ความคิดเห็นที่ 1 ระบบคอมพิวเตอร์ ของ set จะทำการคำนวณราคา Pre-Close เป็นช่วง ๆ ครับ ประมาณว่า 5 - 10 วินาที จะคำนวณครั้งหนึ่ง ในระหว่าง Call Market แต่ก่อนจะเปลี่ยนจาก Call Market ไป Run-Off นั้น ระบบจะเลิกคำนวณ Pre-Close แล้วไปคำนวณราคาปิดจริง ด้วยปริมาณหุ้น และราคา ที่เสนอซื้อ ขายตอน Call Market ดังนั้น ช่วงสั้น ๆ 5 - 10 วินาทีสุดท้าย ก่อน Run-Off หากมีคนตั้ง ซื้อหรือขายเพิ่ม จะไม่ถูกนำมาคำนวณครับ  จึงอาจทำให้ค่าที่แสดง Pre-Close กับ ราคาปิด ไม่ตรงกัน ซึ่งกรณีนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ กับหุ้นที่มีการ active มากๆ ตอน Call Market ครับ จากคุณ : Net User - [ 15 ม.ค. 50 18:06:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณมาก ครับ ถ้ายังไงช่วยอธิบายเกี่ยวกับตอนคำนวณราคาตอน ATO/ATC ด้วยได้ไหมครับ ยังสงสัยอยู่ จากคุณ : mde40313 - [ 15 ม.ค. 50 19:21:07 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขั้นแรก จะอธิบาย เบื้องต้นก่อนครับ ราคา ATO คือการตั้งซื้อที่ราคา Ceiling หรือขายที่ราคา Floor ในช่วง Pre-Open ทั้งรอบ เช้า-บ่าย ราคา ATC คือการตั้งซื้อที่ราคา Ceiling หรือขายที่ราคา Floor ในช่วง Call Market เมื่อดูจากนิยามแล้ว ก็เหมือนกับเราตั้งซื้อที่ราคาสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ของหุ้นตัวนั้น และขายที่ราคาต่ำสุดที่จะเป็นไปได้ นั่นหมายความว่า "ไม่ว่าราคาสูงแค่ไหน ก็จะซื้อให้ได้" (แต่ไม่สูงกว่า Ceiling) และ "ไม่ว่าราคาจะต่ำแค่ไหน ก็จะขายให้หมด" (แต่ไม่ต่ำกว่า Floor) ซึ่งโดยรวมก็คือ ทำยังไงก็ได้ ให้ซื้อ หรือขาย ได้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ หรือทำการ match ให้ได้มากที่สุดนั้นเอง แต่ไม่ได้หมายความว่า ATO/ATC จะต้องขายได้ทั้งหมด ยกตัวอย่างที่ 1 : ราคาสุดท้ายก่อน Call Market : 5.00 ฝั่ง Bid                        ฝั่ง Offer ATC   500000          ATC   1000000 4.98    100000          5.00      200000 4.96  1000000          5.05      100000 4.94  2500000          5.10      100000 จากตัวอย่างนี้ พบว่า มีคนต้องการขาย 1000000 หุ้น ณ เวลาปิด มีคนต้องการซื้อ 500000 หุ้น ณ ราคาปิด เมือหักลบกัน จะได้ว่า ยังคงมีความต้องการขาย มากกว่าอยู่ 500000 หุ้น  ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบช่อง bid ที่ต่ำลงมา (4.98)ซึ่งมีเพียง 100000 หุ้น  ยังเหลือที่ต้องการขาย อีก 400000 หุ้น เมื่อดูช่อง bid ถัดลงมา (4.96) มีจำนวน 1000000 หุ้น ซึ่งเพียงพอที่จะขายได้ทั้งหมด ดังนั้นราคาปิดคือ 4.96 โดยมีรายละเอียดดังนี้ - ผู้ที่ตั้ง Offer ที่ ATC จะขายได้ในราคา 4.96 - ผู้ที่ Bid ที่ ATC จะ ซื้อได้ในราคา 4.96 - ผู้ที่ Bid ที่ราคา 4.98 จะซื้อได้ในราคา 4.96 ทั้ง 100000 หุ้น - ผู้ที่ Bid ที่ราคา 4.96 จะซื้อได้ในราคา 4.96 จำนวน 400000 หุ้น  และไม่สามารถซื้อได้ อีก 600000 หุ้น  โดยผู้ที่ซื้อได้ 400000 หุ้นนี้ จะเป็นผู้ที่วาง bid ที่ 4.96 ก่อน - ราคาที่ไม่ได้กล่าวถึง คือ ไม่ได้เกิดการซื้อขายกัน ---------------------------------------------------------------------- มาดูอีกตัวอย่างหนึ่ง เปลี่ยนตัวเลขนิดหน่อยครับ ยกตัวอย่างที่ 2 : ราคาสุดท้ายก่อน Call Market : 5.00 ฝั่ง Bid                        ฝั่ง Offer ATC 1500000          ATC   1000000 4.98    100000          5.00      200000 4.96  1000000          5.05      100000 4.94  2500000          5.10      600000 จากตัวอย่างนี้ พบว่า มีคนต้องการซื้อ 1500000 หุ้น ณ เวลาปิด มีคนต้องการขาย 1000000 หุ้น ณ ราคาปิด เมือหักลบกัน จะได้ว่า ยังคงมีความต้องการซื้อ มากกว่าอยู่ 500000 หุ้น  ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบช่อง offer ที่สูงขึ้นมา (5.00)ซึ่งมีเพียง 200000 หุ้น  ยังเหลือที่ต้องการซื้อ อีก 300000 หุ้น เมื่อดูช่อง offer ถัดมา (5.05) มีจำนวน 100000 หุ้น ซึ่งยังคงเหลือที่ต้องซื้อให้ได้อีก 200000 หุ้น จึงดูช่องถัดไปคือ offer 5.10 ซึ่งมี 600000 หุ้น ทำให้สามารถซื้อได้ครบ ดังนั้นราคาปิดคือ 5.10 โดยมีรายละเอียดดังนี้ - ผู้ที่ตั้ง Offer ที่ ATC จะขายได้ในราคา 5.10 - ผู้ที่ Bid ที่ ATC จะ ซื้อได้ในราคา 5.10 - ผู้ที่ Offer ที่ราคา 5.00 จะขายได้ในราคา 5.10 ทั้ง 200000 หุ้น - ผู้ที่ Offer ที่ราคา 5.05 จะขายได้ในราคา 5.10 จำนวน 100000 หุ้น - ผู้ที่ Offer ที่ราคา 5.10 จะขายได้ในราคา 5.10 จำนวน 200000 หุ้น และไม่สามารถขายได้ อีก 400000 หุ้น  โดยผู้ที่ขายได้ 200000 หุ้นนี้ จะเป็นผู้ที่วาง offer ที่ 5.10 ก่อน - ราคาที่ไม่ได้กล่าวถึง คือ ไม่ได้เกิดการซื้อขายกัน ---------------------------------------------------------------------- ยกตัวอย่างที่ 3 : ราคาสุดท้ายก่อน Call Market : 5.00 ฝั่ง Bid                        ฝั่ง Offer ATC     10000          ATC   1000000 4.80    100000          4.80      200000 0.00                0          5.05      100000 0.00                0          5.10      600000 กรณีนี้ราคาปิดคือ 4.80 โดยผู้ตั้ง Bid ที่ ATC ขายได้ราคา 4.80 ทั้งหมด และผู้ตั้ง Bid ที่ราคา 4.80 ก็ขายได้ทั้งหมด ที่ 4.80 เช่นกัน ส่วนผู้ Offer ที่ ATC ขายได้เพียง 110000 หุ้นเท่านั้น ยังคงเหลือ 890000  และผู้ Offer ที่ 4.80 ไม่สามารถขายได้เลย ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะว่า ราคาที่ ATO/ATC มีลำดับความสำคัญในการจับคู่สูงกว่าราคาอื่น ๆ เสมอ ---------------------------------------------------------------------- ในทำนองเดียวกันครับ ATO ก็ใช้วิธีคำนวณแบบนี้เช่นกันครับ ---------------------------------------------------------------------- ผมพอจะยกตัวอย่างได้เพียงเท่านี้ครับ  อาจจะไม่ค่อย clear เท่าไหร่ครับ จากคุณ : Net User - [ 15 ม.ค. 50 21:28:17 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ^ ^ ^ โห! ผู้รู้จริงเรื่องระบบคอมพิวเตอร์ของตลาดหลักทรัพย์ [^_^] อ่านแล้วยังงงๆ แต่จะพยายามหาข้อมูลจากแหล่งอื่นเพิ่มเติมครับ จากคุณ : ตกขอบ - [ 16 ม.ค. 50 10:01:56 ]

ความคิดเห็นที่ 5 Thanks K Net User very much ka จากคุณ : nijja - [ 16 ม.ค. 50 11:42:02 ]