ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามาปูเสื่อ นั่งรอฟังด้วยคนนะครับ /me แอ๊บแบ๊วเนียน ๆ จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 13 มี.ค. 50 09:46:10 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ติดงานเยอะครับ เลยมาซะเกือบเที่ยงเลย เอาเป็นว่า ผมจะเล่าวิธีการคัดเลือกหุ้นของ บลจ.อเบอร์ดีน ให้ฟังอีกครั้ง บวกกับความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ อเบอร์ดีน จะมีการประชุม "regional meeting" กันทุกสัปดาห์ Fund Manager จากแต่ละ office (ทั่วโลก) จะมาคุยกันเรื่องตลาดที่ตัวเองรับผิดชอบอยู่ โดยจะมองตลาดทั้งในภาพ Makro ซึ่งมีทีมเฝ้าดูอยู่ทุกตลาด และในภาค sector ซึ่งผู้จัดการกองทุนในแต่ละประเทศจะมีข้อมูลที่สามารถบอกได้ว่า sector ไหนน่าเข้าไปลงทุนบ้าง การทำงานเป็นทีมอย่างนี้ ทำให้ อเบอร์ดีน ไม่พึ่ง Star Manager เพียงคนใดคนหนึ่งเท่านั้น แต่ทำงานกันเป็นทีม ------------------------ Fund Manager ต้องเดินทางไปเยี่ยมชมกิจการ ทำบทวิเคราะห์ของแต่ละบริษัทอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง สำหรับบริษัทที่เข้าไปลงทุน คำถามก็มาอยู่ที่ ทำให้บริษัทจดทะเบียนที่ติดอันดับกำไรสุทธิสูงสุดในประเทศ จึงไม่ได้รับการคัดเลือกเข้าพอร์ต? - เพราะบริษัทเหล่านี้ บางบริษัทเป็น Holding Company ซึ่งไม่สามารถ generate รายได้ด้วยตัวเอง ต้องพึ่งลูกๆ หรือบริษัทในเครือ และเจ้าบริษัทลูกนี้ บางตัวก็จดทะเบียนอยู่ในตลาดเองอยู่แล้ว (สามารถยืนได้ด้วยลำแข็งตัวเอง) การลงทุนในบริษัทแม่ จึงเป็นการลงทุนซ้อนในธุรกิจเดิม - เหตุผลที่ 2 ก็คือ รายได้จากหลายๆแหล่งเกินไป นั้น สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของรายได้ได้ยาก การคาดการณ์ หรือประมาณการณ์ Cash Flow และทำ Projection เพื่อ Forecast ราคาหุ้น ก็ทำได้ยาก และต้องใช้ Model ที่ซับซ้อน ซึ่งอเบอร์ดีนไม่นิยมครับ - บางบริษัท ที่อยู่ในกลุ่มสถาบันการเงินนั้น ถึงแม้ตัวเลขรายได้จะแข็งแกร่ง แต่อัตราส่วนทางการเงินบางอย่าง ก็เข้าข่ายมีความเสี่ยง เช่น ตัวเลข NPL หรืออัตราส่วน Tier I และ Tier II ที่สูงกว่าอุตสาหกรรม ทางอเบอร์ดีนก้ไม่รับความเสี่ยงตรงนี้ ยอมตัดตัวเลือกออกไปเลย จะเห็นว่า การลงทุนแบบนี้ มีทั้งข้อดีข้อเสียครับ อยู่ที่ว่า นักลงทุนแต่ละคนชอบสไตล์ไหน คล้ายๆกับ จะบอกว่า เล่นหุ้นปั่น แล้วกำไรดีกว่า เล่นหุ้นปัจจัยพื้นฐานจริงหรือ ?? อันนี้ก็แล้วแต่ครับ ว่าใครเล่น วัดกันที่ฝีมืออีกที ส่วนเรื่องผลตอบแทนตั้งแต่ต้นมา ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น หล่นเอาๆ เด๋วผมจะลองทำตารางเปรียบเทียบผลตอบแทนให้ดูอีกทีนะครับ ว่าเกิดอะไรขึ้น รอแป๊ปเนิง ----------------------- โชคดีในการลงทุนครับ จากคุณ : Mr.Messenger - [ 13 มี.ค. 50 11:43:52 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สังเกตุดูจากหุ้นกลางและหุ้นเล็กในพอร์ตของ AYFLTFDIV ก็ส่งผลให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีติดลบไล่เลี่ยกับกองของอเบอร์ดีนเช่นกันครับ สังเกตุจาก บลจ. อื่น ๆ ด้วยก็พบว่า ถ้ากองไหนที่ถือหุ้นตัวใหญ่เยอะ ๆ จะได้ผลตอบแทนที่แตกต่างออกไปจากอเบอร์ดีนและอยุธยาครับ ยิ่งกองใดไม่มีหุ้นกลุ่มแบงก์อยู่เลยเนี่ย ติดลบน้อยกว่ากองอื่นครึ่งต่อครึ่งเลยครับ เช่น ณ 12/3/50 กองที่ลงหุ้นใหญ่ทุกกลุ่มที่ฮิตในตลาด ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน -7% ถึง -8% ถ้าเป็นกองที่ไม่มีกลุ่มแบงก์จะได้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -3% ถึง -4% ครับ ดังนั้นหมีพูเห็นว่าถ้าจะลงทุนในกองของอเบอร์ดีนและอยุธยา ก็อย่าไปดูดัชนี SET เพื่อตัดสินใจเลือกลงทุนนะครับ เพราะว่าหุ้นที่เขาลงทุนเข้าพอร์ตนั้น ไม่อยู่ในสัดส่วนเดียวกับที่ใช้คำนวณดัชนีนะครับ แต่ควรจะเลือกลงทุนเพราะเราชอบในหุ้นที่เขาลงทุนให้เราจะดีกว่า เพราะถ้าจะให้เราไปลงทุนในหุ้นนั้น ๆ เราอาจจะไม่มีสิทธิซื้อเลย หรือซื้อได้แต่ขายยากมาก สภาพคล่องต่ำก็เป็นได้ ถ้าใครชอบหุ้นเสริมสุขที่ขายเป๊ปซี่ หุ้นกรุงเทพประกันภัยที่จ่ายปันผลดีปีละ 4 ครั้ง หุ้นภัทรประกันภัยที่ซื้อขายยากมาก ๆ แต่ปันผลดีมาก (ขนาด panic ยังไม่มีใครคายหุ้นออกมาเลย) หุ้นแม็คโคร หุ้นบิ๊กซี (สองหุ้นนี้ซื้อในตลาดทีไร ขายหมูทุกที) ฯลฯ ลองมาลงทุนผ่านกองทุนของอเบอร์ดีนสิครับ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาคอยตามตลาดด้วยตัวเอง เพราะหุ้นเหล่านี้เป็นหุ้นที่ Value ทำให้กินอิ่มนอนหลับ เหมือนกับเราได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของในกิจการนั้นด้วยครับ แต่ถ้าติดตามเอง จะทำให้นอนไม่หลับได้ครับ เพราะหุ้นเหล่านี้ บทจะผันผวนก็โลดโผนซะติดจรวด ตามไม่ทันอารมณ์ตลาดเลยครับ หุ้นเหล่านี้ทางกองทุนจะทยอย ๆ เก็บตลอดเวลา เมื่อเวลามีคนมาเสนอขาย หรือเกิน panic ต่าง ๆ ทำให้กองทุนกลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ส่วนหนึ่ง ทำให้ราคาค่อนข้าง stable ในระดับนึงครับ ล่าสุดนี้กองทุนก็ทยอยตามเก็บหุ้นเสริมสุขได้อีกล็อตใหญ่ (สังเกตุได้ว่าหุ้นเสริมสุขไม่ค่อยเขยื้อนหวือหวาเท่าไหร่) /me จ๊ากเผลอหลุดให้ความเห็นออกไป รีบกลับไปแอ๊บแบ๊ว เนียนๆ เหมือนเดิม จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 13 มี.ค. 50 12:12:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมเคยตั้งข้อสังเกตุไว้ตั้งแต่ performance ตกแรกๆ แต่ก็มีบางคนในที่นี้มาปกป้อง แถมยังต่อว่าผมซะยกใหญ่  มาตอนนี้ระยะเวลาคงพิสูจน์ความจริงแล้วกระมัง performance ดีก็บอกให้รีบซื้อของมันดี performance ตกก็บอกให้รีบซื้อโอกาสดีมาถึงแล้ว ลงทุนระยะยาว พูดตามสูตรเซลล์เป๊ะ เอะอะ ก็จะขายท่าเดียว ลูกค้าจะกำไรขาดทุนชั้นก็ได้ค่าคอม ไม่จริงใจกับลูกค้าเอาซะเลย จากคุณ : DojoMAG - [ 13 มี.ค. 50 20:16:24 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อ่ะๆ พรุ่งนี้เอา performance ย้อนหลัง 1 ปี กองทุนรวมทั้งตลาดมาให้ดูเลยครับ ว่าเป็นยังไง คุยกันด้วยข้อมูลนะครับ ไม่ใช่ความรู้สึก หรือว่าจะเอาตอนนี้เลยดี??? จากคุณ : Mr.Messenger - [ 13 มี.ค. 50 20:38:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณ Mr Messenger สำหรับข้อมูลแบบเจาะลึกครับ ผมก็เหมือนอีกหลายๆ คนที่คงยังหนีไปไหนไม่ได้เพราะถือ LTF ของบลจ นี้อยู่ ถึงปีนี้ไม่ดี แต่โดยรวมก็ยังเป็นกอง LTF ทำกำไรให้ผมมากที่สุด ก็ได้แต่เอาใจช่วยต่อไป สองวันนี้ดูดีขึ้นมากครับ แต่คงต้องรอดูยาวๆ อีกอย่างที่ไม่ชอบใจคือการหักค่าธรรมเนียม 15 บาทเวลาซื้อโดยหักบัญชีธนาคารผ่าน E-Avenue มีโครงการจะปรับปรุงตรงนี้บ้างมั้ยครับ มันเหมือนบังคับไม่ให้ลูกค้าสะสมซื้อทีละน้อยๆ หลายๆ ครั้ง ต้องทุ่มซื้อทีเดียวมากๆ ฝากไปบ่นด้วยละกันครับ จากคุณ : เดี่ยวมือหนึ่ง - [ 14 มี.ค. 50 08:38:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ เดี่ยวมือหนึ่ง.... ก็ใช้ e-Avenue สำหรับขายคืนหรือสับเปลี่ยนแบบหมีพูสิครับ ส่วนเวลาซื้อก็ไปโอนผ่านตู้เอทีเอ็ม แล้วส่ง FAX เข้าไปที่ บลจ. (อย่าหวังว่า บลจ.จะได้แอ้มค่าธรรมเนียมโอนเงิน เมินซะเถอะ..ฮ่าฮ่า) จะทำเวลาไหนก็ได้ เช่นโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มในตอนเช้าก่อนจะเข้าทำงาน พอสาย ๆ หน่อยก็ส่ง FAX ไปให้ บลจ.พร้อมใบสั่งซื้อ มาดูวิธีง่าย ๆ ในการสั่งซื้อด้วยตัวเองแบบไม่ง้อ e-Avenue กันดีกว่าครับ ขั้นแรก ก็ไปโหลดใบสั่งซื้อมาเก็บไว้ จะใช้เมื่อไหร่ก็พิมพ์ออกมา หรือไม่ก็ถ่ายเอกสารเก็บไว้หลาย ๆ ใบ อย่าลืมโหลดตารางเบอร์บัญชีธนาคารที่จะให้โอนเงินเข้ามาเก็บไว้ด้วยนะครับ มีตั้งหลายธนาคารให้เลือกโอน แล้วแต่เราสะดวก ถ้าซื้อบ่อย ๆ ก็ควรจดเบอร์บัญชีนั้น ติดกระเป๋าตังค์ไว้ก็ดีนะครับ ขั้นสอง ถ้าจะซื้อ ก็ไปโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม (ถ้าเรามีบัตรเอทีเอ็มแบงก์ไหน ก็ควรโอนเข้าบัญชีของ บลจ. ที่เปิดไว้กับแบงก์นั้น จะได้ไม่ต้องเสียค่าโอน) หรือสะดวกไปที่เคาน์เตอร์แบงก์ ก็ไปทำรายการให้เรียบร้อย แล้วเก็บใบบันทึกรายการหรือใบนำฝากกลับมา ขั้นสาม กรอกใบคำสั่งซื้อ ลงจำนวนเงินที่เราโอนเข้าไปให้ บลจ. แล้วเซ็นชื่อ อย่าลืมใส่เบอร์โทรที่ติดต่อได้สะดวกด้วยนะครับ เพราะเจ้าหน้าที่ บลจ.จะโทรมายืนยันว่าได้รับเอกสารแฟกซ์แล้ว ขั้นสี่ ส่งแฟกซ์ใบคำสั่งซื้อและใบบันทึกรายการหรือใบนำฝากนั้นไปที่ บลจ.อเบอร์ดีน โทร.023523389 แล้วเก็บเอกสารเหล่านี้ไว้เป็นหลักฐานจนกว่าจะได้รับใบยืนยันหน่วยลงทุน จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 14 มี.ค. 50 10:08:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โห้ จะซื้อขายที ยุ่งยากเลือดตาแทบกระเด็นแบบนี้ อย่าไปซื้อมันเลยครับ บลจ แบบนี้ คนอื่นพัฒนาไปถึงไหนแล้ว จากคุณ : skullevil - [ 14 มี.ค. 50 17:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แต่ถ้า จนปัญญา รึ ปัญญาอ่อนจริงๆ อยากซื้อ ก็ ซื้อผ่านโพเอม โอนเงิน จาก ไอแบง ของบัวหลวง ส่งคำสั่งซื้อ-ขาย ผ่านเน็ต แจ้ง เลขที่โอน ไอแบง ทางเน็ต ไม่เสีย ค่าธรรมเนียมซื้อ ไม่เสียค่า โทร แฟก ไม่ต้องไป ยืนเมื่อยหน้าตู้เอทีเอ็ม แต่ก็ยังยืนยัน อย่าโง่ ไปอุดหนุน เลี้ยงดู บลจ ที่ ค่าฟี แพงๆ แต่ บริหาร ห่วยๆ เลย ครับ เสียข้าวสุก ป่าวๆ แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 50 22:30:28 จากคุณ : skullevil - [ 14 มี.ค. 50 17:22:32 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มีวิธีที่ง่ายกว่านี้อีกนะครับ คือโทรเรียก Mr.Messenger ให้ส่งเจ้าหน้าที่มารับเอกสารถึงที่บ้านหรือที่ทำงาน เห็นมั้ย Low Tech มั่ก ๆ แต่เราได้รับความสะดวกสูงสุด หุหุ... จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 14 มี.ค. 50 20:40:38 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณครับพี่หมี โหลดใบสั่งซื้อไว้แล้ว เดี๋ยวคราวหน้าจะลองใช้ เอ ที เอ็ม ดู มิกล้ารบกวน Mr Messenger ครับ จากคุณ : เดี่ยวมือหนึ่ง - [ 15 มี.ค. 50 08:26:20 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เออ แล้วไอแบ็งก์ของบัวหลวงทำได้ป่าวคับ หมายถึงถ้าไม่ผ่านโพเอ็ม แต่ซื้อกะอเบอร์ดีนเลยน่ะ จากคุณ : เดี่ยวมือหนึ่ง - [ 15 มี.ค. 50 08:28:07 ]