ว จากคุณ : u (Ultraguy) - [ วันเกิด PANTIP.COM 02:16:11 ]

ความคิดเห็นที่ 71 คุณ DEDETE ครับ   ฟังดูหมู่บ้านที่คุณว่าจะน่าอยู่จริง แต่ สมมติ เกิดมีโรคระบาดใหม่เกิดขึ้นทั้วโลก แต่ก็สามารถรักษาหายด้วยยา แต่เนื่องจากมันแพงมากเพราะ พึ่งจะคิดค้นยาได้  ผมขอถามว่า คนประเทศสิงค์โปร์ กับคนในหมู่บ้านที่คุณพูดถึง ใครจะรอดตายครับ หรือ ไม่ก็เกิดมีภัยพิบัติ เช่น พายุไต้ฟุ่นยักษ์เข้ามา คนในหมู่บ้านจะพินาศไปหมด  แต่ถ้าคนในสิงค์โปร์เจอจะสามารถป้องกัน หรือ รองรับสถานการณ์ได้ดีกว่ามาก  อันนี้เป็นเพราะ หมู่บ้านที่คุณบอกว่าพอเพียงดี ไม่ได้ทำเพื่อสิ่งที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่ได้คาดฝัน ในโลกความจริง  สิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาแล้ว รับมือได้ยากลำบาก มักจะมาจาก สิ่งที่ไม่ได้คาดฝัน เช่น โรคร้าย ภัยพิบัติ  หรือแม้กระทั่งวิกฤษเศรษฐกิจ คงจำได้ว่า ปี 40 เราเจอวิกฤษแบบไม่ได้ตั้งตัว และคนที่อยู่รอดในวันนั้น คือ คนที่ทำเพื่อไว้แล้ว   วันนี้ ผมว่าสิ่งที่ถูกต้องแน่ ๆ คือ เราต้องสร้าง เพื่อ ๆ ไว้ให้ประเทศเช่น  เงิน ( เพราะมันบรรเทาทุกข์ได้ดีที่สุด แต่ไม่ได้บอกว่าแก้ได้ทั้งหมด )   ความรู้เท่าทัน  ( เพื่อให้เดินไปข้างหน้าได้อย่างเหมาะสม )  และ  จิตใจที่พร้อมต่อสู้ โดยรู้ว่าวันนี้เรายังพอไม่ได้ เพราะเรายังขาดแคลน สิ่งเหล่านี้ ผมคิดว่า คือ เศรษฐกิจพอเพียง ของผม  และ ผมไม่เห็นในหมู่บ้านที่คุณว่าไว้ครับ ผมขอย้ำอีกที่ ว่า ประเทศไทย ไม่พอเพียง ครับ เพราะ ขาดแคลนอย่างมาก และ หมู่บ้านที่คุณ  DEDETE  ยกตัวอย่างมา  ก็ขาดแคลนหนักมากเหมือนกันครับ แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 16:51:45 จากคุณ : Nonining - [ วันเกิด PANTIP.COM 16:47:15 ]

ความคิดเห็นที่ 72 คุณอยากรอก็รอไป...ผมไม่รอ ผมเชื่อว่าคนเรามี "ความไม่พอ" เป็นสรณะ เราไม่สามารถทำให้ทุกคนพอเพียงได้ทั้งหมด ดังนั้น เราควรจะใช้ "ความไม่พอ" นี้สร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศชาติ แทนที่จะหลอกตัวเองด้วยคำว่า "พอเพียง" ทั้งๆที่ในใจแท้จริงแล้ว น้อยคนนักที่จะทำได้ สิ่งสำคัญคือ "ธรรมาภิบาล" ที่ต้องสร้างขึ้น โดยใช้กฏเกณฑ์กำกับดูแลความไม่พอนั้น ให้อยู่ในลู่ในทางต่างหาก ใครจะไปกินผักกินหญ้า จะไปเดินตามภูฏานก็ไปเถิด ผมไม่เอาด้วยหรอก ผมเดินมาไกลกว่านั้นมากแล้ว แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 49 13:14:13 จากคุณ : ลุคลุค (ลุคสกายวอล์กเกอร์) - [ วันเกิด PANTIP.COM 22:23:11 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ต่อความเห็น คุณ Jaffa  อ่านจากหนังสือ และสรุปความเป็นความคิดเห็นต่อเรื่องที่เกิด ในช่วงของ เหมา และเติ้ง เหมา รู้ว่า เติ้ง สามารถนำเศรษฐกิจ ได้ซึ่งมีผลงานตั้งแต่การทำให้มณฑล อะไร สักมณฑล เป็น แหล่งสนับสนุนกองทัพ แต่เนื่องจาก เหมาต้องการความมั่นคงให้เกิดขึ้น ก่อน จึงต้อง ดอง เติ้งไว้  จนแน่ใจว่า มั่นคง คือ เจียงไปไต้หวัน และแน่ใจว่า เจียง และ กัน ไม่กล้าแหยม การอยู่ใต้ระบอบ ก็ทำให้เกิดการสะสมทุน แม้จะเล็กน้อย และไม่รวดเร็ว   เมื่อหมดยุค เหมา และ เติ้ง รับตำแหน่ง ผมคิดว่าผลพวงของทุนสะสมที่มีมาในยุคเหมา ทำให้ เติ้ง สามารถพัฒนาเศรษฐกิจได้คล้องมือ และมั่นคงสูง เพราะรากฐานที่ เหมา ทำไว้   ตรงนี้อยากบอกว่า เรื่องมันเกิดแล้ว ต้องทำใจ มองในแง่ดี  แต่จะสรุปว่า อะไรดีตลอดกาลไม่ได้ ต้องเป็นไปตามเหตุปัจจัย คิดว่าสอดคล้องกับ คุณ Jaffa ครับ จากคุณ : หมูทุบ (pork) - [ 8 ต.ค. 49 00:53:57 ]

ความคิดเห็นที่ 74 คนประเทศเรามักจะเป็นแบบที่พวกคุณกะผมเป็นกัน(คนที่มีการศึกษาขึ้นมาหน่อย) คือเป้นพวกบ้าหลักการ ไปอ่านหลัการมาบ้าง บางคนก็หลักกู บ้างก็ไปอ่านหรือบ้างคิดๆเอาจนจบ ก็คิดว่าตัวเรารู้แล้ว แล้วก็มาเถียงๆๆกัน (พอทะเลาะกันก็เปลี่ยนให้มันเป็นแค่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น) ใน บอร์ด เสร็จแล้วปล่อยให้มันผ่านไป  หาว่าคนนั้นคิดผิดบ้าง ไปชื่นชมคนที่คิดเหมือนเราบ้าง หาว่าคนนั้นคิดถูกบ้าง บ้างก็ไปด่าคนที่คิดไม่เหมือนเราอีก     ก็เป็นอย่างนี้กันทุกวัน วันต่อมาก็ไปหาความรู้กันใหม่หรือฟังอะไรมาแล้วก็คิดกันใหม่ แล้วก็เข้าบอร์ด แล้วก็เริ่มเถียงกันใหม่ วนไปวนมา มันก็แค่การย้ายจากร้านน้ำชา ห้องค้าหุ้น มาเถียงกันอยู่บนเวบบอร์ด    พวกคุณกะผมก็เหมือนนักการเมืองน้ำเน่าตรงที่ว่า ต่างคนก็มีหลักการที่ดูดี เช่น ควรจะพัฒนาคนก่อน เน้นการศึกษา บางคนก็เน้นสังคม แต่ได้แค่พูดล่องลอยไปในอากาศ ส่วนควาเห็นของเราก็ไปกินเนื้อที่server รอวันถูกลบทิ้งไป  ตอนเด็กผมเรียนหนังสือก็มีแต่คนบอกว่าคนไทยขาดการศึกษาต้องเน้นการศึกษา จนผมเรียนจบมาหลายปี สโลแกนที่จะเน้นการศึกษาพัฒนาคนก็ยังมีอยู่     คนมีการศึกษาต่างก็นั่งห้องแอร์ กินกาแฟอยู่ในห้องค้า นั่งคิดนั่งฝันกันอยู่ในเมือง บนหอคอยงาช้าง แล้วคนเหล่านั้นซึ่งรวมคุณกะผมเข้าไปด้วยต่างยกหลักการ และหลักกูเข้าห่ำหั่นกัน  ในขณะที่พระเจ้าอยู่หัวทรงงาน มีโครงการหลวงนับพันโครงการ พระราขทานเศรษฐกิจพอเพียง ให้คนที่เห็นคุณค่า (ส่วนใครจะเอามาใช้อย่างไร อย่าเอาพระองค์มาอ้าง พระองค์พระราชทานแนวคิด ไม่ได้บังคับทุกคนให้ใช้โปรดเข้าใจด้วย)    คนคิดกะคนพูดนะมีมาก ขาดคนทำ ประเทศเราคนทำก็ทำไป ส่วนคนคิดกะคนพูดมักจะไม่ได้ทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน  เพราะเสียเวลาคิดกะพูดไปมาก เวลาผมลงรถไฟฟ้า เห็นนักศึกษาออกค่ายช่วยสร้างโรงเรียน ยังรู้สึกละอายใจ ที่พวกเค้ายังมีส่วนทำให้สังคมเราดีขึ้น ช่วยลดช่องว่างระหว่างชนชั้น แม้อาจจะเป็นแค่ช่องว่างระหว่างใจของคนเมืองและคนชนบทก็ตาม ขณะที่ผมได้แต่คิดแต่พูดแต่ฝัน กับเสียเศษเงินจำนวนเล็กน้อยมอบแทนตัวไป ในณะที่โครงการหลวงก็ยังช่วยเหลือให้ชาวบ้านมีความสุขอย่างยั่งยืน  ภูมิใจในตัวเองต่อไป  ไม่ใช่เอาเงินไปกองแล้วให้ชาวบ้านเข้าแถวกู้แน่ๆ                   เรามีพ่อหลวงที่ทรงเป็นแบบอย่างมาตลอด 60ปี ยังไม่เพียงพออีกหรือ  ผมไม่ได้เชื่ออย่างงมงายว่า เศรษฐกิจพอเพียงที่แหละทีเด็ด จะนำไทยไปแข่งกับเกาหลี ญี่ปุ่น แต่มันกลั่นกรองมาจากพระราชา มาจากคนนับร้อยพันที่ไม่ได้แค่คิด พูด ฝันไปวันๆ ในโครงการหลวง ที่ให้ทางเลือกกับคนที่เค้าไม่มีทางให้เลือกมากนัก   เขียนมากๆ ก็ไปกินเนื้อที่ HDD บน server อีก ตอนนี้ผมพยายามจะทำอะไรก็ตามแม้มันเพียงสิ่งเล็กน้อย ให้เป้นรูปธรรม เพือจะหลุดจาก วงจร ฟัง ดู พูด คิด ฝัน โดยที่มันหายไปใน webboard sหายไปในอากาศ ไม่แน่ว่า พลังแบบมดๆของผมและของคุณๆ จะทำให้อีก 10-20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะได้โจทย์ใหม่ๆ ที่ดีกว่า โจทย์ปัจจุบัน เราต้องพัฒนาการศึกษาเป็นอันดับแรก ก็ได้ คนในสินธร มีทั้งคนเก่งและมีปัจจัยพร้อมตั้งมากมายน่าจะทำโครงการที่มันเป็นรูปธรรมบ้าง ดีกว่าวงจรที่ผมว่าไว้ตั้งเยอะ ดูตัวอย่าง เวบของคุณลุงผู้มีบารมีนอกสินธรเป็นตัวอย่างก็ได้นะ 5555 จากคุณ : utto (UTTO) - [ 8 ต.ค. 49 02:34:30 ]

ความคิดเห็นที่ 75 คำว่าเศรษฐกิจพอเพียง หรือ อยู่อย่างพอเพียง ก่อนวิกฤติปี 40 มันเป็นคำปลอบใจ สอนคนที่ ลำบากรายได้ไม่พอใช้ ให้ อยู่ได้แม้รายได้จำกัด ไม่มีเงิน ก็ปลูกผัก เลี้ยงปลา พอมีกิน อยู่ได้ ไม่ไปซื้อของฟุ้งเฟ้อ พอมาวิกฤติ ปี 40 ทั้งประเทศ ไม่มีเงิน ก็นำมาปลอบคนไทยให้สู้โดย หลักเศรษฐกิจพอเพียง ปัจจุบันนี้ก็นำมาใช้อีกครั้ง เพื่อปลอบคนไทย เพราะมีสัญญาณว่าประเทศเจริญเค้าไม่คบไม่ค้าขายกับเรา เงินกู้เค้าไม่ให้  สินค้าเราเค้าไม่ซื้อ จากคุณ : หล่อสุด - [ 8 ต.ค. 49 16:29:02 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ก็เห็นออกมาพูดๆกันอยู่นั่นแหละว่า ปฏิรูปการศึกษา พัฒนาคน แล้วไหนหล่ะ ใครจะเริ่ม แล้วนั่งอยู่ในเมืองแบบๆพวกเรากันนี้อ่ะนะ นั่งพิมพ์ข้อความในเน็ต แล้วบอกให้ไปพัฒนาคนในต่างจังหวัด น่าหัวเราะจริงๆ อ่านกระทู้มาเยอะ รู้สึกถูกใจกับคุณความเห็นที่ 74 จริงๆ ทำให้ผมคิดอะไรได้อีกเยอะ และบอกไว้เลยว่าผมคิดไม่ได้คิดปล่าวๆด้วย ไม่เหมือนคนอีกหลายคน ไม่ว่าจะทั้งนักการเมืองและคนมีพัฒนาการศึกษาทั้งหลาย ที่อยู่ในเมืองแล้วเอาแต่เขียนตัวหนังสือขึ้นมาว่า "ควรพัฒนาการศึกษา" จากคุณ : คนไทยที่อยากสร้างสิ่งดีดี - [ 9 ต.ค. 49 02:43:35 A:203.118.85.209 X: TicketID:128769 ]

ความคิดเห็นที่ 77 Nonining ลองมองทางนี้ดูมั้ยครับ แคทรีน่ามา อเมริกาปั่นป่วน  คนฆ่ากันตาย ไม่มีใคร ยึดถือกฎหมาย ปล้นฆ่าขมขืน สะสมอาหารให้ตัวเอง รอดตายอย่างเดียว แต่กลับกันซึนามิมา คนไทยช่วยกัน ส่งน้ำใจไปให้ไม่คิดมูลค่า ฝรั่งยังงง มีแบบนี้ ด้วยเหรอ ตัวเองโดนบ้านน้ำท่วมญาติพี่น้องตาย แต่ดันมาช่วยคนอื่น ?? โลกนี้มันไมได้อยู่ด้วย เงิน และวัตถุอย่างเดียวหรอกนะครับ น้ำใจความเอื้ออาทร สำหรับผมก็เป็นทุนทางสังคม ที่ค้ำจุนให้สังคมดำรงอยู่ได้ แถมอยู่ได้ดีกว่าใช้เงินซะอีก ยิ่งเวลา มีภัยพิบัติทางธรรมชาติทั้งหลายเกิดนะ เทคโนโลยีทั้งหลายที่เราคิดมาว่าดีแก้ได้ สุดท้าย ก็แพ้ธรรมชาติทุกที แก้ได้อันหนึ่ง ก็ไปสร้างปัญหาอย่างหนึ่งเป็นอย่างนี้ตลอด เพราะอยากชนะธรรมชาติกันนี่แหละ จากคุณ : สายน้ำฟ้า - [ 9 ต.ค. 49 18:29:21 ]

ความคิดเห็นที่ 78 อยากออกความเห็นบ้าง ยังอ่านข้างบนไม่หมดเลย ผมคิดว่าพอเพียงก็คือไม่ลำบาก ถ้าลำบากก็คือยังไม่พอเพียง หากเจ็บป่วยไม่มีเงินนั่นคือยังไม่พอเพียง อดๆอยากๆแปลว่ายังไม่พอเพียง ไม่มีเงินสำรองฉุกเฉินก็คือยังไม่พอเพียง รายได้ไม่พอใช้ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าไม่พอเพียง พอเพียงคือมีทุกอย่างพร้อมเมื่อเวลาต้องใช้ มีพอให้ใช้ ตามที่จำเป็น จำเป็นต้องขับรถถ้าจะให้พอเพียงก็ต้องมีรถ ลึกๆผมนึกดูถูกคนที่ไม่เข้าใจ แต่ผมอาจจะควรดูถูกเองก็ได้ ไม่ถูกตรงไหนช่วยบอกคนซื่อบื้ออย่างผมทีละกัน จากคุณ : oohahh - [ 9 ต.ค. 49 18:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 79 สาเหตุที่ต้องใช้พอเพียงคืออะไร   ไม่เข้าใจ คนไทยมีการศึกษาดีแล้วหรือ   คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่จบปริญญาตรี พ่อแม่ไม่มีเงินเพราะใช้พอเพียงอยู่   ท่านก็เลยไม่หาเงินเพิ่ม   มีเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น   แต่เพื่อนบ้านไม่ใช้พอเพียงขายที่   เอาของไปจำนองส่งลูกจนจบปริญญา   สุดท้ายลูกๆ  จบหมอ  จบวิศว   เป็นอาจารย์แต่เราพ่อแม่ใช้พอเพียง  ถึงต้องเลี้ยงควาย   เป็นกรรมกร   เป็นชนชั้นใช้แรงงาน   เป็นรากหญ้าที่คนบางคนดูถูกว่ามีค่าแค่หัวละพัน   นี่หรือ  เศรษฐกิจพอเพียง จากคุณ : boonpong - [ 10 ต.ค. 49 09:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ขอให้รัฐบาลทำเป็นตัวอย่างก่อน    อันดับแรกรถไฟฟ้าห้ามกู้เงินมาสร้างจะสร้างได้หรือไม่   สุวรรณภูมิไม่ใช้เงินกู้จะเสร็จได้ไหม   ห้ามกู้เงินต่างประเทศมาลงทุนทำให้ได้ก่อนแล้วประชาชนจะทำตาม จากคุณ : boonpong - [ 10 ต.ค. 49 10:14:13 ]