ความคิดเห็นที่ 1 ตามเทคนิคอาจมีเด้งขึ้นนะครับ แต่ต้องดูตลาดประกอบด้วย หากตลาดยังขึ้นต่อเนื่องอาจได้เห็นแถวๆ 4.88-4.92 แต่ตอนนี้สภาพตลาดยังมีโอกาสปรับตัวลงแรงได้อยู่ ผมว่าถือรอ หากเด้งแล้วขายออกไปดีกว่า หรือขายลดพอร์ตออกไปบ้าง รอรับที่ต่ำกว่านี้น่าจะได้เห็น ... ความเห็นส่วนตัวครับ ขอให้โชคดี จากคุณ : ว่าวน้อยลอยชมสวน - [ 24 ม.ค. 50 15:33:21 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เท่าที่รู้ หุ้นตัวนี้ ไม่มีคนดูแล ตามบุญตามกรรมครับ อย่าไปคิดว่า จะได้อะไรมากมายจากเหตุการหวัดนกแล้วกันครับ หุ้นถ้าตกมาเยอะนานๆแล้ว บ้างครั้งก็หมายความว่า พื้นฐานมันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ซื้อแล้วลืมไว้นานๆ ดูอีกทีอาจเจ็บหนักกว่าเดิมครับ จากคุณ : th_sme - [ 24 ม.ค. 50 19:01:33 A:71.87.54.168 X: TicketID:031165 ]

ความคิดเห็นที่ 3 cpf ตอนนี้มีลุ้น 3 เด้งครับ.... เด้ง (ลง) 1.ปัจจัยการเมือง เรื่องกล้ายาง เด้ง (ลง) 2.ค่าเงินบาทแข็ง เด้ง (ลง) 3.ไข้หวัดนก ...ยังดีที่มีปันผล ปีละ 4 ครั้ง จากคุณ : pitan - [ 24 ม.ค. 50 19:31:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าถือระยะยาว  ผมฟันธงเลยว่าหุ้นตัวนี้  ไม่เหมาะอย่างยิ่ง สินค้าเกษตรที่่เกี่ยวข้องกับ CPF คือ ไก่ กับกุ้ง  ราคามีความผันผวนสูง  ซึ่งบางครั้งทำให้บางไตรมาสกำไรมาก  และในบางไตรมาสถึงขนาดขาดทุนได้  นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ มากระทบอยู่เรื่อยๆ เช่น การกีดกันทางการค้า  โรคระบาด  และต้นทุนอาหารสัตว์  เป็นต้น เห็นรายคนชอบบอกว่าซื้อไว้ได้เงินปันผลทุกไตรมาส อย่าลืมว่า  บริษัทจ่ายเงินปันผลจากกำไร   หากขาดทุนงดจ่าย หากกำไรน้อย  จ่ายน้อย  บางปีรวม 4 ไตรมาสแล้วยังน้อยกว่าเงินฝากธนาคารก็มี ยิ่งในตลาดหุ้นมีหุ้นให้เลือกตั้งมากมาย  มีหลายตัวที่ให้ผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลมากกว่า CPF เมื่อกำไรสุทธิผันผวน  เรื่อง Capital Gain ยิ่งหวังได้น้อยครับ  คนถือยาวส่วนใหญ่จะ Capital loss ครับ จากคุณ : GS Mobile - [ 24 ม.ค. 50 20:32:49 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผลกระทบตอนนี้ เด้งที่ 1 ไก่เนื้อส่งออกได้น้อยลง จากปัญหาหวัดนกเมื่อสองสามปีที่ผ่านมา หลายบริษัทปรับนโยบายมาผลิตไก่ไข่ และหมูเพิ่มชึ้น ผลที่ตามมาตอนนี้คือหมูล้นตลาดขาดทุนตัวละเป็นพัน ไข่ไก่ก็ล้นตลาดแต่บริษัทยักษ์ใหญ่ยังยันราคาไว้ได้ เด้งที่ 2 ผลกระทบทางการเมืองเรื่องกล้ายาง CPF ถูกดึงเข้าไปร่วมเพื่อหาทางเล่นงานทักษิณ เรื่องนี้ผมว่าจิ๊บๆ เพราะ CPF ม่ฐานกำลังที่มั่นคงทั้งในกลุ่มอำนาจเก่าและอำนาจใหม่ เรื่องนี้ผมเชื่อมือ cpf เด้งที่ 3 ต้นทุนราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้นมาก ข้าวโพดกิโลละ 7.50 บาท รำก็เกือบ 8 บาท ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมหาศาล ประกอบกับช่วงไตรมาศแรก ต้องมีการซื้อข้าวโพดเข้าสต็อกจำนวนมาก เพื่อให้มีไว้พอใช้ q2 ผลประกอบการ q1 ไม่ขาดทุนก็ถือว่าดีแล้ว เด้งที่ 4 ปัญหาหวัดนก ภายไต้สภาวะแห่งความแตกแยกในสังคม ราชการใส่เกียร์ว่างกันหมด ปัญหาหวัดนกจึงควบคุมไม่ได้อย่างที่เห็น และจะมีออกมาเขย่าขวัญเป็นช่วงๆ ผมยังรอซื้ออยู่นะ แต่ให้ราคา 3.00 จากคุณ : Livestock - [ 24 ม.ค. 50 22:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เจ้าซัวมีหุ้นซื้อขายอยู่ 3 ตัวได้แก่ cpf, cp7-11 & true เจ้าซัวมีคนดูแลหุ้นทั้งสามตัว สองตัวแรกเป็นหุ้นปันผล หุ้นข้าห้ามใครแตะ จะมาลากหรือทุบตามใจไม่ได้ ขึ้นลงส่วนใหญ่ตรงกันข้ามกับหุ้นตัวอื่นๆในกระดาน ขึ้นหรือลงแต่ละครั้งก็เพียงเล็กน้อยสลับกันไปเป็นเดือนๆจนเป็นที่เบื่อหน่าย ถ้าคิดซื้อเพื่อเอาปันผลต้องรอซื้อในราคาต่ำซึ่งสามารถให้ dividend yield สูงเป็นที่พอใจ     สำหรับ cpf ประวัติปันผลดูได้ http://www.siamfn.com/siamfn/ism/ps_xdata.jsp?iam=DA7C71030CB2EDEB4D7249CD626F61A6&security=cpf บนสมมติฐานราคาปัจจุบัน 4.60 บาทนำมาเป็นเป้าในการคำนวน ผู้สนใจสามารถคำนวนดูว่าปันผลจะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ในปีๆหนึ่ง ถ้าไม่พอใจสามารถปรับราคาหุ้นเพื่อรอซื้อในรอบต่อไป ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนมาจะมาเองเมื่อไรไม่รู้ได้ ตัวที่สาม (true) หุ้นเจ้ากรรมที่เจ้าซัวลงเงินไปไม่รู้กี่พันล้านๆก็ยังขาดทุนทั้งปีทั้งชาติ ไม่รู้จะผุดจะเกิดให้ปันผลได้ เจ้าซัวไม่เดือนร้อนเพราะสามารถหาเงินมาได้จากหุ้นตัวนี้เป็นรอบๆ เก็บขาลงเป็นเดือนๆได้จนเป็นที่พอใจ วันดีคืนดีก็ลากขึ้นทำกำไรเงินทองจากรายย่อยได้เป็นที่พอใจแล้วอยู่เฉยค่อยเก็บหุ้นราคาถูกๆไม่ขายแพงในรอบต่อไป สงสัยพิสูจน์ได้จากประวัติราคาหุ้นในอดีตได้ ด้วยความปรารถนาดี จากคุณ : luck me - [ 24 ม.ค. 50 22:11:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่รู้นะครับ กำไรลดลงเยอะเหมือนกัน ปันผลก็ลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง ผมไปดักตีหัว CP7-11 ดีก่า เก็บไปเรื่อยๆ อย่างแย่ก็กลับไป 6.4 บาท อย่างดีก็ 7 บาท STEP สวยกว่า CPF ด้วย เพราะคลิ้กละ 5 สตางค์ CPF 2 ตังค์เอง ปลายๆ 4 บาทด้วย แต่ก็อย่างว่า CPF ช่วงหลัง เลวร้ายอย่างไร สุดท้ายก็กลับไปแถวๆ 5 บาทได้เสมอ (แต่หยุดกึ๊กตรงนั้นเลยนะ ไม่ไปต่อ) จากคุณ : Bomb308 - [ 24 ม.ค. 50 22:47:58 ]