ความคิดเห็นที่ 1 AYF บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนอยุธยา เป็นบริษัทจัดการกองทุนที่น่าสนใจอีกบริษัทหนึ่ง ข้อกำหนดเบื้องต้นในการซื้อขายจะเหมือนกัน คือ ซื้อขายกำหนดให้ซื้อขายขั้นต่ำ 2,000 บาท และการรับซื้อคืนไม่น้อยกว่า 100 หน่วย โดยซื้อขายได้ทุกวันทำการ โดยการซื้อขาย สับเปลี่ยน จะเสียค่าส่วนต่าง 0.001 บาทต่อหน่วยลงทุน AYF มีกองทุน RMF อยู่ถึง 5 กองทุน โดยภาพรวม ถือว่ากองทุน RMF ของ AYF มีรูปแบบที่ค่อนข้างครบเครื่อง คือ มีทั้งกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น กองทุนตราสารหนี้ระยะยาว กองทุนผสม กองทุนหุ้นแบบ Passive และกองทุนหุ้นแบบ Active อยุธยาตราสารเงินเพื่อการเลี้ยงชีพ (AYFCASHRMF) เป็นกองทุนที่จัดว่าเป็น MMF โดยนโยบายกองทุนเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น เงินฝาก และตั๋วเงินคลัง โดยระยะเวลาเฉลี่ยของตราสารจะไม่เกิน 1.2 ปี การ ข้อมูลการลงทุน ณ วันที่ 30 มีนาคม 2550 ลงทุนในพันธบัตร 97.31 เปอร์เซนต์ ที่เหลือเป็นเงินฝากและทรัพย์สินอื่น ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 4.34% 6 เดือน = 4.42% 1 ปี = 4.41% อยุธยาพันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ (AYFGOVRMF) เป็นกองทุนที่จัดว่าเป็น Fixed Income Fund ที่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ประเภทพันธบัตร และตราสารอื่นที่รัฐบาลเป็นผู้ออก ข้อมูลการลงทุน ณ วันที่ 30 มีนาคม 2550 ลงทุนในพันธบัตร 77.32 เปอร์เซนต์ ที่เหลือเป็น ตราสารหนี้สถาบันการเงิน และหุ้นกู้เอกชน ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 9.66% 6 เดือน = 6.64% 1 ปี = 6.30% อยุธยาทวีทรัพย์เพื่อการเลี้ยงชีพ (AYFTSRMF) เป็นกองทุนที่จัดว่าเป็นกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น ที่ลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน (หุ้น) ข้อมูลการลงทุน ลงทุน ณ วันที่ 30 มีนาคม 2550 ลงทุนในตราสารหนี้ประมาณ 40 เปอร์เซนต์ และตราสารทุนประมาณ 60 เปอร์เซนต์ ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = -3.15% 6 เดือน = -0.73%1 ปี = -1.55 % อยุธยา SET100เพื่อการเลี้ยงชีพ (AYFRMF100) เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารทุน โดยรูปแบบการลงทุนจะเป็นแบบ Passive คือ สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้ใกล้เคียงกับ SET 100 มากที่สุด กองทุนนี้ไม่มีนโยบายปันผล ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = +0.01% 6 เดือน = -2.35%1 ปี = -6.19% อยุธยาอิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (AYFEQRMF) เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารทุน โดยลงทุนให้หุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของกองทุน โดยรูปแบบการลงทุนจะเป็นแบบ Active คือพยายามบริหารให้ชนะดัชนีของตลาด กองทุนนี้ไม่มีนโยบายปันผล ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = -0.14% 6 เดือน = +1.31%1 ปี = N A จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม - [ 28 เม.ย. 50 20:45:17 ]

ความคิดเห็นที่ 2 BBLAM บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง ถือเป็นบริษัทจัดการกองทุนแถวหน้าบริษัทหนึ่ง แม้จะมีผู้กล่าวถึงในห้องสินธรไม่มากนัก BBLAM มีกองทุนประเภท RMF อยู่ทั้งหมด 3 กองทุนด้วยกัน สำหรับเงื่อนไขในการลงทุน ต้องลงทุนครั้งแรกไม่น้อยกว่า 5000 บาท และครั้งต่อไปไม่น้อยกว่า 500 บาท โดยหากมีการสับเปลี่ยนจะเสียค่าธรรมเนียม 200 บาท บัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (BERMF)เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารทุน หรือ พูดง่าย ๆ ว่าลงทุนในหุ้น โดยจะลงในหุ้นที่ทั้งจดทะเบียนและไม่ได้ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยจะลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารหนี้ ฝาก หรือหากดอกผลโดยวิธีอื่น สำหรับสัดส่วนการลงทุน เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2550 มีการลงทุนในหุ้น 85 เปอร์เซนต์ โดยเน้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร (รวมกัน 75 เปอร์เซนต์) ส่วนที่เหลือเป็นตราสารหนี้และอื่นๆ ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 4.47% 6 เดือน = 8.21% 1 ปี = 3.79% กองทุนเปิดบัวหลวงเฟล็กซิเบิ้ลเพื่อการเลี้ยงชีพ  (BFLRMF) จัดเป็นกองทุนรวมผสมแบบยืดหยุ่น โดยเป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารทุนและตราสารหนี้ สำหรับสัดส่วนการลงทุน เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2550  มีการลงทุนในหุ้น 79 เปอร์เซนต์ โดยเน้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร (รวมกัน 79 เปอร์เซนต์) ส่วนที่เหลือเป็นตราสารหนี้และอื่นๆ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2550 ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 4.83% 6 เดือน = 8.28% 1 ปี = 3.64% กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (BFRMF) เป็นกองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารหนี้ สำหรับสัดส่วนการลงทุน  เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2550 ลงทุนในตราสารหนี้สถาบันการเงิน 37 เปอร์เซนต์ พันธบัตรและตั๋วเงินคลัง 49 เปอร์เซนต์ ส่วนที่เหลือเป็นตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้รัฐวิสาหกิจและหุ้นกู้เอกชน ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 6.13% 6 เดือน = 4.86% 1 ปี = 4.51% ข้อมูลผลการดำเนินงานวันที่ 30 มีนาคม 2550 จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม - [ 28 เม.ย. 50 20:47:01 ]

ความคิดเห็นที่ 3 TMBAM บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทย เป็นบริษัทที่มีผลการดำเนินการกองทุนอยู่ในเกณฑ์ดี มีกองทุนที่น่าสนใจหลายกองทุน สำหรับข้อกำหนดเบื้องต้นในการซื้อขายของ TMBAM สำหรับข้อกำหนดเบื้องต้นในการซื้อขาย คือ จะต้องซื้อครั้งแรกไม่น้อยกว่า 2000 บาท และซื้อขาย สับเปลี่ยนครั้งต่อไปไม่น้อยกว่า 1 บาท TMBAM มีกองทุนประเภท RMF อยู่ 3 กองทุนด้วยกัน โดยมีกองทุนตราสารหนี้ 1 กองทุน และ กองทุนหุ้น 2 กองทุน ซึ่งสำหรับคนที่ต้องการลงในตราสารหนี้เพียงอย่างเดียว อาจไม่ค่อยมีทางให้เลือกมากนัก และดูเหมือนว่าจะเหมาะสำหรับเอาไว้สับเปลี่ยนหลบจากหุ้นมากกว่า แต่สำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนที่มากขึ้น โดยลงทุนในหุ้นได้ TMBAM ก็มีความน่าสนใจไม่น้อยโดยเฉพาะกองทุน Jumbo 25 ที่มีรูปแบบการลงทุนที่ไม่เหมือนใคร กองทุนเปิดทหารไทยธนบดีเพื่อการเลี้ยงชีพ จัดเป็นกองทุนรวมประเภท MMF (Money Market Fund) โดยเป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในตราสารตลาดเงิน เช่น เงินฝาก ตั๋วเงินคลัง ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน และตราสารหนี้ระยะสั้น ตลอดจนตราสารหนี้ระยะยาวที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่มีความมั่นคงและสภาพคล่องสูงเป็นหลัก โดยจะเลือกลงทุนในตราสารหนี้ที่ผู้ออก หรือผู้รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกันตราสารมีความมั่นคงสูง โดยมีอายุตราสารเฉลี่ยไม่เกิน 1 ปี ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 4.07% 6 เดือน = 4.18% 1 ปี = 4.18% กองทุนเปิดทหารไทย SET50 เพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารทุน โดยรูปแบบการลงทุนจะเป็นแบบ Passive คือ สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้ใกล้เคียงกับ SET 50 มากที่สุด กองทุนนี้ไม่มีนโยบายปันผล (กองทุนนี้จะคิดค่าธรรมเนีบมรับซื้อคืน 0.25 เปอร์เซนต์) ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 7.67% 6 เดือน = -2.77%1 ปี = -5.84% กองทุนเปิด JUMBO 25 เพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารทุน โดยรูปแบบการลงทุน จะลงทุนในตราสารทุนขนาดใหญ่ จำนวน 25 บริษัท โดยพิจารณาถึง มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด การจ่ายเงินปันผลหรือประกาศที่จะจ่ายเงินปันผล สภาพคล่องของหลักทรัพย์ และควบคุมการกระจุกตัวไม่เกิน 3 บริษัท ในแต่ละอุตสาหกรรม (Sector) โดยรูปแบบการลงทุนจะเป็นกึ่ง ๆ ระหว่าง Passive กับ Active คือ ไม่ได้ตาม SET เหมือนกับ Passive แต่ก็ไม่ได้มีการซื้อขายทุกวัน โดยจะปรับพอร์ตทุกช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งมีข้อดี คือ ประหยัดค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ได้ กองทุนนี้ไม่มีนโยบายปันผล (กองทุนนี้จะคิดค่าธรรมเนีบมรับซื้อคืน 0.25 เปอร์เซนต์) ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 7.44% 6 เดือน = -3.56%1 ปี = -6.72% ข้อมูลผลการดำเนินการ ข้อมูล ณ วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2550 จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม - [ 28 เม.ย. 50 20:48:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ธนชาติ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนธนชาติ เป็นบริษัทที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ก็มีการบุกตลาดอย่างหนักในระยะนี้ กองทุน RMF ของธนชาติ สำหรับเงื่อนไขเบื้องต้นในการซื้อขาย คือ ซื้อครั้งแรกไม่น้อยกว่า 5000 บาท ซื้อขายครั้งต่อไป ไม่น้อยกว่า 2000 บาท และต้องมีหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 500 หน่วย  สำหรับธนชาติมีเงื่อนไขพิเศษที่สามารถสั่งซื้อหน่วยลงทุนเป็นประจำได้ด้วย  อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ต้องการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน (ซึ่งสำคัญสำหรับ RMF) ธนชาติมีการคิดค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนด้วย โดยเขียนไว้ว่าไม่เกิน 200 บาท (หมายเหตุ ผมไม่แน่ใจในเรื่องนี้ ถ้าใครทราบช่วยแจ้งด้วย จะได้แก้ไขข้อมูล) กองทุนของธนชาติในส่วนของตราสารทุน จัดว่ามีผลตอบแทนที่ใช้ได้ แต่ที่โดดเด่นคือกองทุนที่เป็นตราสารหนี้ ซึ่งมีถึง 3 กอง และให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นมาก เนื่องจากมีการนำเงินไปลงทุนในหุ้นกู้ ธนชาติหุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (NERMF) เป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในตราสารทุน โดยลงทุนให้หุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของกองทุน โดยรูปแบบการลงทุนจะเป็นแบบ Active คือพยายามบริหารให้ชนะดัชนีของตลาด กองทุนนี้ไม่มีนโยบายปันผล สำหรับข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2550 มีการลงทุนในตราสารทุน 90 เปอร์เซนต์ ส่วนที่เหลืออยู่ในเงินฝากและพันธบัตร ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 7.44% 6 เดือน = -1.91% 1 ปี = -6.49% ธนชาติมิกซ์ฟันด์เพื่อการเลี้ยงชีพ(NMIXRMF) เป็นกองทุนที่จัดว่าเป็นกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น ที่ลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน (หุ้น) และอาจมีการไปลงทุนในต่างประเทศบางส่วน แต่ไม่เกินร้อยละ 15 ของกองทุน สำหรับข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2550 มีการลงทุนในตราสารทุน 87 เปอร์เซนต์ ส่วนที่เหลืออยู่ในเงินฝากและพันธบัตร ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 8.21% 6 เดือน = 0.33 1 ปี = -1.94% ธนชาติตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ(NFRMF) เป็นกองทุนที่จัดเป็นกองทุนตราสารหนี้ โดยลงทุนทั้งตราสารหนี้และตราสารเงิน โดยข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2550 สัดส่วนการลงทุน ในหุ้นกู้ภาคเอกชน 53 เปอร์เซนต์ หุ้นกู้สถาบันการเงิน 23 เปอร์เซนต์ และพันธบัตรรัฐบาลอีกประมาณ 17 เปอร์เซนต์ ที่เหลือเป็นเงินฝากและอื่น ๆ ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 14.87% 6 เดือน = 11.76%1 ปี = 8.77% ธนชาติพันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ(NGRMF) เป็นกองทุนตราสารหนี้เช่นกัน ซึ่งชื่อก็บอกว่าเน้นการลงทุนไปที่พันธบัตรรัฐบาล โดยจะลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 โดยข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2550 สัดส่วนการลงทุนเป็นพันธบัตร 87 เปอร์เซนต์ ที่เหลือเป็นหุ้นกู้ภาคเอกชนและอื่น ๆ ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 14.88% 6 เดือน = 12.50%1 ปี = 9.02% ธนชาติตลาดเงินเพื่อการเลี้ยงชีพ(NMRMF) เป็นกองทุนตราสารหนี้ที่เน้นการลงทุนในตลาดเงิน (MMF) โดยจะลงทุนในตราสารหนี้อายุไม่เกิน 1 ปี โดยข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2550 สัดส่วนการลงทุนเป็นพันธบัตร 40 เปอร์เซนต์ หุ้นกู้ภาคเอกชน 25 เปอร์เซนต์ หุ้นกู้สถาบันการเงิน 9 เปอร์เซนต์ ที่เหลือเป็นเงินฝากและอื่น ๆ ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 5.44% 6 เดือน = 5.19%1 ปี = 5.07% ข้อมูลผลการดำเนินการ วันที่ 26 เมษายน 2550 จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม - [ 28 เม.ย. 50 20:49:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 KASSET บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย นับเป็นบริษัทจัดการกองทุนรวมที่มีภายใต้การจัดการที่มากที่สุดในประเทศ กองทุน RMF ของ KASSET มีอยูด้วยกัน 6 กองทุน สำหรับเงื่อนไขเบื้องต้นในการซื้อขาย คือ ต้องลงทุนขั้นต่ำ 5000 บาท โดยมีค่าธรรมเนียมในการสับเปลี่ยนเท่ากับ 1 เปอร์เซนต์ แต่ไม่น้อยกว่า 200  บาท แต่ถ้าเป็นการสับเปลี่ยนภายใน RMF ด้วยกันไม่เสียค่าสับเปลี่ยน กองทุนเปิดรวงข้าวพันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ (GBRF) เป็นกองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในพันธบัตร โดยข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2550 ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หรือ รัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน 99 เปอร์เซนต์ ที่เหลือลงทุนอื่น ๆ ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 2.38% 6 เดือน = 3.78%1 ปี = 6.42% กองทุนเปิดรวงข้าวตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (FIRF) เป็นกองทุนตราสารหนี้ที่เน้นลงทุนในหลักทรัพย์อันเป็นหรือเกี่ยวข้องกับตราสารแห่งหนี้ และหรือเงินฝาก โดยจะมุ่งเน้นผลตอบแทนและความมั่นคงของสถาบันที่ออกตราสารเป็นหลัก โดยข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2550 ลงทุนในหุ้นกู้เอกชน 13 เปอร์เซนต์ หุ้นกู้สถาบันการเงิน 19 เปอร์เซนต์ พันธบัตร 62 เปอร์เซนต์ ที่เหลือเป็นเงินฝากและอื่น ๆ ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 2.11% 6 เดือน = 3.51% 1 ปี = 4.96% กองทุนเปิดรวงข้าวทุนวิภาคเพื่อการเลี้ยงชีพ (FBRF) เป็นกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น โดยลงทุนทั้งในตราสารหนี้ และ ตราสารทุน โดยข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2550 มีการลงทุนในตราสารทุนประมาณ 30 เปอร์เซนต์ ที่เหลือลงทุนในตราสารหนี้ พันธบัตร และหุ้นกู้ภาคเอกชนและสถาบันการเงิน ซึ่งดูจากสัดส่วนแล้วกองทุนนี้น่าจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้มากกว่าตราสารทุน ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 3.67% 6 เดือน = 1.97% 1 ปี 2.07% กองทุนเปิดรวงข้าวหุ้นทุนบริพัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ (FERF) เป็นกองทุนรวมผสมแบบยืดหยุ่น โดยลงทุนทั้งในตราสารหนี้ และ ตราสารทุน เช่นเดียวกัน แต่ส่วนใหญ่จะลงในตราสารทุน โดยข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2550 พบว่าลงทุนในตราสารทุนถึงร้อยละ 97 ของเงินกองทุน โดยเน้นลงทุนในหุ้นธนาคารและพลังงาน ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 8.03% 6 เดือน = -1.34% 1 ปี -6.64% กองทุนเปิดรวงข้าวบริหารเงินเพื่อการเลี้ยงชีพ (MMRF) เป็นกองทุนตราสารหนี้ที่เน้นการลงทุนในตลาดเงิน (MMF) โดยจะลงทุนในตราสารหนี้อายุไม่เกิน 1 ปี โดยข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2550 ลงทุนในพันธบัตร 87 เปอร์เซนต์ ที่เหลือลงทุนในหุ้นกู้เอกชน และตราสารสถาบันการเงิน ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 1.34% 6 เดือน = 2.44% 1 ปี 4.57% กองทุนเปิดเค หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (KEQRF) เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารทุน โดยลงทุนในตราสารทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 และอาจลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกินร้อยละ 25 ปัจจุบันลงทุนในตราสารทุนและหน่วยลงทุนตราสารทุน ประมาณ 91 เปอร์เซนต์ โดยส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากและอื่น ๆ ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 7.36% 6 เดือน = N/A 1 ปี N/A จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม - [ 28 เม.ย. 50 20:51:04 ]

ความคิดเห็นที่ 6 SCBAM บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมไทยพาณิชย์ บริษัทนี้คงไม่ต้องแนะนำอะไรกันมาก เพราะมีผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งอย่าง PJUK ที่แนะนำให้ห้องสินธรอยู่เสมอ SCBAM มีกองทุน RMF จำนวน 4 กองทุนด้วยกัน สำหรับข้อกำหนดในการซื้อขายเบื้องต้น คือ ซื้อครั้งแรกไม่น้อยกว่า 5000 บาท และซื้อครั้งต่อไปไม่น้อยกว่า 1,000 บาท การซื้อขายไม่เสียค่าธรรมเนียม สำหรับการสับเปลี่ยนถ้าเกิน 3 ครั้งต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ในขณะนี้ยังยกเว้นค่าธรรมเนียมส่วนนี้อยู่ ไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้นเพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM1)  เป็นกองทุนตราสารหนี้ที่เน้นตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อการลงทุนที่ปลอดภัย ไม่หวังผลตอบแทนที่สูงนัก เพื่อประโยชน์ทางภาษีเป็นหลัก ข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2550 ลงทุนในพันธบัตร 45 เปอร์เซนต์ ตราสารทางการเงิน 45 เปอร์เซนต์ ที่เหลือเป็นหุ้นกู้ภาคเอกชน ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 5.04% 6 เดือน = 4.79 % 1 ปี 4.55% ไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM2) เป็นกองทุนตราสารหนี้ที่ เน้นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2550 ลงทุนในพันธบัตร 61 เปอร์เซนต์ ตราสารสถาบันการเงิน 17 เปอร์เซนต์ และหุ้นกู้ภาคเอกชนอีก 21 เปอร์เซนต์ ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 8.45 % 6 เดือน = 7.79  % 1 ปี 6.46 % ไทยพาณิชย์เฟล็กซิเบิ้ล ฟันด์เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM3) เป็นกองทุนเป็นกองทุนรวมผสมแบบยืดหยุ่น โดยลงทุนทั้งในตราสารหนี้ และ ตราสารทุน ข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2550 ลงทุนในตราสารทุนประมาณ 49 เปอร์เซนต์ โดยเน้นในหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร และลงทุนในตราสารหนี้ประมาณ 48 เปอรเซนต์ ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 4.07 % 6 เดือน = -  % 1 ปี -2/09 % ไทยพาณิชย์หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM4) เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารทุน ข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2550 ลงทุนให้หุ้นกลุ่มพลังงาน 36 เปอร์เซนต์ กลุ่มธนาคาร 18 เปอร์เซนต์ ส่วนที่เหลือลงในหุ้นกลุ่มก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ พาณิชย์ และอื่น ๆ ผลการดำเนินงาน  3 เดือน = 8.71 % 6 เดือน = -1.53 % 1 ปี -4.17 % ข้อมูลผลการดำเนินงานวันที่ 27 เมษายน 2550 จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม - [ 28 เม.ย. 50 20:52:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สำหรับวันนี้ ก็คงรวบรวมมาแค่นี้ก่อน เพราะมีเยอะมากจริง ๆ แค่นี้ก็ทำตั้งหลายวันแล้วครับ แต่ก็คงจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่จะซื้อกองทุน RMF ถ้ามีเวลาก็จะรวบรวมกองทุนประเภทอื่น ๆ มาเพิ่มเติมครับ แล้วก็อย่าลืมคำพูดที่ว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ซื้อควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน และ ผลการดำเนินการในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินการในอนาคต ถ้ามีข้อพบพร่องประการใดก็ขออภัย และ น้อมรับทุกคำชี้แนะครับ จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม - [ 28 เม.ย. 50 20:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ห้องนี้ไม่ค่อยมีกระทู้แนะนำ ขออนุญาติโหวตนะครับ เผื่อคนที่ไม่ค่อยมีความรู้อย่างผมจะได้อ่านกันเยอะๆ จากคุณ : Vancin - [ 28 เม.ย. 50 21:37:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โหวตด้วยคนครับ :D และคลิกเก็บเข้าคลังกระทู้ล่ะครับ เพื่อขอเอามารวมไว้ในกล่องดำนะครับ จากคุณ : EncodeO - [ 28 เม.ย. 50 21:41:15 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สุดยอด  มีประโยชน์ยิ่ง ขอบคุณมากๆนะคะ จากคุณ : แม่ดอกมะลิ (PP_SVEN_BERG) - [ 28 เม.ย. 50 21:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณมากครับ อ่านแล้วอยากซื้อทุกกองเลย แต่อยากให้เพื่มรายละเอียดเรื่อง fund book ,การซื้อผ่านทาง ATM ,NET และก็ ความเสี่ยงของแต่ละกองทุนครับ(เช่นแบ่งระดับความเสี่ยงออกเป็นสัก 5 หรือ 10 level ครับ) แฮ่ะ แฮ่ะ ไม่รู้ขอมากไปหรือเปล่า เอ้า vote อีก 1 เสียงครับ จากคุณ : mor-jeb - [ 28 เม.ย. 50 22:12:42 ]

ความคิดเห็นที่ 12 Very Very Good จากคุณ : I am 1st - [ 29 เม.ย. 50 00:04:12 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาโหวตให้ครับ สู้สู้ จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 29 เม.ย. 50 00:33:18 ]

ความคิดเห็นที่ 14 voteeeeeeeeeeee~~~~~~~~~ จากคุณ : pompamie - [ 29 เม.ย. 50 02:32:55 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตามมาเก็บข้อมูล และโหวตให้หนึ่งเสียงสำหรับข้อมูลดีๆ ขอบคุณมากๆคะ จากคุณ : รพินทร์ดารา - [ 29 เม.ย. 50 22:52:41 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เก็บเค้าคลังกระทู้ กับ โหวตให้ด้วยค่ะ มี ประโยชน์ จากคุณ : แนนแนน - [ 30 เม.ย. 50 00:35:54 ]

ความคิดเห็นที่ 17 โหวตไปแล้วนะครับ แต่เพิ่มเติมประเด็นนิดเนิงครับ AYF กับ KASSET ไม่ได้บอกช่วงเวลาที่วัดผลการดำเนินงานไว้ครับ รบกวนระบุให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Mr.Messenger - [ 30 เม.ย. 50 08:54:06 ]

ความคิดเห็นที่ 18 โหวต ด้วยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ จากคุณ : โหระพา - [ 30 เม.ย. 50 09:35:02 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ่า....กำลังหาข้อมูลพอดี ขอบคุณครับ โหวต จากคุณ : สิงหา - [ 30 เม.ย. 50 14:10:22 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอโหวตด้วยคน จากคุณ : pongto - [ 30 เม.ย. 50 18:00:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจ แบบนี้มีกำลังใจ ผลิตผลงานอื่น ๆ เพิ่มเติม สำหรับ comment จะเพิ่มเติมให้ครับ จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม - [ 30 เม.ย. 50 20:37:50 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณมากค่ะ เป็นข้อมูลที่ดีมากค่ะ ช่วยประหยัดเวลาได้เยอะเลย ช่วยโหวตให้ด้วยค่ะ จากคุณ : แพธารา - [ วันแรงงาน 10:05:04 ]

ความคิดเห็นที่ 23 โหวตให้ด้วยค่ะ จากคุณ : jasmin rice - [ 2 พ.ค. 50 16:46:30 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณข้อมูลดีๆค่ะ จากคุณ : ไก่อูเพื่อนไก่แจ้ - [ 3 พ.ค. 50 23:23:04 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โหวต กำลังหาข้อมูลไปซื้อพอดี  โหวตคะ จากคุณ : RianyWow (RainyWoW) - [ 4 พ.ค. 50 12:38:59 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Junichi (junichi) - [ 4 พ.ค. 50 19:33:05 ]