Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    $$$.....เช็คชีพจร "LTF" หลังมาตรการสำรอง 30%.....$$$

    หมีพูนำบทความจาก Fundamental วันที่ 25/2/50 มาให้เพื่อนผู้ลงทุนใน LTF ได้ตรวจสอบสถานการณ์กันครับ

    ************************

    เช็คชีพจร "LTF" หลังมาตรการสำรอง 30%
    โดยทีม Fundamentals

    คนที่มีกองทุน LTF หรือกองทุนหุ้นระยะยาว ติดพอร์ตอยู่ คงใจหายใจคว่ำกันพอสังเขป เมื่อคล้อยหลังการประกาศใช้ "มาตรการกันสำรองเงินตราต่างประเทศ 30%" เพื่อป้องกันการไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้นในวันที่ 19 ธันวาคม 2549 ที่ผ่านมานั้น ได้ฉุดดัชนีหุ้นไทยร่วงระเนระนาดลงทันที 108.41 จุด หรือดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงถึง 14.84% ภายในวันเดียวเท่านั้น จากระดับ 730.55 จุด ในวันที่18 ธันวาคม 2549 ลงมาอยู่ที่ระดับ 622.14 จุด ในวันที่19 ธันวาคม 2549 ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ตั้งแต่มีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเกิดขึ้นมาเลยทีเดียว

    แทบไม่ต้องสงสัย ว่ากองทุน LTF ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้น ย่อมรับผลกระทบไปเต็มๆ มูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน LTF ทั้งระบบหายไปทันที 2,500 ล้านบาท และฉุดให้กำไรของกองทุน LTF ทั้งระบบหายไปทันที 4.98-17.96%

    ใครที่ลงทุนในกองทุน LTF อยู่ คงรู้สึกกังวลกับผลกระทบที่เกิดขึ้นอยู่บ้างไม่มากก็น้อย Fundamentals สัปดาห์นี้ จะพาไปสำรวจถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกันกับกองทุน LTF จากมาตรการดังกล่าวกัน
    ..........................

    "กองทุนรวมหุ้นระยะยาว" หรือ "กองทุน LTF" นั้นเป็นกองทุนที่มีแต้มต่อทางภาษี ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ที่ทางรัฐบาลให้กับนักลงทุนมา เพื่อส่งเสริมให้มีการลงทุนระยะยาวในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อันจะทำให้เกิดเสถียรภาพขึ้นกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในระยะยาว และเนื่องจากกองทุน LTF เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นเป็นสำคัญ โดยจะต้องลงทุนหุ้นในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ของสินทรัพย์สุทธิอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นผลกระทบจากการที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปรับตัวลดลง 108 จุดในวันเดียวนั้น ย่อมส่งผลกระทบกับกองทุน LTF อยู่บ้าง ไม่มากก็น้อยอย่างไม่ต้องสงสัย

    @สินทรัพย์สุทธิของกองทุน LTF หายไป 2,502.59 ล้านบาท ในวันเดียว จากการสำรวจข้อมูลของทีมงาน Fundamentals ถึงผลกระทบจากมาตรการสำรองเงินตราต่างประเทศ 30% ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีต่อกองทุน LTF ในระบบพบว่า หลังจากที่มาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 ธันวาคม 2549 ที่ผ่านมานั้น ได้ทำให้มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ(NAV)ของกองทุน LTF ทั้งระบบ(30 กองทุน) ปรับตัวลดลงไปจากระดับ 21,149.80 ล้านบาท ในวันที่ 18 ธันวาคม 2549 ลดลงเหลือ 18,647.21 ล้านบาท ในวันที่ 19 ธันวาคม 2549 หรือปรับตัวลดลง 11.83% คิดเป็นเม็ดเงินที่หายไปในวันเดียวสูงถึง 2,502.59 ล้านบาท

    อย่างไรก็ตาม จังหวะที่ตลาดหุ้นปรับตัวลงมาแรง ก็ทำให้มีผู้เข้าไปลงทุนในกองทุน LTF เพิ่มเติมจึงส่งผลให้ภายในสิ้นปี 2549 ที่ผ่านมา มูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน LTF ทั้งระบบก็กลับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 24,918.63 ล้านบาท ซึ่งในแง่ของสินทรัพย์สุทธิแล้ว น่าจะได้ประโยชน์จากปรากฏการณ์ในวันที่ 19 ธันวาคม 2549 ที่ผ่านมาอยู่มากในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

    "และหากนับจนถึงปัจจุบัน(14 ก.พ. 50) กองทุน LTF ทั้งระบบมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 26,573.67 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากวันที่19 ธันวาคม 2549 ทั้งสิ้น 7,926.46 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 42.51% จนอาจจะเรียกได้ว่าผลจากมาตรการในวันที่ 19 ธันวาคม 2549 ที่ผ่านมานั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของกองทุน LTF แต่ประการใดเลย"

    @กองทุน LTF ผลงานโดดเด่นก่อนมาตรการสำรอง 30% บังคับใช้ อย่างไรก็ตามในแง่ของผลการดำเนินงานของกองทุน LTF ทั้งระบบ(30 กองทุน) ก่อนที่มาตรการสำรองเงินตราต่างประเทศ 30% จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 ธันวาคม 2549 นั้น ต่างก็มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับที่ดี

    ในขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 713.73 จุด เมื่อสิ้นปี 2548 มาอยู่ที่ 730.55 จุด ในวันที่ 18 ธันวาคม 2549 หรือปรับตัวเพิ่มขึ้นมา 2.36% แต่กองทุน LTF ในระบบจำนวน 28 กองทุน หรือคิดเป็น 93.33% ของกองทุน LTF ทั้งระบบ มีผลการดำเนินงานดีกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ในขณะที่มีเพียง 2 กองทุน หรือคิดเป็น 0.07% ของกองทุน LTF ทั้งระบบเท่านั้น ที่แพ้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์

    "ทั้งนี้ กองทุนที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุด และแย่ที่สุดนั้น มีผลการดำเนินงานแตกต่างกันอยู่ประมาณ 19.4% โดยกองทุน LTF ที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดให้ผลตอบแทนสูงถึง 19.15% ในขณะที่กองทุนที่มีผลการดำเนินงานแย่ที่สุดให้ผลตอบแทนติดลบ 0.25% เท่านั้น"

    โดยกองทุน LTF 5 อันดับแรกที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดก่อนมาตรการสำรองเงินตราต่างประเทศ 30% จะประกาศใช้นั้น ต่างให้ผลตอบแทนมากกว่า 10% นำมาโดย
    อันดับ 1 ได้แก่ "กองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยาปันผล" ของบลจ.อยุธยา ให้ผลตอบแทน 19.15% ,
    อันดับ 2 "กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว" ของบลจ.บัวหลวง ให้ผลตอบแทน 17.57% ,
    อันดับ 3 "กองทุนเปิดอเบอร์ดีนหุ้นระยะยาว" ของ บลจ.อเบอร์ดีน ให้ผลตอบแทน 16.10% ,
    อันดับ 4 "กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เอ็มเอไอ" ของบลจ.ไทยพาณิชย์ ให้ผลตอบแทน 15.70% และ
    อันดับ 5 "กองทุนเปิดไอเอ็นจีไทยบรรษัทภิบาลหุ้นระยะยาว" ของ บลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) ให้ผลตอบแทน 12.28%

    @หลังมาตรการประกาศใช้ทำ LTF กำไรหายไป 4.98-17.96% แต่หลังจากที่มาตรการกันสำรองเงินตราต่างประเทศ 30% มีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 ธันวาคม 2549 ไม่เพียงจะทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปรับตัวลดลง 14.84% ในวันเดียวเท่านั้น ผลการดำเนินงานของกองทุน LTF ทั้งระบบต่างก็ปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกันกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ปรับตัวลง โดยมูลค่าสินทรัพย์สุทธิต่อหน่วยของกองทุน LTF ทั้งระบบหายไปตั้งแต่ 4.98-17.96% แตกต่างกันออกไป
    อย่างไรก็ตาม มีกองทุน LTF ถึง 21 กองทุน หรือคิดเป็น 70% ของกองทุน LTF ทั้งระบบที่มีการปรับตัวลดลงน้อยกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ในขณะที่กองทุน LTF อีก 9 กองที่เหลือ หรือคิดเป็น 30% ของกองทุน LTF ทั้งระบบ มีการปรับตัวลดลงมากกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์

    โดยกองทุน LTF 5 อันดับแรกที่มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิต่อหน่วยปรับตัวลงมากที่สุด
    อันดับ 1 ได้แก่ "กองทุนเปิดไทย LTF ดับเบิลซีเล็คทีฟหุ้นระยะยาว" ของบลจ.บีที ปรับตัวลดลง 17.96% ,
    อันดับ 2 "กองทุนเปิด JUMBO25 ปันผลหุ้นระยะยาว" ของบลจ.ทหารไทย ปรับตัวลดลง 15.93% ,
    อันดับ 3 "กองทุนเปิดรวงข้าวหุ้นระยะยาว" ของบลจ.กสิกรไทย ปรับตัวลดลง 15.71% ,
    อันดับ 4 "กองทุนเปิดฟินันซ่า SET50 หุ้นระยะยาว" ของ บลจ.ฟินันซ่า ปรับตัวลดลง 15.63% และ
    อันดับ 5 "กองทุนเปิดวรรณเอเอ็มซีเล็คทีฟโกรทหุ้นระยะยาว" ของบลจ.วรรณ ปรับตัวลดลง 15.39%

    จะเห็นได้ว่าแม้ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลงมาแรงมากในวันที่ 19 ธันวาคม 2549 ที่ผ่านมา แต่ผู้ลงทุนที่อยู่ในฐานภาษี 20% ขึ้นไปก็ยังคงกำไรอยู่ดี เพราะผลตอบแทนเฉพาะในส่วนของภาษีที่ได้รับคืนก็เรียกว่าคุ้มค่าแล้ว แต่ผู้ลงทุนในฐานภาษี 10% ตรงนี้ก็ขึ้นกับกองทุน LTF ที่คุณเลือกลงทุนอยู่เป็นสำคัญ

    จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 25 ก.พ. 50 11:16:13 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom