อยากทราบว่าตามข้อความด้านล่างนั้นมีจริงหรือไม่เพราะว่ามีคนมาติดต่อให้ผมไปทำโดยบอกว่ามาจาก Finansa Life Assurance ผมอยากรู้ว่ามีกฏหมายที่ช่วยเหลืออย่างนี้จริงไหมครับโดยเขาบอกว่าหากคุณเป็นเจ้าของกิจการแล้วกิจการคุณกำไรมากแต่กำไรมากก็ต้องเสียภาษีนิติบุคคลเยอะใช่มั๊ยครับ(30%)ผมว่าคุณสามารถจ่ายภาษีน้อยลงอย่างถูกกฏหมาย และยังสามารถออมเงิน(ลงทุน)จากภาษีที่จะต้องเสียได้อีกด้วยครับ ลองทำความเข้าใจกับข้อความข้างล่างนี้ดูนิดหนึ่งนะครับ โครงการนี้เป็นการประยุกต์ กฏหมายสรรพากรให้เข้ากับวิธีการบริหารภาษี -มีกฏหมายรองรับตรวจสอบได้ที่เว็บไซด์สรรพากรข้างล่าง -สรรพากรสามารถเก็บภาษีในระบบได้มากขึ้น(เหมือนหวยบนดิน) -เปลี่ยนภาษีเป็นรายได้ เปลี่ยนรายจ่ายเป็นเงินลงทุน(ออม) !!ผู้เข้าร่วมโครงการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น!! ผมขอเสนอการออมเงินสำหรับนิติบุคคล(ลงทุนรูปแบบใหม่)ดังนี้ โครงการนี้ชื่อว่า Strategic Taxation กลยุทธการบริหารภาษี ยกตัวอย่างง่ายๆ สมมุติว่าบริษัทท่านมียอดขาย 50,000,000 บาท/ปี หักค่าใช้จ่ายต่างๆ 40,000,000/ปี เหลือกำไรก่อนหักภาษี 10,000,000 บาท/ปี บริษัทหรือห้างร้านท่านต้องเสียภาษี 30% ของกำไรเป็นเงิน = 10,000,000 x 30% เท่ากับ 3,000,000 บาท ท่านจะเหลือกำไรหลังหักภาษีแล้ว = 7,000,000 บาท จากโครงการนี้ 1) หากท่านสามารถนำเอาเงิน 3,000,000 บาทที่ท่านจะต้องไปจ่ายให้กับสรรพากรจำนวนนี้ไปลงทุนในรูปแบบของการออมแล้วท่านจะได้สิทธิในการนำไปหักเป็นค่ารายจ่ายในการคำนวนกำไรก่อนหักภาษีได้ตามกฏหมาย ตามหนังสืออ้างอิงเลขที่ กค.0706/4227, กค.0811/408 www.rd.go.th จากเดิมท่านมีรายจ่ายในการคำนวนภาษี = 40,000,000 บาท หลังจากเข้าร่วมโครงการนี้แวรายจ่ายของท่านจะกลายเป็น 43,000,000 บาท ฐานกำไรในการคำนวนภาษีจะกลายเป็น 7,000,000 บาท เพราะฉะนั้นภาษีที่ท่านต้องจ่าย = 7,000,000 x 30% = 2,100,000 บาท จากโครงการนี้ทำให้ท่านประหยัดภาษีทันที 3,000,000 - 2,100,000 = 900,000 บาท/ปี ......ข้อดีข้อที่ 1 2) เงินจำนวน 3,000,000 บาท ที่นำไปลงทุนในรูปแบบการออมจะมีผลตอบแทนดังนี้ - มีความคุ้มครองให้กับเจ้าของกิจการ 7-10เท่าของเงินที่นำมาออม(7 x 3,000,000 = 21,000,000 บาท)หากเจ้าของกิจการเสียชีวิตและยกเว้นไม่ต้องนำมาคิดภาษีบุคคลธรรมดา....ข้อดีข้อที่ 2 - มีเงินคืนทุกปีตามเงื่อนไขการคุ้มครอง 6% ของความคุ้มครอง(21,000,000 x 6% = 1,260,000 บาท) และได้รับการยกเว้นไม่ต้องนำมาคิดภาษีบุคคลธรรมดา....ข้อดีข้อที่ 3 - มีเงินปันผลทุกปีจากการลงทุน 8-10% ไม่นำมาคิดภาษีบุคคลธรรมดา.....ข้อดีข้อที่ 4 3) รูปแบบการบริหารภาษีที่ว่านี้มีหลากหลายแล้วแต่จุดประสงค์ของเจ้าของเป็นหลัก 4) เงินที่นำไปลงทุนได้รับความคุ้มครองตามหลักสากลทั่วไป ทั้งหมดนี้เป็นการลงทุนในรูปของเงินออมจากภาษีนิติบุคคลรูปแบบใหม่ที่ถูกต้องตามกฎหมายตามโครงการ "เปลี่ยนภาษีให้เป็นรายได้ เปลี่ยนรายจ่ายให้เป็นเงินออม"
จากคุณ :
kokodomo
- [
1 มี.ค. 50 22:07:49
]