ความคิดเห็นที่ 21
หนูขิงควรยึดแบบอย่างคุณยำทุเรียนได้เลย ถึงไม่ทั้งหมด ก็ได้ได้บางส่วน ก็ยังดี ถ้าให้สมบูรณ์ก็เรียนเทคนิคเพิ่มเติมก็จะดีมาก
ผมว่าจะเขียนมานานแล้วไอ้เรื่องที่ คุณยำทุเรียนเขียน ไอ้เรื่องกำไรต่อเดือน ให้ได้ สัก 10% เพราะผมก็ทำอยู่
จริงๆถ้าลองคิดดีๆ สามารถทำได้ แต่ก็เป็นเรื่องไม่ง่ายเลย ถ้ายังเล่นหุ้นไม่เป็น หรือยังไม่มีประสบการณ์มากพอ
ดูเหมือนทำง่าย แต่เอาเข้าจริงไมง่าย อย่างที่คิด และก็อาจกลายเป็นขาดทุนเสียด้วยซ้ำ
คิดเล่นๆ ถ้าซื้อหุ้นราคา หนึ่งบาท ทำให้ได้กำไร 0.10 บาท ให้เวลาหนึ่งเดือน แล้วถ้ามันได้มากกว่านั้นละ เช่นคนเก่งๆ จับจังหวะดีๆ วันหนึ่งอาจได้ ถึง 15% ก็ได้
ใช้ EXCEL ธรรมดานี่แหละครับ แต่ให้คิดแบบทบต้น คือถ้าเดือนแรก ลงทุน 100 บาท เดือนถัดไปก็มีต้นทุน 110 บาท(คือเอากำไร 10 % มาบวกเข้าไปด้วย) แล้วถ้าคุณมีเงินลงทุนจริงเท่าไร ก็ใส่ของจริงไปเลยครับ
แต่ตัวผมเองก็ทำอยู่ แต่ผมมีหลายช่อง เช่นหวังผล 10,15,20,25,30,>50% เเล้วก็เอาหุ้นในพอร์ตเรานั่นแหละ มาแสดงเป็นกราฟเปรียบเทียบกันในแต่ละวันหลังจากปิดตลาด คุณก็จะเห็นถึงความมหัศจรรย์ ของแนวโน้มของเงินในพอร์ตคุณที่มันจะเพิ่มขึ้น ถ้าคุณทำได้จริงๆ ตามที่คาดหวัง
แล้วก็ให้แสดงผล เปรียบเทียบ ระหว่าง ดัชนี ตลาด เทียบกับเงินลงทุน และกำไรไปพร้อมกัน ทุกวันอย่างต่อเนื่อง ถ้าแนวโน้มเริ่มชนะตลาดได้ นั่นแสดงถึงคุณประสบผลสำเร็จระดับหนึ่งแล้ว แล้วก็พยายามทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้ายิ่งเล่นกราฟมันปักหัวลงไปเรื่อยๆ คุณต้องหาข้อผิดพลาดให้เจอ แล้วแก้ไขให้ได้ แล้วมันจะค่อยๆดีขึ้นเอง
ช่วงไหนที่เราเอาเงินเข้าไปลงทุนเพิ่ม ก็มีโน๊ตไว้ พร้อมกับแก้สูตร ให้มันถูกต้อง แล้วทำข้อมูล ไว้เดือนละ SHEET แล้วก็ให้มันพล็อตกราฟแบบต่อเนื่อง กันเลยเป็นปีๆ
คุณก็จะได้เห็นอะไรอีกมาก และมีเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น แล้วก็พยายามพัฒนาตัวเองไปสู่เป้าหมายนั้นให้ได้
ปล.มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เป็นสุดยอด ในการเล่นหุ้นของผม คือตอนที่ ถือ APURE-W1 ที่ราคา 0.93 บาทไว้ ใช้เวลาไม่ถึงเดือน มันขึ้นไป 8 บาท ณ ราคาตรงนี้ ผมมีกำไรอยู่ 700 กว่า % (แบบว่าลงทุนแสนกว่าบาท กำไรเกือบสองล้าน ภายในเวลาไม่ถึงเดือน) ตอนกราฟมันโชว์แนวโน้มเนี่ย มันบอกไม่ถูกเลย สุดยอดจริงๆ แต่ ก็ไม่ได้ขายราคานี้หรอก เพราะความโลภมาก หวังผลไป 10 บาท สุดท้ายต้องมาขายแค่ 5 บาท คิดว่าครั้งนี้เป็นประสบการณ์จริงที่เยี่ยมยอด ในการเล่นหุ้นของผมเลยก็ว่าได้ และคงไม่มีอีกแล้ว
คนที่ประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจอะไรก็ตาม ย่อมต้องทำงานหนักกว่า คนปกติ คิดมากกว่า คนปกติทั่วไป และต้องพยายามหาความรู้และเทคนิคใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมในทุกโอกาส
ถ้าคุณจะเปิดบริษัท คุณคิดว่า ฉันจะทำแบบพออยู่พอกิน ไปตลอดชีวิต หรือวางแผน 3 ปี 5 ปี ต้องเติบโตแค่ไหน
เป็นเรื่องที่ต้องวางแผนและกำหนด กลยุทธ์ เพื่อไปสู่เป้าหมายนั้น ในเวลาอันสั้นที่สุด ไม่ใช่หรือ
แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 49 11:21:52
แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 49 11:13:09
แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 49 09:13:56
จากคุณ :
TER2000
- [
14 ต.ค. 49 08:55:40
]
|
|
|