นึกแวบถึงคำว่าหุ้นปั่น และดีเกินปัจจัยพื้นฐานขึ้นมา
หลังจากวางหูโทรศัพท์
เมื่อวานนี้ขณะกำลังนั่งดูหุ้น
ซึ่งราคาหุ้นมีทั้ง
"แย่กว่าปัจจัยพื้นฐานของผลประกอบการ"
"ดีพอเพียงกับปัจจัยพื้นฐานของผลประกอบการ"
"ดีเกินกว่าปัจจัยพื้นฐานของผลประกอบการ"
เสียงโทรศัพท์บ้านก็ดังขึ้น
"ขอพูดกับ..........."
"พูดอยู่ครับ"
"จำได้หรือเปล่า เราคือใคร"
"อืมจำไม่ได้นะ"
"ดีใจที่ได้พูดกับ.........นะ ยังคิดถึงเสมอ "
คิดในใจ ใครกันหว่า ยังคิดถึงเราเสมอ
แต่เรากลับคัทลอสไปแล้ว










"อยากเจอตัว........ จะเอาเงินที่ยืมไปสามพันบาทมาใช้คืน
ติดเงิน.....มานานแล้ว ไม่สบายใจ"
ติดเงินมานาน จะเอาเงินมาใช้คืน ????
สมองเริ่มประมวลผล เสียงที่ดังมาทางโทรศัพท์
เริ่มจะจำได้คลับคล้ายคลับคลาแล้วว่าคือใคร
พูดกันอีกหลายประโยค ก็เลยจำได้ว่า
คือเพื่อนที่เคยยืมเงินไปเมื่อ ยี่สิบกว่าปีก่อน !!!!!!
จู่ๆจะเอาเงินมาคืน หลังจากผ่านพ้นไปยี่สิบปี
ประเด็นสำคัญก็คือ
"อยากจะเจอตัว จะได้เอาเงินมาคืนให้"
สมองส่วนที่ใช้อารมณ์ เอ๊ยเหตุผลแบบเนกาถีบทิ้งกลิ้งเริ่มทำงาน
ทำไมเพื่อนเรา คิดถึงหนี้ที่ไม่ก่อรายได้ขึ้นมาปุบปับ
หลังจากที่มันผ่านพ้นไปตั้งยี่สิบกว่าปี
ทำไมเพื่อนไม่เคยมางานมีตติ้งรุ่น ไม่ว่าครั้งไหนๆ
เขารู้เบอร์โทรศัพท์
เพราะได้รับหนังสืออนุสรณ์รุ่นทางไปรษณีย์
อย่ากระนั้นเลย เพื่อตัดปัญหา
และให้มันเป็นวินวินเกมทั้งสองฝ่าย
เลยบอกไปว่า ลืมหนี้ก้อนนั้นไปนานแล้ว
จำไม่ได้ด้วยว่านายยืมไปเท่าไร
ไว้มีโอกาสค่อยพบกันในงานมีตติ้งรุ่นก็แล้วกัน
ตอนนี้น้ำท่วม นายเอาเงินสามพันที่จะคืนเรา
ไปบริจาคในนามของนายกับเราก็แล้วกันนะ
เพื่อนได้ยินแบบนั้น ก็รู้แล้วว่า
เรายังไม่พร้อมจะพบกับเพื่อน แบบเจอหน้ากัน
ก็เลยจำยอมทำตามนั้น
แต่ก็ไม่วายให้จดเบอร์โทรศัพท์ไว้
พร้อมกับกำชับหนักแน่นว่า อย่าลืมโทรมาคุยกันบ้างนะ
วันหลังจะโทรมาคุยด้วย เดี๋ยวต้องออกไปทำงานอีกแล้ว
ไม่รู้นะ ผมอาจจะระแวงเกินเท็คนิคอลก็ได้
ระบบเนกาถีบทิ้งกลิ้งมันบอกเราว่า
เพื่อนเรากำลังทำตัว
"ดีเกินปัจจัยพื้นฐานของปุถุชน"
คิดในใจว่า
อยากเจอตัว ได้คืนสามพัน
อาจจะต้องจ่ายไปอีกหลายหมื่น
"กับประกันชีวิต หรือไม่ก็ขายตรงสารพัดยี่ห้อ"










วกเข้าเรื่องหุ้นนิดหน่อย ไม่ให้โดนแจ้งลบกระทู้
เวลาเราเล่นหุ้น เราระแวงหรือเนกาถีบทิ้งกลิ้ง บ้างหรือเปล่าว่า
หุ้นตัวนั้นๆ มันดีเกินปัจจัยพื้นฐานของผลประกอบการ
ถ้าตอบว่าระแวงซิ ไม่น่าถามเชยๆ
งั้นก็ถามตัวเองต่อว่า
ระแวงแล้วทำไมยังกล้าเล่น
ถ้าตอบว่า
กล้าเล่น ทั้งๆที่ระแวง
เป็นเพราะเราเชื่อเอาเองว่า
เราจะไม่เป็นผู้ถือหุ้นตัวนั้น
ในราคาที่เกินปัจจัยพื้นฐานมากกี่สุด ใช่หรือไม่
ถ้าตอบว่าใช่
ก็ให้ถามตัวเองต่อ
แล้วเรามี "เครื่องมือ" อะไรในการป้องกัน
ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ยอดดอยขึ้น
ถ้าตอบตัวเองตามตรงว่า "ไม่มี แล้วแต่ดวง"
ก็อย่าเข้าไปยุ่งกับ
หุ้นที่ดีเกินปัจจัยพื้นฐานแบบเวอร์สุดๆ เลย
เพราะเจ้ามือหุ้นพวกนี้ทุกคน
เขาต้องทำให้คนที่เขาไปร่วมวงไพ่ เอ๊ยร่วมซื้อขายเชื่อว่า
"เอ็ง เอ๊ยคุณจะไม่เป็นคนสุดท้าย
ที่ถือหุ้นตัวนั้น
ในราคาที่เกินปัจจัยพื้นฐานของผลประกอบการมากที่สุด"
เรื่องดีเกินปัจจัยพื้นฐาน
ก็เอวังด้วยปการฉนี้แล











เจ้ามือพอร์ตเล็ก ต้องกินไก่
เจ้ามือพอร์ตใหญ่ ต้องกินช้าง
เจ้ามือพอร์ตกลาง ต้องกินหมู
เป็นไปตามกฏของ
ปริมาณเงินที่มีอำนาจซื้อนำจริง











แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 49 11:27:42