ไม่โต้ก็เสียค่าโง่อีก
21 ธันวาคม 2549 น.
แม้จะกอบกู้เสถียรภาพของตลาดหุ้นกลับคืนมาได้ ประเทศไทยต้องเสียค่าโง่ให้คนมีเล่ห์เหลี่ยมด้านการเงิน การซื้อขายหุ้น โดยใช้กองทุน หนุนด้วยทรัพย์สินมหาศาลสร้างความปั่นป่วนหวังให้ไทยเผชิญวิกฤติ
เอาเงินมหาศาลซึ่งได้โกงจากชาติไป ย้อนกลับมาเก็งกำไรค่าเงินและทุบตลาดหุ้น หวังทำลายชาติ ให้สาสมกับความแค้นสุมอก
ในรอบ100 ปี เราหวังว่าแผ่นดินไทยจะมีคนแบบนี้คนเดียว...!!!
ยุโรปเจอฮิตเลอร์คนเดียว ต้องพินาศไปเกือบทั้งโลก! แต่นั่นเป็นสงครามต่อสู้ด้วยอาวุธ สงครามยุคใหม่ใช้ทั้งเงิน และผลด้านจิตวิทยา
มาตรการเข้มที่ "หม่อมอุ๋ย" ให้สกัดการเก็งกำไรค่าเงินบาท แล้วส่งผลวินาศสันตะโรนั้น คนวงในรู้ดีว่าเป็นการฉกฉวยจังหวะทุกระยะ
เก็งกำไรค่าเงินบาท เมื่อมีมาตรการออกมาแล้ว ก็ตามต่อด้วยการทุบหุ้นแล้วช้อนเก็บ หวังกำไรอีกรอบ เพราะเชื่อว่า ต้องถูกปรับเปลี่ยน
เป็นการประสานพลังเงินระหว่างฝรั่งหัวแดง กับฝรั่งเทียมหัวดำ ตาตี่แฝงเหลี่ยมโหด กะเล่นงานประเทศไทยให้ย่อยยับเป็นซากเศรษฐกิจ
"หม่อมอุ๋ย" แทบเสียผู้ เสียคน รู้ว่าข้อมูลเป็นอย่างไร ใครเป็นตัวการใหญ่อยู่เบื้องหลัง แต่ก็เปิดปากบอกให้ชาวบ้านรับรู้ไม่ได้
ถ้าสังเกตให้ดี จะเห็นการซื้อหุ้น ขายหุ้นแบบชอร์ตเซลล่วงหน้า พร้อมกับการเก็งกำไรค่าเงินควบคู่กัน มีการตุนทั้งเงินดอลลาร์และเงินบาท จะเป็นการโจมตีผสานกำลังกับกองทุนในสิงคโปร์และฮ่องกง
การเทขายในราคาต่ำ เป็นจังหวะและระบบ สร้างความตื่นตระหนกให้แมลงเม่า แต่พวกเดียวกันเข้าไปช้อนซื้อเก็บไว้ รอกำไรรอบใหม่
ผลของการเสียท่า ตั้งรับไม่ทัน ทำให้ "หม่อมอุ๋ย" โดนยำเละ โดยนักค้าหุ้น แม้จะมีเสียงเชียร์จากนายแบงก์ แต่ความเสียหายมากเกินไป
ยังดีที่การผ่อนปรนทำให้ตลาดหุ้นฟื้นทันตา ดัชนีเด้งกลับคืนมา 69.41จุด ปิดที่ 691.55 จุด มูลค่าซื้อขายสูง 55,217 หมื่นล้านบาท ต้องใช้เวลาอีก 2-3 ยกก่อนจะเข้าสู่ระดับเดิม
แต่พวกพกเหลี่ยมไว้ในความคิดได้ฉลองชัยชนะไปแล้ว พร้อมกับกำไรก้อนงามจากหุ้นและการค้าเงิน เมื่อชนะได้ ก็ต้องย่ามใจ
"หม่อมอุ๋ย" ต้องระวังการโจมตีระลอกใหม่!
"พรานข่าว" บอกตรงๆ ว่าถ้าขืนงอมืองอเท้ารอแบบนี้ มีหวังโดนถล่มหนักกว่าเดิม เมื่อนักค้าหุ้นตุนเงินกำไร มีกองทุนก้อนใหญ่กว่าเดิม
ถึงเวลาที่ คมช. และรัฐบาลต้องใช้มาตรการตอบโต้เฉียบพลัน!
ประการแรกเรียกตัวรัฐมนตรีต่างประเทศ และปลัดฯ ไปหา แล้วสั่งทันทีให้ยกเลิกหนังสือปกแดงของคนมีเหลี่ยม จะออกให้กี่เล่ม ก็ต้องเลิกให้หมด แล้วถามด้วยว่ายอมให้ถือหลายเล่มได้อย่างไร
เลิกพาสปอร์ตปกแดงได้ ก็เหมือนนกโดนเด็ดปีก!
ให้เจ้าตัวไปดิ้นรนขอหนังสือเดินทางแบบบุคคลธรรมดาเอาเอง จะเป็นสถานทูตไทยประเทศใด ก็สุดแล้วแต่ จะออกให้พร้อมเงื่อนไขก็ได้
ถ้ายังไม่ทำ ปล่อยให้ถือหนังสือเดินทางปกแดง ก็จะยังคอยแผลงฤทธิ์ไม่ยอมเลิก ทุกวันนี้ไม่เคยคิดห่วงชาติบ้านเมืองอยู่แล้ว
คนเคยร่ำรวย กอบโกยด้วยการค้าเงินบาท ใช้ข้อมูลภายใน มีความสุขอยู่บนกองทุกข์ของเพื่อนร่วมแผ่นดิน มีหรือจะห่วงชาติ...??
ถ้ารัฐมนตรีต่างประเทศไม่ทำ หรือปลัดฯ ทำอิดออด จัดการสั่งปลดได้เลย จะเก็บไว้ให้เป็นหอกข้างแคร่หาพระแสงอันใดไม่ทราบ
ความเสียหายต่อบ้านเมืองมีมากกว่า 8 แสนล้านบาท นั่นเป็นเงิน หาคืนได้...แต่ความน่าเชื่อถือ เกียรติภูมิของประเทศ ต้องรักษา
ใครมุ่งร้ายต่อชาติบ้านเมือง แล้วเรายังไม่ทำอะไร ไม่ตอบโต้ จะให้เข้าใจว่าอย่างไร มีใครสมรู้ร่วมคิด ได้แบ่งปันผลกำไรจากการทำศึกค่าเงินและการทุบตลาดหุ้นเช่นนั้นหรือ
การยกเลิกหนังสือเดินทางปกแดง ซึ่งควรทำนานแล้ว จะเป็นการจำกัดความเคลื่อนไหว ไปไหนไม่สะดวก แม้จะหาแหล่งลี้ภัยในประเทศไหนก็ยาก
ถ้าไม่ทำ ต้องมีคำอธิบายว่าทำไม!
ยิ่งมีคดีติดตัว เป็นอาชญากรข้ามชาติ แปรสภาพจากผู้ลี้ภัยการเมืองเป็นผู้ถูกออกหมายจับด้วยแล้ว ก็จะช่วยได้เยอะ
มาถึงตอนนี้ คตส. ป.ป.ช. และหน่วยงานอื่นๆ ต้องเร่งมือ สร้างชนักปักหลังให้ได้ ถ้ายังงุ่มง่ามไม่ทันใจ ประเทศไทยต้องโดนถล่มอีกรอบ
อย่าให้ความกลัวของคนในกระทรวงการต่างประเทศเป็นต้นเหตุทำให้เราต้องเผชิญวิกฤติร้ายแรงอีกรอบก็แล้วกัน!
จากคุณ :
bleed 
- [
24 ธ.ค. 49 11:20:36
]
ลับสุดยอด จากกรุงเทพธุรกิจ
