ความคิดเห็นที่ 1 ...... ของ 1000 บาท ไปต่างชาติ900บาท ค่ายามคนไทย100บาท ไม่คิดค่าต้นทุนสินค้าหรือไง? ไปสอบวิชาเศรษฐศาสตร์ ท่าทาง อาจารย์ให้ตกตั้งแต่วิธีคิดเลยแหละ คิดได้ไง คิดกำไรขาดทุนทั้งที แต่ไม่คิดต้นทุน? อีกอย่าง..... โชว์ห่วยข้างบ้าน เขาก็ซื้อของจากห้างพวกนั้น มาขายพวกคุณเหมือนกันนั่นแหละ ในเมื่อซื้อของที่ถูกกว่าได้ ทำไมคุณต้องมาซื้อของที่แพงกว่าทั้งๆที่มาจากแหล่งเดียวกันด้วย? สนับสนุนคนไทยด้วยกันเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าคิดตื้นๆเพียงแค่ไม่ซื้อของต่างชาติแล้วจะทำให้ประเทศไทยเจริญได้อย่างนั้น เพราะถึงแม้ต่างชาติเขาจะเอากำไรกลับไปก็จริง แต่เขาก็เอางานมาให้เราด้วย คุณคิดดู หากห้างพวกนี้ แบนด์พวกนี้ล้มไป คนไทยที่ทำงานอยู่ที่นั่นจะไปทำงานที่ไหน? จะมิเป็นคนตกงานที่จะรังแต่สร้างปัญหาให้กับประเทศชาติมากขึ้นอีกหรือ? ดูเผินๆบทความนี้น่าเชื่อถือดี แต่ทำไมถึงตกม้าตายเอากับแค่เรื่องง่ายๆที่แม่ค้าหน้าปากซอยยังรู้เช่นเรื่องคิดต้นทุนเข้าไปในผลกำไรอย่างนี้เล่า? จากคุณ : กระต่ายโลหิต - [ 15 มี.ค. 50 19:32:27 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จะโพสทำไมมากมาย อ่านแล้ววิเคราะห์ก่อนโพสก็ดี ไอ้พวก Fw mail พวกนี้ ข้อมูลมันมั่วๆครับ จากคุณ : คนไทยเหมือนกันแต่ไม่มั่ว - [ 15 มี.ค. 50 19:36:23 A:125.25.207.167 X: TicketID:038237 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เลิกโพสได้แล้ว จขกท.  แค่ นิติภูมิไม่จบ ดร. แต่มาแอบอ้าง แค่นี้ก็เห็นไส้ติ่งแล้ว ไปถามคู่กรณี นิติภูมิ ดู เจ๊ เจ้าแม่แถวชลบุรี รู้กำพืด นิติภูมิ ดี จากคุณ : Kofschip - [ 15 มี.ค. 50 19:48:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ของที่ขายในห้างกว่าิิิ80%ผลิตในประเทศนะครับคุณลืมข้อนี้ไปหรือเปล่าฺ จากคุณ : lke - [ 15 มี.ค. 50 19:56:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ต้นทุนสินค้า ที่ว่า ก็เป็นสินค้าส่วนใหญ่ผลิตในประเทศไทย เกือบทั้งนั้น กำไร ส่วนหนึ่งออกไปนอกประเทศจริง แต่ไม่ใช่ 90% แน่ หลัง หักภาษีแล้ว อาจจะมีสัก 10% จากคุณ : ปุถุชนคนไทย - [ 15 มี.ค. 50 19:59:27 ]

ความคิดเห็นที่ 6 นิติภูมิ ถนัดหลอกคนที่ไม่เข้าใจ หรือเข้าใจ ครึ่งเดียว อย่างการเลิกซื้อของห้างแล้วมาซื้อข้างบ้านนั้น ก็ดีครับ แต่คุณรุ้หรือเปล่าว่า ข้างบ้านนั้น ไปซื้อมาจาก แมกโคร์ หรือไม่ก็พวก pack ใหญ่จาก Lotus carrefour.... หลายปีก่อน มีปรากฎการณ์ ญี่ปุ่นบุกซื้อทุกอย่างในสหรัฐ แต่ความเป็นจริงก็คือ ญี่ปุ่น ไม่สามารถขุดแผ่นดินของสหรัฐ ขนกลับไปญี่ปุ่นได้ ในที่สุด สหรัฐโต้กลับ และซื้อคืนได้ไม่ใช่น้อย ประเด็นจึงไม่ใช่ "ห้าม" ต่างชาติเข้ามา แต่ถ้าคุณจะสุ้ คุณต้อง "รักชาติ" ซึ่งมีหลายร้อยวิธี แต่ไม่ปรากฎอยู่ในส่วนใดๆ ของบทความ นิติภุมิเลย แม้แต่น้อย จากคุณ : หมูกระแทก (หมูกระแทก) - [ 15 มี.ค. 50 20:30:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 555555555555555555555555 ตาหลกร้ายเจง ๆๆๆ จากคุณ : กระจกแก้ว - [ 15 มี.ค. 50 20:32:29 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เชื่อคนง่ายจริงๆ เหอๆ จากคุณ : บิ๊กแอส - [ 15 มี.ค. 50 20:46:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เสียเวลาอ่านจริงๆ  ไม่เข้าท่า นี่ยังต้องเสียเวลามาพิมพ์ว่าอีก  เฮ้อ!!! จากคุณ : hartmann - [ 15 มี.ค. 50 20:54:53 ]

ความคิดเห็นที่ 10 5555 เห็นด้วยกะคุณ hartmann  เสียเวลาต้องมาด่ามามันไม่ได้เรื่องอีกนะเนี่ย PS  อยากรู้เรื่อง นิติภูมิ กับ เจ๊ ใหญ่ แบบมีรายละเอียดหน่อยอ่ะครับ  ได้ยินผ่านไปผ่านมาหลายทีละ จากคุณ : atz - [ 15 มี.ค. 50 21:04:02 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เก่าโครต จขกท.ไปอยู่หลังเขาลูกไหนมาหว่า.. จากคุณ : noom_lozo - [ 15 มี.ค. 50 21:18:25 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คห.10 อยากจริงรึปล่าวครับ " จะจัดดๆๆให้คร้าบบบบ " แต่ขอไปคุ้ยก่อน ไม่รู้เอาไว้ไหน จากคุณ : platalay - [ 15 มี.ค. 50 21:22:45 ]

ความคิดเห็นที่ 13 http://001.uploadblaster.com/file_hosting/Dark.wma http://001.uploadblaster.com/file_hosting/Darkside_1.wma http://001.uploadblaster.com/file_hosting/Darkside_5.wma จากคุณ : platalay - [ 15 มี.ค. 50 21:24:35 ]

ความคิดเห็นที่ 14 'นิติภูมิ'โวยมือแพร่เทปลับผ่านเว็บทวงหนี้20ล้าน เชื่อถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง พร้อมแจ้งความควานหาตัวมือแพร่ข่าว ฮือฮาเทปสนทนาทวงหนี้ 20 ล้านทางเว็บไซต์ เจ้าตัวร่อนจม.เปิดผนึกแจงเรื่องเป็นคดีอยู่ชั้นศาล เชื่อถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง พร้อมแจ้งความควานหาตัวมือแพร่ข่าวทางอินเตอร์เน็ต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเว็บไซต์พันทิพย์ดอทคอม ที่เปิดให้ประชาชนแสดงความเห็นด้านการเมือง ได้เผยแพร่เทปบทสนทนาทางโทรศัพท์ ความยาวประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างผู้มีเสียงคล้ายนายนิติภูมิ นวรัตน์ ว่าที่ ส.ว.กรุงเทพฯ กับหญิงมีอายุรายหนึ่งชื่อ"ป้าเช็ง" ระบุเป็นชาวชลบุรี ซึ่งพยายามทวงเงินนายนิติภูมิจำนวนกว่า 20 ล้านบาท โดยตลอดการสนทนา "ป้าเช็ง"ด่าทอคู่สนทนาค่อนข้างรุนแรง ทำนองว่า เป็นบุคคลที่เชื่อถือไม่ได้ ขณะที่ฝ่ายคู่สนทนาไม่ได้ตอบโต้ใดๆ เพียงแต่ขอเข้าพบเพื่อเคลียร์ปัญหาด้วยตนเอง ต่อมา นายนิติภูมิ นวรัตน์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ตนทราบว่ามีผู้นำเทปการสนทนามาเผยแพร่ ซึ่งเนื้อหาของบทสนทนานั้น จะเห็นได้ว่าตนให้ความเคารพบุคคลดังกล่าว พยายามใช้คำสุภาพตลอดการสนทนา เพราะความจริงตนได้ตั้งบริษัทมาตั้งแต่ 2525 แล้ว บุคคลดังกล่าวก็เข้ามาเป็นประธานบริษัทเพียง 3 เดือน แต่ก็ทำให้เกิดความวุ่นวายพอสมควร ดังนั้นจึงขอชี้แจงผ่านแถลงการณ์ดีกว่า จากนั้น นายนิติภูมิ ได้ส่งจดหมายเปิดผนึก ลงนามโดยผู้บริหารบริษัทกลุ่มบาลานซ์ ซึ่งเขาเป็นประธาน มีความข้อความว่า ตามที่มีผู้นำเทปการสนทนาระหว่างนายนิติภูมิ กับบุคคลหนึ่งออกมาเผยแพร่ ซึ่งในเทปดังกล่าวมีคำพูดกล่าวหา นายนิติภูมิ ว่าโกงทรัพย์สิน อาจทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิด จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้ นายนิติภูมิ ได้ก่อตั้งกลุ่มบาลานซ์ตั้งแต่ปี 2525 โดยทำสถาบันกวดวิชาย่านมหาวิทยาลัยรามคำแหง ต่อมาได้ขยายทำงานด้านอื่น เช่น เขียนบทความ ผลิตภาพยนตร์สารคดี ตั้งบริษัทจำหน่ายเสื้อผ้า และเครื่องเดินป่า ในห้างเดอะมอลล์ ทั้ง 6 สาขา โดยกิจการดังกล่าวได้ดำเนินการด้วยดีเรื่อยมาเป็นเวลา 21 ปี จนกระทั่งเดือนมิถุนายน 2546 มีผู้ซึ่งนายนิติภูมิรู้จัก เป็นคนเมืองจันทบุรีพามาพบนายนิติภูมิ โดยแจ้งแก่นายนิติภูมิว่า อยากลงทุนร่วมกัน ด้วยการเปิดบริษัท 2 แห่ง คือ บริษัทผลิตภาพยนตร์เรื่อง "มหาราชดำ" และบริษัทผลิตสารคดีต่างประเทศ เพื่อป้อนเคเบิลทีวีทั่วประเทศ โดยบุคคลดังกล่าวเป็นเจ้าของเคเบิลทีวีอยู่แล้วถึง 2 แห่ง ด้วยความเชื่อถือผู้ที่มาแนะนำ จึงตัดสินใจร่วมลงทุนกับบุคคลดังกล่าวถึง 2 บริษัท โดยมีทุนจดทะเบียนถึง 200 ล้านบาท บริษัททั้ง 2 ที่ตั้งขึ้นใหม่ มีบุคคลดังกล่าวและนายนิติภูมิ เป็นกรรมการบริษัท ผู้มีอำนาจลงรายชื่อร่วมกัน โดยแบ่งหน้าที่กันทำงานอย่างชัดเจนดังนี้ หลังจากเข้ามาบริหารงานได้ 3 เดือน หุ้นส่วนผู้นี้ได้เดินทางไปประเทศมาเลเซีย พร้อมกับคณะของนายนิติภูมิ และหลังจากที่กลับจากประเทศมาเลเซีย พวกเราสังเกตว่า หุ้นส่วนผู้นี้ได้หายไปไม่กลับมาทำงานอีกเลย ไม่สามารถติดต่อได้ พวกเราไปตามที่อพาร์ตเม้นท์ พนักงานของอพาร์ตเม้นท์ ก็บอกว่าหลังจากกลับจากต่างประเทศ หุ้นส่วนผู้นี้ได้ขนย้ายของออกไปแล้ว เมื่อหุ้นส่วนผู้นี้ไม่มาทำงาน คุณนิติภูมิก็ต้องรับผิดชอบทั้งในส่วนของพนักงานที่ยังเหลืออยู่ และหนี้สินของบริษัทจำนวนมาก ที่ร่วมกันทำธุรกิจกับหุ้นส่วนผู้นี้ หลังจากที่ได้เข้าไปดูบัญชีของบริษัท (ซึ่งนายนิติภูมิไม่ค่อยจะได้ดูมาก่อน เพราะมีภารกิจในการเดินทางไปต่างประเทศ) ก็พบว่างานในส่วนที่นายนิติภูมิรับผิดชอบ เป็นไปตามข้อตกลง แต่งานในหน้าที่ของหุ้นส่วนผู้นี้ มีการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในกิจการของบริษัท เป็นชื่อของตัวเอง ไม่ได้ซื้อในนามของบริษัทฟิล์ม ตามข้อตกลง ซึ่งภายหลังหุ้นส่วนผู้นี้ได้ฟ้องร้องเพื่อเรียกอุปกรณ์เหล่านี้คืน โดยเป็นคดีความอยู่ในศาลขณะนี้ “สำหรับกรณีที่มีการลักลอบอัดเทปการสนทนา ระหว่างนายนิติภูมิกับผู้หญิงคนหนึ่ง และนำมาเผยแพร่นั้น พวกเราเห็นว่าสิ่งต่างๆ ที่นายนิติภูมิได้ทำให้กับหุ้นส่วนผู้นี้ในอดีต พวกเรายังคิดว่าหุ้นส่วนผู้นี้ ไม่น่าจะเป็นผู้ที่นำเทปอออกมาเผยแพร่ พวกเรายังมีความคิดว่า น่าจะมาจากกลุ่มบุคคลที่ 3 ที่อาจจะหวังผลประโยชน์ในทางการเมืองมากกว่า เพื่อดิสเครดิต และสร้างความเสื่อมเสียให้แก่คุณนิติภูมิ โดยมุ่งหวังทำลายกันในทางการเมือง" ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดทางกฎหมาย นายนิติภูมิได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ที่กองบังคับการตำรวจปราบปราม เพื่อให้สอบสวนดำเนินคดีกับผู้ที่เผยแพร่เทปดังกล่าวแล้ว และแจ้งความร้องทุกข์ ให้สืบสวนดำเนินคดีกับ ผู้ที่ส่งข้อความในอินเตอร์เน็ต จากกรุงเทพธุรกิจ 5 พฤษภาคม 2549 19:40 น. http://www.bangkokbiznews.com/2006/05/06/w...?news_id=101234 จากคุณ : platalay - [ 15 มี.ค. 50 21:24:56 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จาก http://webboard.mthai.com/10/2006-04-20/224965.html นิติภูมิ นามสกุลเดิมไม่ใช่นวรัตน์ อยู่พร้อม คือ นามสกุลเก่าของเขา แต่ไม่เข้าใจว่า จะเปลี่ยนนามสกุลไปทำไมกัน แสดงว่าไม่นับถือบรรพบุรุษ หรือมีปมด้อยอะไรสักอย่างแน่ นิติภูมิ นวรัตน หรือ ติวเตอร์หมู ที่หน้ารามฯ จบการศึกษาจาก ร.ร นายร้อย ได้ทุนไปต่อที่ นายร้อยออสเตรเลีย จบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัย มอสโคว์ สาขา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ประเทศรัสเซีย ผมพบ นิติภูมิครั้งแรกเมื่อปี 1993 เพื่อแสดงความจำนงที่จะไปศึกษาต่อที่ประเทศรัสเซีย ได้จ่ายเงินค่านายหน้า ค่าเดินทาง ค่าที่พักระหว่างฝึกภาษาอะไรต่างๆ เมื่อขณะนั้นถือว่ามากพอดู เมื่อเทียบกับประเทศยุโรปอื่นๆ ได้เดินทางไปกันเป็นกลุ่มพร้อมกับนิติภูมิ เมื่อไปถึงพบว่านิติภูมิเป็นคนประหยัดให้เราเกินกว่าเหตุ เนื่องจากเมืองที่ไปเป็นเมืองหลวงอันดับสอง การเดินทางโดยเครื่องบินแสนสะดวก แต่เราไปทางรถไฟโดยให้เหตุผลว่าไม่มีที่นั่ง หลังจากนั้นเราไม่ได้กินอะไรอีกเลยนอกจากข้าวกับน้ำพริกที่เราได้กินในห้องชั่วคราวท ี่เช่าไว้ของแกกับชาอีกหนึ่งแก้ว ดีที่ซื้อเบียร์ไว้เกือบลัง เมื่อมาถึงชานชาลา มีรถมารับเราจากมหาลัยต่างๆ งงไปหมด กว่าจะรู้ก็แยกกันหมดแล้ว ไม่มีที่พักรวมเพื่อฝึกภาษาเบื้องต้น ภาษารัสเซียไม่กระดิกซักตัว หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปเริ่มแกร่ง หาที่โทรศัพท์กลับบ้านได้ สองเดือนต่อมาเจอเพื่อนที่มาด้วยกัน ดีใจมาก สี่เดือนต่อมาเจอกับนิติภูมิอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่พี่หมูอย่างที่เราเคยรู้จัก เพื่อนคนหนึ่งต้องการย้ายมหาลัย เนื่องจากนิติภูมิเลือกไม่ตรงกับที่เขาต้องการ นิติภูมิด่าอย่างหยาบคายว่า เขานั้นรวยกว่า พ่อแม่ของพวกเราหลายเท่า ว่าเราจะเกิดปัญหาพูดข่มขู่เพื่อนไม่ให้ย้ายมหาลัย อะไรมันเกิดขึ้นไม่มีใครเข้าใจ เพื่อนคนนั้นได้กลับมาประเทศไทยด้วยความเสียใจและได้ฟ้องศาล ต่อมาได้ถูกคุกคามถึงชีวิต จนถอนเรื่องไป แต่เราทราบว่าที่ไม่ให้พวกเราย้ายมหาลัยนั้นก็เพราะว่า นิติภูมิได้ทำสัญญากับมหาวิทยาลัยต่างๆที่เราเรียนอยู่ ให้เก็บค่าเล่าเรียนแพงกว่าคนอื่นๆ หรือพูดง่ายๆว่า นิติภูมิ กินค่าเทอมเรา ถ้าเราย้ายแกก็ไม่ได้เงินนายหน้า เราย้าย:-)หมดเลย นักเรียนที่มาเรียนที่ประเทศรัสเซียช่วงฟองสบู่มีมาเรื่อยๆ แต่นิติภูมิจะไม่บอกว่า มีนักเรียนเก่าอยู่กลุ่มหนึ่งที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ถ้าเลี่ยงไม่ได้จะบอกว่า พวกนั้นคนไม่ดี พวกกบฏ ทำไม พวกผมรู้มากไป นิติภูมิ นวรัตน มีภรรยาอยู่คนหนึ่ง ภรรยาคนนี้ห้ามแกซื้อกล้องวีดีโอโดยเด็ดขาด เพราะนิติภูมิชอบที่จะถ่ายหนังโป๊ ซึ่งนิติภูมิเป็นพระเอกอยู่คนเดียว นางเอกเยอะมีหลายม้วนมาก รอบปฐมฤกษ์คือวันที่นิติภูมิเมากับพวกเรา นับว่านิติภูมิเป็นคนกล้า แต่ขี้อายเพราะใส่กางเกงในขณะทำการ หมดศรัทธา ระหว่างปี 1993-1995 นิติภูมิ นวรัตน ถือพาสปอร์ต(หนังสือเดินทางต่างประเทศ) สองเล่ม จริงหนึ่ง ปลอมหนึ่ง เล่มปลอมเขียนด้วยลายมือของแกเองว่าเป็นตำรวจสากล (Inter Police) ต่อมาทางสถานทูตไทย ณ กรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย ได้เรียกกลับคืนไป นิติภูมิ นวรัตน ได้มีการลงเรียนไว้จริงที่มหาลัยมอสโคว์ในปี 1993 แต่ไม่ผ่านการเรียนภาษารัสเซียซึ่งเป็นพื้นฐานภาคบังคับที่ทุกคนจะต้องเรียน เพราะเหตุดังนั้น การที่อ้างว่าจบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัย มอสโคว์ คณะความสัมพันธ์สาขาต่างประเทศนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ข้อสังเกตที่พึงมี มีการเปลี่ยนคณะที่เรียนในการพิมพ์หนังสือหลายๆเล่ม และอ้างว่าคณะที่เรียน ใช้ภาษาอังกฤษในการสอน ที่จริงมหาวิทยาลัย มอสโคว์ ใช้ภาษารัสเซียเป็นหลัก หากคลางแคลงสงสัยในปริญญาเอก ให้ถามโดยตรงที่มหาวิทยาลัย มอสโคว์ ว่ามีคนชื่อนิติภูมิ นวรัตน จากประเทศไทย ได้รับปริญญาเอกไหม เวบไซต์ของมหาวิทยาลัย มอสโคว์ www.msu.ru เปลี่ยนภาษาอังกฤษอยู่ด้านขวาบน คำถาม ถามได้ที่ http://www.msu.ru/feedback.html ** ทำไมต้องเขียนมาตีแผ่ความจริงกัน** ผมและเพื่อนๆ อีกทั้งเพื่อนชาวรัสเซีย ได้ติดตามดู นิติภูมิ นวรัตน เป็นช่วงๆ ทั้งทีวี และสิ่งพิมพ์ที่เกี่ยวกับประเทศรัสเซีย แรกๆ ก็ตลกกับสิ่งที่ได้อ่านเพราะเห็นข้อมูลทั้งหมดมีการเสริมแต่ง ใส่รสชาติ มีความจริงบ้างเพียงน้อย เวลานานไป คนเริ่มเปลี่ยนจากเชื่อเป็นเลื่อมใส ศรัทธา หากแต่ข้อมูลที่ออกไปสู่คนนับล้านๆคน กลับเป็นการเสริมแต่งมากไปอีก มีการบิดเบือนความจริงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศรัสเซีย โดยขาดความรู้อันเป็นจริงในด้านภาษา หรือแม้แต่ความเข้าใจในความเป็นคนรัสเซียเลยแม้แต่น้อย และมีการชักจูงหลอกลวงผู้คนไปเรียนธุรกิจที่เมืองนาโคดก้า ซึ่งอ้างว่าเป็นศูนย์กลางธุรกิจ เมืองนาโคดก้าเป็นเมืองท่าเรือจับปลาทางทะเล ใกล้ท่าเรือวลาดิวอสต็อก เมืองธุรกิจแท้จริง คืออยู่ที่เมืองหลวงมอสโคว์และเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แต่ที่ไปที่นั่นได้ไกลหูไกลตาจากความจริง ทั้งหมดนี้เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน เพื่อนชาวรัสเซียได้ให้ฝากเตือนกันมาก่อนที่อะไรๆมันจะไปกันใหญ่ หากท่านสงสัยเกี่ยวกับความจริงที่เขียนมา ให้ถามดูได้ทั้งหนังสือเดินทาง ถามได้ที่สถานทูตหรือกระทรวงการต่างประเทศ ข้าราชการที่ประจำอยู่ช่วงปีนั้นๆทราบดี สมาคมนักเรียนเก่าประเทศรัสเซีย ณ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก จากคุณ : vatana, sengkreng - [ 8 มิ.ย. 47 18:31:29 A:168.120.7.9 X: ] จากคุณ : platalay - [ 15 มี.ค. 50 21:25:23 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อีกหนึ่งหลักฐาน เรื่องนิติภูมิ สรุปโดยย่อ ปูมหลัง มีเรื่อง ที่มาของเรื่อง ร.ต.อ. ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ ข่าวจาก นายเส็งเคร็ง ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ เนาวรัตน์ ชื่อเดิม “บุญช่วย (หมู)” นามสกุล “อยู่พร้อม” ขี้โม้ประจำจังหวัดจันทบุรี พูดเรื่องเศร้า เล่าเรื่องเท็จ สร้างภาพเก่ง ไม่มีใครกล้าไปยุ่งกับมานเพราะความที่มานโม้ว่า หนังสือพิมพ์ที่มานทำอยู่ขาดมานไม่ได้ และข้าราชการทุกหน่วยงาน ที่เป็นใหญ่เป็นโตนี้ ต้องมาขอร้องให้มานช่วยเหลือทั้งนั้น มานจะสั่งอะไรก็ได้ มีคุณยายท่านหนึ่งอายุอานามก็ประมาณใกล้เจ็ดสิบปี ถูก ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ เนาวรัตน์ ต้องเรียกว่าโกงแล้วหาเรื่องท่านโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วก็ไปชักชวนกุ๊ยคนหนึ่่ง กรุ๊ยผู้นี้ปัจจุบันเป็นนักการเมืองท้องถิ่นมีอันดับ ชีวิต ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ เนาวรัตน์ และกรุ๊ยผู้นี้คล้ายคลึงกันมาก กรุ๊ยผู้นี้จบแค่ ป. 4 คุณยายเข็นให้มานเรียนจนจบ ม. 6 เรียนลัด ที่โรงเรียนศรีราชา ส่วนนิติภูมินั้นจบ ดร. จอมปลอมไม่ต้องคิดอย่างอื่นให้เสียหัว แค่จะแอ๊กเป็น ดร. ก็ต้องหลอกลวงคนทั้งโลก มีวิธีการ สร้างเรื่องเลวร้ายใส่ผู้อื่น แล้วเอาดีใส่ตัว นายเส็งเคร็งผู้รู้เรื่องของ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ เนาวรัตน์ และกรุ๊ยคนนี้ทนดูไม่ได้ ถามคุณยายว่า ทนได้ยังไง คุณยายบอกว่าช่างมาน เสียเงินแล้วอย่าไปเสียหัว เสียหัวไปกับพวกมาน ทำให้สุขภาพจิตเราเองเสีย ไม่คุ้ม เพราะพวกมานเป็นผู้ด้อยโอกาส ไม่รู้ว่าพวกมาน โง่หรือฉลาด มีโอกาสแล้วใช้ไม่เป็น นายเส็งเคร็งรู้และได้เห็นเหตุการณ์ เกี่ยวกับนายกรุ๊ยผู้นี้ อยากได้อะไร คุณยายไม่เคยขัด คิดว่าเป็นน้อง ส่วน ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ เนาวรัตน์ ก็ขอสมัครเป็นลูกบุญธรรมคุณยาย แต่คุณยายให้ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ เนาวรัตน์ เรียกว่าป้า ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ เนาวรัตน์ ต้องใช้คำว่าหลอกลวงและโกงเงินคุณยายไป ยี่สิบกว่าล้าน มีลูกบุญธรรมคุณยายอีกคนเห็นท่าไม่ดี แต่พูดไม่ได้ ก็กันและเอาของคืนมาได้ ห้าล้านกว่า คุณยายบอกว่าของเสียไปแล้ว ได้คืนมาเอาไปให้คนเช่าแล้วเอารายได้ไปถวายให้ท่านเจ้าคุณวัดสุทัศน์ ไปทำประโยชน์ ช่วยเด็กที่ขาดการศึกษา คุณยายบอกว่าสมบัติยาย อยู่กับยายไม่เกิดประโยชน์ สุดท้าย ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ เนาวรัตน์ ขอให้คุณยายออกทุน ขายเสื้อผ้าที่ห้างเดอะมอลล์ คุณยายบอกว่าไม่ใช่อาชีพ ของที่จะทำ ทำไมไม่ทำ แล้วนิติภูมิ เนาวรัตน์ มานก็ขอเงินซื้อลิขสิทธิ์ นิยายของโสภาค สุวรรณ เรื่องสิคิริยา นิติภูมิคงลืมไปว่ามานเคยบอกคุณยายว่า ช่อง 7 ซื้อลิขสิทธิ์ไป นิติภูมิบอกว่าช่อง 7 ไม่มีปัญญาทำ คุณยายตอบไปว่า กรูยิ่งไม่มีปัญญา นิติภูมิไม่พอใจ มองดูจะต้มคุณยายไม่ได้อีกแล้ว คุณยายไม่ได้สงสัย วันที่ 25 ตุลาคม 2546 คุณยายเข้าไปดูรายการของที่ซื้อมาเข้าบริษัท เพราะนิติภูมิบอกว่า เลนส์กล้องหาย และของที่ซื้อมาไว้ใช้ส่วนตัว เช่นเครื่องตัดต่อ ซึ่งนิติภูมิเป็นผู้สั่งซื้อมาจะเอาไว้ใช้เอง แล้วก็ไม่มีเงินให้เขา จะเป็นเรื่องเป็นราว คุณยายตัดปัญหา เลยต้องเป็นผู้จ่าย เครื่องตัดต่อตรงนี้คุณยายบอกว่าจะซื้อไว้ตัดต่อข่าวและอื่นๆ เพราะคุณยายเป็นเจ้าของเคเบิ้ลที่ ชลบุรี ,แหลมฉบัง และบ่อวิน สามแห่ง แต่นิติภูมิขอยืมคุณยายท่านไว้ใช้ก่อน คุณยายก็ให้ยืม ต่อมาคุณยายเรียกของคืน นิติภูมิไม่ยอมคืน การที่ยืมของเขาโดยมีหลักฐานการจ่ายเงินเป็นชื่อคุณยาย นิติภูมิ คุยว่าเป็นอาจารย์สอนกฎหมาย แล้วอย่างนี้ เขาเรียกกันว่าอะไร นิติภูมิใช้กฎหมายโดยมิชอบ ตอนนี้เรื่องอยู่ที่ สถานีจรเข้น้อย ใครอยากรู้ไปขอดูที่สถานี นิติภูมิไปร้องขอความเป็นธรรม ถูกสั่งสอบคุณยายเพิ่ม คุณยายต้องเซฟตัว รายละเอียดมีมาก คุณยายท่านเก็บใส่คอมพิวเตอร์ของท่านไว้ นายเส็งเคร็งแอบไปรู้มาจากข้อความของท่านมาเล่าให้ทุกคนฟัง เป็นบางตอน เพราะทนเห็นคุณยายโดนถูกรังแกมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว เห็นว่าเป็นแค่คนแก่ธรรมดาคนนึง เลยรังแกเอา รังแกเอา รายละเอียดยังมีอีกมาก ตอนที่ตรวจดูบัญชี คุณยายท้วงคนทำบัญชีว่า รายการมีซ้ำ แล้วคุณยายเป็นผู้ขีด และของที่ไปซื้อกับนิติภูมิอีกมากมายยังไม่ลงบัญชีเลย บัญชีบอกว่า วันที่ 27 จะไปตรวจ พอเด็กไปตรวจ นิติภูมิ ด่าเด็กว่า พวกมืงมาทำไม จะมาจับผิดกรูเหรอ ด่าเด็กคนที่ชื่อปุ้ยซะยับเยิน เด็กกลับถึงบ้านร้องไห้ บอกพ่อแม่ พ่อแม่เขาโทรมาเล่าให้ฟัง วันต่อมาเรียกเด็กมาถาม เด็กบอกว่ากลัวมาน คุณยายไม่ต้องเอาเรื่องเขาหรอก หนูกลัวช่างมานเถอะ เขาด่าคุณยาย ไปเอาเรื่องของคุณยายก็แล้วกัน เด็กเล่าให้ฟังว่าด่ายังไง คุณยายร้อง"เฮอะ" โทรมาหายาย ได้ยินว่า "ป้าครับ ผมนิติภูมิ" ยายพูดว่า "เออ" นิติภูมิถามว่า "ยายจะทำละครใช่ไหม" ยายตอบไปว่า "ใช่เรื่องมาเฟียราม ไม่ใช่สิคิริยา" ด้วยความโมโหเพราะรู้ว่ายายไม่เห็นด้วย นิติภูมิพูดต่อ"กรูมีรายได้ของกรูเดือนละสองล้านกว่า จะมีคนมาเล่นงานมืง แล้วมืงกับกรูต้องเจอกันแน่" ยายได้ยินเท่านี้เอง ยายบอกว่า"ตอนนี้มีมืงมีกูสนุก" นิติภูมิ ยังบอกอีกว่าจะกัดยายไม่ปล่อย คุณยายระวังตัวก็แล้วกัน ยายจะต้มลูกฟักให้ไอ่หมูมานกัด ตามที่ปุ้ยเล่ามานั้น ยายรู้แล้ว เคยเห็นอาการของนิติภูมิ ตามที่ปุ้ยเล่า ถ้ายังงั้นมานต้อง ดับโทรศัพท์ด่า เคยเห็นบ่อย อาการอย่างนี้ของมาน หลายครั้งที่พูดจาแปลก ทำเป็นคนยิ่งใหญ่ และสำคัญ มานดับโทรศัพท์ พูดเอง แล้วก็เออเอง ให้ตัวมานสำคัญ ทุกเรื่องโยนหาเลขา เล่าย้อนหลัง เมื่อตอนเช้า 15 กันยา 46 นายเส็งเคร็งเคยห็นคุณยายแจงเหตุผลทุกเรื่องให้นิติภูมิฟัง ทั้งหมด แล้วสำทับว่า ไอ้หมูชีวิตของเอร็งนี้แม่พาเอร็งไปไหว้หลวงปู่สด ชีวิตเอร็งดีขึ้นไหม เอร็งบอกว่าเอร็งเคารพกรูเหมือนแม่ กรูก็จะด่ามืงเหมือนลูก แล้วแต่เอร็งจะคิด ว่าด่าเอร็งก็ได้สอนเอร็งก็ได้ คำพูดที่แม่พูดนี้ถ้าเอร็งไม่จำใส่หัวกะบาล เอร็งจงเก็บไส่ห่อไว้ซะมีประโยชน์ทั้งนั้น ยามใดผิดพลาดในชีวิตจงแกะห่อมาดูว่าที่แม่พูดนี้จริงหรือเปล่า ไอ้หมูรับคำด่า "ได้ สอนได้ครับ" ๑. โอกาสมีแล้วจงใช้ให้เป็น สันดาลลที่เลวร้ายทั้งหลายจงเลิกซะ ๒. เกิดเป็นคนอย่ากะล่อนให้มานมากนักคิดถึงลูกสาวเอร็งมั่ง โดนคนอื่นเขาทำ แล้วจะรู้สึก ๓. เกิดเป็นคน ต้องรู้จักบุญคุณคนเป็นสิ่งสำคัญ แม่ของเอร็งตายเพราะเอร็ง เอร็งต้องรู้อยู่แก่ใจ ๔. เลิกตะกายกามได้แล้ว ถ้าสี่สิ่งนี้เอร็งไม่เลิก ชีวิตเอร็งจะอับเฉา เล่นเอานักแสดงอย่างมานน้ำตาไหล ต่อมา 30 กันยา 2546 นิติภูมิ บอกคุณยายว่า บ้านที่เคยให้คุณป้าออกเงินคืน คุณโมรา ด.ไปครั้งหนึ่งแล้วนั้น บ้านสามหลังนี้จะโอนเข้าบริษัท บัดนี้ถึงเวลาที่จะต้องจ่ายเขาแล้วเป็นเงิน 2,214,000.00 แล้วนิติภูมิ บอกคุณยาย ให้คุณเล็กเลขาคู่ใจ หรือเลขาร่วมแก๊งของนิติภูมิ เอาไปทำสัญญาเป็นของบริษัท บาลานซ์ฟิล์ม จำกัดโดยเบิกจากบัญชี ออมทรัพย์ของคุณยาย ที่ธนาคารกสิกรไทยสาขาทองหล่อ บัญชีเลขที่ 734-2—1342x-x(อยากรู้เลขที่บัญชีเต็มๆ เมลมาที่ superjengcoltd@hotmail.com) แล้วนิติภูมิบอกคุณยายว่า ให้คุณเล็กไปทำสัญญา คุณยายก็จ่ายเงินให้ตามจำนวนดังกล่าว คุณยายได้ทวงสัญญาจากเล็กเลขาคู่ใจของนิติภูมิ เล็กบอกว่าบริษัทขายบ้านยังไม่ได้ให้มา นายเส็งเคร็งไปติดตามดูว่าโฉนดสามแปลงนี้เป็นของใคร ไปดูที่กรมที่ดิน ปรากฎว่าเป็นของ บริษัท ซิลเวอร์ เฮเว่น จึงได้ไปขอหลักฐานเขามา ได้หลักฐานมาตามที่เห็นนี้ โฉนดที่บ้านสามแปลง คือโฉนดเลขที่ 18564, 18565, 18566. ยังเป็นชื่อของบริษัทซิลเวอร์อยู่ คุณเล็ก ชื่อว่า รัตติกาล รุ้งตาล เงินเกินสองล้าน ทางธนาคารให้ทำบันทึก รัติติกาล รุ้งตาลจึงจำเป็นต้องเซ็น ดูได้ตามหลักฐาน คุณยายมารู้ภายหลังว่า นิติภูมิแอบโอนบ้านสามหลังนี้พร้อมที่ดินใส่เป็นชื่อของนิติภูมิแต่ผู้เดียว ใครอยากรู้ ให้ตามไปดูซิว่าจริงไหมว่า โฉนดดังกล่าวข้างต้นเป็นชื่อใคร นายเส็งเคร็งได้หลักฐานมาแค่นี้ และรู้มาว่า นิติภูมิ กัดคุณยายไม่ปล่อย คุณยาย เลยให้ทนายไปแจ้งความที่ สถานี ทองหล่อ จากคุณ : Sengkreng Vatana - [ 20 มิ.ย. 47 04:20:51 A:203.121.147.124 X: ] http://webboard.mthai.com/10/2006-04-20/224965.html จากคุณ : platalay - [ 15 มี.ค. 50 21:25:51 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อันที่เป็นถอดเทปมา ผมหาไม่เจอแล้ว ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน จากคุณ : platalay - [ 15 มี.ค. 50 21:32:14 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มันจะถึงจุดจบจริงๆ ก็เพราะพวกเชื่อคนง่ายยยยยยยย อย่างนี้นั่นแหละ ใช้หูฟังมาแล้วก็ต้องใช้สมองวิเคราะห์ต่อด้วยนะคะ ด้วยความเป็นห่วง จากคุณ : Penfolds Grange - [ 15 มี.ค. 50 21:36:23 ]

ความคิดเห็นที่ 19 "ผมเชี้ย ป้าก็เชี้ย" ... 5555 จากคุณ : Jaffa - [ 15 มี.ค. 50 21:50:55 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ดี...โสน้าน่า...โดนซะ จากคุณ : คนเล่นคอม - [ 15 มี.ค. 50 22:20:17 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตลกคุณ hartmann มั่กๆ 555 จากคุณ : L RULES - [ 15 มี.ค. 50 22:26:13 ]

ความคิดเห็นที่ 22 จิกุง ภาษาไทยแปลว่าอะไร ฟังดูเป็นไทยมากเลย จากคุณ : แม่แก่ รักประชาธิปไตย - [ 15 มี.ค. 50 22:54:08 A:124.120.65.237 X: TicketID:127985 ]

ความคิดเห็นที่ 23 โห้  ผมตั้งใจโพส์   ให้คนไทยรักชาติ  รักรากเง้าของเรา ไม่นึกเลยว่าไปกระตุ้นต่อมความเกลียดชังเกี่ยวกับคุณ นิติภูมิ ของท่านผู้อ่านเลย ผมมีความเชื่อมั่นว่า  ทอง  ก็คือ  ทอง   แต่ถ้าแผ่นดินทองของเราถูกต่างชาติเอาเปรียบ ก็อยากให้ท่าน ๆ  สอนลูกหลานของท่าน ว่าเราคนไทย รากเง้าของเรา  ก็คือคนไทย จากคุณ : จิกุง - [ 15 มี.ค. 50 23:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แม่แก่ รักประชาธิปไตย   จิกุง เป็นซื่อสัตว์ครับ คนภาคกลางเรียกว่า  จิ้งรีด (แต่จิกุง  ตัวใหญ่กว่าครับ) จากคุณ : จิกุง - [ 15 มี.ค. 50 23:07:49 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณความปารถนาดีของเจ้าของกระทู้ครับ เพียงแต่ที่นี้เสรีทางความคิดครับ อย่าคิดมากก็แล้วกันครับ ผมก็รับฟังทั้ง 2 ฝ่าย เพราะไม่รู้ว่าเรื่องไหนจริงไหนไม่จริง แต่เชื่อว่าเวลาจะพิสูจน์คน จากคุณ : กระปุกป่วน - [ 15 มี.ค. 50 23:10:05 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สรุปว่า คือ " เศรษฐกิจพอเพียงภาคบังคับ " ใช่ปะ จากคุณ : ชอบทุนนิยมค่ะ - [ 15 มี.ค. 50 23:12:32 A:61.90.250.17 X: TicketID:140353 ]

ความคิดเห็นที่ 27 กระปุกป่วน     ขอบคุณ.... ที่ท่านให้กำลังใจครับ ไม่คิดมากหรอกครับ.... (ยิ้ม) จากคุณ : จิกุง - [ 15 มี.ค. 50 23:16:23 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มาให้กำลังใจครับ จขกท. เท่าที่อ่านมา ผมยังไม่ยักกะเห็นหน้าโจทย์ ของคุณนิติภูมิสักรายเดียว ฟังเขามาทั้งนั้น ไม่มีน้ำหนักหรอกครับ จขกท. ไม่ต้องกังวลครับ จากคุณ : 1111 - [ 15 มี.ค. 50 23:41:30 A:58.9.172.107 X: TicketID:138397 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เจ้าของกระทู้ เป็นคนไทยนะครับ อย่าซื้อสินค้าแบรนด์ต่างชาติ ไม่พอครับ คุณต้อง อย่าไปสมัครงานบริษัทต่างชาติ ให้ฝรั่งเอาเปรียบแรงงานไทย อย่าขายของให้ต่างชาติ อย่าต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากคุณ : อวิรุืทธ์ - [ 16 มี.ค. 50 00:05:22 ]

ความคิดเห็นที่ 30 มาอ่านให้แล้วนะ กลัวไม่ได้เป็นคนไทย เห็นกระทู้รักชาติแล้วอดไม่ได้ซะที ถ้าเป็นคนไทย ... ต้องอ่านกระทู้นี้ ถ้ารักชาติไทย ต้องเลิกเข้าโลตัส,คาร์ฟู เฮ้อ อออออออ....... ทำไมรักของคุณมีเงื่อนไขจัง ชีวิตนี้มีความสุขดีอยู่เหรอ ระวังไอ้ตัวเล็กคุณจะยื่นเงื่อนไขบ้างว่า "พ่อ ๆ ถ้าพ่อไม่พาหนูไปโลตัส หนูจะเลิกเรียกพ่อว่า พ่อ" รึว่าซักวันไอ้ตัวเล็กคุณจะมาถามว่า "พ่อ ๆ KFC นี่แปลว่าอะไร เห็นเพื่อนๆ พูดกันจัง ทำไมพอหนูบอกไม่รู้จัก เพื่อนๆ หัวเราะเยาะหนูกันใหญ่" เลิกสร้างปมด้อยให้ลูก เหมือนอย่างกับที่คนในห้องนี้ทำกับคุณเสียเถอะ ช่างหัวโลตัส/คาร์ฟู ช่างหัวนิติ พหูสูตร(จริงรึเปล่าก็ไม่รู้) ถ้าคุณอยากพาลูกไปกินไก่ทอดหาดใหญ่ ก็จงกินเพราะมันหอม มันอร่อย มันถูก แต่อย่ากินเพราะรักชาติ คงไม่มีใครกินไก่ทอดหาดใหญ่เพราะรักชาติเหมือนคุณอีกแล้ว 5555 ถ้าคุณจะเข้าร้านโชห่วย ก็จงเข้าเพราะมันสะดวก เพราะลูกสาวเถ้าแก่น่ารัก รึเพราะมันถูกกว่าโลตัส แต่อย่าเข้าเพราะกลัวว่า เงินมันจะไหลออกไปจากประเทศ (วันหลังอย่าลืมถามร้านโชห่วยด้วยว่า พี่ๆ ซื้อของมาจากโลตัสรึเปล่า) ตัวของฉัน ... ครอบครัวฉัน ... โรงเรียนฉัน ... จังหวัดฉัน ... ประเทศไทยของฉัน วันหลังมีมนุษย์ต่างดาวมาบุกโลก คงคิดได้ว่า ...นี่คือ ...โลกของฉัน มนุษยชาติของฉัน เลิกแบ่งเขาแบ่งเราเสียที เราจะอยู่ได้นานซักเท่าไหร่ ดีไม่ดี โลตัสอาจเจ๊งก่อนคุณตายเสียอีก จากคุณ : พุทธะน้อย - [ 16 มี.ค. 50 00:26:02 A:124.120.89.33 X: TicketID:109035 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมว่าคุณต้องนิยามคำว่า "ชาติ" ให้ได้ก่อน ถ้าได้แล้ว ยังมีเรื่องที่น่าปวดหัวกว่านั้น นั่นคือคุณต้องนิยามคำว่า "รักชาติ" อีกที จากคุณ : masked v - [ 16 มี.ค. 50 01:27:44 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อืมส์   แล้วถ้า บริษัทที่ว่านี้ สั่งสินค้าต่างๆจากโรงงานคนไทย หรือสั่งของที่คนไทยทำ  แบบนี้ต้นทุนของบริษัทที่มีไม่ใช่ของคนไทยที่ทำขายให้หรือนี่ ถ้าหักต้นทุนสินค้ารวมถึงค่าใช้จ่าย  1000บาทที่ว่ารับรองว่าไม่ใช่900 ส่งกลับประเทศแน่ๆ เป็นไปไม่ได้เลย  ถ้าผมขายของ1000บาทแล้วกำไรถึง900บาทนี่  ถ้าไม่ใช่ของผิดกฎหมายหรือยาเสพติด รับรองได้ว่าไม่มีเด็ดขาด สรุปแล้ว ถ้าจำเป็นและสดวกผมก็จะซื้อละครับ  ก็เดี๋ยวนี้คนติดหนี้ธนาคารทีละ6000ล้านหรือบางคนหลายๆหมื่นล้าน ยังไม่จ่ายธนาคาร แถมยังเดือดร้อนให้รัฐเอาภาษีประชาชนไปอุ้ม โดยประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย  แถมมันยังสร้างความเดือดร้อนให้บ้านเมืองวุ่นวายจนถึงทุกวันนี้ จนถึงกำทำลายชาติไปแล้ว มันทำยิ่งกว่าต่างชาติซะอีกนะครับ จากคุณ : ฮิมปิง - [ 16 มี.ค. 50 02:58:12 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อวิรุืทธ  .... ขอบคุณครับที่แนะนำ ....(ยิ้ม) เราทุกคนมีสิทธิที่จะเลือก.... ครับ จากคุณ : จิกุง - [ 16 มี.ค. 50 07:20:13 ]

ความคิดเห็นที่ 34 โสน้าน่า. จากคุณ : yai-cho - [ 16 มี.ค. 50 07:46:12 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คาร์ฟูร์ แมคโคร โลตัส พวกนี้ขายสินค้ามหาชน สำหรับชาวบ้าน ราคาถูก ผลิตโดยโรงงานไทย พวกเฮ้าแบรนด์ก็แยะ ผลิตโดยคนไทยทั้งนั้น พวก central, Zen, emporium นี่แหละตัวร้าย สินค้าอินปอร์ต ราคาแพง สำหรับไฮโซ ตัวทำลายดุลการค้าทั้งนั้น ! ถ้าไม่ลดราคา 70-80 % ชาวบ้านจน ๆ ทั้งปี ไม่มีโอกาสเข้าไปสักครั้ง ! จากคุณ : พ่อให้เงินแม่ให้ทอง - [ 16 มี.ค. 50 08:11:55 ]

ความคิดเห็นที่ 36 งี่เง่าแท้ๆ ชาตินิยมแบบสุดโต่ง แล้วเป็นไงล่ะตอนนี้ ถ้ามันจะล่มสลายนะ คงเพราะรัฐบาลโง่ๆบริหารมากกว่าอีก จากคุณ : คำหม่อง - [ 16 มี.ค. 50 09:20:02 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เฮ้อ ไม่อยากเชื่อว่าทุกวันนี้ยังมีคนหูเบาเชื่อคนง่ายโดยไม่ได้ใช้วิจารณญาณ มากมายจริง ๆ การศึกษาให้อะไรคนบ้างเนี่ย ?. เมื่อไหร่้จะโต ? จากคุณ : smurfy - [ 16 มี.ค. 50 09:24:32 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เชื่อนิติภูมินี่ต้องกลับไปเรียนให้เยอะๆนะครับ การศึกษาคุณตอนนี้ไม่ได้ช่วยอะไรเลย จากคุณ : เป็นห่วง - [ 16 มี.ค. 50 16:41:42 A:125.24.10.166 X: TicketID:129820 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เศรษฐศาสตร์แบบควายแท้ ๆ ผมจบสายศิลป์ ดูแว้บเดียวยังรู้ว่ามั่ว ของมันเสกขึ้นมารึไง ไม่ต้องมีต้นทุนการผลิตกันเลยใช่ไหม? จากคุณ : ทอฟฟี่สีน้ำเงิน - [ 16 มี.ค. 50 16:50:08 ]

ความคิดเห็นที่ 40 > เราทุกคนมีสิทธิที่จะเลือก < ถูกต้องคร้าบบบบ คนที่ไปซื้อของห้างต่างชาติ ก็เลือกแล้วครับว่าตัวเองทำอะไร ไม่มีใครรักชาติน้อยกว่ากันหรอก แต่การจะมาบอกว่าซื้อของห้างต่างชาติ เป็นการไม่รักชาตินั้น มันมั่วสุดๆครับ จากคุณ : อวิรุืทธ์ - [ 17 มี.ค. 50 08:02:26 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เมื่อก่อนไปซื้อมุ้งกับพี่ที่สพานควาย เจ๊บอกหลังละ 300 บาท พี่เราต่อให้เหลือ 100 บาท เรายังตกใจรีบสกิดพี่บอกว่าเกินไปนะ ต่อให้เหลือ 250 บาทก็พอแล้ว พี่เราบอกถ้าไม่ได้ก็ไม่เอาและทำท่าจะเดินออกจากร้าน เจ๊รีบตะโกนถามว่า"ลื้อจะเอากี่หลัง" ุถ้าผมไปคนเดียวก็คงจะเรียบร้อยโรงเรียนจีนไปแล้ว ถามจริงๆคนไทยถูกรีดไถแบบนี้ไปแล้วกี่พันกี่หมื่นกี่แสนกี่ล้านล้านบาท ควรจะให้ทุกร้านค้าต้องติดราคาขายทุกร้านก่อนได้ไหม หลายท่านซื้อของไม่ชอบต่อ หรือต่อไม่เป็น รับรอง หมู จากคุณ : surasc - [ 19 มี.ค. 50 19:39:21 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อย่างงี้ จขกท.คงจะเกลียดพวก esso,toyota,microsoft ฯลฯ ไปด้วยอ่ะดิ  เฮ้อ...-"- จากคุณ : ใครคนหนึ่ง... - [ 25 มี.ค. 50 13:49:25 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณเรื่อง นิติภูมิครับ  คุณ platalay จากคุณ : atz - [ 26 มี.ค. 50 22:39:25 ]