ตลาดหุ้นไทย เกิดขึ้นมาเป็นเวลาหลายสิบปี
ผู้คนมากหน้า หลายตา ต่างอาชีพ ได้เข้ามาสู่ตลาดหุ้น
ส่วนมาก ก็หวังที่จะได้กำไร จากราคาที่สูงขึ้นไป
ส่วนหนึ่ง ก็ซื้อเพื่อการลงทุน โดยเน้นเงินปันผลเป็นหลัก
แต่ตลาดหุ้นไทย ก็เช่นเดียวกับตลาดหุ้นโดยทั่วไป คือ
เป็นแบบ "เก็งกำไร" เป็นหลัก เป็นส่วนใหญ่
ของไทยเรา "เก็งกำไรสุดกู่"
พวกที่มีหุ้นอยู่ในมือมากๆ มีเงินเยอะ ก็จะได้เปรียบ Grate
หรือเราให้สมญานามตามภาษาชาวบ้านว่า "เจ้ามือ"
สามารถที่จะสร้างราคาให้ขึ้นไป เราเรียกว่า "ลากขึ้น" อ๊วก
และสามารถที่ทำให้ราคาต่ำลง เราเรียกว่า "ทุบ" กะโหลก
บางที ในวันเดียวกัน ลากขึ้นไปแรงมาก แล้วทุบลงทันที
เราเรียกว่า "ลากไปเชือด" onfire
แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เราจะซื้อหุ้นตัวใด
เราควรจะดูพื้นฐานของหุ้นตัวนั้นก่อน
สิ่งที่จะต้องดูคือ มูลค่าตามบัญชี ( BV/Book Value)
ราคาเป็นกี่เท่าของกำไรจากผลประกอบการ (PE/Price Earning Ratio)
ราคาซื้อขายที่ผ่านมา (Historical Trading)
รวมทั้งข้อมูลอื่น ซึ่งเราจะดูได้จากเวบของตลาดหลักทรัพย์ที่
http://www.set.or.th
หุ้นที่เจ้ามือลากขึ้นไปแรง โดยไม่มีปัจจัยพิ้นฐานรองรับ
ยามเขาลากขึ้น เล่นแล้ว มักจะได้กำไรงาม
แต่หากตลาดกลับเป็นขาลง หรือ ลงลึก
หุ้นพวกนี้ จะโดนทุบลงต่ำมาก หลายตัว ต่ำกว่าครึ่ง
ใครเข้าไปซื้อไว้ แล้วไม่รู้จัก Cut Loss ก็จะเจ็บหนัก Crying or Very sad
ราคาของหุ้น มันจะเป็นไปตามวัฎจักรของมัน มีขึ้น มีลง
"หุ้นไม่มีวันขึ้นตลอด และ ไม่มีวันลงตลอด"
เราต้องอาศัย การคาดคะเน ตามสไตล์การเล่นของแต่ละคน
มีสองสไตล์คือ เป็น "ชาวไล่" กับ เป็น "ชาวสวน"
จากคุณ :
mr.stock
- [
17 พ.ย. 49 01:36:34
]