ความคิดเห็นที่ 1 ดอกเบี้ยที่ลดลง ทำให้ราคาตราสารหนี้ที่ mark to market เพิ่มครับ ราคากองทุนตราสารหนี้ทั้งระยะสันและระยะยาวจะเพิ่มขึ้นกว่าช่วงที่แล้ว แต่ 1. ถ้าเป็นกองทุนที่มีนโยบายในการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น จะได้ประโยชน์ไม่นานนัก เพราะเมื่อตราสารที่ถือหมดอายุ ก็จะต้องเอาเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ตัวใหม่ ที่ให้ดอกเบี้ยน้อยลง ผลตอบแทนจะน้อยลง ( reinvestment risk) 2. ในกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว จะได้ผลตอบแทนที่ดีอย่างชัดเจน แต่คนก็จะแห่ไปลงทุนมากขึ้น ปัญหาก็คือ กองทุนนั้นต้องเอาเงินไปซื้อตราสารหนึ้ตัวใหม่ ซึ่งก็จะได้ผลตอบแทนลดลง ทำให้ผลตอบแทนรวมลดลง (dilution effect) ------------------------------------------ เสนอเป็นทางเลือกครับ ไม่ต้องตามว่า nav ดีหรือไม่ดี http://www.policehospital-coop.com ฝากออมทรัพย์พิเศษ ดอกเบี้ย 4.5% ไม่เสียภาษี ทบให้ทุก 4 เดือน ฝากถอนได้ทุกวันทำการ ผลตอบแทนที่ได้ ไม่มีความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงของผลตอบแทน ถ้าผลตอบแทน(ดอกเบี้ยลด) จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า หากในขณะนั้น มีการลงทุนอื่นที่ได้ผลตอบแทนดีกว่า ก็สามารถถอนออกไปลงทุนอย่างอื่นได้เลย ไม่เสียจังหวะการลงทุน สภาพคล่องดี จากคุณ : krit587 - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 18:04:54 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คนก็จะแห่ไปลงทุนมากขึ้น ปัญหาก็คือ กองทุนนั้นต้องเอาเงินไปซื้อตราสารหนึ้ตัวใหม่ ซึ่งก็จะได้ผลตอบแทนลดลง ... ในกรณีนี้ถ้าเราขายหน่วยลงทุนที่มีอยู่ออกไป ก่อนที่คนจะแห่กันมาซื้อ แล้วค่อยกลับเข้ามาซื้อใหม่ จะดีกว่าหรือเปล่า จากคุณ : kasimasi - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 18:34:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่มีประโยชน์ครับ กลยุทธที่ทำได้คือ ถ้าดอกเบี้ยยังอยู่ในแนวโน้มขาลงอยู่ ให้ถือต่อ เพื่อให้ได้กำไรจากส่วนต่างราคาที่ปรับขึ้น (capital gain) แต่เมื่อไรที่ดอกเบี้ยเริ่มคงที่ ให้เตรียมขายครับ แล้วเอาเงินไปทำอย่างอื่น (เพราะไอ้ที่ได้กำไร จะเริ่มคืนกลับไป เพราะ capital gain จาก yield ลดลง มันจะไม่อยู่ตลอดไป มันจะค่อย  ๆหาย ไป เพราะที่สุด ตราสารหนี้ราคาต้องกลับไปที่ par เมื่อหมดอายุ) ส่วนเรื่อง dilution ให้สังเกต size กองทุน ถ้ามันเพิมขึ้นอย่างรวดเร็ว ให้ monitor ผลตอบแทน nav ถ้า เริ่ม drop (ได้ผลตอบแทนน้อยลง แต่ก็ไม่ถึงกับขาดทุน) ก็ขึ้นอยู่กับว่า ผลตอบแทนยังพึงพอใจได้หรือไม่ ถ้าไม่ดีก็ออกมาครับ ถึงบอกครับ ว่าลองทางเลือกที่ไม่ต้องมานั่งเฝ้าตลาดไหมครับ จากคุณ : krit587 - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 18:56:30 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สอบถามเพิ่มเติมครับ สรุปคือถ้าดอกเบี้ยกำลังลง จะทำให้ผลตอบแทนของกองทุนเพิ่มขึ้นหรอครับ (แต่ทำไม ทหารไทยธนบดีของผม nav ที่เพิ่มขึ้นต่อวันถึงได้ลดลงละครับ) และราคา NAV ต่อวันคิดจาก price ในตลาดรองใช่ไหมครับ จากคุณ : peace - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 20:05:23 A:124.121.1.60 X: TicketID:133440 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ธนยดี เป็นกองทุนตราสารเงิน (หรือตราสารหนี้ที่มีอายุสั้นกว่า 1 ปีครับ ) ก็จะเป็นอย่างที่ผมบอกไว้ คือ ถ้าตราสารหนี้ที่มันถืออยู่ หมดอายุ จากเดิมที่ได้ดอกเบี้ยสูงเช่น 4-5% พอมันหมดอายุ กองทุนก็ต้องเอาเงินไปซื้อตราสารหนี้ตัวใหม่ ที่ผลตอบแทนอาจแค่ 3% แค่นี้ NAV ก็เพิ่มแบบน้อยลงแล้วครับ จากคุณ : krit587 - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 20:27:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณครับคุณ krit587 ที่ให้ความกระจ่าง แล้วตอนนี้ไม่ทราบว่ามีกองทุนหุ้นอะไรของที่ไหนบ้างที่ลงทุนตราสารหนี้ระยะยาว  แล้วสามารถเข้าซื้อขายในกองทุนนี้(ที่ลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว)ได้ทุกวันหรือไม่ครับ อีกคำถามนะครับมีกองทุนของไทยมั้ยครับที่ไปลงตราสารหนี้ในต่างประเทศ  ผลตอบแทนต่างกันมากมั้ยกับกองทุนที่ลงทุนในประเทศ จากคุณ : Fox Gracier - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 21:08:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แล้วตอนนี้ไม่ทราบว่ามีกองทุนหุ้นอะไรของที่ไหนบ้างที่ลงทุนตราสารหนี้ระยะยาว  แล้วสามารถเข้าซื้อขายในกองทุนนี้(ที่ลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว)ได้ทุกวันหรือไม่ครับ ------------------------------------------------------- มีทุก bank แหละครับ เลือกตามทีสะดวกก่อน ว่าใช้บริการที่ไหนสะดวกกว่ากัน แล้วก็ไปดูใน web ว่า ตัวไหนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้หรือพันธบัตรรัฐยาลระยะยาว ที่ผมดูบ่อย ๆ ก็มี ทหารไทย ไทยพาณิชย์ และก็ ayf ครับ ----------------------------------------------------- อีกคำถามนะครับมีกองทุนของไทยมั้ยครับที่ไปลงตราสารหนี้ในต่างประเทศ  ผลตอบแทนต่างกันมากมั้ยกับกองทุนที่ลงทุนในประเทศ ---------------------------------------------------------- ถ้าเป็นกองทุนที่ลงตราสารหนี้ในต่างประเทศเข้าใจว่าไม่มีครับ มีแต่ กองทุนหุ้น หรือผสมหุ้นและตราสารหนี้ แต่ถึงมีก็ไม่แนะนำครับ เพราะ 1.ค่าใช้จ่ายในการจัดการสูง มีความเสี่ยงด้านค่าเงิน ทำให้ไม่เหมาะกับการลงทุนในตราสารหนี้ 2. ผลตอบแทนจะไม่แตกต่างกันเท่าใด เพราะดอกเบี้ยทั้งโลกมันก็ไปทางเดียวกันอยู่แล้ว ที่มากน้อยต่างกันก็เป็นเรื่องของความเสี่ยงของประเทศนั้น ๆ คือ ถ้าเป็น bond ของ indo ดอกเบี้ยก็ เกือบ 10% แต่ถามว่ากล้าลงทุนไหม ก็คงไม่กล้ากันหรอก พื้นฐานของคนที่ลงทุนในตราสารหนี้คือ คนที่รับความเสี่ยงได้ไม่มาก (แต่มากกว่าฝากเงินแบงค์) และต้องการผลตอบแทนมากขึ้นนิดหน่อยครับ แทคติกที่บอก ก็แค่อธิบายปรากฏการณ์บางอย่างเท่านั้น ถ้าขี้เกียจเฝ้า ก็ซื้อทิ่งไปเลย อย่างไรก็ดีกว่าเงินฝากแบงค์ครับ (แต่อาจสู้สหกรณ์ผมไม่ได้ก็ได้นะครับ :-) ) จากคุณ : krit587 - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 21:29:23 ]

ความคิดเห็นที่ 8 Duration พอร์ต กับดอกเบี้ยขาลง http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I5243214/I5243214.html การ Mark to Market กับกองทุนตราสารหนี้ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I5311019/I5311019.html เลือกลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ duration ยาว รับดอกเบี้ยขาลง http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I5289764/I5289764.html ------------------------ โชคดีในการลงทุนครับ จากคุณ : Mr.Messenger - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 21:38:56 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มีกองทุนไทยบางกองค่ะไปลงตราสารหนี้ระหว่างประเทศ ส่วนเรื่อง ความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน คงต้องดูนโยบายการบริหารของกองนั้นๆค่ะ ว่า มีการ hedge ค่าเงินอยู่กี่เปอร์เซนต์ หรือ สามารถเป็นแบบ flexible ขออนุมัติจากผู้ถือกองได้เรื่อยๆ บางคราว สถานการณ์ไม่ดี ก็ทำ fully hedge หละค่ะ แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 50 12:53:12 จากคุณ : tubbygal - [ วันเถลิงศก (15) 12:51:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ใช่ครับ มีบางกองทุน ที่ไปลงทุนตราสารหนี้ในต่างประเทศ แต่ผมก็บังคิดว่า ต้นทุนการ hedge ก็ทำให้ความน่าสนใจลดลง เข้าใจว่ากองทุนพวกนี้ ได้ผลตอบแทนดีกว่าปกติ เพราะอาจมีเงือนไขในการลงทุนพวก structured note หรือ convertible bond  ทำให้บางครั้งมันไปผูกกับตลาดทุนด้วย เลยมีพฤติกรรมที่ต่างจากกองทุนตราสารหนี้ปกติ จากคุณ : krit587 - [ วันเถลิงศก (15) 13:30:05 ]