ผมเป็นคนง่ายๆ ธรรมดาๆ ไม่ลึกซึ้ง ไม่มีรูปแบบที่แน่นอน ดังนั้นวิธีการผมเข้าหรือออกหุ้นก็ล้วนมาความเป็นตัวตนของผม คือ ง่าย ธรรมดา แต่รวดเร็วเท่านั้น

ทุกอย่างที่พิมพ์ขึ้นมา คือตัวผมเอง ทั้งแนวคิด ทัศนคติ ไม่ได้บอกว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง หรือต้องทำตาม เพียงแต่อยากจะบอกถึงวิธีที่ผมใช้เข้าพันตูกับหุ้นครับ อยากจะให้เพื่อนได้ลองติดตามอ่าน

ผมรู้ว่าคนที่เข้ามาในเวปนี้เกินครึ่งต้องการรวย ต้องการเข้ามาหาหุ้นเด็ดเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง โดยขาดความความเป็นตัวของตัวเอง โดยขาดการทำการบ้าน เพียงแต่เข้ามาแล้วดูว่าอาจารย์บอกหุ้นตัวไหน หรือเพื่อนสมาชิกท่านอื่นบอกถึงหุ้นตัวไหน แล้วเข้าเล่นเลย (สังเกตุโดย... ถ้าอาจารย์บอกว่าหุ้นตัวไหนน่าเล่น มักจะมีเพื่อนๆ เข้ามาขอบคุณ หรือแอบอ่านโดยไม่เปิดเผยตัว .. แต่ไม่ค่อยจะเห็นดูแล้วแสดงแนวคิดของตัวเองว่า ดีหรือไม่) ผมว่าแค่นี้ก็ผิดมากแล้ว ตัวผมเองก็เป็นคนลงทุนด้านข้อมูลทั้ง inside มากพอสมควร ไม่ว่าที่ไหนดี ผมซื้อมาแล้ว ทั้งราคาหลักร้อยจนถึงหลักหมื่น แต่ส่วนมากก็ซื้อมาดูเฉยๆ ไม่ได้เล่นตาม เท่าที่เคยทำประวัติไว้ ผิดมากกว่าถูก โดยเฉพาะ ...call ผิดมาจนผมโทรไปบอกว่าไม่ต้องส่งข้อมูลมา เพราะทำให้ผมเสียสมาธิในการดูหุ้น เงินที่เสียไปไม่ต้องคืน เป็นไปได้ตัดยอดแล้วส่งไปมูลนิธิคนปัญญาอ่อนหรือทำบุญอะไรก็ได้

จนผมต้องกลับมาหาตัวตนของผมเอง ซึ่งความจริงเรื่องหุ้นผมศึกษาทางด้านเทคนิคอลมาก่อนทั้งแต่ปี 2534 แล้ว เคยสั่งซื้อหนังสือจาก s..50 เป็นหมื่น ช่วง 2 ปี ผมเข้าไปโหลดหนังสือเกี่ยวกับหุ้นมาแยะมาก มากกว่าร้อยเล่ม แต่ข้อเสียของผมคือ เป็นคนที่สมองไม่ค่อยดี ความจำสั้น จึงพัฒนาสิ่งต่างๆ ให้เข้ากับสภาพร่างกายของผม คือ ง่ายแต่ต้องขยัน

ขึ้นตอนแรก ทุกวันเสาร์ ผมจะเอาหุ้นทั้งหมดของกระดานแต่ตรวจดูเรื่องรูปแบบและปริมาณซื้อขาย ที่มีการเทรดวันละมากกว่าสิบล้านบาทออกมาก ซึ่งจะได้หุ้นจำนวนประมาณ 200 ตัว พิมพ์ออกมาใช้ในรอบหนึ่งอาทิตย์ ทุกวันในหนึ่งอาทิตย์ผมก็จะใช้โพยหุ้นสองร้อยตัวมาดูทีละตัว แล้วเลือกหุ้นที่มีรูปแบบว่าไม่ลงหรือกำลังขึ้น (trend line) กับ volume เป็นหลัก พอได้หุ้นมา ก็จะมากรองอีกทีว่า โดนป้ายห้ามเน็ต หรือจะขึ้นป้าย xd หรือจะมีลูกหุ้นเข้าหรือเปล่า ถัดมาถ้ามีเวลาก็จะหาข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่ามีข่าวกระทบกับตัวหุ้นที่จะ เล่นไหม รวมถึงตั้งกลยุทธ์ว่า จะทำอย่างไรกับหุ้นที่เฝ้า ตัวผมจะตั้งไว้ 3 อย่าง คือ
1. ถ้าหุ้นกำลังขึ้น บางทีผมไม่เข้าซื้อ ต้องรอเขาผ่านจุดวัดใจก่อน เช่น ครั้งก่อนเขาไม่ผ่าน 7.80 แต่ราคาปิดอยู่ที่ 7.70 ผมจะเขียนว่า วัดใจ 7.80 คือทะลุก็เข้าเล่น หลุดก็ขาย
2. ถ้าหุ้นขึ้น อยากจะมันส์ ก็จะเขียน cut ว่าจะยอมเจ็บแค่ไหน
3. หุ้นที่เคยชอบ แม้ว่าทิศทางไม่ดี แต่ก็จะเอาเข้ามาใน list ด้วย บางครั้งก็จะเขียนว่า รอ ... เช่น BBL รอ 105 และบางทีก็มีหุ้นที่ขึ้นมาแบบพิศดาร เช่น gen ก็เข้ามาใน list ดูมันส์เหมือนกัน

ขั้นตอนสุดท้าย เตรียมรายชื่อไว้ ตอนจะเข้าซื้อก็ดูทิศทางตลาดต่างประเทศ แล้วก็ทิศทางของตลาดบ้านเรา .... ไม่ได้ถือเป็นหลักน่ะครับ แต่จะเน้นหุ้นที่จะเล่นเป็นหลักว่า ตั้งซื้อ ตั้งรับเป็นอย่างไร หนาหรือแน่น หรือโปร่งไป มีหลายครั้งที่ก่อนหน้าเล่นเป็นหนัก พอวันรุ่งขึ้นกลับเงียบมาก ไม่ค่อยจะมีเทรคก็แยะ

ขอแค่นี้ก่อนน่ะครับ