ความคิดเห็นที่ 1 เป็นนักลงทุนซิครับ Win Win จากคุณ : เล่นรอบ - [ 17 ก.พ. 50 00:55:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณค่ะ เห็นด้วยกับที่ว่ามานะคะ เรานี่คงยังไม่หมดกรรม สงสัยว่า เราจะมีเจ้ากรรมนายเวรในตลาดหุ้นเยอะมาก เลยหนีไม่พ้นจากวงจรอุบาวท์นี่ซักที พยายามเลิกมาหลายรอบแล้ว เลิกไม่สำเร็จ เหมือนพวกติดยาพิกล แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นมาก ตรงที่เสพครั้งละน้อยๆแล้ว ไม่ได้เสพมากเหมือนเมื่อก่อน (เพราะทุนหมด) ที่ผ่านมาคิดว่าบุญยังมีอยู่ตรงที่ มาเล่นหุ้นในช่วงกำลังสร้างบ้านพอดี มีรายจ่ายอยู่ตลอดเวลา ก็เลยไม่มีเงินจะเล่นมาก นี่ถ้าไม่มีรายจ่ายต่างๆมาช่วยไว้ เชื่อเหลือเกินว่า คงจะต้องได้มีการเอาเงินมาผลาญในตลาดหุ้นมากกว่านี้แน่ จากคุณ : หนูขิง - [ 17 ก.พ. 50 09:47:37 ]

ความคิดเห็นที่ 3  เหมือนคุณหนูขิงครับ เดี๋ยวนี้เสพหุ้นแต่น้อย แบบพอเพียง (หมดทุน) ยังไม่หมดกรรมก็ผ่อนส่งให้เจ้ากรรมนายเวรผ่านหุ้นละกัน อิอิ ก็มันหนุกดีอ่ะ จากคุณ : กระชอนซ่อนเม่า - [ 17 ก.พ. 50 11:04:56 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แต่ของผมดันเห็นว่าตลาดหุ้นคือทางหลุดพ้นของผมครับ คงเพราะเคยเป็นพนักงานที่ทำงานแทบตาย เสียสละทุกอย่าง แลกเงินเดือนที่คงที่ทุกเดือน คงเพราะเคยเป็นเจ้าของกิจการ ที่โดนทุกๆคนเอาเปรียบ ทั้งรัฐที่คอยแต่จะเรียกเงิน ทั้งเพื่อนที่คอยจะขอส่วนแบ่งให้เท่ากันแม้เราจะเป็นคนทำงานเยอะกว่า และเป็นคนลงทุนทั้งหมด นอกจากนั้นก็โดนจากลูกน้อง ที่ทำงานแบบช้าๆสบายใจ เสร็จไม่เสร็จไม่รู้ แต่รับเงินเดือนทุกเดือน แล้วยังมีหน้ามาโกงเราอีก ตลาดหุ้นนี่แหละครับ เสียก็เพราะเราเอง ไม่มีการโกงกัน ถ้าผมทำได้ก็คือได้จริงๆ ไม่มีใครมาคอยวุ่นวาย แล้วก็เป็นที่เดียวที่คนคนเดียวสามารถทำงานแล้วได้เงินเยอะๆ ผมเชื่อว่าหากเราศึกษาอย่างละเอียด และรู้จักควบคุมความเสี่ยง ตลาดหุ้นเป็นสวรรค์ของทุกคนได้ไม่ยากครับ จะมีวิธีไหนที่ดีกว่าการให้เงินทำงานแทนเราอีกครับ จากคุณ : Bomb308 - [ 17 ก.พ. 50 11:22:18 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หึ....หึ.......... จากคุณ : jinvet - [ 17 ก.พ. 50 11:29:57 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าเราได้เงินจากตลาดหุ้น เราก็จะเห็นตลาดหุ้นเป็นสวรรค์ ถ้าเราเสียเงินให้ตลาดหุ้น เราก็จะเห็นตลาดหุ้นเป็นนรก แต่ส่วนใหญ่ คนเสียเงินให้ตลาดหุ้นมากกว่า ก็เลยเห็นตลาดหุ้นเป็นนรก เพียงแต่ว่า มันเป็นนรกที่มีความเย้ายวนใจสูง (สำหรับพวกที่ยังมีกิเลสตัณหา) เพราะฉะนั้น เลยยังคงต้องเวียนว่ายตายเกิด ขึ้นสวรรค์ 1 รอบ ตกนรก 10 รอบ ไปไหนไม่รอดซักที จากคุณ : หนูขิง - [ 17 ก.พ. 50 11:51:18 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยกับคุณ BOMB308 ค่ะ เป็นอาชีพที่อิสระ ขาดทุนก็เพราะเราเอง ถ้ากำไรที่ได้มันเยอะเกิน ก็เอาไปบริจาคบ้างก็ได้ จากคุณ : หนูปุ๊ก - [ 17 ก.พ. 50 12:16:42 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าค้านจะโดนด่าไหมเนี่ย หลักธรรมของพระพุทธเจ้ามีหลายระดับครับ หยิบมาใช้ให้ถูกจะตอบโจทย์ของชีวิตได้ทุกข้อ ในการดำรงชีวิต หากมนุษย์มาบวชโดยคิดว่านี่คือความสบายไม่ต้องทำมาหากิน ... บาปกว่ามนุษย์ที่หากินสุจริตแน่นอน เอาล่ะกลับมาเรื่องหุ้น กำไร ขาดทุน คือผลกรรม แต่หากใจเราไม่ทุกข์กับผลกรรม แต่ดำเนินกิจกรรมการซื้อขายหุ้น ตามหลักอิทธิบาทสี่ (ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา) หรือ หัวใจเศรษฐี (อุ อา กะ สะ) ผมก็ไม่รู้ว่าวิธีไหนจะได้กำไรหรอกนะ ... เหมือนประกอบอาชีพ คนหนึ่งขายอาหาร อีกคนขายที่ดิน (อิอิ พาดพิง หนูขิง) อีกคนขายเสื้อผ้า ต่างคนต่างถนัดแต่ละแบบ แต่จุดมุ่งหมายคือมีกำไรเลี้ยงตัวเอง พวกเล่น เก็งกำไร ตามหุ้นปั่นเก่งๆ กับพวกเล่นตามหุ้นหลักๆ บูลชิพ หรือ เล่นดัชนีกับ TFEX ...ต่างก็มีความถนัดคนละด้าน ...จุดมุ่งหมายคือ กำไรเลี้ยงตัวเอง แต่ใครบ้างทีจะรอดพ้นจากความทุกข์ที่เกิดจากการเล่นหุ้น ผมว่าหลักธรรมของพระพุทธเจ้าไม่ไช่ให้หนีจากโลก เพียงแต่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติของโลกนี้ได้อย่างไร ... และเมื่อสิ้นลมแล้ว จิตนั้นจะไม่กลับมาเกิดอีกได้อย่างไร (ไม่ไช่การเกิดมาแล้วทุกข์ งั้น ตายซะดีกว่า) หากเราจะอยู่กับตลาด ... เราจะอยู่ร่วมกับตลาดได้อย่างไร ...ถึงคุณไม่เล่นหุ้น ตลาดหุ้น ตลาดทุนก็เข้าไปหาคุณอยู่ดี ... ลองดูสิ่งเหล่านี้ LTF กองทุน (มนุษย์เงินเดือน) ราคาฟิวเจอร์ยาง (เกษตรกร) น้ำมัน (เกษตรกร คนโดยสารรถเมล์) ทอง (พวกอิเล็คทรอนิกส์ และ คนจะแต่งงานเดือนร้อน) ราคาที่ดิน (โดนปั่นเพราะการกว้านซื้อจาก บ.ในตลาด) ห้างค้าปลีก (มีหุ้นทั้งไทย และ เทศ กระทบร้านโชว์ห่วย) เลิกเล่นหุ้น ... คือคำตอบแน่หรือครับ จากคุณ : KENG76 - [ 17 ก.พ. 50 12:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ต่างคนต่างคิดครับ จากคุณ : เกษมชน - [ 17 ก.พ. 50 16:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 กระทู้นี้น่าจะเปลี่ยนจากคำว่าเล่นหุ้นเป็นเล่นการพนัน น่าจะเหมาะสมกว่านะครับ ผมเชื่อว่า ยังมีนักลงทุนส่วนหนึ่งมองตลาดหุ้นเป็นที่สำหรับลงทุน เพื่อ ปันผลและผลตอบแทนระยะยาว (แต่ซื้อปั๊บแล้วมันวิ่งขึ้นเอง ก็ช่วยไม่ได้ที่จะทำกำไร) เราไม่สามารถมีกิจการใหญ่ๆ เช่น กิจการธนาคารพาณิชย์ อุตสาหกรรมโรงกลั่น โทรคมนาคม ฯลฯ เป็นของตัวเองได้ เราก็ใช้ตลาดหุ้นเป็นที่ลงทุน มีเวลาเหลือ ก็เข้าไปเล่นหุ้นปั่นบ้าง เพื่อเติมเต็มชีวิตให้ครบทุกรสชาติ พวกเราทุกคนคงยังไม่หมดกรรมง่ายๆ เพราะพระพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้ว่า "ทุกคนเกิดมามีกรรมเป็นของๆตน" จากคุณ : pichatey - [ 17 ก.พ. 50 16:21:42 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เราว่า การขาดทุนบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นทุกข์ ดีซะอีก ยิ่งทำให้เรามีประสบการณ์มากขึ้น และทำให้เราระมัดระวังมากขึ้น (ถ้าเราหนีปัญหา มันน่าจะเป็นการสะสมความทุกข์ ให้มากขึ้น) แล้วนี่มันธรรมะกับวันตรุษจีนหรือไงนี่... จากคุณ : หนูปุ๊ก - [ 17 ก.พ. 50 16:47:24 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ แต่แค่บางส่วนเท่านั้น มีคนกล่าวไว้ว่า  การพนันเป็นสมบัติของมนุษยชาติ คุณไม่เล่นหวย คุณก็เล่นหุ้น อบายมุข มีหลายรูปแบบ คุณจะต้องไม่ทำให้ตัวเอง และคนรอบข้างเดือดร้อน จากคุณ : NAI-A SIKHIU - [ 17 ก.พ. 50 20:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าบอกว่า " กรรม " มันก็เป็นกรรมได้หมดทั้งโลก ตั้งแต่กรรมของยาจก จนถึง กรรมของพระราชา กรรมของนักฆ่า จนถึง กรรมของพระสงฆราช ถ้าไม่อยากมีกรรม ต้องขังตัวอยู่ในถ้ำหรือ ? +++++++++++++++++++++++++++++ มองโลกให้สดชื่นเถอะ มอง "กรรม" ให้เป็น "กิจกรรม" ทุกคนมีกิจกรรม ไม่ต้องอยู่ถ้ำ สุขบ้าง ทุกข์บ้าง มันเป็นสิ่งที่รับได้ มันคือชีวิต  เปรี้ยวหวานมันเค็ม คือรสชาติของชีวิต ! จากคุณ : พ่อให้เงินแม่ให้ทอง - [ 17 ก.พ. 50 21:53:39 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แต่ว่าเราเห็นด้วยกับประโยคนี้นะ "ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งของ 9 ใน 10 ถามว่า คุ้มไหม กับการสูญเสียสุขภาพจิต เพิ่มกระหาย เพิ่มกิเลส ตัณหา และก็ทนทุกข์ทรมานอยู่กับความอยาก โดยที่ผลตอบแทนที่ได้ ไม่ได้มากไปกว่า สัมมาอาชีพทั่วๆไปเลย ถ้ายังหลุดจากวังวนนี้ไม่ได้ ก็แสดงว่ายังไม่หมดกรรม" เรามักจะถามตัวเองทุกครั้งที่ขาดทุน (แต่ถ้าเวลากำไร มักจะลืมถาม) ว่าคุ้มไหม พอได้หรือยัง เมื่อไหร่จะเลิกซักที มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมากับชีวิตเลย เสียทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต เสียงานเสียการ เสียเงินทอง เสียเวลา และผลตอบแทนที่ได้ ก็ไม่ได้คุ้มกับสิ่งที่เสียไปเลย แต่พอเห็นหุ้นวิ่งทีไร เราก็ลืมตัวกระโดดเข้าไปเล่นต่อทุกที กรรมของแมงเม่าจริงๆ พยายามหาทางหลุดพ้นอยู่เนี่ย เมื่อวันศุกร์พึ่งล้างพอร์ตไปเกือบหมด เดี๋ยวจะลองดูใหม่ซิว่า คราวนี้จะหลุดพ้นได้สำเร็จหรือไม่ จากคุณ : หนูขิง - [ 17 ก.พ. 50 23:01:02 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมคิดเหมือนคุณคคห.ที่4เป๊ะเลยครับ ทำงานก้ถูกเอาเปรียบจากลูกนอ้ง ซ้ำยังคดโกงเสียอีก ไม่นับรวมถึงการเอาเปรียบเรืองเงินและงาน ทำไปก้มีแต่สารพัดปัญหา ไม่พึงลุกนอ้งก้ไม่มีคนพึ่งมากพวกก้เล่นตัวต่อรอง กดดันเราสารพัด ทำไปก้เหมือนกับเป็ฯทาสลูกน้อง เป็นลุกไล่ลูกน้อง   เล่นหุ้นดีที่สุด ได้เสียก้ตัวเรา ไม่ตอ้งไปแบกรับผิดชอบชีวิตคนอื่น เป็นไทแก่ตัวดีครับ จากคุณ : khonthai.tk. (khonthai.tk.) - [ 18 ก.พ. 50 01:23:33 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณสำหรับความเห็นค่ะ ส่วนตัวแล้ว คิดว่าอยู่ที่แต่ละคนมากกว่าอ่ะคะ ของเรา...เคยเป็นเหมือนอย่าง จขกท เขียนไว้เหมือนกัน แต่แค่อาทิตย์เดียวมั้งคะ...ทนตัวเองไม่ไหว เปลี่ยนรูปแบบการเล่นใหม่ ...ตอนนี้มีความสุขดีแล้วคะ ตลาดหุ้นมันก็มีหลายด้าน หลายมุม เลือกกันตามสะดวก ชอบแบบไหน ก็เลือกแบบนั้นแล้วกันค่ะ อิ อิ จากคุณ : เรามันแปลกคน - [ 18 ก.พ. 50 06:34:44 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เราใช้วิธีฝากประจำได้ไหม ดอกเบี้ยเหมือนไอนํ้าค่อยซึม แต่จะหายกระหายหรือเปล่าไม่รู้ อีกอย่างที่บอกว่าจักรวาลไม่มีที่สิ้นสุด  ถ้าเรามองบนท้องฟ้า ถ้าไม่สิ้นสุด ขอบไปเรื่อยๆกว้างไปตลอดไม่มีแนวเลยจะเป็นไปได้อย่างไร ดังนั้นจักรวาลต้องมีแนวขอบ จากคุณ : visitna - [ 18 ก.พ. 50 08:41:51 ]

ความคิดเห็นที่ 18 บังเอิญผมมีเพื่อนพ้องน้องพี่ที่ใกล้ชิดกัน ไปจบโทบ้าง เอกบ้างที่เมืองนอก แล้วอยู่ทำงานเก็บเงิน 3-8 ปี ประหยัดหน่อย ก็จะเหลือเงินเก็บ จบโท-เอก ที่ เมกา รายได้ประจำประมาณปีละ 120,000 – 300,000 USD กว่าครึ่งก็ลงทุนในตลาดหุ้นตอนอยู่เมกา จึงเหลือเยอะหน่อย เกือบทุกคนเคยผ่านจังหวะขาดทุนในตลาดหุ้น หลายครั้งเสียหายมาก แต่ผลสรุปของทุกคนในวันนี้  กำไรทุกท่านครับ ถ้ากล่าวกันว่า นักลงทุนในตลาดหุ้น 9 ใน 10 ขาดทุน อาจจะหมายความว่า ส่วนใหญ่เราต่างต้องผ่านช่วง 9 ใน 10 ก่อน จึงจะมาเป็น ส่วนน้อย คือ 1 ใน 10 การเป็นเหาฉลามที่ชาญฉลาดจะช่วยทุ่นแรง นักลงทุนที่เป็นฉลาม หรืออ่านฉลามออก ก็มีหลายท่านที่อยู่ในห้องนี้ ไม่ว่าจะเป็น คุณ TER2000 คุณ Bomb308 คุณ mar รุ่นเก๋า คุณเล่นรอบ คุณ pichatey คุณKENG76 จารย์ปลา และอีกหลายสิบท่านที่ไม่ได้เอ่ยนามมา ล้วนเป็นนักลงทุนที่เก่ง มีวิชาความรู้แก่กล้า หรือแม้แต่ คุณหนูขิง ถ้าสามารถปรับกระบวนท่าเวลากำไรให้ซื้อเยอะ เวลาจะขาดทุนให้มีหุ้นน้อย ก็มีแววจะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้ แต่ระหว่างนี้ต้องเกาะติดรุ่นพี่ระดับเจ้าสำนักดังกล่าวข้างบนไปก่อน ที่ขออนุญาตยกเอาประสบการณ์ และผลลัพธ์ของกลุ่มคนที่ผมรู้จักมาเล่าสู่กันฟัง ก็หวังให้เป็นตัวอย่าง และกำลังใจให้กับ นลท ที่กำลังแสวงหาช่องทางและวิธีการอยู่ ยังประโยชน์ให้เกิดกับทุกท่าน ที่ประสงค์จะยกตนจากนักลงทุนส่วนใหญ่ ให้เป็นนักลงทุนส่วนน้อยที่ประสบความสำเร็จ ขอให้เพื่อน ๆ ทุกท่านประสบความสำเร็จในการลงทุนนะครับ แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 50 23:07:32 จากคุณ : นราเทพ - [ 18 ก.พ. 50 17:50:29 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านที่คุณนราเทพว่ามา แล้วมีกำลังใจขึ้นเยอะค่ะ แต่ว่าตั้งกะขาดทุนหนักๆช่วงปฏิวัติกับหม่อมอุ๋ยมานี่ เรายังไม่มีปัญญาจะเอาคืนได้เลยค่ะ มันฝ่อไปหมด ไม่กล้าลงทุนเยอะ เข็ดขยาดไปมาก ใจไม่ค่อยสู้แล้ว หลายครั้งที่มีโอกาส แต่ก็ไม่กล้าคว้าโอกาสนั้นไว้ เพราะกลัวมากเกินไป เดี๋ยวนี้ก็เลย ได้แต่น้อย เสียแต่น้อย แบบเศรษฐกิจพอเพียงมากเลยค่ะ จากคุณ : หนูขิง - [ 18 ก.พ. 50 18:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุณ จขกท ลืมไปอย่างครับ ในน้ำอัดลม มีสารเสพติด  เช่นเดียวกับในกาแฟด้วยครับ  เลยติดใจ ขอเป๊กซี่ ขวด ครับ " ถ้าเกิดมีนักวิทยาศาสตร์สักคนบอกว่า มีวิธีที่จะทำให้เราไม่ต้องดื่มน้ำไปตลอดชีวิต  วิธีนี้จะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมไอน้ำจากอากาศเข้าไปในตัวได้เลย เราไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับการกระหายน้ำอีกต่อไป  ถามว่าเราจะเอาไหม  ทุกคนคงตอบว่า ถ้าทำได้จริงก็เอาสิ ไม่ต้องดื่มไม่ต้องกินไปตลอดชีวิตอย่างนี้ก็ไม่ต่างกับเป็นเทวดาแล้ว " เข้าใจแล้วว่าทำไม เทวดาจึงสืบพันธุ์แบบมนุษย์ไม่ได้  อือ อะไร ที่ไม่ใช้มันก็จะหายไป "การหาสัมมาอาชีพ อาชีพที่บริสุทธ์ ปราศจากกิเลสเร่าร้อน  ความกระหายนั้นก็จะหมดไป แม้จะนานขึ้น แต่ก็ไม่ถาวรอยู่ดี" ครั้งหนึ่งในสมัยที่พระพุทธเจ้า เป็นพ่อค้า  พระเทวทัต ก็เป็นพ่อค้าเช่น กัน  พระเทวทัต เดินทางล่วงหน้าไปพบกับชายที่จะขายพาน (มั้งจำได้ไม่แม่น ถ้าใครจำได้บอกด้วยว่า ชาดก อะไร อยากอ่านอีก )  แต่ก็ต่อราคาเสียถูกแสนถูกทั้งที่ของนั้นมีราคาสูง   และก็จากไป เพื่อทำจิตวิทยา  แต่ พอดีกับ พระพุทธเจ้า มาพบกับชายคนนั้น  พระองค์ ให้ราคาตามความจริง และได้ซื้อไป  เมื่อพระเทวทัตกลับมาอีกที และพบว่า พระพุทธองค์ได้ซื้อไปแล้ว ก็โกรธแค้น และประกาศความแค้นเป็นชาติ เท่ากับเม็ดทรายที่กำขึ้นมาในมือ พ่อค้า พระพุทธเจ้า  กับพ่อค้า เทวทัต ต่างกันอย่างไรหนอ??? "ลองคิดย้อนกลับดู ก่อนที่เราจะเล่นหุ้นเป็น ชีวิตเรามีความสุขมากกว่าตอนนี้หรือไม่  และก็ลองบวกลบคูณหารดู ตั้งแต่เล่นหุ้นมา สรุปแล้ว กำไรหรือขาดทุน  7ใน10 จะบอกว่าขาดทุน 2 ใน10จะบอกว่าเท่าทุนหรือกำไรเล็กน้อย  1ใน10 จะบอกว่า ร่ำรวยเพราะการเล่นหุ้น ( 1ใน10 นั่น ก็ได้เงินจาก 7ใน10 ที่สูญเสีย)" ถ้ากำไร คุณ เป็นสุข หรือเป็น ทุกข์ ???  ถ้าขาดทุน คุณ เป็นสุข หรือ เป็น ทุกข์ ???  ถ้าคุณ กำไร หรือ ขาดทุน แล้ว ไม่เป็นสุข และ ไม่เป็นทุกข์ ละ ???  เหมือนมีใครในห้องนี้บอกให้ใช้วิชาตัดใจ อะไรสักอย่าง ??? "ถ้ายังหลุดจากวังวนนี้ไม่ได้ ก็แสดงว่ายังไม่หมดกรรม " ถูกต้องครับ แม้จะหลุดพ้นจากวังวนนี้ได้ จะหมดกรรม หรือ ในเมื่อเรายังคงต้องตั้งหน้าทำงาน ในแต่ละวัน ต้องพบปะผู้คนในสังคม ยังต้องเมาส์  ยังต้องกิน  ยังต้องขึ้นรถเมล์ แน่นๆ  แล้วเราจะหมดกรรม แล้วหรือ ??? แม้จะหนีไปบวชเป็นพระ ครองเพศบรรพชิต  ก็แน่ใจได้อย่างไรว่าจะหมดกรรม ??? จากคุณ : หมูทุบ (pork) - [ 19 ก.พ. 50 01:05:03 ]

ความคิดเห็นที่ 21 พี่หนูขิง เคยเห็น มดขนน้ำตาลไหมครับ   มีเป็นถุงก็หมดได้ คำถาม ก็คือ มันขนเที่ยวเดียวหรือเปล่า  ??? อังกฤษ เคือง จีน เพราะจีนค้าใบชาแล้วเก็บแต่ตังค์เข้ากระเป๋า อังกฤษเลยต้องไปหาฝิ่นมาให้จีน กิน เพื่อล้วงกระเป๋าตังค์   อเมริกา ก็เช่นกัน เคือง จีนที่ขายของถูกแล้วก็เอาตังค์ เข้ากระเป๋า  แต่ตอนนี้ยังไม่รู้เหมือนกันว่า อเมริกาจะทำอะไรหรือเปล่า เพื่อล้วงกระเป๋าตังค์ ??? รอดูอยู่ สิ่งที่จีนทำคือ ขายของมาก กำไรน้อย แต่กำไรบ่อย เลย กำไรมาก   โอ้ งง สิ งง ผมยัง งง อยู่เลย จากคุณ : หมูทุบ (pork) - [ 19 ก.พ. 50 01:19:26 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ชอบกระทู้แบบนี้จังเลย  ได้ข้อมูลมาเติมสมองและยังได้หัดคิด ด้วย จากคุณ : หมูทุบ (pork) - [ 19 ก.พ. 50 01:20:58 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คิดเหมือนกันเลย ปฏิวัติ กับ หม่อมอุ๋ย โอนไปเยอะเหมือนกัน ยังไม่ได้คืนเลย สักนิด สู้ๆๆ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : เจ้าชายกระบี่หัก (gotton1) - [ 19 ก.พ. 50 11:05:53 ]