ความคิดเห็นที่ 1 2 อย่างเหมือนจะคล้ายกัน แต่แตกต่างกันในปรัชญา และแนวทางอย่างมาก จากคุณ : คาเฟอีน - [ 16 ต.ค. 49 08:47:41 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ความแตกต่างของคนจนกับคนรวย ของธนาคารก็คือ คนรวยกู้เงินได้  แต่คนจนกู้เงินไม่ได้  นี่หรือความเป็นธรรมในสังคม  คนรวยกู้เงินมีmlr,mor,mrr ดอกเบี้ยประมาณร้อยละ๘   คนจนกู้ไม่ได้ต้องไปกู้ร้อยละ๖๐ถึงร้อยละ ๒๔๐  แค่เอาดอกเบี้ยที่คนจนเสีย  รับรองคนรวยเปลี่ยนสภาพเป็นคนจนกันทุกคน   หนี้น่ะตอนป๋าเปรมเป็นนายกคนจนก็เป็นหนี้อยู่แล้ว  ไม่ต้องให้นายกคนไหนมาสอนหรอกครับ   นโยบายท่านตอนนั้นคือ ลดช่องว่างคนรวยกับคนจน ตอนนี้ท่านลืมไปหรือไร จากคุณ : สิ้นหวัง (พ่อมดหุ้นไทย) - [ 16 ต.ค. 49 08:59:59 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เศรษฐกิจพอเพียงเป็นนโยบายที่ดีมากครับสำหรับคนรวยเงินหนึ่งหมื่นไม่มีค่าสำหรับคนรวย   เอาไปฃื้อทองใส่ยังไม่ได้ถึงบาท   แต่คนจนมันมากครับ  เอามาทำทุน,ทำotop หากำไรมาเลี้ยงครอบครัวได้   มันผิดด้วยหรือที่เป็นคนจน  ประเทศไทยเราเป็นคนจน  พวกคนรวยก็คือคนจนในสายตาชาวโลกตลอดกาล คนจนทุกคน จากคุณ : จนตลอดกาล (พ่อมดหุ้นไทย) - [ 16 ต.ค. 49 09:21:04 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เคยอ่านสามก็กมั้ย  โจโฉเห็นสุมาอี้รบกับขงเบ้งแล้วรู้สึกว่าต่อไปภายหน้าสุมาอี้อาจจะเป็นภัยกับตัวเอง  จึงสั่งปลดและถอดยศ     แต่สุดท้ายเมื่อสู้กับขงเบ้งไม่ได้ต้องมาง้อขอให้สุมาอี้กลับมารบใหม่    ซึ่งเมื่อโจโฉสิ้นบุญแล้ว   ลูกของสุมาอี้ก็ได้โค่นลูกของโจโฉ  ขึ้นเป็นใหญ่    ่ส่วนเล่าปี่ไม่เคยทรยศลูกน้อง   เมื่อตายลูกชายยังเล็กแต่บรรดาทหารเอกก็ยังเคารพไม่มีใครคิดทรยศแต่ได้ต่อสู้จนตัวตายเพื่อปกป้อง  เป็นข้อคิดให้ใครบางคนได้ศึกษาประวัติศาตร์และย้อนดูตัว จากคุณ : boonpong - [ 16 ต.ค. 49 09:44:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมคงต้องพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า กองทุนหมุ่บ้านแนวความคิดดี แต่การมาปฏิบัติหละหลวม ขาดความรอบคอบ เลยทำให้เหมือนเอาเงินไปแจกให้หมดๆ ไป หลายหมู่บ้าน มีการนำเงินไปซื้อของฟุ่มเฟือยไว้ก่อน เช่น โทรศัพท์ มอเตอร์ไซค์ แทนที่จะเอาไปทำมาหากิน ผู้นำชุมชนหลายชุมชน ต้องการใช้เงินอย่างเต็มประสิทธิภาพ พิจารณาเหตุผลการให้เงินช้า ก็จะถูกร้องเรียน ตรงนี้ผมที่เคยไปคลุกอยู่กับบางชุมชนเห็นแล้วเสียดายเงินครับ จากคุณ : JChai - [ 16 ต.ค. 49 09:54:22 A:58.8.72.97 X: TicketID:087120 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 16 ต.ค. 49 09:56:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ต่างกันที่คนทำ ไม่ได้เป็นเจ้าของเงิน ใช้เงินรัฐไปทำ น่ะ แต่หลักการดี ถ้าปรับปรุงให้ดีขึ้นก็น่าจะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติมากครับ จากคุณ : HaHaHa - [ 16 ต.ค. 49 10:26:06 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จขกท ทำให้ผมคลื่นไส้เวียน หัว จะอวกอยู่แล้ว นะครับ จากคุณ : thrill - [ 16 ต.ค. 49 10:29:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จุดต่างกันน่าจะเป็นเอกชนกับรัฐบาล รัฐบาลทำง่ายมากแค่ออกนโยบาย แล้วก็รูรั่วต่างๆ รัฐอุดไม่ค่อยอยู่ เอกชนทำยาก แต่รูรั่วน้อยกว่า (ตามความคิดผม) ใครกู้ไปทำไม่ดีก็ไม่ให้กู้ เพราะเอกชนจะให้ใครกู้ หรือไม่ให้ใครกู้ ก็ได้ แต่รัฐทำไม่ได้ จากคุณ : 821 (บัตรผ่าน 821) - [ 16 ต.ค. 49 10:31:26 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้านโยบายเราทำสำเร็จ  คนจนดีขึ้น  ในอนาคต เราอาจจะได้โนเบลบ้างก็ได้   ทำงานกับคนหลายสิบล้านคน  มันต้องใช้เวลาบ้าง  คนทำดีบ้านเราอยู่ยาก  มารผจญเยอะ   นิสัยคนไทยก็รู้ๆกันอยู่ จากคุณ : เถ้าแก่น้อย - [ 16 ต.ค. 49 10:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เขมรไม่มีกองทุนหมู่บ้าน  ก็ยังฃื้อโทรศัพท์กันทั้งประเทศดูจากกำไรของบ.สามารถสิครับ ราคาทุน๑บาทราคา๑๐บาทแล้วครับท่านคนเขมรเค้าฃื้อระเบิด  กำไรที่เขมรมากกว่าที่ไทย  คนบ้านนอกน่ะไม่มีโทรศัพท์แค่ไปขอพึ่งเพื่อรับโทรสัพท์ยังต้องเสียเงินเลย  มีธุรนิดเดียว ต้องหยุดงาน๓วัน  เสียค่ารถอีกพัน  ลูกค้าจะสั่งสินค้าก็สั่งไม่ได้  ถ้าคุณอยู่กรุงเทพ ทำธุรกิจสักนิด  มือถือเสียสักวัน  ผมว่าคุณปสด.แล้ว   ตอบคห ๖ ขอบคุณที่แลกเปลี่ยนความคิดกัน จากคุณ : อย่าอวดรวย (พ่อมดหุ้นไทย) - [ 16 ต.ค. 49 10:41:14 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ และเห็นยิ่งเห็นด้วยกับข้อที่ว่าคนได้เปรียบในสังคมท่องคำว่าพอเพียงได้เพราะตัวเองมีมากจนเกินจะพอแล้ว ส่วนคนจนมีไม่ค่อยจะพอยังชีพ แล้วคนที่ว่าคลุกกับคนจน แล้วเห็นเขานำเงินไปซื้อของฟุ่มเฟื่อยนะ ทำไมไม่มองคนจนส่วนอื่นที่กู้เงินไปต่อยอดทำธุรกิจสำเร็จบ้าง ซึ่งก็มีอยู่จำนวนไม่น้อยเหมือนกัน จากคุณ : คนบางค้อ - [ 16 ต.ค. 49 10:51:48 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มาเฟียปล่อยกู้จะกลับมา เคยอ่านข่าวคนทวงหนี้ฟันสาวท้องแก่ข้อมือขาดไหม อาจได้เห็นอะไรโหดๆมากกว่านี้ จากคุณ : ทองใบ - [ 16 ต.ค. 49 11:06:51 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เท่าที่อ่านเรื่อง ธนาคารคนจนของบังกลาเทศที่ริเริ่ม โดยเจ้าของรางวัลโนเบลคนนี้ มีหลักการป้องกันความเสี่ยงที่ดีมากนะครับ คือ ถึงแม้ว่าการกู้ยืมจะไม่ต้องมีหลักประกัน แต่การกู้ยืมจะต้องกระทำในกลุ่มของคน 5 คน และคนเหล่านี้ต้องมีทักษะในการเลี้ยงชีพอยู่แล้ว ถ้าหากว่าสมาชิกในกลุ่มผิดนัดชำระ สมาชิกที่เหลือ- ก็จะเสียเครดิตไปด้วย ทำให้เป็นการดูแลกันระหว่าง สมาชิกในกลุ่มให้ดี สำหรับกองทุนหมู่บ้านเป็นการริเริ่มที่ดี แต่ยังขาด- หลักประกันการกู้ยืมที่รัดกุมครับ ลองหาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Grameen_Bank จากคุณ : teeranet - [ 16 ต.ค. 49 11:09:18 ]

ความคิดเห็นที่ 16 กองทุนหมู่บ้านมี หนี้เสียประมาณ 6 % เอง ดีกว่าค่าเฉลี่ยของแบงค์อีก จากคุณ : shine-rise - [ 16 ต.ค. 49 11:11:38 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตอบคุณคห.๑๕  เท่าที่คุณเสนอ ถูกต้องครับ   แต่กองทุนหมู่บ้านผิดกันครับคือ ๑๐คนครับ   ร้อยละ๙๐กว่าดีครับ  เก่งกว่าธนาคารพาณิชย์บางแห่งอีก  คุณศึกษาสิ่งที่คนจนแบกรับหนี้เสียของคนรวย ๑.๔ล้านๆบาท  แต่ไม่ทราบว่ามีnpl จำนวนเท่าไหร่  แต่ช่วยคนจนแค่๗๐,๐๐๐ล้านบาท ๗ล้านครอบครัว  ตีฃะว่าครอบครัวละ๓คนก็แค่๒๑ล้านคน  ผมว่ามากกว่าแน่   แถมคุณทราบหรือไม่ว่ารายจ่ายประจำของประเทศไทยปีละเท่าไหร่ เงินเดือนข้าราชการน่ะ ปีละ๗๐๐,๐๐๐ล้านบาท    ยุติธรรมหรือสำหรับคนจน จากคุณ : ยุติธรรมมีหรือ (พ่อมดหุ้นไทย) - [ 16 ต.ค. 49 11:35:24 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ธนาคารที่ได้โนเบล ดำเนินการมา 30 ปีแล้ว กองทุนหมู่บ้านเพิ่งทำ 5 ปี จะให้เห็นผลทันตาหรือไง ตอนเริ่มทำท่านนายกก็บอกแล้วว่า การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบยั่งยืน ต้องให้รากหญ้าสามารถยืนได้เองก่อน เพราะคนระดับรากหญ้าเป็นกลุ่มคนจำนวนมากสุดของประเทศ จึงจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านขึ้นมา เพื่อชาวบ้านจะไม่ต้องไปกู้นอกระบบมาลงทุน ที่หาเงินมาได้เท่าไหร่จ่ายแค่ดอกยังไม่พอ (ป้าเราก็เคยให้กู้ แค่ร้อยละ 10 ต่อเดือน เก็บดอกก็ส่งลูกเรียนเมืองนอก 2 คน สบายๆ ตอนนี้ลูกแต่งงานกับฝรั่ง ย้ายไปตั้งรกรากที่อเมริกาแล้ว) ซึ่งถ้ามองที่วัตถุประสงค์การริเริ่มจัดทำ ก็ต้องยอมรับว่าท่านนายกทักษิณเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ เพียงแต่ท่านมาผิดที่ไปหน่อย เพราะในเมืองไทยนั้น "จงทำดี แต่อย่าเด่น มันเป็นภัย เพราะไม่มีใคร เขาอยากเห็น เราเด่นเกิน" นโยบายดีๆ ที่ท่านริเริ่ม จึงเป็นได้แค่ นโยบายประชานิยม หรือ ซื้อเสียงเชิงนโยบาย ว่าจะไม่เข้าเรื่องการเมืองแล้วนะ.. ตอนเด็กๆ มีปัญหาเรื่อง ซื้อเสียง-ขายเสียง ครูที่โรงเรียนจักิจกรรมให้ออกไปรณรงค์กับชาวบ้าน ว่าจะเลือกใคร ให้ดูว่าใครที่เลือกมาแล้วเขาทำประโยชน์ให้เรา จากคุณ : ninue - [ 16 ต.ค. 49 11:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มาปรบมือให้คุณ ninue ค่ะ แนวความคิดริเริ่มดี ๆ ที่มีคนกล้าที่จะริเริ่มและพยายามผลักดันให้เป็นไปได้ การเริ่มต้นก็ต้องทำไปปรับไปจะให้เนี๊ยบเพอร์เฟคซะเริ่มต้นเป็นไปไม่ได้ ถ้าการดำเนินการหละหลวมก็ต้องแก้ไขปิดจุดบกพร่อง และพยายามทำให้ดีต่อไป จากคุณ : ความเห็นนึง (DarkChoc) - [ 16 ต.ค. 49 12:21:06 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เริ่มต้น ก็ต้องมีผิดพลาดบ้าง  ช่วยกันแก้ไขพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีกว่า สมบูรณืกว่า คงไม่มีหรอก  โครงการสำหรับคนจนที่ทำแล้ว  สมบูรณืไม่มีที่ติเลยน่ะ อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงกันบ้าง จากคุณ : มุมหนึ่ง - [ 16 ต.ค. 49 13:06:37 ]

ความคิดเห็นที่ 22 จะเป็นอะไรหรือเปล่าถ้าผมจะบอกว่า "ยังรัก...........ณ ยังคิดถึงท.......อยู่" แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 49 13:16:34 จากคุณ : เม่ามีชัย - [ 16 ต.ค. 49 13:11:48 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เสียยของคนโจมตี ก้อโจมตี ตามที่ได้ฟังมา โดยไม่ได้ใช้เหตุผล ยังมาดูถูกคนจนอีก มาบอกว่าแจกเงินให้คน จนเหมือนเป็นการซื้อเสียง ให้เงินคนจนไปคนจนก้อไม่มีปัญญาเอาไปทำอะไรดีๆ บอกว่าคนจนเอาไปซื้อมือถือบ้าง บอกว่าเอาไปเล่นหวยบ้าง เอาไปใช้ฟุ่มเฟ่อย บ้าง ทำไมถึงคิดว่าคนจน จะเป็นอย่างนี้กันหมด คนที่เอาไปลงทุนจิงๆ ผมว่ามีเยอะนะ และคนที่เอาไปใช้ฟ่มเฟี่อย มันก้อมี อย่างไงก้อต้องให้โอกาส คนจนบ้าง ไม่ใช่แต่โจมตีเค้าในสิ่งที่ได้ฟังมาอย่างหูเบา โง่ ไร้สติ แล้วก้อเชื่อ อย่างมี อคติ จากคุณ : Sprite_Zaa - [ 16 ต.ค. 49 13:26:47 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณทุกท่านที่แสดงความคิดเห็น  กระทู้ของผมไม่ใช่กระทู้การเมือง  แต่เป็นข้อคิดเห็นทางเศรษฐศาสตร์เกี่ยวกับการแบ่งรายได้จากภาษีอากรของรัฐให้เป็นธรรม  บางท่านบอกว่ากองทุนหมู่บ้านป็นเงินรัฐก็ไม่ถูกต้อง  เพราะเป็นเงินจากธนาคาร   ไม่ใช่รัฐบาล  ดอกเบี้ยร้อยละ๑๒ต่อปี   นายกทักษิณลอกมาจริง  แต่ลอกตัวอย่างคนเก่งที่ชาวโลกยกย่อง   หรือจะให้ไปลอกของคนที่แย่,ล้มละลายเพราะเป็นสื่อแค่นั้นหรือ   ต้องเชื่อสื่อที่เสนอข่าวคนนั้นโกง  คนนี้โกง   ตามกม.ไทย คนทุกคนบริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน    แต่สื่อเมืองไทยเก่งกว่า๓ศาล ชี้ผิดได้ทันที รู้สึกจะเฒ่าล้านปี  ย้อนยุคจริงๆเข้าสู่ยุคศาลไคฟง ฃึ่งไม่รู้ว่ามีจริงหรือปล่าวหรือเป็นแค่เรื่องหลอกเด็ก   ช่วยกลับมาสู่ยุคของความเป็นจริง   อย่ารีบสรุป มันผิดตรรกะวิทยาอย่างแรง    คนทำคนแรกได้โนเบล  ชาวโลกยกย่อง คนเป็นนายกที่ลอกมาก็น่ายกย่อง เหมือนกับคนเล่นหุ้น  คุณจะลงทุนตามคนที่ได้กำไรหรือคนที่เจ๊ง  ถ้าคุณเชื่อคนที่เจ๊ง อนาคตก็เจ๊ง  ขอบคุณ จากคุณ : เรื่องหุ้นนะครับ (พ่อมดหุ้นไทย) - [ 16 ต.ค. 49 14:00:46 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เขาทำเพื่อคนจน ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่ทักษิณทำเพื่อตัวเอง หวังเสียงจากคนจนโดยเอาเงินมาแจกก็แค่นั้น จากคุณ : Alemania - [ 16 ต.ค. 49 15:35:28 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ธนาคารคนจนของบังคลาเทศ สอนให้คนจนรวมกลุ่มกันจนเข้มแข็งและมีวินัยทางการเงินครับ ผู้กู้ต้องรวมกลุ่มกันมากู้ สลับกันกู้ สลับกันคืนเงินกู้ ถ้ามีหนี้เสีย คนอื่นในกลุ่มจะไม่ได้กู้ต่อ ต้องค้ำประกันเงินกู้กันในกลุ่ม ถ้าในกลุ่มมีคนไม่ชำระเงินกู้ คนอื่นในกลุ่มจะตามไปทวงหนี้ให้ธนาคาร จากคุณ : ผ่านมา - [ 16 ต.ค. 49 17:04:47 A:58.9.138.37 X: TicketID:117365 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ตอนนี้ ผมต้องบอกว่า คุณ ท๊าก แพ้แล้ว ทำให้ผมต้องย้ายข้าง ไปยังผู้ชนะ อย่าเสียใจไป เติ้ง (ของจีนนะครับ) ยังเคยถูกกักกัน ก่อนกลับมายิ่งใหญ่  ถือว่าถูกส่งไปฝึกอบรมเรื่องการหยุดพูดก็แล้วกัน เมื่อกลับมาใหม่ และชนะผมก็จะเข้าข้างใหม่ อิอิ จริงๆ ชอบนะ หน้าเหลี่ยม +.+ จากคุณ : หมูทุบ (pork) - [ 16 ต.ค. 49 23:48:07 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ข้อแตกต่างที่ทำให้คุณยูนุส(หรือยูนัส)ได้รางวัลโนเบล แล้วอดีตนายกไม่ได้คือ 1. คุณยูนุสใช้เงินตัวเองก่อตั้งธนาคาร อดีตนายกใช้เงินภาษี รางวัลโนเบลเขามีกฎนี้ชัดเจนครับว่า.. ต้องเกิดจากน้ำพักน้ำแรงของคนๆหนึ่ง ช่วยยกระดับสังคมทั้งสังคม หรือช่วยเปลี่ยนแปลงโลกด้วยตัวเอง 2.ธนาคารที่ก่อตั้งเกิดจากแรงบันดาลใจที่จะช่วยเหลือประชาชนร่วมชาติ แต่กองทุนหมู่บ้านเกิดจากนโยบายพรรคที่ใช้ในการหาเสียงครับ โนเบลจะให้รางวัลนโยบายพรรคการเมืองไม่ได้ ผิดกฎครับ 3.ระยะเวลายาวนานถึง 32 ปีของคุณยูนุส เทียบแล้วห่างจาก 5 ปีมาก 4.คุณยูนุสโปร่งใส ปราศจากผลประโยชน์ทางการเมืองครับ ตกลงจะเลิกถามได้แล้วหรือยังครับว่าทำไมธนาคารคนจนได้ แล้วกองทุนหมู่บ้านของอดีตนายกไม่ได้ (เพราะมีคนตั้งถามหลายห้องในพันทิปเหลือเกินเลยสิน่ะ) จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 17 ต.ค. 49 01:44:36 ]

ความคิดเห็นที่ 30 มองแบบนี้ พรรคการเมืองก็คงไม่ตอ้งทำอะไรเพื่อประชาชนแล้ว   เพราะทำแล้วก็เป็นการหาเสียง  แล้วคนจนจะมีใครสนใจละครับ  เหมือนคนป่วยสมัยก่อนไม่มียารักษา   อาศัยพ่อมดหมอผีทำให้มีกำลังใจก็สามารถฟื้นตัวยได้    แต่นี่ไม่ให้ทั้งยาและกำลังใจ  เดี๋ยวบอกหาเสียงแบบนี้ประเทศในยุค  40  ที่เหมือนคนป่วยใกล้ตายก็คงไม่รอดไปแล้ว  ถ้าไม่ได้หมอผีทักษิณเป่ากระหม่อมเรียกความเชื่อมั่น   แต่คนไทยชอบทำลายคนเก่งมาหลายร้อยปีแล้วย้อนดูประวัติศาตร์พระเจ้าตากได้นะครับ จากคุณ : boonpong - [ 17 ต.ค. 49 08:58:59 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่ได้ต้องการเรียกร้องว่าต้องไดรางวัลโนเบล แต่อยากนำเสนอว่า แนวความคิดของท่านนายกทักษิณ ที่ใช้แก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ จำได้ว่าช่วงที่ผ่านวิกฤต IMF .s,jq ท่านบอกว่า การจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศเข้มแข็ง ต้องส่งเสริมให้รากหญ้าช่วยตัวเองได้ก่อน ซึ่งหลักการนี้นั้นเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ดังเช่นที่คณะกรรมการรางวัลโนเบลระบุในแถลงการณ์ สันติภาพอันยั่งยืนไม่อาจบรรลุผลสำเร็จได้ถ้าประชากรจำนวนมาก ไม่พบหนทางแก้ปัญหาความจน ไม่ได้เรียกร้องว่าท่านนายกทักษิณต้องไดรางวัลโนเบล เพียงแต่อยากแสดงความเห็นว่า แนวทางที่ท่านนายกทักษิณจัดตั้งกองทุนหมู่บ้าน เป็นแนวทางสำหรับแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืนที่ทั่วโลกยอมรับ แล้วที่บอกว่าท่านใหนำเงินของรัฐมาจัดทำกองทุน ไม่ใช่เงินส่วนตัว ก็อยากจะถามว่า การใช้เงินรัฐมาดำเนินนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจชองคนจน ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ มันผิดตรงไหน นโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ทำไมท่านต้องใช้เงินส่วนตัว ในเมื่อเงินของรัฐเอาไว้ใช้เฉพาะสร้างสาธารณูปโภคให้คนกรุงเทพได้ แล้วทำไมจะเอาเงินรัฐไปแก้ปัญหาความยากจนไม่ได้ ก็บอกแล้วว่าไม่ได้เรียกร้องรางวัลโนเบล แต่อยากให้เห็นว่าทั่วโลกเค้ายอมรับหลักการนี้ จนถึงขนาดมอบรางวัลโนเบลให้ แต่พอนำมาใช้ในประเทศไทย คนไทยมองเป็นเพียงนโยบายประชานิยม โดยไม่มองว่ามันจะแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ แล้วเรื่องหนี้เสีย กองทุนหมูบ้านมีหนี้เสียประมาณ 6 % ซึ่งก็อยู่ในเกณฑ์ที่เรารับได้ ถ้าคน 1 คนจะเบี้ยว ก็เสียหายไม่มาก แต่พวกนักธุรกิจ ที่เบี้ยวหนี้ พวกไม่หนี แต่ไม่จ่าย หรือพวกนักธุรกิจโกงแชร์ พวกนี้สร้างความเสียหายให้เศรษฐกิจเท่าไหร่ เอาแค่ 2 คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ยอดเงินรวมกันก็มากกว่าหนีเสียของชาวบ้านแล้ว จากคุณ : ninue - [ 17 ต.ค. 49 15:44:14 ]

ความคิดเห็นที่ 32 กองทุนหมู่บ้านพึ่งตั้งเอง   จะบอกว่าประสพความสำเร็จ ยังเร็วเกินไป   กาลเวลาจะพิสูจน์ครับ ของแท้ต้องทนไฟ ไม่ต้องมาตั้งกระทู้ล่อเป้าก็ได้ จากคุณ : ไทไท - [ 17 ต.ค. 49 17:44:38 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ทำไมถึงดูถูกคนยากจนขนาดนี้   รัฐบาลต่อไปก็เชิญยกเลิกนโยบายเหล่านี้ให้หมดเลยครับ   เอาเงินคืนมาให้หมด   ลดวรรณะลงด้วย    ปล่อยคนจนมันโง่ จน เจ็บ อยู่อย่างงั้นแหละ  ไม่ต้องไปช่วยอะไรอีกแล้ว    ถึงจะพอใจนายสนธิและพวก  ใช่มั้ยครับ       เสียดายคนส่วนใหญ่  ไม่มีเน็ตใช้   ไม่งั้นคนจนคนบ้านนอก  คงเสียใจกว่านี้  ที่รู้ว่าคนในเมืองหลวง  ที่คิดว่าตัวเองฉลาดจะรังเกียจเดียจฉันกันขนาดนี้ จากคุณ : เถ้าแก่น้อย - [ 17 ต.ค. 49 19:46:47 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ดู NPL แล้วอย่าลืมดูการ refinance ของเงินกู้ในวันสุดท้ายของปีด้วยนะครับ (ถ้าเค้ายอมให้ดู) จากคุณ : TheShadow - [ 24 ต.ค. 49 00:04:30 ]