PANTIP.COM : I5253712 อย่างนี้เรียกว่า AYF ตุกติกได้หรือเปล่า? [การเงิน]

ความคิดเห็นที่ 11

หวัดดีครับทุกท่าน โดยปกติไม่เคยตั้งหรือตอบกระทู้ในห้องนี้ แต่ครั้งนี้ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ผมทำงานโดยตรง (AYF) จึงขออนุญาตชี้แจงทุกท่านครับ

กองทุนเปิดอยุธยาเพิ่มค่า 3-4-5 ได้จัดตั้งขึ้นในช่วงกลางปี 2548 (ตั้งแต่ทีมผู้บริหารชุดเก่า) ในขณะนั้นกองทุนตราสารหนี้มีผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 2-3% (ดอกเบี้ยในช่วงนั้นค่อนข้างต่ำ) โดยกองทุนนำเงินทั้งหมดไปลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน ได้แก่ CPF, True Multimedia, AEONTS, PRIMUS โดย ณ วันเริ่มลงทุนตราสารทุกตัวอยู่ที่ระดับ Investment Grade ขึ้นไป โดยกองทุนได้ทำการจัดดอกเบี้ยที่จะได้รับจากตราสารหนี้ทั้ง 4 ตัวให้เป็น 3,4,5 ในปีที่ 1,2,3 ตามลำดับ ผ่านเครื่องมือทางการเงินประเภทอนุพันธ์ Interest rate swap

กล่าวคือ ถ้าตราสารหนี้ทุกตัวในกองทุนไม่มีแนวโน้มเครดิตที่แย่ลงจนทำให้ถูก downgrade กองทุนนี้จะสามารถ deliver 3-4-5 ได้ตามเจตนาของโครงการ (อย่างไรก็ตามทางกฎหมายกองทุน commit ในการคุ้มครองเงินต้น)

ในช่วงปลายปี 2548 ต่อเนื่องถึง 2549 (ช่วงเปลี่ยนผ่านผู้บริหารของบริษัท) มีตราสารหนี้ที่มีแนวโน้มเครดิตไม่ดีอยู่ 2 ตัว คือ True multimedia, primus ทางทีมผู้บริหารชุดใหม่ร่วมกับทีมงานฝ่ายลงทุน ได้พยายามในการที่จะขายตราสารทั้งสองตัวออกไป และหาตัวใหม่มาทดแทน

จากการจัดประชุมร่วมกับ True multimedia ในที่สุดสามารถหาทางออกโดยการให้ True Multi ทำการซื้อคืนหุ้นกู้ออกไปที่ราคาพาร์ (Mark to market อยู่ต่ำกว่า 100 แต่ขายไปที่ราคาประมาณ 100 ถ้าได้ต่ำกว่านี้อาจไม่สามารถคุ้มครองเงินต้น และ deliver 3-4-5) และทำการซื้อหุ้นกู้ของการบินไทยเข้ามาแทน

ในส่วนของ PRIMUS เนื่องจากฟอร์ด มอเตอร์ ที่เป็นบริษัทแม่เกิดปัญหาค่อนข้างหนัก จึงไม่มีนักลงทุนในประเทศรับซื้อ ทีมงานได้ติดต่อไปหานักลงทุนต่างประเทศเพื่อเข้ามาซื้อตราสารนี้ออกไป (ด้วยเจตนาที่จะนำเงินต้นคืนลูกค้าให้ได้) พยายามมาตลอดหกเดือนที่ผ่านมา แต่ราคาที่ต่างประเทศจะมาซื้อต่ำมาก จนล่าสุดในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สามารถขาย PRIMUS ออกไปในราคาที่พอร์ตการลงทุนยังคงสามารถคุ้มครองเงินต้นได้ แต่การทยอยคืนปีที่ 3 ร้อยละ 5 ไม่สามารถทำได้

สิ่งที่ทีมงานต้องตัดสินใจ คือ ถ้าไม่ขาย PRIMUS แล้วโชคดี PRIMUS ไม่เป็นอะไร กองทุนจะสามารถ deliver เงินต้นและ 3-4-5 ได้ แต่ถ้า PRIMUS ล้มละลาย กองทุนจะคืนเงินต้นได้เพียงร้อยละ 70 ในที่สุดสิ่งที่เลือกตัดสินใจคือ "เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า อย่างไรก็ตามต้องคืนเงินต้นกับลูกค้าให้ได้" เพราะเงินต้นแม้แต่นิดเดียวลูกค้าคงรับไม่ได้ถ้าจะสูญหายไป (ผมเชื่อว่าถ้าเป็นบางคนอาจเลือกลอง "เสี่ยง" ถือ PRIMUS ต่อไป)

สุดท้ายจึงออกมาเป็นการตัดสินใจที่จะให้ลูกค้าเลือกระหว่างคืนเงินต้นทั้งหมดกับลูกค้าทันที หรือถือกองทุนต่อ แล้วทางฝ่ายลงทุนจะนำเงินไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และ deliver เงินต้น + 3-4-2

ทาง AYF (รวมถึงผม) ต้องขออภัยท่านนักลงทุน (โดยเฉพาะคุณ จขกท) ที่ทำให้ผิดหวังอีกครั้ง แต่ผมในฐานะหนึงในทีมงานของ AYF ขอเรียนว่าทีมงานและผู้บริหารทุกคนได้ใช้ความสามารถที่มีอย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหาทุกปัญหาที่เกิดขึ้น และจะพยายามที่สุดไม่ให้มีปัญหาร้ายแรงใด ๆ เกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะกองทุนที่มาเน้นขายภายใต้ทีมผู้บริหารชุดใหม่

จะเห็นได้ว่าแนวทางได้เปลี่ยนไปมาก โดยปัจจุบันทีมงานพยายามหาผลตอบแทนที่ดีของการลงทุนในตราสารหนี้จากการวางโครงสร้างอายุพอร์ตให้เหมาะสม เช่นในปีนี้เป็นดอกเบี้ยขาลง ก็พยายามเน้นขายกอง AYFMTFI, AYFMTDIV เพราะเห็นว่าน่าจะสร้างผลประโยชน์ที่น่าพอใจให้กับลูกค้า และแนวทางการบริหารก็จะไม่ซ้ำรอยเดิม คือจะไม่ลงทุนเสี่ยงด้านเครดิตอีก (กอง CASH-AAA by FITCH >90%Gov, MT (Minimum A-, mainly gov)

ขอบคุณที่ช่วยกรุณาอ่านครับ
แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 50 10:28:10

จากคุณ : เจษฎา (JET_AYF) - [ 25 มี.ค. 50 17:52:30 ]