ความคิดเห็นที่ 1 เรียนคุณพ่อน้องพลอย ผมขอตอบแบบไม่มีหลักวิชาการนะครับ แบบถูกต้องตามหลักวิชาการคุณมือที่มองไม่เห็นได้ตอบไปแล้ว ขอแนะนำไว้ซะตรงนี้เลยว่า ถ้าอยากเป็นนักลงทุนตามปัจจัยพื้นฐานหรือที่คุณเรียกว่า vi ต้องตามอ่านความคิดเห็นของคุณมือที่มองไม่เห็น เขาเป็นมือวางอันดับหนึ่งด้านปัจจัยพื้นฐานในห้องนี้ครับ ผมขอตอบดังนี้ครับ 1. จะเป็นv อะไรก็เป็นไปเถอะ ที่ห้ามเป็นคือ vd ใครจะแบ่งอย่างไร ผมไม่รู้ แต่ผมแบ่งคนในตลาดหุ้นออกเป็นแค่สองพวกคือ คนที่เล่นหุ้นแล้วมีกำไร คนที่เล่นหุ้นแล้วไม่มีกำไร ไม่ว่าคุณจะเล่นหุ้นด้วยวิธีไหน ลงท้ายมันก็มีแค่นั้นจริงๆ เคยมีเพื่อนสมาชิกในห้องนี้ถามผมทางอีเมล์ว่า อยากเปลี่ยนแนวการเล่นจากแบบเก็งกำไร เป็นแบบกำไรจนเกร็งดีหรือไม่ ฮาๆๆ คำตอบที่ผมให้ไปคือ ไม่เห็นด้วยครับ ถ้าคุณเล่นแนวไหนแล้วยังกำไร ก็ต้องเล่นแนวนั้นต่อไป ถ้าจะลองเปลี่ยนแนว ก็ต้องแค่ลองกันเงินส่วนหนึ่งออกมาเล่นเท่านั้น ตามความเห็นของผม ไม่ว่าคุณจะมองตลาดหุ้นเป็นแบบไหน นักเล่นหุ้นเกือบทุกคนคือ "นักเล่นเกมล่าส่วนเกินทุน" เกมการละเล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นทั่วโลกก็คือ "เกมล่าส่วนเกินทุน" ทุกคนจะต้องพยายามเอาส่วนขาดทุนของคนอื่น มาเป็นส่วนเกินทุนของตนเองให้ได้ ดังนั้น จึงผลัดกันเป็นผู้ล่า และผู้ถูกล่า ขึ้นอยู่กับสติปัญญาและโชคของแต่ละคน 2. กรุงเทพไปเชียงใหม่วิธีไหนดีที่สุด ใครตอบว่าไปแบบโน้นแบบนี้ดีที่สุด เป็นการพูดจากจุดยืนของตัวเองทั้งสิ้น แต่ถ้าเราเปลี่ยนคำถามใหม่ให้มันละเอียดขึ้นเช่น ไปเชียงใหม่แบบไหน เร็วที่สุด ปลอดภัยที่สุด เป็นอิสระมากที่สุด ประหยัดที่สุด จะตอบได้ และเลือกวิธีเดินทางได้ด้วยเช่น ไปเครื่องบินเร็วที่สุด ไปรถส่วนตัวเป็นอิสระมากที่สุด ไปรถไฟปลอดภัยที่สุด เดินไปประหยัดที่สุด คุณแมวดำ คุณอยากเชือกอาจจะชอบแบบนั่งเครื่องบินไป เพราะเขารู้ข้อมูลดีว่าถึงเร็ว โอกาสเครื่องตกมีน้อยมาก ส่วนผมแก่เลี้ยว กลัวตาย ก็ชอบแบบนั่งรถไฟชมวิวไปตามรายทางที่เขากำหนดเป็นต้น แต่ไม่ว่าจะไปวิธีไหน สุดท้ายทุกคนก็ไปถึงเชียงใหม่ได้เช่นกัน ถ้าไม่เจออุบัติเหตุระหว่างทางซะก่อน 3. นักเก็งกำไร (vs) ต่างจาก นักลงทุน(vi)ตรงไหน เฉพาะความเห็นส่วนตัวของผม นักเก็งกำไรจำเป็นต้องซื้อขายหุ้น โดยอาศัยการตรวจสภาพทางคลีนิก ซึ่งได้แก่ การวิเคราะห์ปัจจัยทางเท็คนิค ดูเส้น กับดูดุ้นต่างๆ เป็นหลัก มองแล้วรู้อาการของหุ้นทันที ส่วนนักลงทุน จะต้องซื้อขายหุ้นโดยอาศัยการตรวจสภาพทางห้องแลบ ซึ่งได้แก่ การวิเคราะห์ปัจจัยทางพื้นฐาน พื้นปาเก้ พื้นหินอ่อนฯลฯ เสียเวลาในการดูผลนานพอสมควร ไม่ทันใจพวกไวไวควิ๊ก ถ้าอยากเป็นนักเก็งกำไร คุณจะต้องรู้เท็คนิคพวกเส้นและดุ้นให้ได้ ถ้าไม่รู้อย่าเล่นเป็นอันขาด อันตรายถึงหมดตัวได้ ส่วนจะนักลงทุน คุณจะต้องรู้ปัจจัยทางพื้นฐานของหุ้น และมีความอดทนเป็นเลิศ สามารถทนดูอาการภายนอกของหุ้นซึ่งขึ้นลงตามแรงเหวี่ยง ของเส้นและดุ้นให้ได้ ด้วยใจที่สงบนิ่ง ถ้าผิวหนังเกิดผื่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นเอดส์ซะหน่อย คนอื่นดูไม่ออก แต่คุณดูออกแน่นอนเพราะผลตรวจจากห้องแลบ มีเซียนหุ้นท่านหนึ่ง ขออภัยจำชื่อไม่ได้แล้ว ให้แง่คิดไว้ดีมาก ปัจจัยพื้นฐาน เป็นเครื่องชี้ว่าคุณควรซื้อหุ้นตัวไหน ปัจจัยทางเท็คนิคเป็นเครื่องชี้ว่าคุณควรซื้อหุ้นตัวนั้นเมื่อไร สรุปแล้วถ้าคุณติดอาวุธครบสองอย่าง เมื่อบวกกับโชคและวินัยประจำตัวของคุณ ไม่ว่านิ้วชี้ตลาดหลักทรัพย์จะชี้ไปทางไหน คุณก็ไม่มีวันจะเจ๊งหุ้นอย่างแน่นอนที่สุด สำหรับในห้องสินธร ผมเห็นคุณซี เก่งทั้งสองอย่างครับ แน่ใจว่าคุณซีเล่นหุ้นไม่เจ๊งอย่างแน่นอน 4. จุดเด่นนักเก็งกำไร จุดเด่นที่สุดของนักเก็งกำไรคือกล้าขายตัดขาดทุนทันที ที่เห็นอาการภายนอกของหุ้นผ่านเส้นและดุ้น ส่วนนักลงทุนมักจะลังเลไม่กล้าขายขาดทุน กว่าจะรู้จากอาการภายในของหุ้นว่ามันร่อแร่ ก็มักจะสายเสียแล้ว และมักจะลงเอยด้วยการไม่ยอมขายขาดทุน เช่นผมเป็นต้น ฮาๆๆ 5.จุดเด่นที่สุดของนักลงทุน "มีความอดทนที่ยอดเยี่ยมมาก" ถ้ารู้ว่าปัจจัยพื้นฐานของบริษัทเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีแล้ว นักลงทุนจะสามารถปล่อยให้กำไรเล็กๆน้อยๆลอยนวลไปมา นับครั้งไม่ถ้วนได้อย่างใจสงบนิ่ง ผมพึ่งเอาหุ้นโอซีซีที่ซื้อไว้บางส่วนตอนเก้าบาทจากพาร์สิบ มาตั้งขายไม่กี่วันมานี้เอง อดทนถือมาตั้งห้าปีกว่าได้มั่ง 6. เบต้า เบต้า เบต้า แฮะ แฮะ ผมไม่รู้จักครับ ฮาๆๆๆ 7. หุ้นพีอาร์ ขอตอบสั้นนะครับ ไว้มีโอกาสค่อยออกความเห็นใหม่ เพราะนี่เป็นการพิมพ์ครั้งที่ยาวที่สุดเท่าทีเคยพิมพ์มา ผมเห็นว่าพีอาร์ไม่น่าจะไปต่อได้ เพราะอัตรากำไรเริ่มถดถอย ปีที่แล้ว บริษัทย่อยได้ออเดอร์ข้าวห้าแสนตันจากรัฐมาช่วยไว้ ทำให้กิจการยังดูดีอยู่ ถ้าจะซื้อ ผมจะซื้อเลือกซื้อพีบีมากกว่าครับ ความจริงผมยังมีหุ้นพีอาร์ที่ไม่มีต้นทุนอยู่สองพันกว่าหุ้น แต่ตัดใจขายไม่ลงซะที เพราะเงินปันผลบังตา 8.ทุภาษิตของคนเล่นหุ้น ถึงคุณจะเป็นเซียนหุ้นมาจากไหน คุณก็ไม่มีวันเล่นหุ้นตัวนั้น ชนะน้องเมียและแม่ยายของกรรมผู้จัดการบริษัทนั้น ฮาๆๆๆ จากคุณ : คลาย เครียด - [ 12 พ.ค. 46 09:13:05 ] จากคุณ : ฟ้าเวิ้ง... - [ 23 มี.ค. 50 09:20:00 A:unknown X:125.26.232.161 TicketID:074686 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ความคิดเห็นที่ 6 บอกว่า ไม่มีวิชาการ แต่ นี่เหละ คือวิชาการ แท้ ๆ Pure Fundamental ! ขอบคุณครับ ถ้าดูกร๊าฟและบาร์ชาร์ทด้วย จะ ขะ ไหน หนาด ! นับถือ นับถือ $$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$ จากคุณ : Tell me something ,Terminator - [ 12 พ.ค. 46 12:33:18 A:203.154.155.18 X: ] จากคุณ : ฟ้าเวิ้ง... - [ 23 มี.ค. 50 09:21:09 A:unknown X:125.26.232.161 TicketID:074686 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอขอบคุณพี่คลายเครียดมากๆครับที่กรุณาตอบอย่างจริงใจและปรารถนาดี vs ในสายตาของผม คือ การเก็งกำไรตามสถานะการณ์ต่างๆ เช่น เมื่อลดดอกเบี้ย หุ้นธนาคารจะได้ผลดี เกิดสงคราม หุ้นน้ำมัน สงครามเลิก การเงิน โรคซาร์ สื่อสาร ฯลฯ ดังนั้นจึงไม่ถือหุ้นนานๆ แต่ก็ไม่ถือสั้นแบบพวก daytrade หุ้นก็มักเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่อง มีค่าเบต้าสูง ส่วนเรื่องพื้นฐานดีนั้น ผมคิดว่าทั้ง vi vs คงเลือกเหมือนกัน ส่วน vi ผมคิดว่า คงเป็นการถือยาวๆหลายปี ในหุ้นที่มีศักยภาพการแข่งขันสูง และราคายังต่ำอยู่ สภาพคล่องโดยทั่วไปมักจะต่ำ ค่าเบต้ามักจะต่ำ จะได้ไม่ผันผวนตามตลาดมากนัก ในเมืองนอก ไม่ต้องสงสัย มีตัวอย่างของ vi อย่างโดดเด่น ให้เราเห็น แต่ในเมืองไทย ผมเห็นแต่ตัวอย่างของ vs ที่ประสบความสำเร็จมากกว่า vi ครับ ขอแสดงความคิดเห็นอย่างคนมีความรู้น้อยแต่เพียงเท่านี้ ขอขอบคุณทุกๆท่านที่ให้คำแนะนำ ุ้ จากคุณ : พ่อน้องพลอย - [ 12 พ.ค. 46 18:12:51 ] จากคุณ : ฟ้าเวิ้ง... - [ 23 มี.ค. 50 09:22:12 A:unknown X:125.26.232.161 TicketID:074686 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาร่วมด้วยช่วยอ่านครับ สารภาพตามตรงว่า หลังโพสส่งกระทู้ ผมได้ใช้วิชามาร โพสไว้แล้วเชียร์ขึ้น ด้วยการโหวตกระทู้ให้ตัวเอง เรื่องของเรื่องคือ พิมพ์ตั้งเกือบชั่วโมง กลัวมีคุณพ่อน้องพลอยอ่านอยู่คนเดียว แม้แต่คุณเก่ง ผมก็ขอขอบคุณที่มาช่วยเพิ่มเรตติ้งงั้นๆ ฮาๆๆๆ จากคุณ : คลาย เครียด - [ 13 พ.ค. 46 08:13:22 ] จากคุณ : ฟ้าเวิ้ง... - [ 23 มี.ค. 50 09:22:42 A:unknown X:125.26.232.161 TicketID:074686 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สวัสดีอาเฮียทุกท่านด้วยนะคร้าบบบ.... _/l\_ จากคุณ : ฟ้าเวิ้ง... - [ 23 มี.ค. 50 09:23:57 A:unknown X:125.26.232.161 TicketID:074686 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณครับ จากคุณ : P_ปรัชญา - [ 23 มี.ค. 50 09:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 8.สุภาษิตของคนเล่นหุ้น ถึงคุณจะเป็นเซียนหุ้นมาจากไหน คุณก็ไม่มีวันเล่นหุ้นตัวนั้น ชนะน้องเมียและแม่ยายของกรรมผู้จัดการบริษัทนั้น ฮาๆๆๆ ------------------- ^ ^ ^ ^ ของแท้ เจอมากับตัว น้องเมีย ถูกใจ กรรมการบริษัท (ไม่รู้ถูกใจยังไง) ให้เป็น นอมินี .... น้องเมียเล่นหุ้นไม่เป็น ท่านกรรมการบอกว่า ซื้อและขายเมื่อผมบอก เอาเงินคุณมาเล่นด้วยก็ได้ ขาดทุนผมจ่ายให้ แค่ซื้อขายในชื่อคุณให้ผมเท่านั้น เธอทุ่มเงินเก็บทั้งหมดลงไป ตลาดแบบนี้ ได้มาทั้งปันผล ทั้งกำไรส่วนต่างของหุ้น +30% แล้ว หุ้นไม่เคยมีโวลุ่ม ไม่มีสตอรี่ อยู่ๆ +10% แล้วก็ทุบๆๆๆลง ผมได้ตัวหุ้นมาด้วย แต่ด้วยอีโก้ ไม่เล่นตามครับ ก็เลยขาดทุนไปตามปกติ ฮ่าๆๆๆๆ จากคุณ : KENG76 - [ 23 มี.ค. 50 11:56:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณครับ จากคุณ : โตนปลิว - [ 23 มี.ค. 50 12:55:47 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุณฟ้าเวิ้งหายไปนาน ขุดกระทู้นี้ขึ้นมา ก็ขอขอบคุณครับ ในหนังสือ  ผมได้ดัดแปลงอีกเล็กน้อยครับ คุณKENG 76 เมื่อก่อนผมก็เชื่อแบบนั้นเหมือนกัน แต่ตอนนี้ความคิดเริ่มเปลี่ยนไป บางทีแม่ยายกับน้องเมีย   ก็โดนเซียนหุ้นในตลาดดัดหลังเหมือนกันครับ เรียกว่าเหนือน้องเมีย  ยังมีกิ๊กของน้องเมีย เพื่อนผมซึ่งเป็นเอ็มดีของบริษัทอาหารทะเลแช่แข็ง อันดับแรกสุดในตารางหุ้น เขาพูดไว้น่าฟัง  สงสัยจะเจอมากับตัวเอง "วงในก็เจ๊งได้เหมือนกัน   ถ้าปั่นแล้วไม่มีคนตาม" ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าเขาพูดถึงใคร แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 50 16:40:46 จากคุณ : endophine - [ 23 มี.ค. 50 16:33:45 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จะต้องตามไปอุดหนุนหนังสือของเฮียแน่นอนคร้าบบบ... ไม่ได้เข้ามาซะนาน..เฮียกลายเป็น writer ไปซะแล้ว... สงสัยต่อไปเวลาเขียนอะไรในกระทู้.. ต้องมีเก็บตังค์คนอ่านแน่เล้ยยย...555 สวัสดีอาเฮียทุกท่านคร้าบบบบ.. _/l\_ จากคุณ : ฟ้าเวิ้ง... - [ 24 มี.ค. 50 12:38:54 A:unknown X:125.26.232.254 TicketID:074686 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เข้ามาอ่าน ขอบคุณคุณฟ้าเวิ้งครับ เดียวต้องไปหาซื้อหนังสือมาอ่าน   เฮียคลายเครียดมักจะบอกเสมอว่าไม่มีหลักวิชาการ แต่ผมอ่านทีไรก้ได้หลักการออกไปเสียทุกที ฮ่า  ฮ่า   เล่นหุ้นประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด กว่าจะได้มาตอ้งแลกกับเลือดเนื้อและเงินในกระเป๋าไปมิใช่น้อย การได้อ่านหนังสือที่เขียนด้วยประสบการณ์จริง ของผุ้ที่ยืนยงในตลาดยาวนานอย่างเฮียคลายเครียด นี่ ถือเป็นการประหยัดและย่นระยะเวลาในการเดินทางไม่ใช่น้อย อยากเดินทางไกลแล้วรอดปากเหยี่ยวปากกา ผมว่าควรหามาอ่านครับ^_^ จากคุณ : khonthai.tk. (khonthai.tk.) - [ 25 มี.ค. 50 10:37:47 ]