ความคิดเห็นที่ 7
5 ปีผ่านไป หรือ 22 ปีที่แล้ว หลังจากพ่อแม่ตาย ดิฉันก็สั่งปิดบชที่ฮ่องกง โอนให้น้องสาวเป็น US$ ที่สิงคโปร์ สั่งปิดบช ที่ต่างจังหวัดอังกฤษ โอนเงินกลับไทยเป็นเงินบาท ให้น้องชาย ทั้งที่ตอนนั้น แค่ 34 บาทต่อ 1 ปอนด์ เพราะโดนโจมตีจนมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง
และเป็นเหตุให้เงินบาทไทย ซึ่งผูกติดกับ US$ แข็งค่ามากจนเกินจริง ซึ่งย่อมหมายรวมถึงเงินอินโด และฟิลิปปินส์น้องสาวอยู่อินโดนีเซีย ดิฉันจึงไม่ต้องการให้ถือเงินอินโด ซึ่งตอนนั้น 1000 Rupiah Indo = 1 US$
เงินที่คนไทยนำเข้ามาในประเทศไทย ต้องนำมาซื้อบาท ไม่มีสิทธิ์ฝากเป็น foreign currencies ทั้งที่สกุลเงินปอนด์ ให้ดอกเบี้ยสูงสุด แต่เราถูกปิดกั้นโอกาส
โอกาสมีไว้ให้ต่างชาติเท่านั้น ไม่ยุติธรรมเลย
ต่อมาก็ทันสมัยขึ้นนิดหน่อย ถอนต่างสาขาได้ ดิฉันก็ถอนออก เหลือพอไม่ให้ติดกฎหักเงิน แต่ตอนนี้ โดนหักไปหมดและบัญชีก็เลยปิดไปเองโดยไม่ต้องสั่ง
30 ปี โบยบินไปอย่างรวดเร็ว ระบบธนาคารที่อังกฤษ ไปสุดกู่แล้ว One stop service, prompt action and response ทั้งทางไปรษณีย์, ทาง emails และ ทาง telephone
แผนก private banking, investment, stocks, funds, พนักงานโทรหาลูกค้าข้ามประเทศ discuss ถึงความต้องการ การโยก accounts, ถอน โอนและปิด สั่งจ่าย ออก draft ไปให้ใครก็ได้ จะไปที่ใดในโลก เงินสกุลไหน แค่สั่ง online หรือโทรสั่ง พริบตาเดียว
แต่ธนาคารไทย ยังคลานเป็นเต่าอยู่เหมือนเดิม เห็นส่งมาบอกเรื่องตราสารหนี้ พอไปธนาคาร ได้คิวที่ 4 ต่อจากคนที่นั่งอยู่ก่อน ก็รอตั้งแต่บ่าย 1 จนธนาคารปิด
รวมทั้งการทำงานของโบรกบางแห่งด้วย เช่น ขอเปิด บช TFEX ตั้งแต่วันที่ 25 พย มีปัญหานู่นนี่ ช่วงวันที่ 13 14 15 ธันวาคม วิ่งไปทุกวัน จะ short เพราะขายหุ้นหมดแล้วจนยันธนาคารปิดวันที่ 18 ทำไม่ทัน
กำไร short 200% หายไปในพริบตา
เอาเถอะ Banks ไทย แค่ไม่เจ๊ง ก็บุญแล้ว และเราก็ไม่มีทางเลือก เพราะเรายังคงต้องใช้บริการอยู่ดี
จากคุณ :
prettypetite
- [
24 ธ.ค. 49 16:22:13
]
|
|
|