ความคิดเห็นที่ 1 RMF กับ กปส. (กองทุนประกันสังคม) จะไม่เกี่ยวข้องกันครับ สิ่งที่จะต้องคำนึงึง จะเป็นกองทุนสำรองกองเลี้ยงชีพ (PVD) หรือ กองทุนบำเน็จบำนาญข้อราชการ (กบข.) ครับ โดยที่ สามารถลงทุนใน RMF ได้ 15% ของรายได้ทั้งปี แต่เมื่อรวมกับ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ กบข. แล้วต้องไม่เกิน 3 แสนบาทครับ :: (RMF <= 15%ของรายได้) + (PVD,กบข.) <= 300,000 :: (RMF <= 15%ของรายได้) <= 300,000 - (PVD,กบข.) ถ้างงสูตร ใช้ http://www.scbam.com/brochure/Funds-TAX49.xls ช่วยคำนวณดูครับ ---------------------------------------- :: การลงทุนกับ RMF เมื่อเริ่มลงทุนแล้วต้องลงทุนอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยห้ามขาดการลงทุนติดกัน 2 ปีต่อเนื่อง (ลงทุน ปีเว้นปี ได้) การนับอายุการลงทุน 5 ปี จะนำเฉพาะปีที่มีการลงทุนเท่านั้น ปีที่ไม่ลงทุนจะไม่นับอายุการลงทุนครับ :: ข้อบังคับการลงทุน 5 ปีการลงทุน จะเริ่มนับตั้งแต่ปีแรกที่มีการลงทุน ดังนั้นการลงทุนในปีสุดท้ายที่ครบกำหนด จะสามารถขายคืนได้ในปีถัดไป ได้โดยไม่ต้องรอให้ครบ 5 ปีอีกต่อไปครับ อายุ 52 ปีที่เริ่มลงทุนครั้งแรก อายุ 53 ลงทุนปีที่ 2 ,ครบรอบการลงทุน ปีที่ 1 อายุ 54 ลงทุนปีที่ 3 ,ครบรอบการลงทุน ปีที่ 2 อายุ 55 ลงทุนปีที่ 4 ,ครบรอบการลงทุน ปีที่ 3 อายุ 56 ลงทุนปีที่ 5 ,ครบรอบการลงทุน ปีที่ 4 อายุ 57 ครบรอบการลงทุน ปีที่ 5 จะสามารถขายคือ ได้ทั้งหมด (ตั้งแต่อายุ 52 - 56) ครับ โดยวันที่ขายคืน จะต้อง มากกว่า วันที่และเดือน เดียวกันกับ ที่ซื้อตอนปี 52 ด้วยนะครับ ------------------- LTF จะมีอิสระที่จะลงทุน   - ไม่จำเป็นต้องลงทุนทุกปี สามารถลงทุนได้เฉพาะปีที่ต้องการใช้สิทธิ - ระยะเวลาการลงทุน โดยห้ามขาย คือ 5 ปี ปฎิทิน (กว่า 3 ปีการลงทุน) โดยแยกเป็นของแต่ละปีที่ลงทุน และใช้สิทธิ์ - มีแต่กองทุนหุ้นอย่างเดียวครับ ---------------------- สำหรับผู้สูงอายุ ไม่แน่ใจว่าระรับความเสี่ยงในการลงทุนกับกองทุนหุ้นได้หรือไม่ อาจจะแนะนำเป็น RMF ที่เป็นกองทุนตราสารหนี้อย่างเดียวน่าจะเหมาะสมกว่านะครับ จากคุณ : pjuk - [ 8 เม.ย. 50 08:02:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เพิ่มเติมครับ RMF : กองทุนรวมเพื่การเลี้ยงชีพ http://www.scbam.com/inc/Highlight/rmfword.asp LTF : กองทุนหุ้นระยะยาว http://www.scbam.com/inc/Highlight/LTF/LTF1.asp - ข้อดีของ LTF & RMF :: นอกเหนือจากการลงทุนแล้ว สิทธิประโยชน์ที่สามารถนำตัวเลขเงินลงทุนไปใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีได้ เสมือนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ทันที ในอัตราเยบเท่ากับขั้นภาษีที่เราต้องจ่าย ซึ่งอาจจะเป็นเหมือนเกราะป้องกัน หรือลดภาวะ การขาดทุนจากการลงทุนไปได้อย่างมากครับ - ข้อเสียของ LTF & RMF :: เนื่องจากการได้รับสิทธิประโยชน์จากการนำตัวเลขเงินลงทุนไปใช้ลดหย่อนภาษีแล้ว จึงต้องถูกทดแทนด้วยข้อบังคับของระยะเวลาการลงทุนที่ยาวขึ้นกว่าการลงทุนในกองทุนทั่วๆ ไปครับ - ถ้าซื้อตอนนี้ กับซื้อตอนปลายปี มีผลแตกต่างกันไหม :: ในด้านของการนำตัวเลขการลงทุนไปใช้สิทธิ์ลดหย่อยภาษี ไม่ว่าจะซื้อช่วงไหนของปี ก็สามารถใช้สิทธิ์ได้เช่นกันครับ :: ในด้านการลงทุน ระยะเวลาการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ย่อมสามารถสร้างโอกาสและจังหวะการลงทุนได้เพิ่มขึ้น จากสภาวะตลาดหุ้น และตราสารหนี้ หรือแม้แต่การควบคุมการสับเปลี่ยนการลงทุนที่เราสามารถสร้างสภาวะการลงทุนให้กับตัวเองได้ครับ - แล้วถ้าต้องการลดภาษีในปีต่อๆ ไป ต้องทำอย่างไร :: การนำตัวเลขเงินลงทุนใน RMF & LTF ไปใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี จะต้องเป็นเงินลงทุน (ซื้อ) ที่เกิดขึ้นในปีที่จะไปใช้สิทธิ์เท่านั้นครับ จะใช้เงินลงทุนในปีก่อนมาใช้สิทธิ์ข้ามปีไม่ได้ ดังนั้นถ้าต้องการลดหย่อนภาษีในปีใด ในปีนั้นต้องมีรายการ ซื้อ กองทุน RMF และ/หรือ LTF ในปีนั้นด้วยครับ ------------------------ เลือกลงทุนได้ ตามสภาวะการณ์ต่างๆ และการยอมรับกับความเสี่ยงด้วย :: RMF กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ SCBRM1 - ไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้นเพื่อการเลี้ยงชีพ   เป็นการลงทุนในตราสารหนี้ ที่มีอายุเฉลี่ยสั้นๆ ประมาณ 3 - 4 เดือน ดังนั้นผลกระทบจากราคาตราสารหนี้ในตลาด จะมีไม่ค่อยมาก ทำให้ความผัวผวนต่ำ เป็นผลทำให้การสร้างโอกาสในผลตอบแทนไม่ค่อสูงมากนัก แต่ก็ปลอดภัยพอสมควรที่จะไว้พักเงินชั่วคราวเวลาเหนื่อๆ จากการลงทุนกับกองทุนอื่นๆ ครับ (SCBRM2 ... SCBRM4) SCBRM2 - ไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการเลี้ยงชีพ แม้ว่าชื่อจะฟังดูแล้วปลอดภัย เพราะกองทุนนี้เน้นไปทางการลงทุนกับพันธบัตรรัฐบาล 70-80% แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ลงทุนในตราสารหนี้ทั่วๆ ไปด้วยครับ เพียงแต่ตราสารหนี้แต่ละตัว รวมถึงพัธบัตรรัฐบาล มีอายุเฉลี่ยที่ยาวมาก บางตัวอาจจะถึง 7 - 10 ปี ก็ได้ครับ ดังนั้นอาจเจอแรงกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของราคาตราสารหนี้ในตลาดได้มาก ทำให้ เวลาจะได้น้อย มีถึงติดลบให้เห็น เวลาจะได้มาก ก็มากจนน่าตกใจเลยครับ SCBRM3 - ไทยพาณิชย์เฟล็กซิเบิ้ล ฟันด์เพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นลูกผสม ระหว่างตราสารหนี้ กับหุ้นครับ เป็นการลงทุนแบบ เอากับหุ้น แต่สร้างเกราะป้องกันตัวด้วยตราสารหนี้ มากหน่อย ดังนั้นช่วงเวลาหุ้นขึ้นแรงๆ ตัวนี้ขึ้นได้แค่ครึ่งเดียว เหมือนกับแค่เดินตามตลาดหุ้นไปห่างๆ ครับ แต่ในทางกลับกันถ้าหุ้น ขึ้นๆ ลงๆ หรือลงหนักๆ SCBRM3 ก็เหมาะจะเอามาพักไว้ กันตกรถ กับกัน ตกเหว ครับ SCBRM4 - ไทยพาณิชย์หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ เน้นไปกับหุ้นล้วนๆ หนักไปในหุ้นกลุ่ม SET50 เอาไว้บู้กับตลาดหุ้นโดยเฉพาะครับ แต่ก็เสี่ยงในขาลงมาหน่อย ถ้าจะเล่นกับตัวนี้ ขยันสับเปลี่ยนหลบหลีกคู่กับ SCBRM1/SCBRM2 ด้วยก็ดีครับ ---------------- ทั้งหมดทำรายการผ่าน SCB Easy Net ( http://www.scbeasy.com ) ตั้งแต่เวลา 6.00 ถึง 16.00 น. ครับ จากคุณ : pjuk - [ 8 เม.ย. 50 08:12:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถามต่อครับว่า หากขายทั้งหมด แล้วเอาเงินซื้อใหม่ จะเริ่มนับปีที่ 1 ใหม่ หรือไม่   หรือควรขายบางส่วนแต่เหลือไว้นิดนึง เพื่อให้นับปีต่อ อายุ 52 ปีที่เริ่มลงทุนครั้งแรก อายุ 53 ลงทุนปีที่ 2 ,ครบรอบการลงทุน ปีที่ 1 อายุ 54 ลงทุนปีที่ 3 ,ครบรอบการลงทุน ปีที่ 2 อายุ 55 ลงทุนปีที่ 4 ,ครบรอบการลงทุน ปีที่ 3 อายุ 56 ลงทุนปีที่ 5 ,ครบรอบการลงทุน ปีที่ 4 อายุ 57 ครบรอบการลงทุน ปีที่ 5 จะสามารถขายคือ ได้ทั้งหมด (ตั้งแต่อายุ 52 - 56) ครับ โดยวันที่ขายคืน จะต้อง มากกว่า วันที่และเดือน เดียวกันกับ ที่ซื้อตอนปี 52 ด้วยนะครับ จากคุณ : polymerman - [ 9 เม.ย. 50 01:23:45 ]

ความคิดเห็นที่ 4 นับอายุการลงทุนต่อให้ครับ ไม่ว่าจะขายหมด หรือขายบางส่วน ขอเพียงแค่มีการลงทุนถูกต้องตามข้อบังคับมากก่อน คือ ลงทุนครบ 5 ปีการลงทุน และ อายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ แต่ถ้าลงทุนไม่ถึง 5 ปีการลงทุน แล้วขายคืนหมด หรือบางส่วน แล้วกลับมาลงทุนต่อ ก็จะเริ่มนับ 1 ใหม่ครับ จากคุณ : pjuk - [ 9 เม.ย. 50 07:46:57 ]