ความคิดเห็นที่ 1 พอสู้ไม่ได้หมดตัว ก็ออกมาแถลง ทำไมธปท. ไม่ยอมลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่แรกที่มีปัญหา หรือว่าคณะรัฐมนตรีของท่านมีส่วนได้เสียกับการลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากทำงานให้ Bank เอกชน ยิ่งคงอัตราดอกเบี้ยไว้สูงๆ ธนาคารพาณิชย์ก็มีโอกาสฟันกำไร ขูดรีดขูดเนื้อลูกหนี้ได้นานขึ้น จากคุณ : By Jupiter - [ 25 มี.ค. 50 14:26:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 การออกมาส่งสัญญาณอย่างนี้ ยิ่งทำให้ตลาดเงินคงอยู่ไม่ไหวแน่ในวันจันทร์ จากคุณ : By Jupiter - [ 25 มี.ค. 50 14:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทีมเศรษฐกิจขิงแก่ถกเครียดรับมือค่าบาท สยอง ย้อนรอยวิกฤติปี40 [24 มี.ค. 50 - 04:02] ============================== ที่ทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (23 มี.ค.) พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีได้เรียกทีมเศรษฐกิจมาพบและหารือประกอบด้วยนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว. คลัง นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อหารือแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายหลังเงินบาทแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง จากนั้น พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า นายโฆสิตได้เสนอแนวทางการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจในระยะเบื้องต้น ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการทำงานในภาครัฐที่ต้องขับเคลื่อนงบประมาณไปสู่ราชการในส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น ทั้งนี้ นายโฆสิตและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้แจงในภาพรวมให้ประชาชนรับทราบต่อไป ส่วนเรื่องการแข็งค่าของเงินบาท เป็นเรื่องที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังจะดูรายละเอียดและชี้แจงให้ ประชาชนรับทราบว่าจะทำอะไรอย่างไร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การหารือครั้งนี้เนื่องจากนายกฯเห็นว่ายังไม่มีมาตรการที่ดีรองรับอาจทำให้เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะวิกฤติคล้ายกับปี 40 พร้อมกำชับให้ผู้เกี่ยวข้องทำความเข้าใจภาคเอกชน และประชาชนไม่ให้ ตื่นตระหนกเนื่องจากเกิดขึ้นกับทุกประเทศในภูมิภาค ซึ่งรัฐบาลเห็นว่าหากไม่เร่งสร้างความเข้าใจกับทุกฝ่ายอาจทำให้ภาวะเศรษฐกิจไทยยิ่งเลวร้ายมากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องการสร้างความมั่นใจ เช่น เอกชนและประชาชนเก็บเงินไม่ยอมใช้จ่ายการบริโภค และลงทุน จนกระทบต่อแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่นายโฆสิตกล่าวว่า นายกฯกำชับให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงกับภาคเอกชนและประชาชนรับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวสถานการณ์ค่าเงินว่าเป็นปัญหาที่รัฐบาลควบคุมไม่ได้ และที่สำคัญได้เกิดขึ้นกับทุกประเทศในภูมิภาค ซึ่งวันที่ 27 มี.ค. นี้จะเชิญตัวแทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) มาหารือรองรับกับสถานการณ์ค่าเงิน โดยเน้นความสามารถแข่งขันแก่ภาคเอกชนให้มีประสิทธิภาพ ด้านนายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นตรงกันว่าเศรษฐกิจได้ชะลอตัวลง ดังนั้น รัฐบาลต้องหามาตรการมาพยุงเศรษฐกิจ ซึ่งในส่วนของกระทรวงการคลังได้ใช้กลไกของธนาคารเฉพาะกิจเพื่อให้ปล่อยสินเชื่อโดยเร็ว ส่วนเรื่องค่าเงินบาทไม่ได้หารือกันมาก แต่เห็นตรงกันว่าเป็นหน้าที่ของ ธปท. ขณะเดียวกันผู้ส่งออกต้องปรับตัวเองด้วยเช่นกัน ไม่ใช่รอให้รัฐช่วยเหลือแต่เพียงอย่างเดียว โดยการผลิตสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีให้สูงขึ้นเพื่อให้ได้สินค้าที่เพิ่มมูลค่า นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ขณะนี้ ธปท.กำลังอยู่ ระหว่างพิจารณามาตรการใหม่ๆเพิ่มเติมเพื่อดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ธปท.จะนำมาตรการออกมาผ่อนคลายมากขึ้น เพื่อให้นักลงทุนและผู้ส่งออกได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งน้อยที่สุด. ไทยรัฐ จากคุณ : WELCOME TO " ตายแลนด์ " - [ 25 มี.ค. 50 14:52:19 A:61.90.250.17 X: TicketID:140353 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ให้ตายสิ จากคุณ : HanumaN-ZA - [ 25 มี.ค. 50 15:18:29 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย จากคุณ : "ทุ่งทานพระจันทร์" - [ 25 มี.ค. 50 15:28:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 EGO หรือ ที่เรียกว่า อัตตา สูงงงงงงงงง คน ธปท ส่วนใหญ่จะมีอัตตาสูงค่ะ เชื่อมั่นว่า 1.ฉันทำถูกต้องเสมอ 2. ถ้าไม่แน่ใจกลับไปดูข้อ 1 ใหม่ ความเชื่อที่ว่า คนจะเข้าทำงาน ธปท ได้นั้น ต้องเป็นคนเก่งงงงงงงงง และฉลาดดดดดดดดดด เลยทำให้คนที่ทำงานมีอัตตาสูงไปด้วยว่า ฉันเก่งงงงงง จากคุณ : โซดาจืด - [ 25 มี.ค. 50 15:39:00 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อุ๋ย เอฟเฟค เรียกร้องความเสียหายคืนมาไม่ได้ เห็นใจคนที่ได้รับผลกระทบและยังเอาคืนไม่ได้(ส่วนผมได้คืนแล้ว ค่อยยังชั่วหน่อย แต่จริงๆแล้วก็ไม่ควรเสีย ง่ายๆ แบบนั้นเลย)   แถมตลาดช่วงนี้ ยิ่งเล่นยากมากๆ ยิ่งเล่นยิ่งจมลึก ไม่รู้นานแค่ไหน ถึงจะฟื้นได้ เหนื่อยหน่าย ประเทศไทยจริงๆ เลย เวลาจะออกมาตรการ มา กระตุ้นเศรษฐกิจ ก็คิดให้รอบๆหน่อยก็แล้วกัน คิดไม่ดี จะกลายเป็นการซ้ำเติม เศรษฐกิจ ให้แย่หนักกว่าเก่า นะครับท่าน แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 50 16:05:38 จากคุณ : TER2000 - [ 25 มี.ค. 50 16:03:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ทำใจค่ะ นายกโจร ท่านบริหารไรไม่เป็นไรหรอก กลับมาทำให้ประเทศชาติล่มจม จากคุณ : princess_joyzaxzy - [ 25 มี.ค. 50 16:46:38 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่ารัฐบาลนี้ขยันทำแต่เรื่องไม่เข้าท่า สื่ออีก เอาแต่บางถ้อยบางคำมาขยาย ยิ่งซ้ำเติมกันไปใหญ่ จากคุณ : Bomb308 - [ 25 มี.ค. 50 17:56:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เข้ามาตกใจด้วยคน ผมว่าคนไทยยุด คมช ตกใจได้เกือบทุกวัน  จนไม่รู้จะ ตกใจอย่างไรแล้วครับ  เรียกว่าความรู้สึกตกใจเริ่มด้าน ดำเนินนโยบายผิดทาง  มาตรการที่นำมาใช้เลยพลาดเป้า ไปเยอะเลย แต่พอถามหาความรับผิดชอบ  --->  ก็อ้างว่าทำเพื่อชาติ และเสียสละเพื่อชาติ  แล้วก็ยกตัวเองเป็นฮีโร่  เป็นงั้นไป ไม่ทราบว่าพวกท่านเหล่านี้  สมัยเรียนเคยเรียนเรื่องอำนาจหน้าที่   และความรับผิดชอบบ้างหรือเปล่า ? แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 50 18:44:45 แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 50 18:20:32 จากคุณ : GS Mobile - [ 25 มี.ค. 50 18:19:47 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พวกนี้ คณะนี้ เกิดมาหนักแผ่นดินจริงๆ จากคุณ : spa162 - [ 25 มี.ค. 50 18:28:13 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ทำไมจะควบคุมไม่ได้ .... พูดออกมาได้ไงยังงั้น พวกรัฐบาลกระบือบ้าชุดนี้ .... จากคุณ : Clarke - [ 25 มี.ค. 50 18:30:20 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แค่นี้ทำเป็นตกใจตอนท่านจิ๋วลอยค่าเงินคนไทยตายเป็นเบือมันน่าตกใจกว่านี้อีกครับ นี่แหละชีวิตคนไทยไม่มีคำว่าธรรมดามีเรื่องให้ตื่นเต้นเสมอครับ ยังไงก็อย่าสติแตกกันก่อนแล้วกันครับ จากคุณ : kkwta - [ 25 มี.ค. 50 19:06:57 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ท่านอุ่ยเคยบอกว่ามีทุนสำรองมากขนาดนี้ ใครก็มาเป็นนายก ได้ครับ จากคุณ : Mr Google - [ 25 มี.ค. 50 19:33:51 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อีกทั้งผมกลับเห็นว่า ทีมเศรษฐกิจท่านนายกทักษิณ ทราบล่วงหน้ามานานแล้ว จากมีนโยบายเมกะโปรเจคในการใช้เงินบาทนำเข้าเทคโนโลยีมาสมัยใหม่มาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และจะช่วยสร้างสมดุลระหว่างการนำเข้า(เทคโนโลยีเพื่อการผลิต)และช่วยเหลือภาคส่งออกของประเทศ เสียดายๆ เงินทั้งหลาย ธปท กับนำไปใช้ในการปกป้องค่าเงินมากกว่าการเพิ่มศักยภาพการผลิตของประเทศ จากคุณ : Mr Google - [ 25 มี.ค. 50 19:38:35 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนคุณเริงชัยทำขาดทุนค่าเงินบาท (น้อยกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันอีก) ยังถูกฟ้องร้องดำเนินคดีเลย แล้วไหงงานนี้เจ๊ใหญ่ถึงลอยลมบนอยู่ด้ายยยยยยยยยยยยย จากคุณ : กรรรรรม (โซดาจืด) - [ 25 มี.ค. 50 19:53:11 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตอนแรก คืนวันก่อนเข้ารับตำแหน่ง ท่านฉลองภพ คุยซะดิบดีว่า พรุ่งนี้ จะไปคุยกับธปท. คงจะยกเลิก กันสำรอง 30% และอาจมีการลดดอกเบี้ย 25 สตางค์ 2 ครั้ง ล่าสุด ไม่มีอะไรในก่อไผ่ครับ ท่านออกมาบอกว่า เอกชนควรดูสถานะการณ์รอบๆ บ้านเรา และหัดรู้จักช่วยเหลือตัวเอง อย่าหวังแต่จะให้รัฐบาลช่วยอย่างเดียว ตกใจตาม จขกท. แล้วยังเสียดายภาษีอีกต่างหาก จากคุณ : หมูเบื่อ (หมูกระแทก) - [ 25 มี.ค. 50 20:39:10 ]

ความคิดเห็นที่ 18 งานนี้สงสัยจะต้องเรียกว่า    เจ้งเพื่อชาติ  กันแล้วมั้ง  5555555 จากคุณ : aeaw - [ 25 มี.ค. 50 20:52:07 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตูว่าแล้ว งานนี้.....................................IMF จ๋า  อีกรอบแน่ ตะหารบริหารประเทศ............................เป็นแต่....???? จากคุณ : NIKKEI_NIK - [ 25 มี.ค. 50 20:59:39 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าอดีตนายกทักษิณเข้ามาบริหารตอนนี้ ท่านจะแก้ไขยังไงน้า อยากรู้จัง ผมยังไม่เห็นทีมเศรษฐกิจไหน เขี้ยวลากดินเท่ารัฐบาลชุดที่แล้วเลย (ว่ากันในแง่ฝีมือล้วนๆนะ) จากคุณ : ยำทุเรียน - [ 25 มี.ค. 50 21:44:29 A:58.9.34.10 X: TicketID:110000 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สงสัยค่ะ ว่ามันจะเหมือนสมัยบิ๊กจิ๋วได้ไง ตอนนั้นเราพยายามปกป้องเงินแข็งอยู่ที่ 25 บาท พอป้องกันไม่ไหว มันก็เลยขึ้นไปหาค่าที่แท้จริงที่ 56 บาท แต่คราวนี้ตรงกันข้ามกัน เราพยายามให้มันอยู่ที่ 35 บาท แต่ความจริงมัน 31 บาท แต่ถ้าเราปกป้องไม่ไหว มันก็ไม่น่าจะไป 31 บาท เพราะเศรษฐกิจเราพังไปแล้ว เงินเราน่าจะอ่อนลง .. แต่ถ้าเงินเราอ่อนลง มันก็สมใจเราน่ะสิ .. สรุปเราก็ไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวบาทมันก็ต้องอ่อนเอง เพราะเศรษฐกิจมันตก ใครก็ได้ช่วยบอกหน่อยว่าเราคิดแบบนี้ถูกหรือผิดยังไง เพราะเรางง ขอบคณค่ะ จากคุณ : micky - [ 25 มี.ค. 50 21:44:45 A:58.8.2.120 X: TicketID:098315 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตามความเข้าใจงูๆ ปลาๆ น่ะครับ ตอนบาทอ่อนพรวด ปี 40 เป็นเพราะเงินแข็งค่าเกินจริง แบงค์กู้ดอลล์มาเยอะเพราะดอกถูก พอพวกเห็ดฟางโจมตีค่าเงินสำเร็จ 25 --> 50 บ.ต่อดอลล์ แบงค์ไม่ปล่อยกู้เพราะต้องรีบคืนเงินตปท.--> บริษัทล้มตามเป็นทิว ตอนนี้กลับกัน บาทกำลังจะแข็งพรวดๆ พวกส่งออกกลัวมากๆ เพราะเคยได้ดอลล์ละ 40 กำลังจะกลายเป็น 30 บ. ต่อดอลล์ (หายไป 25%, ณ ตอนนี้หายไป 15% แล้ว) ที่กำลังเกิดขึ้นคือ บริษัทในไทยได้มาร์จินกำไรไม่มาก พอเงินบาทที่แลกได้หายไป มากๆ ก็คือกำไรน้อยลงจนถึงขาดทุน ผลคือปิดบริษัท ถ้าปิดกันมากๆ --> ผลคือแบงค์ก็ล้มตามอีก เป็นแบบโดมิโน แต่กลับทางกับปี 40 ครับ ผิดถูกยังไง ผู้รู้ช่วยด้วยนะครับ จากคุณ : teeranet - [ 25 มี.ค. 50 22:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ปัญหาตอนนี้คือ 1. บาทแข๊ง ส่งออกมีปัญหา 2. ส่งออก เป็นตัวเลขกว่า 60% ของ GDP (C+I+(X-I)+G) หากเป็นรัฐบาลชุดที่แล้ว คาดการแบบงูๆปลาๆว่า เค้าจะ Balance ส่งออกด้วย G(Megaproject) + การลงทุนจากต่างประเทศ จาก trust ของประเทศที่นโยบาย รบ ท่านทักษิณสร้างขึ้น และ C แต่ตอนนี้ G หยุด I หยุด C หยุด x จังมีสัดส่วนที่สูงมากหากเทียบกับ GDP เพราะ ตอนนี้เราโตแบบไม่สมดุล แล้ว X ก็มามีปัญหาจากค่าเงินบาทอีก อืม จะแก้ยังไงละครับ ปัญหาความเชื่อมั้นผู้บริโภค สามารถแก้ได้ด้วยการลดดอกเบี้ยเหรอ ปัญหา ต่างชาติไม่มาลงทุน จะทำยังไง ปัญหา G งบประมาณที่ขาดดุล แต่ไม่เกิด productivity รถไฟฟ้าก็ลดแล้วลดอีก งบทหารก็ต้องเพิ่ม รัฐวิสาหกิจก็ขาดทิศทาง แล้ว รบ นี้จะทำอย่างไร และจะทันต่อเวลาหรือไม่ แล้วเราจะสร้างภูมิคุ้มกันกันอย่างไร จากคุณ : Mr Google - [ 25 มี.ค. 50 22:25:20 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อีกอย่าง ยอดการส่งออกของเราที่โตกว่า 17%ตอนนี้ เป็นการส่งออกที่แท้จริงของสินค้าไทย หรือเป็นเพียงยอดส่งออกที่ ปทไทยเป็นเพียงฐานการผลิตเท่านั้น อยู่ใน BOI Zone ภาษีก็ไม่ได้ ได้เพียงค่าแรงราคาถูก ประเทศคู่แข่งยอดส่งออกโตเท่าไร และตลาดส่งออกเอเชียโดยรวมโตเท่าไร  ก็จะเห็นศักยภาพการแข่งขันของสินค้าไทยที่แท้จริง จากคุณ : Mr Google - [ 25 มี.ค. 50 22:32:18 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมตกใจข่าวที่คุณฉลองภพ(รมต.คลัง)วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลหัวหน้าตัวเองมากกว่าอีกนะเนี่ย แล้วตกลงทิศทางบ้านเมืองจะเดินไปทางไหนอีกละทีนี้ งงเลย จากคุณ : Go2Better - [ 25 มี.ค. 50 22:49:18 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ดอลมันอ่อนมากนัก  ก็ซื้อดอลไว้   ไม่นานเศรษฐกิจพัง  มันก็จะแข็งโป๊ก  หนีไม่พ้นหรอก  มันจะฝืนธรรมชาติไปได้ไง  ไม่มีทาง  กร๊ากกก จากคุณ : สีหราช - [ 25 มี.ค. 50 22:55:28 ]

ความคิดเห็นที่ 27 โกยเถอะษา จากคุณ : ศนิ xxx - [ 25 มี.ค. 50 23:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สุดท้ายแล้ว เจ๊งแล้ว จะโบ๊ยความผิดไปหานายกทักษิณ หรือเปล่าหว่า     ตอนรถถังเข้ามายึดอำนาจ  หม่อมให้สัมภาษณ์ บอกว่าเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง เงินคงคลังแข็งปั๋ง แข็งกว่าตอนปี 2540 หลายเท่า สุดท้ายแล้ว เพียงแค่ 6 เดือน  หม่อมโกยหนีไปแล้ว คงจะรู้อะไรๆล่วงหน้า ไม่ยอมอยู่ถึงวันเจ็ง กลัวเสียสกุล เจริญๆเถิด  บริหารประเทศเจ็งออกมารับผิดชอบด้วย มันเสียหายยิ่งกว่าข้อกล่าวหา คอรัปชั่นอีก จากคุณ : Discovery A2Z - [ 25 มี.ค. 50 23:47:15 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่ต้องรอเจ๊งก่อนหรอกคุณDiscovery A2Z พวกคมช.และรัฐบาลเลี้ยงเต่ามันโบ้ยให้ตั้งแต่ตอนนี้แล้วว่ารัฐบาลที่แล้วสร้างปัญหาไว้หนักหนาสาหัสมาก คมช.และรัฐบาลเลยทำงานได้ผลงานแค่นี้เอง (ตอนที่แถลงผลงาน6เดือนไง) พอตัวเองทำอะไรไม่เป็นก็โบ้ยโทษให้เป็นของนายกทักษิณซะง่ายๆกันเลย จากคุณ : RoppongiHills - [ 26 มี.ค. 50 01:25:38 ]

ความคิดเห็นที่ 30 การเก็งกำไรค่าเงินเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปี 49 น่ะครับ.... ผมไม่ทราบวิธีการปกป้องค่าเงินของรัฐบาลว่าใช้การซื้อ forward หรือใช้การดูดซับเงินดอลล่าห์จริงๆ ถ้าเป็นการใช้ forward ก็คงเจ๊งเป็นเงินจริงๆเมื่อถึงคราวส่งมอบ แต่ถ้าใช้การดูดซับเงินดอลล่าห์ ที่ขาดทุนปัจจุบันคือการขาดทุนทางบัญชี ก็คล้ายๆหุ้น.... ที่ราคาตกเพราะโดนเจ้าทิ้งของลงมาเพื่อกดราคาให้ต่ำ.... แต่ผมสงสัยอยู่อย่างนึงว่าทำไมแบงค์ชาติยังไม่ยอมใช้การลดดอกเบี้ย เพื่อดูแลค่าเงิน แต่คงต้องลดแบบสุดๆเท่านั้นถึงจะหยุดการแข็งค่าของบาทได้..... หรือว่าติดอยู่กับแนวความคิด inflation targeting ที่จะเอาเงินเฟ้อเป็นตัวตั้งเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งมันใช้ได้ผลในภาวะการปกติเท่านั้น ..... จากคุณ : choc - [ 26 มี.ค. 50 02:51:51 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เหตุการณ์ครั้งนี้ผมมองว่ามันไม่เห็นจะเหมือนตอนปี 40 เลยนะครับเพราะว่า เมื่อปี 40 เราซื้อเงินดอลเพื่อรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนให้คงที่ แต่ปัจจุบัน ธปท ซื้อดอลไว้เพื่อต้องการให้บาทอ่อน อย่าลืมนะครับเราไม่ได้ใช้ fix rate ปัจจุบันเราใช้ระบบลอยตัวค่าเงินอยู่นะครับสถานการณ์มันไม่เหมือนกันคิดให้ดีๆ เราไม่ได้เป็นหนี้เหมือนตอนปี 40 ด้วยเราแค่แลกเงินเฉยๆไม่ใช่รักษาระดับค่าเงิน ถ้าจะอ้างว่าต่างประเทศหรือพวกไม่หวังดีจะโจมตีค่าเงินเราอีกหรือคิดว่าจะเก็งกำไรละก็ มีอยู่วิธีเดียวก็คือทำให้ประเทศเราแย่อีกครั้ง(แต่ต้องแย่กว่าที่อเมริกาเป็นอยู่ด้วยนะ) หากมีการพิมพ์แบงค์เพิ่มเพื่อไปซื้อดอลเรื่อยๆละก็ไม่แน่พอเกิดวิกฤติครั้งใหม่คราวนี้บ้านเราได้เกิดเงินเฟ้อหนักแน่นอน ดังนั้น ธปท ไม่ควรจะพิมพ์แบงค์เพิ่ม ถ้าทำจริงก็ไม่ต่างกับการฆ่าตัวตาย อีกเรื่องก็คือลดดอกเบี้ย น่าจะเป็นวิธีการที่ดีกว่าหากคิดจะแก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่าเกินไปแต่จะไปมีผลกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจแทนซึ่งไม่ดีอีก วิกฤตครั้งนี้ผมมองว่าดอลล่าร์อ่อนส่วนหนึ่งเพราะเศรษฐกิจอเมริกาเองที่เป็นต้นเหตุ ไม่ใช่เพราะการบริหารของเราที่เป็นต้นเหตุซะทีเดียวนัก มองอะไรขอให้มองกันอย่างเป็นกลาง ไม่งั้นจะเจอพวกไม่หวังดีต่อประเทศเรา(แต่หวังดีแก่ตัวมันเอง) ปั่นหัวเอาได้ เห้อ.......พวกนี้เมื่อไรจะตายๆไปซะให้หมดประเทศไทยสักที อยากจะรู้จังว่าเงินพวกมันในกระเป๋าตอนนี้มีเงินบาทเหลืออยู่เท่าไรกันไปแลกเป็นเงินอื่นเกือบหมดแล้วละมัง สุดท้ายนี้ผมคิดว่ายังไม่น่าจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจรอบใหม่ในประเทศไทยเราเว้นแต่เราจะปิดประเทศอ่านะ พูดไปแล้วมันน่าชวนให้ย้อนไปถึงมาตรการ 30% นั้นจริงๆ เพื่อกันเงินระยะสั้นที่เข้ามาเพื่อหวังเก็งกำไร.....เป็นมาตรการอะไรที่อ่อนมากๆเหมือนดั่งปิดประตูไม่หมดทั่วบ้านนั้นเองปิดแค่อันเดียวแต่กลับไม่รู้ตัวว่ากลายเป็นเปิดประตูกว้างๆอีกอันเอาไว้ ทั้งๆที่เงินบาทเราต้องแข็งค่าตามความเป็นจริงๆแท้ๆอยู่แล้ว ขบวนการในครั้งนี้ดีไม่ดีไทยกันเองนี้แร่ะแอบใช้ช่องว่างกอบโกยอยู่ แต่ไม่น่าจะโลภขนาดที่ประเทศเราจะพังรอบสองหรอก เห็นด้วยกับความคิด 23 ครับ ปัญหาความเชื่อมั้นผู้บริโภค สามารถแก้ได้ด้วยการลดดอกเบี้ยเหรอ ปัญหา ต่างชาติไม่มาลงทุน จะทำยังไง (ผมว่าปัญหาใหญ่เลยอ่า) ความคิดที่ 30  ....หวังว่า ธปท คงไม่น่าใช้ forward ไม่น่าจะฉลาดน้อยแบบนั้น จากคุณ : Moonzonezturn - [ 26 มี.ค. 50 07:57:01 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้าจะอ้างว่าต่างประเทศหรือพวกไม่หวังดีจะโจมตีค่าเงินเราอีกหรือคิดว่าจะเก็งกำไรละก็ มีอยู่วิธีเดียวก็คือทำให้ประเทศเราแย่อีกครั้ง(แต่ต้องแย่กว่าที่อเมริกาเป็นอยู่ด้วยนะ) หากมีการพิมพ์แบงค์เพิ่มเพื่อไปซื้อดอลเรื่อยๆละก็ไม่แน่พอเกิดวิกฤติครั้งใหม่คราวนี้บ้านเราได้เกิดเงินเฟ้อหนักแน่นอน ดังนั้น ธปท ไม่ควรจะพิมพ์แบงค์เพิ่ม ถ้าทำจริงก็ไม่ต่างกับการฆ่าตัวตาย อีกเรื่องก็คือลดดอกเบี้ย น่าจะเป็นวิธีการที่ดีกว่าหากคิดจะแก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่าเกินไปแต่จะไปมีผลกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจแทนซึ่งไม่ดีอีก ^ ^ ที่ผ่านแบงค์ชาติพิมพ์แบงค์ออกเยอะครับ  จะไม่พิมพ์เพิ่มได้อย่างไรล่ะครับ  ก็ในเมื่อมีคนเอาเงิน USD มาเปลี่ยนเป็นเงินบาท  เมื่อแบงค์ชาติเห็นว่าเงินบาทจะมากเกินไป  จนอาจจะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น  ก็ต้องออกพันธบัตรมาดูดเอาเงินบาทออกไปจากระบบ  เห็นข่าวบอกว่าตรงนี้มีภาระดอกเบี้ยมากกว่า 50,000 ล้านบาท  (ล่าสุดไม่ทราบว่าเป็นจำนวนเท่าไหร่) ที่จริงแบงค์ชาติน่าจะกดดอกเบี้ยต่ำๆ  แล้วเอาเงินจากการขายพันธบัตร  ไปซื้อพันธบัตรต่างประเทศที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่า  ตรงนี้ก็จะได้ส่วนต่างดอกเบี้ย  และเงินบาทก็ไม่แข็งเร็วจนเกินไป  --->  ตรงนี้ผมก็ไม่ทราบว่าติดระเบียบ กฎเกณฑ์อะไรบ้างหรือเปล่า ? จากคุณ : GS Mobile - [ 26 มี.ค. 50 09:16:55 ]

ความคิดเห็นที่ 33 รัฐบาลนี้บริหารประเทศกันไม่เป็นจริงๆ ยิ่งอยู่นานประเทศไทยยิ่งเสียหายมากขึ้น จากคุณ : นายชัย - [ 26 มี.ค. 50 09:49:46 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ^ ^ ตรงเป้าเลยครับ แบงค์ชาติต้องดูดซับเงินมาก เพราะเราเกินดุลเยอะ จนต้องพิมพ์เงินบาทออกมาเยอะ และเพื่อไม่ให้มันเยอะเกินไปจนเกิดปัญหาเงินเฟ้อ ทำให้ธปท.ต้องออกพันธบัตรออกมาดูดซับออกไปจากระบบ ในขณะเดียวกันก้อคงดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับสูงเข้าไว้ ส่วนเรื่องการทำกำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างประเทศ นอกจากติดด้านกฏหมายแล้ว มันยังกระทบเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนครับ ลำพังเงินสำรองยังหากำไรแทบไม่ค่อยได้เลยครับ ซึ่งเรื่องนี้ถ้าจะคุย เดี๋ยวยาว และไม่ใช่ประเด็นของกระทู้นี้อ่ะดิ ;) แต่เห็นด้วยกับ คห.30 ที่ว่า ธปท.กำลังยึดติดกับ Inflation Targeting เกินไปหรือเปล่า เห็นด้วยว่าอย่างไรก้อแล้วแต่ เงินเฟ้อไม่ควรเกินเป้า 3.5% ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่การรักษาเป้าต้องควบคู่ไปกับการดูแลศรษฐกิจด้วยนะครับ ขึ้นอยู่ว่าคุณจะให้น้ำหนักในสถานการณ์พิเศษแบบนี้ ขนาดไหน ผมว่าทุกคนคงมองออกอยู่แล้วละครับว่าปีนี้ ดอกเบี้ยลดแน่ๆ มากน้อยแค่ไหนเท่านั้น เพราะเศรษฐกิจกำลังเริ่มจะชะลอตัว นอกจากดอกเบี้ยแล้ว ต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจกันขนานใหญ่ๆ ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมมองว่าธปท.เล่นบทตีเซฟเกินไปนิด แบบเอาชัวร์ไว้ก่อน เหมือนกับว่า เคยเจ๊งมาตอนปี 40 ทำให้บทจะทำอะไรแบบกล้าได้กล้าเสีย เกิดป๊อดขึ้นมา ไอ้ครั้นจะด่าเค้าก้อด่าได้ไม่เต็มปาก เพราะเค้าก้อทำหน้าที่ของเค้า คนที่จะนำพาเศรษฐกิจประเทศควรจะเป็นรัฐบาลมากกว่าไม่ใช่ธปท. ซึ่งถ้าธปท. เป็นแบบนี้ คงต้องหวังพึ่งมาตรการทางการคลังแทนแล้ว แต่พอมองไปที่ภาครัฐบาล คนที่กำลังมีวาระอยู่แค่ไม่ถึง 6 เดือน จะมาผลักดันโครงการใหญ่ๆ คงยากมั้งครับ ต้องรอรัฐบาลใหม่แล้วล่ะ ที่เราๆ ทำได้ตอนนี้ก้อภาวนาให้มีรัฐบาลใหม่เร็วๆ แค่นั้นละ เฮ้อ เกิดเป็นคนไทย ทางเลือกตีบตันจิงๆ ^^" จากคุณ : m_ple - [ 26 มี.ค. 50 09:54:46 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ..เข้ามาตกใจด้วยคน จิ .. จากคุณ : Green Turbo - [ 26 มี.ค. 50 21:11:55 ]