ความคิดเห็นที่ 1 เอางี้เลยเหรอครับ ผมวิเคราะห์ส่วนที่ไม่เกี่ยวกับความรู้สึกก่อนนะครับ 1.การฝากเงินกับสหกรณ์จะมีกระบวนการบางอย่างที่จะเรียกว่ายุ่งกว่าการฝากธนาคารนิดหน่อย เช่น การต้องสมัครสมาชิก เสียค่าธรรมเนียม ดังนั้น เริ่มต้นก็จะเสียเงิน 300 บาท ถ้าฝากน้อย ๆ ก็จะได้ดอกเบี้ยไม่คุ้มกับความไม่สะดวก (ไม่มีสาขา พนักงานมีน้อย ไม่มี ATM) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำหนดดอกเบี้ยเป็นขั้นบันได (น้อยกว่า 1 แสน 4.0% , เกินกว่านั้น 4.5% ) ทำให้การฝากน้อยกว่า 1 แสนค่อนข้างจะไม่คุ้มค่า อันนี้เป็นความเสี่ยงด้านการดำเนินการ (ทำให้ไม่สะดวก) เทียบกับผลตอบแทน 2. เนื่องจากการฝากออมทรัพย์เป็นการฝากที่ดอกเบี้ยสามารถปรับขึ้นลงได้ (ซึ่งต่างจากการฝากประจำที่กำหนดดอกเบี้ยเมื่อฝากและยืนดอกเบี้ยนั้นตลอด) ดังนั้นท่านก็ต้องชั่งความเสี่ยงของดอกเบี้ยที่ลดลง ว่าจะคุ้มไหม หากเอาเงินก้อนเดียวกันไปฝากประจำ ตย. หาก ฝากประจำ 12 เดือน ดอกเบี้ย 3.00% หักภาษี จะเหลือ 2.55% ก็ต้องประเมินว่าโอกาสที่ดอกเบี้ยออมทรัพย์ดังกล่าวจะปรับไปถึง 2.55% ภายใน 1 ปีที่ฝากหรือเปล่า (จริง ๆ แล้วถึงปรับไปถึง ก็ยังได้กำไร เพราะก็มีช่วงที่ดอกเบี้ยสูงอยู่) อันนี้เป้นความเสียงด้านดอกเบี้ย 3.ความเสี่ยงต่อการ default หรือการไม่จ่ายเงินต้น  ปกติ ผู้ฝากจะกระทบจากที่สถาบันการเงินเกิดปัญหา ก็ต่อเมื่อ ขนาดของปัญหาเกินมูลค่าหุ้น และทุนสำรอง จึงจะกระทบต่อผู้ฝากเงิน ก็ต้องถามว่า ปัญหาทีเกิด จะเกิดอะไรได้บ้าง อันแรก การเกิดหนี้เสีย ปกติการให้กู้ของสหกรณ์จะให้กู้เฉพาะเจ้าหน้าที่ โดยสามารถหักบัญชีได้เลย ก่อนที่ผู้กู้จะรับเงินด้วยซ้ำ และหากเกิดปัญหา ก็จะมีผู้ค้ำอีก 2 คน ที่จะต้องชดใช้หนี้ให้ ตามสัญญาค้ำประกัน ขนาดของปัญหา โดยทั่วไปให้กู้เต็มที่ก็ไม่เกิน 7 แสนบาท เทียบกับสินทรัพย์สหกรณ์กว่า 200 ล้านบาท คงไม่กระเทือนเท่าไร แต่เราก็ไม่อยากให้เกิด เพราะอย่างที่บอกคือ เมื่อเกิด NPL คนที่กระทบส่วนแรกคือผู้ถือหุ้น (กว่า 1000 คน) ก็จะได้ปันผลลดลง แค่นี้กรรมการก็ไม่อยากโดนด่าแล้วครับ ปัญหา default อันที่ 2 คือ การทุจริต ปกติสหกรณ์จะมีระบบการป้องกันการทุจริตในระดับต่าง ๆ พอสมควรครับ เช่น ระบบการตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบที่เป็นอิสระจากกรรมการ มีที่ปรึกษาจากกรมส่งเสริมในการดูแลการดำเนินการ มีผู้ตรวจบัญชีที่จะตรวจทุก 4 เดือน และเช่นเดียวกันครับ ต้องทุจริตกว่า 80 ล้านบาทจึงจะเริ่มกระทบต่อผู้ฝากเงิน ซึ่งในทางปฏิบัติ ไม่มีเจ้าหน้าที่หรือกรรมการสามารถถือเงินสดเกิน 5 หมื่นบาทในสหกรณ์ได้ครับ สหกรณ์ในหน่วยงานราชการจะมักจะบริหารจัดการโดยข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งเป็นบุคคลที่เรียกได้ว่า น่าจะ ไม่อยากเอาชื่อมาทิ้งในวัยใกล้เกษียณ สหกรณ์ของโรงพยาบาลก็คงมีข้อดีอีกอย่างคือ ด้วยวิชาชีพ คงไม่มีใครอยากเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงหรอกครับ ระบบการป้องกันการเกิดวิกฤติทางการเงิน สหกรณ์จะมีเครือข่ายในระดับหน่วยงานจนถึงระดับชาติ ที่จะช่วยเหลือกัน ปัญหาที่สหกรณ์อาจพบ (risk exposure) คือเรื่องของสภาพคล่อง เช่นอาจปล่อยกู้เพลิน วันดีคืนดีผู้ฝากรายใหญ่หรือเจ้าของหุ้นรายใหญ่จะถอนเงิน ก็ไม่มีเงินให้ ก็จะใช้เครือข่ายที่ว่านี้ช่วยเหลือกัน การทำธุรกิจด้านการเงิน ความเชื่อถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าผู้ถอน มาถอนเงิน ต้องมีเงินให้ ต่อให้ไปกู้ดอกเบี้ยแพงกว่ามาให้ก็ต้องทำครับ เพราะชื่อเสียงประเมินค่าไม่ได้ เสียแล้ว กว่าจะเรียกกลับคืนได้ยากมาก คราวนี้พูดถึงประเด็นว่า ทำไมดีกว่าการฝากเงินอื่น ๆ สหกรณ์ถูกออกแบบมาให้เป็นสวัสดิการในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ดังนั้นจึงได้สิทธิพิเศษบางอย่าง (เช่นการหักเงินเดือน) หากเรามองว่าสินเชื่อส่วนบุคคลมีความเสี่ยงที่ต้องตั้งดอกเบี้ย 28% เพื่อชดเชยความเสี่ยง การหักเงินเดือนได้ก็ทำให้ความเสี่ยงดังกล่าวลดลงมากจนสามารถตั้งดอกเบี้ยที่ 6-7% ประเด็นต่อมาคือ สหกรณ์ไม่ได้เป็นหน่วยธุรกิจเพื่อหากำไรเต็มรูปแบบ เราจะปันผลสูงสุดได้ไม่เกิน 10% และต้องแบ่งกำไรไปช่วยเหลือสมาชิกในรูปแบบต่าง ๆ เช่นทุนการศึกษา  ดังนั้น เราสามารถที่จะลดส่วนต่างของการทำกำไรด้านธุรกิจลง เช่นถ้า bank ต้องการส่วนต่างเงินฝากและกู้ 3% เราเอาแค่ 1% ก็พอแล้ว และประกอบกับต้นทุนการบริหารที่ต่ำ ใช้คนในหน่วยงาน (แต่แน่นอน service quality ก็อาจสู้ bank ไม่ได้) ก็ทำให้เราสามารถตั้งผลตอบแทนที่ดีกว่าได้ แต่ที่สำคัญที่สุด ตามหลัก ของ markowitz  เมื่อตอบแทนที่เท่ากัน ผู้ลงทุนย่อมลงทุนในสิ่งที่ความเสี่ยงต่ำกว่า ผมคงไม่กล้าบอกว่า สหกรณ์มีความเสี่ยงเท่า แบงค์ ยังไงก็ตาม ตามทฤษฎี สหกรณ์ก็ต้องเสี่ยงสูงกว่าแบงค์ และผลตอบแทนที่สูงกว่า ก็เพื่อชดเชยความเสี่ยงนั้น แต่ผลตอบแทนที่สูงขึ้นก็อยู่บนพื้นฐานที่ว่าเป็นธุรกิจที่เป็นไปได้จริง ไม่ใช่ แชร์น้ำมัน ไม่ใช่ forex    มีกฏหมาย มีองค์กรที่ควบคุมกำกับดูแล (สหกรณ์เป็นสถาบันการเงินตามประกาศของกระทรวงการคลังครับ แต่ไม่ได้อยู่ในกำกับแบงค์ชาติ แต่อยู่กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) สหกรณ์ของผมมีข้อแตกต่างจากสหกรณ์ส่วนใหญ่ของประเทศ ที่สินทรัพย์แทบจะทั้งหมดเป็นเงินกู้สมาชิก แต่ของเรา จะนำเงินไปฝากหรือลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หรือหุ้นกู้ rating A หรือหุ้นกู้ bank และเงินส่วนที่เพิ่มเราก็จะไปลงทุนตามที่กฏหมายกำหนดครับ ดังนั้นหากยังมีส่วนต่างของการทำธุรกิจ(รับฝาก-> เอาไปลงทุน ) เราก็ยังรับฝากได้เรื่อย ๆ ไม่ได้เป็นการเอาเงินมาต่อลมหายใจไป สรุป คือ บริการยังไงก็สู้แบงค์ไม่ได้ครับ ความน่าเชื่อถือ ยังไงก็สู้แบงค์ไม่ได้ครับ แต่ถ้าความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสามารถชดเชยด้วยผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น และผลตอบแทนนั้น มีเหตุมีผลพอที่จะน่าเชื่อได้ว่าเป็นไปได้จริง ไม่ใช้แค่คำอ้าง ก็น่าเป็นทางเลือกครับ แต่ถ้าเป็นผู้ที่กังวลมาก ผมก็ไม่แนะนำครับ ได้ดอกเบี้ยเพิ่มอีกหน่อยแต่นอนไม่หลับ ผมก็ไม่เห็นด้วยครับ จากคุณ : krit587 - [ 26 มี.ค. 50 18:14:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สำหรับข้อมูลดิบเรื่องคนสมัคร ขอเรียนดังนี้ครับ บางท่านมาสมัคร ก็ฝากเงินตามที่ตั้งใจ บางท่านมาสมัคร มาถึงแล้วก็เกิดความไม่แน่ใจ ก็ฝาก minimum เท่านั้นก็มี ซึ่งเราก็ไม่ได้ว่าอะไร เวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ คนที่เชื่อใจ เราก็ยินดีและขอบคุณสำหรับความไว้วางใจ และคงมีแต่คำสัญญาว่าเราจะไม่ทำให้ผิดหวังเท่านั้นครับ ผมไม่เคยขอร้องใครให้ฝากเงิน ทั้งเจ้าหน้าที่ภายในและสมาชิกข้างนอกครับ (ถ้าขอก็เป็นการขอเล่น ๆ เช่น พี่...เมื่อไรจะมาฝากกับผมซะที อะไรทำนองนี้) เพียงแต่เราเชื่อว่าเรามีดี และเราอยากให้คนที่เรารู้จักได้มีโอกาสเพิ่มในการตัดสินใจ  ทุกครั้งที่ผม post ก็เป็นแค่ just information  for decision making เท่านั้นครับ  ข้อมูลทุกอย่างเราก็ เปิดเผยหมด  (ถ้าไม่ไปละเมิดคนอื่นนะครับ) เพราะระบบสหกรณ์ สมาชิกไม่ใช่ลูกค้า แต่เป็นเจ้าของ  สามารถที่จะขอข้อมูลได้เต็มที่ ข้อมูลที่โปร่งใส น่าจะลดความกังวลเรื่องความเสี่ยงได้ในระดับนึง จากคุณ : krit587 - [ 26 มี.ค. 50 18:30:01 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไปฝากมาแล้วครับ เจ้าหน้าที่ดีกว่าหลายแบงค์ครับ สุภาพ ให้ข้อมูลเปิดเผย แต่ความสะดวกสะบายคงสู้แบงค์ไม่ได้ตามที่คุณ krit587 บอก การฝากเงินด้วยการโอนเงินและ fax ใบโอนให้นั้นน่าสนใจครับ แต่ส่วนตัวยังไม่กล้าลองครับ ถ้าสมาชิกสามารถ check ยอดเงินฝากผ่าน Internet ได้นี้สุดยอดเลยครับ โอนเช้า เย็น check ยอด ไม่ต้องไป up book บ่อยๆ จากคุณ : Putman (Putman) - [ 26 มี.ค. 50 20:57:20 ]