ถ้าพูดถึงระเบิดลูกแรกที่ได้ระเบิดไป ก็คือเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่ง นำมาสู่ นโยบายบันลือโลก 30%สำรองไว้ หรือเรียกตามหลักสากลว่าเลียนแบบมาจาก tobin tax
ปัญหานี้ถ้าเอาจริงๆ ผิดพลาดมาจากอะไร หลายคนพูดได้ว่า เป็นเพราะ bot ดำเนินนโยบายผิดพลาดอันนี้ เห็นภาพออกมาได้ชัดเจน แต่ถ้าดูระเบิดลูกนี้ก่อขึ้นมาได้อย่างไร
ต้องยอมรับเลยว่า เศรษฐกิจประเทศไทยเราตอนนี้ เป็นเศรษฐกิจที่ อิงกับ GDP มากจนเกินไป แม้นว่า รัฐบาลบอกจะไม่เน้น แต่กับการที่ออกมาพูดถึง GDP จะเติบโตในระดับ 4-5% จนทำให้ต้องมาเน้นเรื่องการส่งออกต่อเนื่อง นี่ก็ยิ่งเป็นการสะสมดินปืนให้ระเบิดลูกนี้รุนแรงมากยิ่งขึ้น แต่ก่อนอื่น อยากจะบอกว่า ปัญหาการที่ เศรษฐกิจบ้านเราอิงกับการส่งออกมากจนเกินไป คุณเห็นด้วยไหมว่านี่ก็เป็นส่วนในการสร้างปัญหา จนเป็นเหตุให้ต้องเกิดการแทรกแซง
ทีนี้ลองมาดูว่า การที่ bot ทำการแทรกแซงเรื่อยมา ต้องมาเริ่มเลยว่า bot แทรกแซงตั่งแต่ช่วงใด หลายคนยอมรับได้ไหมว่า bot แทรกแซงค่าเงินตั่งแต่ เดือน ตุลาคม ปีก่อน แล้วยิ่งรุนแรงช่วงปลายปีก่อน ซึ่งค่าเงินบาทได้เริ่มทวีความรุนแรงของการเก็งกำไรค่าเงินขึ้น (ใครเคยได้อ่าน คุยกับผม j_abac ในปลายปีก่อนยังจำได้ไหม ผมยังบอกเลยว่านี่เป็นการเก็งกำไรค่าเงินเกิดขึ้นแล้ว) การเก็งกำไรค่าเงินครั้งนี้ เกิดเพราะ speculation เรื่อง deal หุ้น shin ซึ่งนำมาสู่วิกฤติการเงิน ซึ่ง bot เข้าไปแทรกแซง จนทำให้ ยอดสะสมขาดทุนไปแล้วเป็นเงินจำนวนมาก ซึ่งอาจจะมากพอที่จะเป็นงบประมาณพัฒนาประเทศได้เลย แล้วถามว่าทำไมท่านไม่ด่าอ่ะครับ กับการที่รัฐบาลชุดก่อนพยายามของให้ bot แทรกแซงค่าเงิน
แล้วขอถามว่า เป็นเพราะดอกเบี้ยหรือไม่ที่ทำให้ค่าเงินเราแข็งกว่าประเทศอื่นในเอเชีย แต่จริงๆแล้ว ประเทศอื่นในเอเชีย ส่วนใหญ่ใช้ระบบ basket มากกว่าที่จะ ปล่อยลอยตัวเสรีแบบบ้านเรา ผมไม่อยากอธิบายมากนักว่า ปัญหาค่าเงินบาทสมัยก่อน ไม่ใช่เพราะ basket แต่เป็นเพราะ bot แทรกแซง swap นี่แหละเลยทำให้พัง สิงคโปร์ใช้ระบบ basket ในการยืดหยุ่นไม่ให้ค่าเงินแข็งหรืออ่อนเร็วเกินไปเมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้า เริ่มใช้ในปี 2004 ทำไมไม่มีใครด่า ส่วนจีน เพิ่มเปลี่ยนมาใช้ basket peg กับ ค่าเงิน usd แบบค่อยๆแข็งตัว อินโดนีเซีย มีกฏRESTRICT เรื่องค่าเงินออกมาเยอะมาก ใน2ปีก่อนจำได้ไหมครับ ช่วงหลัง picni panic ตอนนั้น ตลาดอินโดนีเซีย ร่วงลงมา 200 กว่าจุด เพราะเรื่อง restrict นี่แหละ ถึงขนาดbank indonesia (แบงค์ชาติของเค้า)ประกาศ ลดปริมาณการรับแลกเงินดอลล่าลง รวมไปถึง การตัด offshore ออกไปส่งผลให้นักลงทุน ต่างประเทศ panic ขายเป็นแถว แต่กลับเป็นกองทุนในประเทศอินโดนีเซีย ที่ทำการเข้าซื้อ เพราะเนื่องจาก บริษัทในประเทศเค้ามีอัตราตอบแทนที่ยังดีอยู่
ปัญหาเศรษฐกิจ อันต่อมา คือการใช้จ่ายจะเริ่มอ่อนตัวลงอย่างแน่นอน เพราะความไม่ไว้ใจต่อภาวะเศรษฐกิจ แต่อันนี้เกิดในภาวะที่ คนไทยจำนวนมากยังเป็นหนี้อยู่มาก ซึ่งอาจจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงได้อีกในอนาคต เชื่อผมเหอะ ปัญหาหนี้อ่ะ จะกระทบรุนแรงต่อมาแน่นอน การใช้จ่ายจะยิ่งลดลง (ผมเคยได้เตือนเรื่องนี้มาแล้วตั่งแต่ปีก่อน ผมหวังว่า คนในสินธรยังคงจำได้ดีนะครับ)
จริงๆการใช้หนี้ ก็มิใช่เรื่องแย่เสมอไป แต่หากกว่ามีผลตอบแทนมากกว่า ต้นทุนของหนี้ มาพูดถึงปัญหาหนี้ในประเทศไทย ถ้าผมจะพูดว่า ปัญหาหนี้ประเทศไทย เหมือนเส้นที่ผูกกัน หากจะล้ม ก็คงจะพังทั้งระบบ หนี้ของรัฐในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นหนี้ในประเทศนะครับ ส่งผลให้เกิดปัญหาสภาวะฝืดเคืองได้ เพราะเหมือนการพยายามสร้างภาพ ว่า เราไม่มีหนี้ต่างประเทศนั้นเป็นภาพที่ดี แต่ความยืดหยุ่นนั้นกลับยิ่งต่ำ
แต่ผมอยากจะบอกว่า ปัญหาที่สำคัญ คือการที่รัฐไม่ได้ออกมาบอกความเป็นจริง ปัญหาสำคัญยิ่งที่คนไทยควรจะรับรู้ มิใช่ใช้อีโก้ว่าตัวเองแก้ไขปัญหาได้ เพราะมันจะยิ่งทำให้ปัญหานั้นทวีความรุนแรงมากขึ้นต่างหาก เพราะการที่รัฐชี้นำในสิ่งผิดๆ จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจประเทศไทยพังลงเรื่อยๆไป
และผมขอร้องครับ อย่าเก่งแต่ด่าคนอื่น ด่าตัวเองด้วยเช่นกันว่า ทำไมไม่มีความพร้อมรับมือกับปัญหา เศรษฐกิจแย่ยังไง แต่กิจการการค้าของผมยังคงโอเคครับ แต่ต้องแลกมากับการเหนื่อยมากขึ้น ยอมรับ margin ลดลงมากครับ แต่ก็ดีกว่าที่เราไม่ปรับตัวอะไรเลยในภาวะเช่นนี้
คนไทยจะดีได้ ถ้ารู้จักบริหารตัวเองให้ดีก่อน ที่จะรอความหวังจากอื่นใด
และอยากจะบอกครับ ไม่มีทักษิณ เราก็ต้องอยู่ให้ได้ ไม่ใช่เอะอะ อะไรก็บอกว่านโยบายนี้ดี ในปี 2003 ถือเป็นปีที่ peak ยิ่งแต่ในปี 2004 กลับ drop ลง และdropลงเรื่อยๆมา ทั่งที่ยังไม่เกิดปัญหาการเมืองขึ้น พอยิ่งมีการเมือง ภาพเลยยิ่งออกไปเพราะปัญหาการเมือง แต่ถ้าผมบอกว่า ถ้าระบบเศรษฐกิจที่ดีจริง ไม่ว่าเกิดปัญหาอะไร ปัญหาจะไม่รุนแรง และไม่ร้ายแรงมากนัก อยากให้ดูตัวอย่างง่ายๆครับ ประเทศมาเลเซีย และประเทศสิงคโปร์ เป็นตัวอย่างที่ดี
ถ้าบอกว่า เป็นเพราะประเทศเค้ามีการเมืองที่แข็งแกร่ง ก็ต้องยอมรับ แต่ถ้าวันนั้น ทักษิณ ยอมให้อภิปราย ไว้วันนึง ผมว่าเรื่องเลวร้ายก็คงไม่เกิดขึ้นหรอกครับ (ผมเคยได้บอกไปแล้ว ว่าถ้าท่านเป็นประชาธิปไตยจริง ท่านต้องยอมให้มีการ ซักถามท่านในสภา แม้ว่า ท่านมีสิทธิตาม รธน. ที่ได้ระบุไว้ แต่เพื่อความเป็นประชาธิปไตยที่ดี ท่านควรที่จะผ่อนผันตัวเอง แล้วขึ้นซักฟอกถาม ซึ่งจะทำให้แรงกดดันมวลชนท่านลดลง) และการเมืองจะเข้มแข็งได้อยู่ที่ การบริสุทธิ์ใจครับ เพราะปัญหาต่างๆก็เกิดต่อเนื่องเรื่อยมา แต่ยอมรับ ว่าท่านก็มีความเก่งในการบริหารระดับหนึ่ง
ถ้าใครอยากจะด่าอะไรผมก็ด่าได้เลยครับ เพราะผมก็รู้สึกเบื่อหน่ายลงทุกวัน และขอถามว่าที่ผมพูดไม่จริงตรงไหนบ้าง โปรดใช้ความรู้สึกเข้าใจอย่างชัดเจนด้วยครับ
จากคุณ :
j_abac 
- [
5 ม.ค. 50 20:35:22
]
ปัญหาเศรษฐกิจ ที่ยากลำบากยิ่งของประเทศชาติ
