ความคิดเห็นที่ 1 กินไอครีมไข่แข็งกลัวไข้หวัดนกคะ ที่จริงชอบกินนะอร่อยมันๆดี แต่ไข่ดิบนี่นา จากคุณ : พี่ญ - [ 26 เม.ย. 50 06:34:06 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เข้าร้านไอศกรีมไข่แข็งครับ ไอศกรีมแบรนด์ในห้างมีเยอะแล้วรสชาติคล้าย ๆ กันเน้นนม เนย ไม่ถูกปาก ชอบไอศกรีมไทย ๆ เน้นกระทิ หวาน ๆ มัน ๆ เค็ม ๆ ข้างในใส่ขนุนหอม ๆ  ตีไข่ใส่ โรยหน้าด้วยถั่วลิสงคั่ว  ^..^  น้ำลายใหล จากคุณ : BigMooHuHu - [ 26 เม.ย. 50 08:14:39 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ชอบกินไอติมไข่แข็งค่ะ เพราะงั้นคงเลือกเข้าไอติมแบรนด์ดัง จากคุณ : คุณหมาขายาว - [ 26 เม.ย. 50 08:20:34 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ช่วงนี้ คนยังกลัวไข้หวัดนก ดังนั้นไม่กินไอติมไข่แข็ง จากคุณ : จุย - [ 26 เม.ย. 50 08:32:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เช่นกันครับ ไอศครีมไข่แข็งก็อร่อยนะ แต่ "ไข่ดิบ" คนส่วนใหญ่คงไม่ชอบครับ จากคุณ : yod_envi - [ 26 เม.ย. 50 08:53:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แม้ตัวผมเอง จะชอบกินไอติมกะทิปั่นไข่แข็ง ก็ตาม แต่ผมว่า คนจะเลือกเข้าร้านยี่ห้อดังมากกว่า เพราะมีไอติมหลายรส ไม่เหมือนร้านไอติมไทยๆ ที่มีไม่กี่รสชาดเท่านั้น จากคุณ : ศาสตร์ - [ 26 เม.ย. 50 09:46:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยกับ #6  รสไอติมไข่แดงนี้ค่อนข้างเฉพาะทางมาก คิดว่าถ้าเปิดจริงจะมีสาวกผู้ภักดีอยู่ส่วนหนึ่ง แต่ตลาดค่อนข้างแคบ เมื่อเทียบร้านแบรนด์ซึ่งรู้จักกันดีอยู่แล้วและมีรสชาติให้เลือกหลากหลายกว่า จากคุณ : rigor - [ 26 เม.ย. 50 10:50:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 Trend ไม่ได้เลยนะ ข้าไปกินไอติมไข่แข็งมา...555 จากคุณ : spa162 - [ 26 เม.ย. 50 11:32:07 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไอติมไข่แข็งนี่มันอร่อยมากเลยนะ ติดอยู่2เรื่องว่า - ไข้หวัดนก - "อาหารแช่แข็งไม่อร่อย" เอ๊ย ไข่ดิบ คนนึกว่าจะคาวไง เลยไม่ยอมกินกัน.. แต่เราว่าไอติมไข่แข็งราดโอวัลตินนี่ สุดยอด ^^" จากคุณ : azur - [ 26 เม.ย. 50 12:04:01 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าหากว่ามีข้อมูลแน่นด้านนี้ก็ทำไปก็ได้ครับ รายงานมันคงไม่มีถูกผิดอยู่แล้ว (มั้ง) แต่ถ้าเอาความเป็นจริงผมว่าไอติมร้านใหญ่ ๆ เช่น Baskin หรือรวมทั้ง Swenzen's มีจุดแข็งคือการแต่งร้านทำให้น่า นั่งกินกะแฟน รสชาติที่หลากหลาย เมนูที่หลากหลาย และ การทำโปรโมชั่นระยะยาว เช่นบัตรสมาชิก ที่ทำให้ลูกค้า ติดพัน แล้วก็ที่สำคัญคือแบรนด์ที่ดัง ทั้งหมดนี้ทำให้แข่ง ขันด้วยยากสักหน่อย ถ้าไม่เจ๋งพอ คนไทยไม่นิยมสินค้าที่แบรนด์ไม่ดัง ถ้าอร่อย แต่แบรนด์ไม่ดัง ต้องถูกกว่าพอสมควร ไม่เชื่อ ลองดูร้าน Fuji, Zen,เทียบราคากับร้านที่ไม่ดังเท่าและ เริ่มสร้างแบรนด์ทีหลังเช่น Sakura ราคาจะถูกกว่า ถ้าจะทำราคาให้เท่ากันหรือมากกว่าได้แต่ทำเลต้องหรู เป็นสาขาจากต่างประเทศ ก็จะเป็นข้อยกเว้น ทำให้ทำ ราคาได้เยอะ เช่น Ootoya เป็นยี่ห้อจากญี่ปุ่น และมีเมนู ที่เป็นตัวของตัวเองจริง ๆ ส่วน Tsu-Nami ก็อยู่ในโรงแรม เน้นลูกค้าขาประจำที่เน้นซาซิมิแบบไฮโซสุด ๆ ก็พออยู่ ได้ ถึงแม้จะไม่ต้องมีคนแน่นร้าน ไม่ต้องมีสาขา กลับมาที่ไอติม ยี่ห้อที่มาใหม่ และไม่มีแบรนด์ สุดท้าย ก็ได้แต่ทำตู้เล็ก ๆ อยู่บนห้าง ทำราคาให้ถูกกว่า แล้วก็ ยืนแจกตัวอย่างสินค้า ผมยังจำไม่ได้เลยว่ายี่ห้ออะไร แต่เขาต้องทำอย่างนี้ถึงจะอยู่รอด สงสัยรึเปล่าว่าทำไมไม่ทำร้านใหญ่กว่านี้ หรูกว่านี้ หรือ เมนูเยอะกว่านี้ ก็เหมือนกับกรณีร้านอาหารญี่ปุ่น เพราะลักษณะการแข่ง ขันในไทยกดดันให้ไอติมแบรนด์ต้องเลือกเอา 2 ทาง ระหว่างจะเป็นแบรนด์ขนาดใหญ่ สาขาเยอะ โฆษณาเยอะ เมนูเยอะ ฯลฯ กับแบบที่สองคือแบรนด์ขนาดเล็กที่มีความ เป็นตัวของตัวเองสูง กับแบบที่สองจุดสอง คือแบรนด์ ขนาดเล็กที่ราคาถูก ไม่ต้องเน้นการตกแต่งหรือเมนู ไอติมไข่แข็ง ถ้าไม่ทำเมนูให้เยอะพอ ให้ฉีกออกไปจาก ไอติมไข่แข็งตามตลาดทั่วไปสุด ๆ ก็จะต้องขายแบบ ล๊อคเล็ก ๆ ถ้วยละ 20 บาท คนขายคนเดียว ถ้าไม่ฉีกแนวจากไอติมไข่แข็งทั่วไปพอ คนกินก็จะตั้งคำ ถามว่า ข้าพเจ้าจะซื้อไปทำไมถ้าราคาแพงกว่า ต่อให้แต่งร้านดูดี แต่ถ้ามีสาขาเดียว และเมนูไม่หลาก หลายแหวกแนว ในความเป็นจริงก็ไม่น่าจะรอดครับ เพราะต้นทุนค่าตกแต่งก็จะบีบให้ต้องตั้งราคาสูง และ เมื่อเมนูไม่หลากหลาย คนก็จะไม่ซื้อที่ราคาสูง การทำธุรกิจจริง ต่างจากการวาดภาพในใจ คือไม่ว่าเราจะ ทำอะไร ก็เป็นต้นทุนหมด ทั้งการทำสาขา การจ้างงาน การทำการตกแต่ง และการทำสินค้าคงเหลือสำหรับทำเมนู (เมนูหลากหลายก็มีแนวโน้มที่จะมีสินค้าคงเหลือมากขึ้น ได้ และสินค้าคงเหลือมากขึ้นก็ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น) สรุปคือร้านที่จะอยู่ได้คือ 1. ร้านที่ใหญ่ มีสาขาเยอะ ตกแต่งเยอะ เมนูเยอะ โปรโมชั่น เยอะ จ้างคนเยอะ มีระบบราคาแพงในการดูแล คนรู้จักกันดี อยู่ได้เพราะต้นทุนถูกว่าเพราะซื้อสินค้าทีละมาก ๆ สั่งตกแต่ง ร้านหลาย ๆ ร้านในแบบเดียวกันก็ทำให้ประหยัดต้นทุนได้ โฆษณาก็ทำได้เยอะ เพราะขายสินค้าเยอะ พูดง่าย ๆ คือ ต้นทุนต่อขนาดต่ำกว่า จึงอยู่ได้ 2.1 ร้านที่ไม่จำเป็นต้องมีสาขาเยอะ แต่ตั้งราคาแพงได้เพราะ สินค้า (อาหาร) มีเอกลักษณ์สูง เลียนแบบได้ยาก มักดูหรูหรา มักเป็นสาขาจากต่างประเทศ แต่งร้านได้ ทำระบบได้ เพราะ สามารถขายราคาสินค้าได้แพงกว่า 2.2 ร้านที่ไม่จำเป็นต้องมีสาขาเยอะ ไม่ตกแต่งราคาแพง ใช้คนน้อยมาก ส่วนมากเป็นตู้เล็ก ๆ สินค้าไม่ต้องหลากหลาย แค่น่าซื้อ และสำคัญสุดคือราคาถูก อยู่ได้เพราะต้นทุนไม่ ได้มากนัก สุดท้ายก็แล้วแต่ว่าอาจารย์คุณจะซีเรียสกับมันขนาดไหน อะครับ แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 50 13:02:22 จากคุณ : umdadevil - [ 26 เม.ย. 50 12:33:52 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เเฟนตอนจีบกัน เค้าพาไปกินไอติมไข่แข็งค่ะ แสนจะไม่อร่อย   เลือก Brand คะ ถ้าคุณจะทำ อาจเลือกBrand ต่างประเทศ อื่น ๆ ที่ยังไม่ติดตลาดไทย แต่ว่าติดตลาดต่างประเทศเเล้ว จะทำให้ขายในไทยง่ายกว่าคะ จากคุณ : แนนแนน - [ 26 เม.ย. 50 20:34:54 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณจะควบคุมคุณภาพไข่ได้ลำบาก .. ด้วย วันนี้ สีเหลือง  พรุ่งนี้สีแดง  วันนี้คาวมาก วันนั้น คาวน้อยหน่อย .. วันนี้ไข่ใหม่ ไข่แดงเหนียวข้นกว่าวันนั้น เหลวเป๋ว.. ผมเป็นคนหนึ่งที่เลิกกินไข่ลวกตั้งแต่มีไข้หวัดนก... คิดว่าคงไม่กินไข่แข็งด้วยครับ จากคุณ : oxidation - [ 27 เม.ย. 50 21:48:09 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เนื่องจากผมไม่ชอบไข่ดิบ จริงๆไอติมไข่แข็งเคยกินนะ แต่ก็ไม่ชอบอยู่ดีอ่ะ แต่จะกินยี่ห้อดัง ก็รู้สึกแพง เสนอทางเลือกที่ 3 ได้มั้ย หาทางทำให้ไอติมไทยๆ มีหลากรส หลายรูปแบบ ปรับเปลี่ยนได้ตามเทศกาล ตามผลไม้ น่าเอาไปแข่งกะเขาได้ จากคุณ : Gunn_Sap - [ 28 เม.ย. 50 09:23:50 ]