ความคิดเห็นที่ 1 1. แนวโน้มเศรษฐกิจโลก 1.1 การอ่อนค่าของ US$ เชื่อว่า US ยังคงดำเนินนโยบาย US$ อ่อนต่อเนื่อง (ทั้งโดยสมัครใจ และภาคบังคับจากภาคเศรษฐกิจที่อ่อนแอ เปราะบาง) อย่างไรก็ตามต้องเป็นไปแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะถ้ารัฐบาลกลางของหลายๆ ประเทศ พร้อมใจกันลดการถือครอง US$ ลง (หลายประเทศทำแล้ว และทำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศตะวันออกกลาง) ก็จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจระดับโลกขึ้นได้ จึงเห็นได้ว่าหลายประเทศ เช่นจีน ญี่ปุ่น เข้าไปถือครองพันธบัตรรัฐบาล US จำนวนมาก จากการอ่อนค่าของ US$ รอบนี้ จะทำให้บทบาทของเงิน US$ ลดความสำคัญลงในเวทีการค้าของโลกในฐานะเงินสกุลกลางในการแลกเปลี่ยน ประเทศต่างๆ จะใช้เงินสกุลของตน หรือสกุลของคู่ค้าในการซื้อขาย แทนที่จะเป็น US$ ซึ่งจะเป็นตัวเร่งให้ US$ อ่อนค่าลงในอัตราเร่ง เนื่องจาก demand ลดลงอย่างรวดเร็ว การทำให้ US$ เกิด soft landing จึงเป็นประเด็นหลักของเศรษฐกิจโลกในปี สองปี ข้างหน้า ซึ่งหมายความว่าประเทศผู้นำเศรษฐกิจโลกหลักๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย EU ต้องร่วมมือกัน ลำพัง US ประเทศเดียวลำบาก หรือกรณี US$ อ่อนค่าลงเร็ว และอ่อนค่าไปมากกว่าที่รัฐบาล USA ต้องการ ผมมองว่า “สงคราม” จะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการหยุด เปลี่ยนทิศ เศรษฐกิจของสหรัฐ ดังเช่นที่เคยใช้มาหลายครั้งในอดีต 1.2 การลดลงของราคาน้ำมัน และสินค้า commodities เมื่อ Hedge Fund ย้ายตัวเองเข้าสู่การเก็งกำไรค่าเงิน น้ำมัน และสินค้า commodities จึงลดความร้อนแรงลง ราคาที่เคยถูกปั่นฟู ก็จะถอยกลับมาสู่ราคาที่แท้จริง ประกอบกับเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้มมีปัญหา ประกอบกับการเกิดขึ้นของพลังงานทดแทน  สินค้าทดแทน และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงจากราคาน้ำมันสูงในช่วงที่ผ่านมา ก็จะส่งผลให้ความต้องการในสินค้าเหล่านี้ลดลงด้วย จึงเชื่อว่าน่าจะหมดรอบ การเก็งกำไรของ ราคาน้ำมัน และสินค้า commodities และทำให้ราคาลดลงในที่สุด 1.3 การเติบโตของจีน (และ อินเดีย) เงินทุนจะเคลื่อนย้ายจากตลาดที่มีความเสี่ยงสูงและผลตอบแทนต่ำ ไปยังที่ที่ผลตอบแทนสูง และมีความเสี่ยงต่ำ จีน (และอินเดีย) จึงถูกมองเป็น safe heaven ของเงินทุนต่างประเทศ (อย่างน้อยการลงทุนในจีน ความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนก็ต่ำมากๆ เพราะกรอบการเคลื่อนไหวจำกัด) การไหลเข้าจีน (และอินเดีย) ของธุรกิจ และเงินทุน ย่อมส่งผลให้เศรษฐกิจของเอเชียเข้าสู่ยุคเฟื่องฟู ยังนึกออกแค่นี้ครับ ใครนึกประเด็นใดออกเพิ่มเติมให้ด้วย จากคุณ : *John* - [ 21 ธ.ค. 49 17:44:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 2. แนวโน้มเศรษฐกิจไทย 2.1 อัตราเงินเฟ้อ อัตราเงินเฟ้อของไทย น่าจะอยู่ในลักษณะชะลอตัวลง ในอีก 2-3 ปีนี้ เหตุผลหลักอยู่ที่การอ่อนค่าของเงิน US$ และ การลดลงของราคาน้ำมัน และสินค้า commodities ที่ได้กล่าวไว้ ประกอบกับเศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะลอตัว ภาวะกดดันเงินเฟ้อ (cost push – demand pull) อยู่ในระดับต่ำ เงินเฟ้อจึงน่าจะต่ำ 2.2 อัตราดอกเบี้ย ที่ผ่านมา ธปท. อ้างว่า (หวังว่าคงไม่เปลี่ยนไปเสียก่อน)  การดำเนินนโยบายดอกเบี้ย เน้นหนักอยู่ที่การควบคุมระดับเงินเฟ้อ แม้ว่าเราจะเห็นว่าที่ผ่านมาการปรับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของไทย ส่วนใหญ่อ้างอิงกับการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ก็ตามที ดังนั้นเมื่อคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยจะอยู่ในทิศทางลดลง น่าจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของไทยลดลงด้วย 2.3 Fund Flow จากเหตุการณ์ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทำให้การคาดการณ์เรื่อง fund flow ค่อนข้างยาก และสับสนในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม  ทุนนิยมก็ยังเป็นทุนนิยม เม็ดเงินพร้อมที่จะเคลื่อนย้าย ไปสู่ที่เสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนสูง เมื่อตลาดไทย (หุ้น ตราสาร และ direct investment) มีความเสี่ยงลดลง และนิ่ง เม็ดเงินที่รอจะเข้าเอเซีย ก็ยังน่าจะเข้าไทยต่อไป เพราะ(เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง เมื่อตลาดหุ้น / ทุนไทย ถูกลง โดยเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่แพงขึ้น) อัตราผลตอบแทนที่ทุนจะเข้ามาในไทยจะสูงขึ้น จูงใจมากขึ้น 2.4 อัตราแลกเปลี่ยน เป็นอีกเรื่องที่ทำนายยาก อย่างไรก็ตาม เพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจ ก็ต้องเลือกเดาเอาในทิศทางที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด (เพราะอย่างไรบทความนี้ก็เดาทั้งนั้นอยุ่แล้ว หุ หุ) เชื่อว่า ค่าเงินบาทเทียบค่ากับ US$ จะต้องแข็งค่าขึ้นตามทิศทางการอ่อนค่าของ US$ อย่างไรก็ตามจากมาตรการไม้แข็งที่อ่อนมา ทำให้เห็นได้ว่า ธปท. กล้าที่จะใช้มาตรการ (ชาญฉลาดหรือไม่ ไม่เกี่ยว) ต่างๆ ที่จำเป็นในการป้องกันการเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้เชื่อได้ว่า เงินบาทไม่น่าจะแข็งค่า เทียบกับสกุลอื่นๆ หรืออีกนัยหนึ่งการแข็งค่าของเงินบาทไม่น่าจะแข็งค่าเร็วไปกว่าสกุลอื่นๆ ในเอเซีย 2.5 การลงทุนของภาครัฐ + การบริโภคในประเทศ คงไม่มีอะไร surprise ในปีหน้า mega project คงยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลายฝ่ายคาดการณ์กันว่า GDP Growth ของไทยน่าจะประมาณ 5% อย่างไรก็ตามภาคส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท อาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยไม่เป็นไปตามเป้า ยังนึกออกแค่นี้ครับ ใครนึกประเด็นใดออกเพิ่มเติมให้ด้วย จากคุณ : *John* - [ 21 ธ.ค. 49 17:45:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 3. แนวโน้มตลาดหุ้นไทยปี 2550 หุ หุ  เขียนมาถึงตรงนี้จะได้พุ่งเป้าเข้าเรื่องเสียที ผมเองก็ทำการวิเคราะห์ไปพร้อมๆ กับเขียนนี่แหละครับ   ถูกบ้างผิดบ้างถือว่าแบ่งปันกัน เผื่อผมคิดไม่รอบคอบตรงไหน รบกวนผู้อ่านช่วยติ ติง และให้ความเห็นด้วยครับ มองด้านปัจจัยพื้นฐาน ถ้าสมมุติฐานข้างบนถูกต้อง Criteria ในการเลือกหุ้นควรเป็นดังนี้ครับ 1. ใช้เชื้อเพลิง และ commodities เป็นสัดส่วนต้นทุนในการผลิตสูง 2. มีสัดส่วนหนี้สินสูง 3. มีหนี้สกุล US$ 4. นำเข้าสินค้าทุนในรูป  US$ ในขณะที่รับรู้รายได้ในสกุลอื่น (เช่นบาท) 5. หากสถานการณ์สงบ ตลาดน่าจะ “ฟู” ขึ้น จาก fund flow ต่างประเทศ ใครนึกถึงหุ้นหมวดไหน ตัวไหนบ้างครับ share กันหน่อยนะครับ จากคุณ : *John* - [ 21 ธ.ค. 49 17:45:35 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มองด้าน Demand & Supply นักลงทุนในประเทศ เหตุการณ์ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา ไล่นักลงทุนทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ออกตลาดไปไม่น้อยทีเดียว บางส่วนเสียหาย สูญเสีย ขาดทุน บางส่วนไม่พอใจกับธรรมาภิบาลของรัฐบาล และ ตลาดหลักทรัพย์ไทย บางส่วนกำไรแต่ถอยไปดูท่าทีอยู่ห่างๆ เม็ดเงินสูญหายไปจากตลาดน่าจะ หลายพัน หลายหมื่นล้าน จากเหตุการณ์เดียวกัน ก็เป็นโอกาส ของนักลงทุนหน้าใหม่ (หรือหน้าเก่าที่อาจจะเคยถอยห่างออกไป) เติมเม็ดเงินเข้ามาในตลาด สุทธิ เม็ดเงินหายไปจากตลาดไปพอสมควรในระยะสั้น อย่างไรก็ตามในระยะยาวคงต้องติดตามต่อไป นักลงทุนต่างประเทศ นักลงทุนต่างประเทศ คงเข็ดกับตลาดหุ้นไทย ไปซักพักใหญ่ๆ เลยครับ ระดับความเสี่ยงสูงขึ้นมาก อย่างไรก็ตามมีเม็ดเงินที่พักอยู่ในประเทศ และรอบๆ ประเทศ อยู่จำนวนมาก เมื่อความน่าสนใจในตลาดพันธบัตรลดน้อยลง ตลาดหลักทรัพย์ก็อาจเป็นทางเลือกที่เขาเลือกก็ได้ (หากประเทศเพื่อนบ้านขึ้นราคาหุ้นของเขาจนแพงกว่าบ้านเรามากๆ เหอ เหอ) สถาบัน คงหวังพื่งเอาอะไรกับสถาบัน ยากหน่อยครับ ที่หุ้นขึ้นเมื่อวาน (20 ธ.ค.) ไม่รู้มีใบสั่งหรือเปล่า หรือรับของรายย่อย (รายย่อยเทียม รายใหญ่แท้ๆ) ที่รู้ inside เก็บหุ้นไปตั้งแต่วันที่ 19 หรือเปล่า??? ที่ผ่านมาสถาบัน เล่นผิดทางมาตลอด เอาเรื่องเม็ดเงินของสถาบัน timing ของเหตุการณ์ไม่ดีเอาเสียเลย เป็นช่วงที่เม็ดเงินที่คนได้โบนัส กำลังจะเข้าไปซื้อกองทุนกัน โดยเฉพาะ RMF เม็ดเงินเหล่านี้ช่วงนี้ น่าจะเลือกลงในกองทุนหุ้นกู้ หรือพันธบัตรมากกว่ากองทุนหุ้น จากคุณ : *John* - [ 21 ธ.ค. 49 17:45:49 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มองด้านเทคนิค ความรู้ด้านเทคนิคผมพื้นๆ ครับ รบกวนท่านอื่นๆ เพิ่มเติมตรงนี้ให้ด้วยครับ สรุป ระยะสั้น เม็ดเงินหดหายไปจากตลาดไปพอสมควร และดูเหมือนว่าเลือดจะยังไหลไม่หยุด ดังนั้นหุ้นจะไปไหนลำบาก หากไม่มีเม็ดเงินใหม่เติมเข้ามา (เม็ดเงินจากไหน??) ระยะ3-4 เดือน ฤดูปันผล/  หุ้นหลายตัวคาดการณ์ว่าจะจ่ายปันผลในอัตราที่น่าสนใจ จากราคาหุ้นวันนี้จะทำให้มีหุ้นจำนวนมากมี dividend yield ใกล้เคียงหรือมากกว่า 10% ซึ่งจะเป็นปัจจัยทำให้หุ้นขึ้นได้ ระยะยาวกว่านั้น คงต้องรอดู fund flow เป็นประเด็นหลัก   ผมยังเชื่อว่าปีหน้า (และต่อไปอีก 2-3 ปี) เงินทุนต่างประเทศ จะเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนให้หุ้นไทยมีทิศทาง + ได้ และเชื่อว่าหากการจัดการเป็นไปอย่างเหมาะสม (ไม่ทะเล่อ ทะล่า อย่างที่ผ่านมา) จำเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยมาก จริงๆ แล้วหาก set index ขึ้นไป 1000 จุด P/E ของตลาดหุ้นไทยก็จะอยู่ที่ประมาณ 12 เท่า เทียบกับเพื่อนบ้านก็ไม่ถือว่าแพง จากคุณ : *John* - [ 21 ธ.ค. 49 17:46:17 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ... ขอบคุณครับ จากคุณ : Mr.Zack - [ 21 ธ.ค. 49 18:01:22 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณครับ คุณ*John* สำหรับมุมมองที่มีประโยชน์อย่างนี้   ส่วนตัวผมเชื่อว่าหุ้นจะขึ้นแน่ เพราะเม็ดเงินที่จะเข้ามาจะหาที่ลงได้ลำบากขึ้น เนื่องจากมาตรการ 30 %ที่ธปทได้ออกกฎมา  ดังนั้นเม็ดเงินที่เข้ามาก็คงลงในหุ้นนี่แหละครับ บางทีเราอาจเห็นหุ้นขึ้นเหมือนยุคน้าชาติก็ได้นะครับ จากคุณ : คึกคัก15 - [ 21 ธ.ค. 49 18:31:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอลบกระทู้ตัวเอง เนื่องจากผู้ใหญ่ขอร้อง แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 49 22:22:44 จากคุณ : -=สาวลาวบ่าวไทย=- - [ 21 ธ.ค. 49 18:54:00 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ -=สาวลาวบ่าวไทย=-...... ดีใจที่คุณใช้คำว่า สหายเก่า ผมเองผมก็คิดว่าผมทราบว่า สหายเก่าอย่างพี่สาว คือใคร.... จะรบกวนไม๋ครับ ถ้าผมอยากให้แชร์ข้อมูลที่พี่ทราบ มาทางหลังไมล์... ผมเองก็ชักรู้สึกตะหงิดๆ ขึ้นมาแล้วเหมือนกัน... จากคุณ : Mr.Zack - [ 21 ธ.ค. 49 19:11:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอลบกระทู้ตัวเอง เนื่องจากผู้ใหญ่ขอร้อง แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 49 22:23:42 จากคุณ : -=สาวลาวบ่าวไทย=- - [ 21 ธ.ค. 49 19:12:26 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณครับที่แชร์ข้อมูล... แต่น้อยไปสำหรับผม ถ้าเพียงแค่ข่าวนี้ที่จะเชื่อ... เป็นไปได้ มีความน่าจะเป็น ไม่ต่างจาก.... เป็นไปไม่ได้ หม่อมอุ๋ย... ผมไม่รู้... รู้แต่ว่าครั้งนี้ทำเกินไป... การตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต... คงถูกอยู่... แต่อวัยวะที่ว่า... คือชีวิตหลายๆชีวิตในตลาดทุน... คนเป็นรัฐมนตรี อย่างน้อยควรมีจิตสำนึกบ้างในเรื่องนี้... บอกได้เลยว่า ผมไม่ชอบทักษิณ แต่ก็ใช่ความชอบธรรมที่ ผมจะชื่นชมกับการกระทำผิดๆ ของหม่อมอุ๋ย.... อย่างไรก็ ขอบคุณมากครับ... ผมมองคน ที่ความประพฤติ... ข่าวมีไว้อ่านประกอบ เท่านั้น... ธาตุแท้คนมันจะแสดงออกมาเอง... ช้าหรือเร็วเท่านั้น.... ขอบคุณครับพี่สาวลาว.... จากคุณ : Mr.Zack - [ 21 ธ.ค. 49 19:19:16 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอลบกระทู้ตัวเอง เนื่องจากผู้ใหญ่ขอร้อง แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 49 22:24:34 จากคุณ : -=สาวลาวบ่าวไทย=- - [ 21 ธ.ค. 49 19:24:45 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ทักษิณเป็นคนเก่งมากๆคนหนึ่ง..... การที่จะ drive attention ของคนส่วนใหญ่ด้วยเงิน เหมือนทำการ promote สินค้า... อันนี้ผมเห็นมาบ่อยๆ อันนี้เชื่อครับ.... หากเรื่องนี้จริง แล้ว discredit ใครคนใดคนหนึ่งก็ไม่ใช่ เรื่องแปลก หรือทำกันไม่ได้... คลื่นใต้น้ำมีมากมาย ไม่ต้องพิสูจน์ ก็หน้าจะเห็นๆ.... ก็เป็นไปได้ครับ... แต่การฉีดน้ำเกลือเพื่อรักษาชีวิตในครั้งนี้... มันหนักเกิน ไปกว่าที่ผมจะยอมรับได้...  เอาประเทศชาติ เศรษฐกิจ มาเล่นกันเป็น ขายขนมครก...  อันนี้ก็ไม่ต่างกับการทำ ลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และภาพลักษณ์ของประ เทศเลยนะครับ.... ชักเครียดไปใหญ่แล้ว... ขอบคุณอีกครั้งครับพี่สาวลาว....  อย่างไรผมก็ขอเก็บไว้ พิจรณาในหลายๆด้าน....  แต่จะยังไม่คงตัดสินใจอย่างใด อย่างหนึ่ง.... คนจะดีหรือเลว... ช้าเร็วก็ต้องรู้ครับ... ขอบคุณครับ จากคุณ : Mr.Zack - [ 21 ธ.ค. 49 19:32:23 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คุณ สาวลาวบ่าวไทย ผมว่า อย่าเพ้อเจ้อ ฟุ้งซ่าน ครับ จากคุณ : เหลวไหล - [ 21 ธ.ค. 49 19:32:51 A:58.8.166.233 X:61.91.191.10 TicketID:007333 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ที่ตลาดหุ้นมันสาหัสวันนี้ ไม่ได้มีใครมาทำอะไรเลย ทำตัวเองแท้ๆ ประกาศมาตรการอย่างไม่รอบคอบ นักลงทุน ก็ต้องเผ่น มันจะไปเกี่ยวอะไรกับทักษิณ โยนบาป ไปเรื่อย ให้มันมีความเป็นธรรมหน่อย จากคุณ : เหลวไหล - [ 21 ธ.ค. 49 19:35:14 A:58.8.166.233 X:61.91.191.10 TicketID:007333 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอลบกระทู้ตัวเอง เนื่องจากผู้ใหญ่ขอร้อง แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 49 22:25:25 จากคุณ : -=สาวลาวบ่าวไทย=- - [ 21 ธ.ค. 49 19:37:27 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอลบกระทู้ตัวเอง เนื่องจากผู้ใหญ่ขอร้อง แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 49 22:26:08 จากคุณ : -=สาวลาวบ่าวไทย=- - [ 21 ธ.ค. 49 19:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ในประวัติศาสตร์ชาติไทย  หายนะเข้ามาครอบงำประเทศไทยทุกครั้ง  ที่ได้คนที่มีกำลังอยู่ในมือ  และคิดว่าตัวเองฉลาด  (แต่จริงๆ ไม่ใช่)  ขึ้นมาปกครอง    การเอาชนะต่างชาติให้ได้ หรือถ้าไม่ชนะ  ก็ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้   เท่าที่เห็นก็ต้องเป็นคนที่รู้ทันต่างชาติ  แต่ไม่ดำเนินนโยบายแบบหักด้ามพร้าด้วยเข่า  ไม่ไปเปิดศึกชนกับเขาแบบต่อหน้าต่อตา   แต่ดำเนินนโยบายฉากหลังเงียบๆ มากกว่าครับ จากคุณ : sunsetbeach - [ 21 ธ.ค. 49 19:44:07 ]

ความคิดเห็นที่ 19 กระทู้ชักจะกลายพันธุ์   ใจเย็นๆกันนะครับ จากคุณ : คึกคัก15 - [ 21 ธ.ค. 49 19:50:09 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ต้องตัดนิ้วอีก กี่นิ้ว ??? ด้วยนโยบายแบบนี้ นิ้วหมดสงสัยตัดแขน จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 21 ธ.ค. 49 20:01:21 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอลบกระทู้ตัวเอง เนื่องจากผู้ใหญ่ขอร้อง แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 49 22:26:55 จากคุณ : -=สาวลาวบ่าวไทย=- - [ 21 ธ.ค. 49 20:01:40 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอลบกระทู้ตัวเอง เนื่องจากผู้ใหญ่ขอร้อง แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 49 22:27:50 แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 49 20:40:47 จากคุณ : -=สาวลาวบ่าวไทย=- - [ 21 ธ.ค. 49 20:04:20 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ดีนะครับสมัยนี้ ตัวเองทำผิดเห็นๆแต่ไปโบ้ยเป็นทฤษฎีทำลายล้างโยนเผือกเบียงเบนให้คนอื่นได้อีก เฮ้อ น้ำเน่าขึ้นทุกวัน จากคุณ : พิษประจิม - [ 21 ธ.ค. 49 20:27:36 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สาวลาวบ่าวไทย.... คนสมัยใหม่  เขาใช้   เหตุ   ผล...ในการ กระทำ ส่วน  จินตนาการ    เอาไว้ใช้  ในการประพัน  กับ ศิลปะ... ...คุณ  เพิ่งตื่นนอน  มารึเปล่า   นี่///// จากคุณ : ยายพริ้ง - [ 21 ธ.ค. 49 20:27:46 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เข้ามาอ่านครับ  ติดตามข่าวสารทุกระยะช่วงนี้   คนนี้เขาฟันธงไปแล้วครับ http://www.bangkokbiznews.com/viewOpinionNews.jsp?newsid=141467 ถ้ามันจริงก็สงสารประเทศไทยที่มาห้ำหั่นกันเอง    เฮ้อ จากคุณ : yut - [ 21 ธ.ค. 49 20:32:35 ]

ความคิดเห็นที่ 26 นึกไม่ถึงว่า ยังมีคนมีหน้าอ้างอิง กะทงเลือด อีก ช่วงนั้นกระแส conspiracy เกี่ยวกับ การกลับมาของแม้วหลังลอยกระทงแรง คุณก้อเอามาผูกกับ Genetic formula อะไรนั่น จนสุดท้ายหงายหลัง เพราะเก่งเหลือเกินแต่ ไม่แม่น หายไปพักนึง แต่ตอนนี้กลับมาเพราะ ไม่รู้นะ ตอนนี้ขนาดแม่ค้ายังลือว่า จุดแตกหัก ก่อนสงกรานต์ จริงๆเรื่องมุมมอง์หุ้นของคุณ มันจบตั้งแต่หลังลอยกะทงแล้ว หรือนี่ยังคือperiodของกะทงเลือด งั้นพรุ่งนี้ก้อช่วงก่อนสงกรานต์แล้ว หึ หึ ปล. ไม่ได้รับจ้างโพสต์ บอกได้เลยบ้านนี้เมืองนี้ นับถือแต่ พ่อกับแม่ ที่บ้าน จากคุณ : yui - [ 21 ธ.ค. 49 20:49:24 A:58.9.18.6 X: TicketID:121217 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เค้า...คิดถึง...ตัวเอง...จังเล๊ยยย จากคุณ : no_lagging - [ 21 ธ.ค. 49 21:04:13 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อยากถามคำถามนึง ปริมาณเงินดอลล์สหรัฐ ในโลกตอนนี้มีอยู่เท่าไรครับ จากคุณ : พ่อไม้ - [ 21 ธ.ค. 49 21:14:47 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นที่ใช้เหตุผลครับ จากคุณ : เล่นรอบ - [ 21 ธ.ค. 49 21:15:09 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ... ขอบคุณครับ จากคุณ : GABLIEL - [ 21 ธ.ค. 49 21:16:18 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คุณสาวลาวฯ ครับ เขาแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นเรื่องศก. กันครับ ไม่ใช่แลกเปลี่ยน Gozzip จากคุณ : Angel ~ นรก - [ 21 ธ.ค. 49 21:47:26 ]

ความคิดเห็นที่ 32 -=สาวลาวบ่าวไทย=- ถ้ายังงั้นไปให้ กลต ส่งข้อมูลผู้ซื้อหุ้น ทุบหุ้น ขายหุ้นที่เป็นคนช้อนช่วงบ่าย มาลงโทษดีกว่า เพราะสภาพที่เป็นมันเป็น โจรสั่งปล้มประเทศตัวเอง โดยเอาฝรั่งมาอ้าง รายย่อยที่ไหนมี 20000 กว่าล้านมาซื้อของ คงหาไมยาก ข่าวก็แพลมออกมาตอนสี่โมงนั่นแหละ ว่าจะยกเลิก 30% กับตลาดหุ้น จากคุณ : spa162 - [ 21 ธ.ค. 49 22:03:01 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เนี่ยแหละพวกชอบปล่อยข่าวลือ ถ้าสังคมไร้ปัญญา พวกข่าวลือเนี่ยจะได้ผลเยอะ ดูเอาเองละคน พวกธิลิ้มตัวดีชอบปล่อยข่าวลือ เพราะคิดว่าคนไทยไร้ปัญญา จากคุณ : ซื่อสัตย์ มั่นคง - [ 21 ธ.ค. 49 22:10:06 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ระยะทางพิสูจน์ ม้า กาลเวลาพิสูจนื คน จะรอชม ละคร เรื่องนี้ อย่างใจจด ใจจ่อ จากคุณ : สกรูเหลี่ยม - [ 21 ธ.ค. 49 22:33:01 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เอางี้และกัน ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน จินตนาการมีก็ดีแต่ต้องดูความจริงด้วย ลองเปรียบเทียบดูผลงานที่ผ่านมาของใครมีอย่างไร ใครทำผลงานดีๆ แต่ โดนจินตนาการทำซะเสียไปแล้ว แต่ใครที่จินตนาการดูดีแต่ทำผลงานแย่ไปแล้ว คิดว่าทุกคนมีความคิดเป็นของตนเองแต่อยากให้ อย่าลืมหันมามองความจริงกันนะครับ อ่อ ส่วนตัวผมคิดว่าระยะ กลางขึ้นไป ตลาดน่าจะดีได้เพราะของถูกยังไงก็มีคนอยากซื้อ แต่ความเสี่ยงต้องลดลงกว่านี้ก่อนโดยเฉพาะการเมือง ถูกจนคุ้มที่จะเสี่ยงเมื่อไรคงได้ยิ้มกัน อ่อบริหารประเทศนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องดูหลายด้าน ยากที่สุดคือการเลือกคนที่จะใช้งาน ใช้งานใครเขาก็อยากได้ค่าเหนื่อยทั้งนั้น ไม่คุ้มเขาก็ไม่อยากทำงานให้ เรายังอยากได้เงินเดือนขึ้นเลย แถมโบนัสด้วย แต่มันอยู่ที่ว่าสิ่งที่ได้มาคุ้มกับสิ่งที่เสียไปหรือไม่ สรุปว่าเอาแบบ win win และกัน ประเทศเจริญ คนทำงานให้ก็เจริญ คุณภาพชีวิตประชาชนก็เจริญ ... จากคุณ : win win - [ 21 ธ.ค. 49 22:53:30 A:203.150.85.44 X: TicketID:134681 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณสาวลาวบ่าวไทยลบประทู้ตัวเอง เพราะผู้ใหญ่ขอร้อง หรือเพราะกลัวเขาจะจับผิดกันได้กันแน่ครับ ที่น่าแปลกก็คือดันมีคนเชื่อ แล้วคนที่เชื่อก็น่าจะเป็นคนที่มีปัญญาพอสมควร แต่ดันคิดว่าเป็นไปได้ อคติมันบดบังสติมากจริงๆ จากคุณ : I_Feel_Control - [ 22 ธ.ค. 49 00:37:26 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เป็นกท ที่น่าอ่าน สร้างสรรค์ดี ขอร่วมแจมครับ ลองวิเคราะห์แบบงูปลาแล้วกัน 1. ดอลล่าร์ ยังอ่อนไปเรื่อยๆ จนเลือกตั้งประธานาธิบดี ต้องลดการขาดดุลแบบประวัติศาสตร์อยู่ ไม่งั้นเสียฐานเสียง 2. น้ำมัน คอมมอดดิตี้ หวังว่า คงไม่ขยับขึ้นอีก ก็ได้แต่หวัง แต่ระยะยาว อย่างไรก็ต้องแพงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นมาก จากจีน และประเทศอื่นๆ คอมมอดดิตี้ พวกสินค้าเกษตร คาดว่า สูงขึ้นระยะยาว เหมือนกันเนื่องจากผลกระทบโลกร้อน แต่ไม่วิ่งเหมือนตอนเฮดจ์ฟัน เพิ่มพอร์ตลงทุนในตลาดล่วงหน้าเหมือนที่ผ่านมา 3. จีน อินเดีย เดี๋ยวก็รู้กันว่า ยังงัย มีคนวิเคราะห์ว่า ฝรั่งต้องการทำจีนแตกเป็นสามส่วน ต้นทุนจีนสูงขึ้นเรื่อยๆ หุ้นจีนเริ่มเป็นสบู่ การผลิตเริ่มขยายไปเวียดนาม อินเดีย เพิ่งอ่านมาว่า ตอนนี้ ถ้าเอ้าซอสเรื่องโปรแกรม ให้ไป ปาร์ก ถูกกว่า อินเดียอีก แล้ว จีดีพี ของอินเดีย ก็โตไวมาก ไม่ถูกเท่าไหร่แล้ว 4. เงินเฟ้อไทย ขึ้นกับน้ำมัน ประเทศเล็ก อย่าไปหวังเรื่องควบคุมมาก กลไกตลาดโลกน้ำหนักเยอะกว่า แถมไม่มีแหล่งพลังงานของตัวเอง เศร้าที่ประเทศเพื่อนบ้านพบแหล่งพลังงาน ยิ่งใหญ่มาก แต่ไทย ไม่มีข่าวดี ที่สำคัญ เค้าจับมือกัน ทิ้งไทยอีก 5. ดอกเบี้ย ถ้าเงินเฟ้อไม่พุ่งอีก ธปท น่าจะกลับไปใช้ นโยบายดอกเบี้ย ช่วยเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน กับเศรษฐกิจได้ ไม่โดนค้ำคอเหมือนรอบที่ผ่านมา 6. กระแสเงิน เงินไหลไปมา ที่ๆ เสรี ไปทำคอขอด ไม่มีใครอยากเข้ามา โลกยุคนี้ ต้องรับให้ได้ เรื่องเงิน เก็งกำไร ไม่ใช่จีนนี่เค้าจะได้มาลงทุนระยะยาว 7. อัตราแลกเปลี่ยน แข็งๆๆ แล้วแตกเนื่องจากส่งออกลำบาก ถ้าไม่มีนโยบายดอกเบี้ยช่วย คุมไม่ได้มากถ้าจีนไม่ปล่อยหยวน เป็นสงครามระหว่างจีน กะ อเมริกา ไทยนั่งดูอยู่ไกลๆ ได้แค่เฮ หรือ ร้องไห้ หุ้นไทย คิดกันเองครับ จากคุณ : th_sme - [ 22 ธ.ค. 49 02:19:26 A:64.83.217.242 X: TicketID:031165 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมมีข้อสงสัยข้อนึงเกี้ยวกับนโยบายเงินบาทครับ ถ้าเข้าใจไม่ผิด ตอนนี้อัตราเงินเฟ้อค่อนข้างสูง ทำให้ แบงค์ชาติไม่ยอมประกาศลดดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นการแข็งตัวของเงินบาท แต่ผมไม่แน่ใจว่าตรรกะนี้ถูกต้องนะครับ ถ้าเงินบาทแข็ง เราก็สามารถนำเข้าพลังงานได้ถูกลง ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจก็จะลดลง ราคาสินค้าก็จะลดลง ไม่ใช่หรือครับ แล้ว ถ้าแบงค์ชาติประกาศลดดอกเบี้ยจริงๆ เงินบาทก็จะอ่อนลง แต่ต้นทุนทางธุรกิจจำพวกเงินกู้ก็จะลดลงด้วย แล้วมันจะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเพราะเหตุใด คือพิจารณาดูแล้ว ผมไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดแบงค์ชาติจึงเลือกใช้มาตราการอื่นที่เมื่อเราพิจารณาแล้วเป็นไปได้ว่าจะมีผลกระทบมากกว่า งงจริงๆครับ ท่านผู้รู้ช่วยอธิบายหน่อย จากคุณ : บอสคุง (BosskunG) - [ 22 ธ.ค. 49 09:42:06 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เป็นไปได้ไหมครับว่า...กองทุนเก็งกำไรค่าเงิน ค่อยๆทยอยขนเงินกลับบ้าน เห็นข่าว นสพ.เคยลงข่าวไว้ว่า เงินฝรั่งที่เข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาทมีอยู่ประมาณ 600,000 - 700,000 ล้านบาท...ถ้าเงินไหลออก ทุนสำรองระหว่างประเทศลดลง ค่าเงินบาทอ่อนตัวเมื่อเทียบดอลล่าห์ สภาพคล่องภายในตึงตัว ดอกเบี้ยไม่ลง หุ้นขึ้นเป็นตัวๆไป แต่ SET Index ลงต่อ ...คิดเล่นๆครับ... จากคุณ : Seaview - [ 22 ธ.ค. 49 09:48:24 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณครับ จากคุณ : Mr.DogGie - [ 22 ธ.ค. 49 10:58:06 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ข้อมูลเป็นประโยชน์ดีครับ แต่หวังว่าปีหน้ารัฐบาลคงไม่เล่นอะไรพิเรน อีกนะ จากคุณ : เทพเมฆา - [ 22 ธ.ค. 49 13:49:21 ]

ความคิดเห็นที่ 42 นอกจากเงิน $us ที่หลั่งเทมาหากำไรทางตะวันออกนอกเหนือจากป่วนตลาดคอมเมอร์ดิตี้น้ำมันทองคำ หุ้น_พันธบัตรตลาดเงินฯลฯ ปัจจัยภายในของไทยเราเองก็ไม่เข้มแข็งพอ...ปริมาณเงินบาทก็ไม่หมุนเวียนพอที่จะดูดรับทำประโยชน์ในภาคการผลิต-ลงทุนได้เต็มที่ กลับมาเก็งกำไรในตลาดเงิน และตลาดหุ้นนะ...แสดงถึงประสิทธิภาพที่อ่อนแอของไทยเราเอง... จากคุณ : แพะโง่... (แพะโง่) - [ 22 ธ.ค. 49 15:01:10 ]