ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามาปูเสื่อนั่งรอฟังคำแนะนำดี ๆ ด้วยอีกคนนะครับ ข้างล่างว่าไงครับ ถ้าเจอ Mr.Messenger ช่วยเชิญมาด้วยนะครับ บอกว่ามีลูกค้าจะซื้อกองทุน ให้เตรียมพรีเซ้นเทชั่นอย่างหรูด้วยเน่อ V V V จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 17 เม.ย. 50 11:46:26 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พี่หมีพูอย่ามาแอ๊บแบ๊วน่า..... มีความเห็นยังไง ก็ร่วมกันแชร์ด้วยสิครับ ผมเองก็ได้จากพี่หมีพูเยอะแยะเลย ส่วนตัวผม ตอนนี้ติดลูกค้าอยู่ครับ เด๋วเข้ามาคุยด้วย จากคุณ : Mr.Messenger - [ 17 เม.ย. 50 15:56:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โห มาทั้งสองท่านเลย แต่ก็ยังแอบเกี่ยงกันอยู่ ขอบคุณมากครับ ยังไงผมก็ยังรอคำแนะนำอยุ่นะครับ  :-D จากคุณ : zbreeze - [ 17 เม.ย. 50 16:38:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 รอฟังด้วยคนนะครับ คือผมมือใหม่สุด ๆ อ่ะครับ เพิ่งจะเข้ามาอ่านเจอ กำลังหาข้อมูลอยู่เลยครับ จากคุณ : Super Me - [ 17 เม.ย. 50 19:18:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ระหว่างรอคุณ Mr.Messenger ทำพรีเซ้นเทชั่นอย่างหรูหรา หมีพก็ขอแนะนำให้สักเล็กน้อย เนื่องจากไม่ค่อยรู้เท่าไรนัก อย่าว่ากันนะครับ บลจ.บัวหลวง - บัวแก้ว (ลงทุนในหุ้น Growth เจ๋ง ๆ ได้ทั้งตลาด) - บัวหลวงทศพล (ลงทุนในหุ้นเจ๋ง ๆ แค่สิบตัว) - บัวหลวงโครงสร้างพื้นฐาน (ไม่มีหุ้นกลุ่มแบงก์) บลจ.อเบอร์ดีน - อเบอร์ดีนโกรท (ลงทุนแตกต่างจากชาวบ้านเขาครับ ถ้ารักกันจริงก็ต้องอดทนให้ได้นะครับ) - อเบอร์ดีนสมอลแค๊พ (ลงทุนแต่หุ้นเล็กปันผลดีเท่านั้นครับ ช่วงนี้กองทุนของอเบอร์ดีนไม่เข้าตาเลยครับ รักจริงต้องทนได้นะครับ) บลจ.ธนชาต - ออมสินพัฒนาภูมิภาค (ลงทุนในหุ้น Real Sector จริง ๆ ไม่มีหุ้นแบงก์ หลักทรัพย์ ประกัน พาณิชย์ ธุรกิจซื้อมาขายไป กองนี้มีเงินสดเหลือเพียบ) - ธนชาตทุนทวี1 (เป็นกองผสมแบบยืดหยุ่นเน้นหุ้น โดยลงทุนในหุ้นได้ทั้งตลาด แต่ก็เน้นหุ้น Real Sector เป็นหลักครับ กองหุ้นของธนชาตเน้นลงทุนแบบ Value นะครับ) จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 17 เม.ย. 50 20:25:55 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มีกองทุนไหนที่ให้ผลตอบแทนประมาณนี้ไหมครับ เห็นแล้วก็ให้อิจฉาตาร้อน O_o จากคุณ : Nexus - [ 17 เม.ย. 50 21:52:56 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ^ ^ ^ โอ้ว....อยากได้ อยากได้ กลัวแต่ว่านี่จะเป็นจุดสูงสุดของกองทุนแล้วล่ะสิ ว่าแต่ทำไมกอง FIF บ้านเรา ถึงไม่ออกกองทุนไปลงทุนในกองพวกนี้บ้างนะ จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 17 เม.ย. 50 22:17:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จากภาพที่คุณ Nexus นำมาให้ดูนั้น ใครเห้นก็กิเลสเพิ่มทั้งนั้นล่ะครับ หุหุ เมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นฮ่องกงเพิ่งทำ New High สูสสุดในรอบ 6 ปีเลยก็ว่าได้ครับ อีกทั้งตลาดหุ้นในภูมืภาคเอเชียก็เร้าร้อนไม่แพ้กัน หรือถ้าจะหันไปดูตลาดที่เวียดนาม ปีที่แล้วทั้งปี ผลตอบแทนสูงกว่า 100% เชียวล่ะ ถ้าลงทุนในจังหวะดีๆ ส่วนที่ตลาดยุโรปนั้น เอาเฉพาะดัชนี 3 ปี ย้อนหลัง ก็ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 15%ขึ้น (ทั้งในกลุ่มสหภาพและนอกสหภาพ) นี่เป็นที่มาของการกระจายความเสี่ยงไปลงทุนยังหุ้นต่างประเทศครับ แต่คำถามทีพี่หมีพูพูด ก็มีส่วนที่น่าคิดครับ "ในเมื่อผลตอบแทนย้อนหลังดีขนาดนี้ ทำไม บลจ. ต่างๆจึงไม่เปิดกองทุที่นำไปลงทุนในหลักทรัพย์ดังกล่าวตั้งแต่ช่วงก่อนหน้า?" ทำไมเพิ่งมาโปรโมท และเพิ่งเห็นกองทุน FIF ในช่วงปี 2 ปี ที่ผ่านมา??? เหตุผลหลักๆก็คือ ช่วงก่อนหน้านี้ ทางรัฐบาล ยังมีกฏระเบียบพอสมควรในการจำกัดและเข้มงวด หากนักลงทุนจะขนเงินบาทออกนอกประเทศ แต่มาตอนนี้กลับกันแล้วครับ เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างนี้ ปัจจุบัน กลต. ค่อนข้างสนับสนุน บลจ. ที่ออกกองทุนที่ไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางการลงทุนที่ถูกกฎหมายครับ อีกซัพพักเราคงเห้นกองทุนที่ structure แปลกๆ ออกมาเรื่อยๆ ซึ่งเพิ่มสีสันให้กับธุรกิจกองทุนเป็นอย่างดี ---------------------------- ผมไม่มี presentation หรูๆ อย่างที่พี่หมีพูโฆษณาไว้นะครับ มีก็แต่ข่าวคราวเอามาแบ่งกัน ทางพี่หมีพูแนะนำกองทุนที่ลงทุนในหุ้นประเทศไทยไปแล้ว ผมขอเอา FIF แล้วกันครับ แบ่งเป็นตามลักษณะกองทุนไปเลยนะครับ เอเชีย ----> ABAPAC ด้วยผลการดำเนินงานย้อนหลังที่สูงที่สุดในตลาด ประกอบกับหุ้นเอเชียอยู่ในช่วงขาขึ้นแบบนี้ หากเกิดการ correction ขึ้นมาอีกครั้ง นักลงทุนที่ชอบความเสี่ยงสูง กองทุนนี้ถือเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นเอเชีย ที่มีกลยุทธ์การลงทุนที่ บลจ. อื่นไม่ทำครับ ก็คือ ถึงแม้เตลาดหุ้นจีนจะร้อนแรงแค่ไหน แต่ทางกลุ่มอเบอร์ดีน ก็ไม่มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดจีนทั้ง 4 ตลาด แม้แต่ตัวเดียว ทำไม? เพราะมาตรฐานการบัญชี ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ของอเบอร์ดีนนั้นเองครับ อเบอร์ดีนจึงเลือกลงทุนในหุ้นจีนที่ไปจดทะเบียนผ่านตลาดฮ่องกงแทน ยุโรป -----> ING EHD และ ABEG ยังถือเป็นคู่มวยคนละสไตล์ แต่ดันมาอยู่รุ่นเดียวกันครับ เป็นธรรมดาที่เสือ 2 ตัว จะอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นนักลงทุนที่เลือกลงทุนใน ABEG จะไม่ค่อยลงทุนใน ING EHD ส่วนคนที่ลงทุนใน ING EHD จะไม่ลงทุนใน ABEG เช่นกัน เหตุผลก็คือ นโยบายและวิธีการลงทุนที่ต่างกัน ทั้งขนาดทุนจดทะเบียนที่บริษัทเลือกลงทุน และหุ้นรายตวที่กองทุนทั้ง 2 สนใจ แต่ดันมาจ๊ะเอ๋กันก็เพราะ ดันมาลงทุนในยุโรปเหมือนกันสิครับ ตามไปดูนะครับ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I5266518/I5266518.html มาที่ ตลาดทั่วโลก -----> KGLOBE กองนี้ทีเด็ดก็คือ ปลายปี 49 กองทุนตัดสินใจจ่ายปันผลทันที 7.5% ทั้งๆที่เปิดกองมาเพียงแค่ 3 เดือน และหลังจากนั้นต้นปี 50 ตลาดหุ้นทั่วโลกก็ต่างปรับฐานอย่างรุนแรง ถือเป็นการตัดสินใจที่เยี่ยมยอดถูกจังหวะมั๊กๆ (หรือจะฟลุ๊ค ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะ แหะๆ) ปัจจุบัน เป้นกองทุนที่ลงทุนทั่วโลกที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในตลาด (รวมเงินปันผลแล้ว) แต่กองทุนนี้ยังมีการลงทุนใน US อยู่ ใครที่ไม่ปลื้มหุ้นสหรัฐ ก็อาจไม่ชอบกองนี้เท่าไหร่ งั้นก็แนะนำ T-VALUexUs กองทุนหอมกรุ่นจาก บลจ.ธนชาติ ครับ ------------------------ โชคดีในการลงทุนครับ จากคุณ : Mr.Messenger - [ 17 เม.ย. 50 23:37:31 ]