ความคิดเห็นที่ 1 มาดูผลการดำเนินงานในรูปแบบกราฟแท่งบ้างนะครับ เพิ่ม TMBCB ของ บลจ.ทหารไทย และ PFF โดย บลจ.พรีมาเวสท์ เข้าไปด้วยครับ จากคุณ : Mr.Messenger - [ 3 พ.ค. 50 17:12:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จากผลการดำเนินงานย้อนหลังที่เห็น ทำให้เราได้รู้เลยว่า SCBRFและ NFF ที่นักลงทุนส่วนใหญ่รู้จัก ยังไม่ใช่กองทุนที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดในตลาดครับ แต่ประเด็นที่นักลงทุนควรให้ความสนใจไม่แพ้กับผลการดำเนินงาน ก็คือ ความเสี่ยงของกองทุนแต่ล่ะกองครับ มาดูค่า Standard Deviation กันนะครับ ค่าความแปรปรวนนี้ บอกโอกาสขาดทุนหรือโอกาสกำไร (การเปลี่ยนแปลงของ NAV ระหว่างวัน) ว่าผันผวนมากน้อยแค่ไหน กองทุนใดที่มีค่า S.D. นี้สูง ก็แสดงว่ามีความผันผวนของ NAV สูงตามไปด้วย แต่ก็เป็นแค่ความเสี่ยงในมุมมองหนึ่งเท่านั้นเอง ดังนั้นเพื่อการพิจารณาประกอบหลายๆด้าน ทั้งผลการดำเนินงาน และ ค่า S.D. แล้ว ก็ดูที่ค่า Sharpe Ratio ซึ่งก็คือ ผลการดำเนินงานย้อนหลัง เมื่อปรับด้วยค่าความเสี่ยง ซึ่งก็คือตัว S.D. ออกไปเรียบร้อยแล้ว จากกราฟนี้ หากกองทุนใดมีค่า Sharpe Ratio ก็แสดงว่า มีผลตอบแทนที่เปรียบเทียบกับความเสี่ยงแล้ว ดีกว่ากองทุนอื่น โดยเปรียบเทียบครับ ทั้งนี้ นักลงทุนก็ยังคงต้องระมัดระวังในการใช้ข้อมูลอยู่ดี เพราะข้อมุลที่นำมาคำนวน เป็นข้อมุลในอดีต ซึ่งไม่การันตี ผลการดำเนินงานในอนาคต ที่ขึ้นอยู่กับอีกหลายๆปัจจัยด้วยกันครับผม ------------------------ โชคดีในการลงทุนครับ จากคุณ : Mr.Messenger - [ 3 พ.ค. 50 17:20:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มาสรุปผลกราฟใน คห.ที่ 2 อีกทีนะครับ จากกราฟจะเห็นว่า SCBRF และ PFF มีค่า Sharpe Ratio ที่สูงสุด และค่า S.D. ก็ต่ำกว่ากองทุนอื่นๆส่วนใหญ่ ทั้งนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่เราเห็นโอกาสที่ SCBRF จะติดลบ นั้นน้อยมากๆ  จึงถือเป็น Fixed Income ประเภทปลอดภัยไว้ก่อนครับ แต่หากกลับไปดูที่ผลการดำเนินงานย้อนหลัง ทุกช่วง period ตั้งแต่แต่ต้นปี 50 ที่ผ่านมา กองทุน Fixed Income Fund กองอื่นๆ บางกอง ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า SCBRF และ PFF กว่า 2 เท่า นั้นก็เป็นเพราะ กองทุนเหล่านี้ ถือตราสารที่มีอายุเฉลี่ยยาวกว่า (duration ยาวกว่า) ซึ่งก็มีความเสี่ยงสูงกว่านั้นหล่ะครับ อยากรู้แล้วใช่มั้ยครับ ว่าแต่ละกอง duration port เท่าไหร่กับบ้าง จัดไปครับ!!! AYFSMUL = 2.2 AYFMTFI = 2 AYFMTDIV = 2.2 SCBRF = 1 TSB = 3.25 RKFC = 1.75 KTDF = 3.51 (ตัว NFF นี่ หาข้อมุลไม่ได้ครับ ใครรู้ช่วยโพสด้วยละกันครับ) ดูจาก Duration Port คร่าวๆ ก็จะเห็นว่า Duration มีนัยสำคัญอย่างมากต่อผลการดำเนินงานกองทุนครับ แต่ผมคงไม่ทดสอบทางสถิติให้ดูนะครับ (ว่า มีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ความเชื่อมั่น 95% อะไรประมาณนั้น) ------------------------ โชคดีในการลงทุนครับ จากคุณ : Mr.Messenger - [ 3 พ.ค. 50 17:36:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โอ้ววว ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ohmo - [ 3 พ.ค. 50 17:55:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : tonytui - [ 3 พ.ค. 50 18:08:01 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เข้ามาขอบคุณความรู้ครับ จากคุณ : EncodeO - [ 3 พ.ค. 50 18:33:32 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณครับ จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา - [ 3 พ.ค. 50 19:42:39 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณครับ  โหวตให้ครับ จากคุณ : The Gollum - [ 3 พ.ค. 50 19:53:17 ]

ความคิดเห็นที่ 9 วันนี้ yield พันธบัตรลด NAV พรุ่งนี้พุ่งอีกแน่เลยครับ ก็ขอให้ร่ำให้รวย แต่อย่าเผลอก็แล้วกันนะครับ เพราะปรัชญาของ bond คือ สุดท้ายก็กลับไปที่ par (ถ้าไม่ default ซะก่อน) จากคุณ : krit587 - [ 3 พ.ค. 50 19:59:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณด้วย ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยจริง ๆ จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม - [ 3 พ.ค. 50 19:59:26 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แปลกใจ KTDF ที่ผลการดำเนินงานย้อนหลังสามปีอยุ่ที่ 2.39%แต่มาแรงระยะหลัง ไม่ทราบว่าย้อนหลังไปปีสองปีก่อนหน้านี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ แล้วทำไมถึงมาดีแบบก้าวกระโดดในปีกว่าๆนี้น่ะครับ จากคุณ : Tong108 - [ 3 พ.ค. 50 20:20:36 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอปรบมือ ดัง ดัง ให้เลยครับ จากคุณ : p4521 - [ 3 พ.ค. 50 20:21:31 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โหวตค่ะ  ข้อมูลเยี่ยมเสมอนะคะ  ขอบคุณค่ะ จากคุณ : banne - [ 3 พ.ค. 50 21:51:22 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณมากๆเลยครับ จากคุณ : DENDEN - [ 3 พ.ค. 50 22:15:16 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมากครับสำหรับความมีน้ำใจดี สละเวลามาแบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากๆ จากคุณ : . (ฆ้องชัย) - [ 3 พ.ค. 50 22:47:41 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เฮียปล่อยของอีกแล้ว ขอบคุณมากครับ อิอิ voteeeeeee จากคุณ : pompamie - [ 4 พ.ค. 50 00:24:41 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตอบคุณ Tong108 ครับ เนื่องจากกองทุนที่มี duration ยาวๆนั้น จะมีความผันผวนมากในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนแนวโน้ม อย่างปีที่แล้วถือเป็นปีทองในรอบ 5 ปีเลยก็ว่าได้ เพราะดอกเบี้ยขึ้นมาจุดสูงสุดเมื่อเดือน พ.ย. (ใครสามารถล็อคผลตอบแทนได้ตั้งแต่ช่วงนั้น ก็ถือว่าถูกจังหวะมากๆ) แต่ก็อย่างที่เรารู้กันครับว่า ดอกเบี้ยขาขึ้น ไม่เป็นผลดีกับกองทุนที่มี duration ยาวๆ เพราะพอกองทุน Mark to Market ตราสารในพอร์ต ราคาตราสารจะลดลงทันที ทำให้ NAV ติบลบต่อเนื่อง และส่งผลให้ผลตอบแทนที่สะสมมา ลดลงมาได้ หากนักลงทุนไม่ขายกองทุนทำกำไรบ้าง หากดูผลการดำเนินงาน 2-3 ปี ย้อนหลัง ของกองทุน Fixed Income Fund จะพบว่า ทำได้สูงสุดอยู่ที่ 7%ต่อปี ซึ่งก็คือกองทุน AYF Emerging Corporate Debt 2 ของ บลจ.อยุธยา ชื่อก้บอกอยู่แล้วครับ ว่าเป็นหุ้นกู้ภาคเอกชนที่มีความเสี่ยง แถมเป็นกองทุนปิด นักลงทุนไม่สามารถไถ่ถอนได้ก่อนกำหนดอีกต่างหาก ผลตอบแทนที่เห้นจึงเป็นแค่กระดาษ ไม่สามารถแปลงเป็นตัวเงินได้ ส่วน Fixed Income Fund ที่ความเสี่ยงต่ำๆ ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี ก็อยู่ที่ประมาณ 3-4%ต่อปี เกือบทั้งหมด ต้องอย่าลืมนะครับ ว่า 2-3 ปี ที่แล้วเงินฝากธนาคารอยู่ที่เท่าไหร่ ถ้าจำไม่ผิด เงินฝากประจำ 1 ปี ช่วงนั้นอยู่ที่ 1% ส่วน 2 ปี น่าจะไม่เกิน 1.25% นะครับ ลองเช็คตามลิงค์ดู http://www.bot.or.th/bothomepage/databank/Financial_Institutions/interestrate/interest_e.asp ความเสี่ยงที่นักลงทุนแบกรับไว้ในการลงทุน (ที่ไม่ใช่การฝากเงินกับธนาคาร) ยังไงๆ ก็ให้โอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากอยู่แล้วครับ ความเสี่ยง คือ ต้นทุนของเงินเรา หากเปรียบเทียบกับหลักการในการบริหารแล้ว การที่บริษัทยอมเพิ่มคนงาน หรือลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนการดำเนินงานแล้ว ย่อมแสดงว่า บริษัท ต้องการผลตอบแทน มากกว่าที่ได้รับในปัจจุบัน ทั้งในรูปตัวเงินและไม่ใช่ตัวเงิน กองทุนก้เหมือนกันครับ หากเราไม่ยอมรับความเสี่ยง แล้วผลตอบแทนที่ดีกว่า จะมาจากไหน?? ลอยมาจากฟ้า?? ------------------------ โชคดีในการลงทุนครับ จากคุณ : Mr.Messenger - [ 4 พ.ค. 50 00:37:47 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณ Mr.Messenger มากครับ ผมเองก็ได้ความรู้เพิ่มในฐานะมือใหม่น่ะครับ อยากจะได้ความรู้มากขึ้นจะได้ช่วยในการตัดสินใจเลือกกองทุนได้น่ะครับ จากคุณ : Tong108 - [ 4 พ.ค. 50 01:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สงสัยหน่อยนึงครับ เรื่องการวัดประสิทธิภาพกองทุน คือถ้าเป็นกองทุนหุ้นหรือกองทุนผสม การใช้ sharpe ratio ก็พอเข้าใจครับ แต่พอเป็นกองทุนbond ก็เลยงงหน่อย ว่า ปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เกิด ความแปรปรวน เพราะการที่ sharpe ratio ดี หรือ SD ต่ำ แสดงว่าการ swing ของราคาน้อยหรือเปล่าครับ แล้วมันจะขึ้นกับปัจจัยอื่นนอกจาก duration หรือเปล่าครับ เพราะเห็นด้วยเหมือนกันว่า major factor ก็คือ duration ดังนั้น indicator ที่สำคัญที่สุด และtell the story มากที่สุดก็น่าจะเป็น duration ก็เลยถามว่า อย่างนี้เราดู duration อย่างเดียวได้ไหมครับ เพราะมันบอก characteristic ทั้งหมดของ port อยู่แล้ว จากคุณ : krit587 - [ 4 พ.ค. 50 07:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 20 กระทู้เสริมสร้างภูมิคุ้มกันในการลงทุน โหวตครับ จากคุณ : เดี่ยวมือหนึ่ง - [ 4 พ.ค. 50 09:09:04 ]

ความคิดเห็นที่ 21 จะดู duration อย่างเดียว จริงๆ ก็พอได้ครับ แต่หาก - กองทุนที่ duration ยาวๆ แต่ล็อคผลตอบแทนของตราสารหนี้ ในตอนที่ดอกเบี้ยยังไม่ใช้จุดสูงสุด ถ้าอย่างที่ ผลตอบแทนเฉลี่ยของตราสารหนี้ในพอร์ต อาจต่ำกว่ากองที่มี duration ต่ำๆก็ได้ และนำมาซึ่งการซื้อขายในตลาดที่เบาบางกว่า ยกตัวอย่างเช่น กองทุน A. มี duration port 5 ปี แต่ผลตอบแทนเฉลี่ยของตราสารที่ไปลงทุนคือ 3% ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยในตลาด ณ ตอนนี้ ถามว่า ใครจะไปซื้อตราสารหนี้ตัวเก่าๆจากกองทุน หากกองทุนไม่ขายราคาที่ถูกกว่าเดิม (ซึ่งก็ทำให้ NAV ติดลบได้ แม้เป้นดอกเบี้ยขาลง) - นำมาซึ่งประเด็นที่ 2 ก็คือ สภาพคล่องในตลาดของตราสารหนี้ที่กองทุนถืออยู่ หากเป็นตราสารหนี้ที่ตลาดให้ความสนใจพอสมควร สถาพคล่องก็น่าจะดีกว่า ตราสารหนี้ที่ตัวอื่นโดยเปรียบเทียบครับ ซึ่งหากสถาพคล่องของตราสารหนี้นั้นๆในตลาดสูง ก็นำมาซึ่งโอกาสที่ความผันผวนที่สูงขึ้นเหมือนกัน (ดูจากหุ้นที่ Volume เยอะๆ) ก็กระทบกับ NAV ของกองทุนที่ต้อง Mark to Market แน่นอนครับ - จะเห็นว่า หลายๆ บลจ. กองทุนประเภท Fixed Income กำหนดวันขายคืนเป็นช่วงๆ นั้นก็เพื่อการจัดพอร์ตตราสารหนี้ที่ลงทุน และบริหารด้านสภาพคล่องของกองทุน ให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด (ส่วนใหญ่ ใช้วิธีลงทุนในตราสารหนี้อายุสั้นๆ 1-2 สัปดาห์ ที่ครบกำหนดก่อนวันที่กำหนดให้นักลงทุนขายคืนได้ ซึ่งทำให้บริหารเงินลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุดมากกว่า แต่กองทุน Fixed Income ที่ซื้อขายได้ทุกวันทำการ ต้องถือ Cash ในสัดส่วนที่เยอะกว่า เพื่อรองรับการไถ่ถอนหน่วยลงทุนที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัน ทำให้ ผลตอบแทนที่กองทุนทำได้ โดนลดถอนลงไปเหมือนกัน - กลับมาดูที่ตัวอย่างที่เห้นได้ชัดครับ สำหรับกองทุน TSB หากพิจารณาแค่ Duration Port กับ ผลตอบแทน ของกองทุน จะเห้นว่า อยู่ในเกณฑ์ที่น่าสนใจมากๆ สำหรับช่วงดอกเบี้ยขาลง แต่พอวัด Sharpe Ratio กลายเป้นว่า ต่ำที่สุดในบรรดากองทุน Fixed Income ด้วยกัน ที่ผมนำมาวัดผล นั้นก็หมายความว่า NAV มีความผันผวนมากกว่ากองทุนประเภทอื่นๆ เมื่อเปรีบเทีกับความเสี่ยงที่นักลงทุนรับไป จากการลงทุนในกองทุนนี้ ซึ่งพอกลับไปดูกราฟ NAV อันแรก ก็เป็นจริงครับ เพราะช่วงต้นปี 50 TSB ให้ผลตอบแทนต่ำกว่ากองทุนอื่น (เส้นสีชมพู) แล้วค่อยมาเด้งแรงๆอีกทีก็ตอนเดือน ก.พ. กลางเดือน แต่การดูที่ค่า S.D. ก็มีข้อควรรู้ - อย่าง KTDF นี่ ผลการดำเนินงานในปี 50 นี่ ดีกว่าชาวบ้านเขา ค่อนข้างโดดเลยครับ ค่า S.D. ที่สูงกว่าคนอื่น นักลงทุนต้องเข้าใจไว้ก่อนว่า ยิ่งผลตอบแทนสุง ค่า S.D. ก็ย่อมสูงเป็นธรรมดา สูตรการคำนวน S.D. คือ ใช้ข้อมูล NAV กองทุนทั้งหมด มาหาค่าเฉลี่ย แล้วหาส่วนต่างราคาของระหว่าง NAV รายวัน กับค่าเฉลี่ย ของกองทุน พอสังเกตุออกไหมครับ สมมติ กองทุน 2 กอง เริ่มต้นที่ 10 บาท เหมือนกัน วันต่อมา กอง 1 ราคาเป็น 15 บาท ส่วนกอง 2 ราคา 11 บาท  แน่อนนว่าหากหาค่า S.D. แล้ว กอง 1 ย่อมสูงกว่า การจะหากองทุนที่ผลตอบแทนสุงๆ แต่ความเสี่ยงต่ำๆ จึงหาได้ยากครับ อยากได้ผลตอบแทนสูง ก็ต้องรับความเสี่ยงได้ สรุป ค่า S.D. บอกความผันผวนในอดีตที่ผ่านมาได้ระดับหนึ่ง ส่วน duration ก็สะท้อนความเสี่ยงได้เกือบทั้งหมด แต่ก็มีประเด้นที่นักลงทุนควรตั้งคำถามต่อ หลายๆอย่าง ปล. อ๋อ ยังมีความเสี่ยงอีกประเภทหนึ่งครับ Defualt Risk ของผู้ออกตราสารที่กองทุนไปลงทุน ตรงนี้เป็น Hidden Risk ที่ต้องดูต่างหากอีกเช่นกัน แก้ไขสูตรคำนวนครับ นำมาโพสผิดสูตร Credit คุณเดี่ยวมือหนึ่งครับ ------------------------ โชคดีในการลงทุนครับ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 50 11:20:47 จากคุณ : Mr.Messenger - [ 4 พ.ค. 50 09:27:22 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณคุณ Mr.Messenger อย่างมากครับ ข้อมูลแบบนี้ล่ะครับที่ต้องการ จากคุณ : iamfine_thanks - [ 4 พ.ค. 50 09:30:02 ]

ความคิดเห็นที่ 23 กองทุน TSB นี่ผลตอบแทนกระโดดอย่างนั้นเป็นไปตามธรรมชาติหรือเป็นเพราะเปลี่ยนนโยบายการลงทุนด้วยรึเปล่าครับ หรือว่าการยกเลิกค่าธรรมเนียมที่ทำให้ขนาดกองทุนใหญ่ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดจะมีผลต่อ performance รึเปล่า จริงๆ กะจะย้ายจาก NFF ไป TSB แต่มาดูความเสี่ยงตรงนี้ผมว่าอยู่นิ่งๆ ไปก่อนดีกว่า ถ้าสมมติฐานของคุณ krit587 (#19) ถูกต้อง ผมขอเดาว่า duration ของ NFF น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 นะครับ จากคุณ : เดี่ยวมือหนึ่ง - [ 4 พ.ค. 50 09:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ได้ความรู้มากมาย ขอบคุณครับ จากคุณ : NanaKamo - [ 4 พ.ค. 50 11:08:17 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สูตรนี้จ้า จากคุณ : Mr.Messenger - [ 4 พ.ค. 50 11:21:54 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : I Promise - [ 4 พ.ค. 50 15:46:48 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แจ่มแจ้ง ชัดเจน ขอบคุณครับ จากคุณ : AkiEnO San - [ 4 พ.ค. 50 18:20:41 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เข้ามาอ่าน และ ขอขอบคุณครับ จากคุณ : pokemon trainer - [ 4 พ.ค. 50 20:44:11 A:203.113.61.199 X: TicketID:000119 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ตกลงจะลง post today เมื่อไร บอกกันด้วยน่ะครับ จากคุณ : หมูอวบ - [ 4 พ.ค. 50 22:19:10 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณคะ  ยอดเยี่ยมมากคะ จากคุณ : แนนแนน - [ 4 พ.ค. 50 23:14:08 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ข้อมูลสุดยอดมากเรย  เห็นภาพหมดเรย ขอบคุณคร๊าบ จากคุณ : M_GR2LAB - [ วันฉัตรมงคล 09:17:35 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอถามหน่อยนึงครับ อธิบายเรื่อง duration นิดนึงได้ไหม SCBRF ได้ว่า ถือ debt ระยะกลาง แต่ทำไม duration เป็น 1 เองครับ แสดงว่า SCBRF กับ SCBSFF แทบเป็นกองกนี้ ระยะสั้นทั้งคุ๋ รึเปล่าครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : .. (queenqueen191) - [ วันฉัตรมงคล 10:09:24 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ตอบคุณ queenqueen191 ตามความเข้าใจผมนะครับ ก็คงอยู่ที่นโยบายของผู้จัดการกองทุนน่ะครับ การที่รักษา duration ให้ต่ำเวลาดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นก็อาจจะไม่ติดลบหรือติดลบน้อยกว่ากองที่ duration ยาวๆน่ะครับ ก็เป็นวิธีนึงที่จะทำให้ผู้ถือหน่วยสบายใจในระยะยาว ประมาณว่าไม่ต้องมากังวลในทิศทางดอกเบี้ย ข้อเสียคือถ้าดอกเบี้ยเป็นขาลงอย่างชัดเจนผลตอบแทนก็จะน้อยกว่ากองอื่นครับ จากคุณ : DENDEN - [ วันฉัตรมงคล 10:52:24 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ข้อมูลน่าสนใจมากๆ แต่คือว่าเพิ่งจะมาศึกษาเรื่องนี้อะค่ะ เลยไม่เข้าใจว่า NAV คืออะไร Mr. Messenger ช่วยอธิบายหน่อยค่ะ จากคุณ : osotnimitdee (osotnimitdee) - [ วันฉัตรมงคล 11:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เยี่ยมอย่างเคยครับ...VOTE แต่รบกวนคุณMr.Messenger ขอเปรียบเทียบMMF (Money Market Fund)ด้วยนะครับ อยากทราบว่าจะลงไปเท่าไหร่แล้วครับ... จากคุณ : MOOJOOJEE - [ วันฉัตรมงคล 12:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 36 nav = NET VALUE ASSET มูลค่าหน่วยลงทุนปัจจุบันครับ จากคุณ : boota99 - [ วันฉัตรมงคล 14:34:15 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มาขอบคุณด้วยคนครับ : ) ... บุญรักษาครับ : ) จากคุณ : Bother Boy ! - [ วันฉัตรมงคล 15:38:41 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ที่คุณ DENDEN ให้ความเห็นเรื่อง duration ของ SCBRF นั้น มองเหมือนผมครับ เพื่อขจัดปัญหาเรื่องความผันผวนของ NAV ทาง บลจ.ไทยพาณิชย์ เลยเลือกที่จะคง duration ไม่ให้ยาวเกินไป เท่าที่โทรไปคุยกับ Marketing ของ บลจ. มา ได้คำตอบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ในกองทุน SCBRF เป็นลูกค้ารายใหญ่ ที่ย้ายแหล่งเงินออมจากเงินฝากธนาคารมา (ประมาณว่าเริ่มต้นลงทุน) จึงยังรับความผันผวนได้ไม่มาก นโยบายการลงทุน เลยออกมาเป็นแบบนี้ครับผม ส่วน SCBSFF นั้น duration port ต่ำกว่า 0.5 ครับ (ต่ำกว่า 6 เดือน) เพราะฉะนั้น เป็นกอง Money Market Fund ไม่รวมกับกองทุนประเภทนี้ครับผม ------------------------ โชคดีในการลงทุนครับ จากคุณ : Mr.Messenger - [ วันฉัตรมงคล 22:47:59 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณครับ จากคุณ : Gunner_Noy_Skywalker_5 - [ 6 พ.ค. 50 10:51:19 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ให้ข้อมูลดีครีบ ไม่ทราบข้อมูลที่ใช้คิด sd เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ค่าดูเรชั้น ก็ดีในการเลือกการลงทุน ในช่วงนี้ แต่ก็ให้สังเกตุ ว่ากองทุนนั้น เป็นกองทุนแบบไหน จดแบบไหน เช่น กองทุน ที่บอกว่า เป็นแบบmoney market ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนตราสารหนี้ในระยะสั้น แต้กลับ มี ค่า ดูเรชั้น สูง ผมว่า มันก็แปลก เอาเงินไปลงทุนไม่ตรงกับ หนังสือชี้ชวนหรือเปล่า จากคุณ : หมูสีฟ้า (หมูสีฟ้า) - [ 6 พ.ค. 50 16:42:15 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อธิบายได้ชัดเจน เห็นภาพค่ะ ขอบคุณในน้ำใจค่ะ จากคุณ : arata - [ 7 พ.ค. 50 20:58:27 A:203.113.50.11 X: TicketID:119113 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ช่วงนี้ที่กองทุนระยะกลางถึงยาวให้ผลตอบแทนดี เพราะ interest risk ใช่ไหมครับ เป็นไปได้ไหมว่า ถ้าต่อไป เศรษฐกิจไทยดีเยี่ยมหลังมีรัฐบาลใหม่ ดอกเบี้ยแบงค์ พุ่งกระฉูด 10% กองทุนระยะกลางเหล่านี้ผลตอบแทนจะติดลบ ?? เอ่อ ฝันกลางวันไปเองนี่ครับ ขออภัย จากคุณ : Vancin - [ 9 พ.ค. 50 11:07:12 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ธนชาตธนสาร (ไม่มีในกลุ่ม review นี้) เกิดอะไรขึ้นในวันที่ 23/4/2550 เหรอครับ ลบวันเดียว -0.1904 ทำให้ nav ย้อนกลับไปสองเดือนที่แล้ว อะไรทำให้ลบเยอะขนาดนี้ครับ และกองทุนอื่นด้านบนมีโอกาสเกิดแบบนี้ไหมครับ จากคุณ : นายโหด - [ 9 พ.ค. 50 13:37:05 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เพราะมีการปันผลค่า ตามประกาศในเวบ ธนสาร จ่ายเงินปันผลในอัตราหน่วยละ 0.20 บาท บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนเปิดธนสาร (TSARN) มีมติในที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาจ่ายผลตอบแทนกองทุนรวม ครั้งที่ 6/2550 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2550 ให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับรอบระยะเวลา 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 17 เมษายน 2550 ในอัตราหน่วยละ 0.20 บาท โดยกำหนดให้ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล ในวันที่ 23 เมษายน 2550 เวลา 08.30 น. และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อปรากฏในวันและเวลาปิดสมุดทะเบียนดังกล่าวในวันที่ 26 เมษายน 2550 จากคุณ : +Jomjai - [ 9 พ.ค. 50 14:37:48 A:58.147.116.18 X: TicketID:139197 ]

ความคิดเห็นที่ 45 กระทู้ยอดเยี่ยมเลยครับ จากคุณ : ออมก่อน - [ 9 พ.ค. 50 22:03:46 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ได้ความรู้  โหวต จากคุณ : klangdad - [ 9 พ.ค. 50 22:31:43 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เก็บเข้าคลังกระทู้ จากคุณ : แนนแนน - [ 10 พ.ค. 50 00:17:46 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เข้ามาโหวตค่ะ คุณ Mr. Messenger ยอดเยี่ยมจริง ๆ เยย จากคุณ : หวานใจกัปตัน - [ 11 พ.ค. 50 14:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ยอดเยี่ยมมากๆ จริงๆ ค่ะ ขอโหวดด้วยคน  แต่ขอข้อมูลเปรียบเทียบ Money Market Fund ด้วย จะขอมากไปมั๊ยคะ..ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ จากคุณ : kokomo - [ 11 พ.ค. 50 23:29:06 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ทำไม scbrf ของผมเตี้ยสุดเลย แงๆๆๆๆ จากคุณ : Teekaze - [ 12 พ.ค. 50 23:16:42 ]

ความคิดเห็นที่ 51 SCBRF อืดมาก ๆ   แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 50 00:35:02 จากคุณ : polymerman - [ 14 พ.ค. 50 09:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ความคิดเห็นที่ 42 ช่วงนี้ที่กองทุนระยะกลางถึงยาวให้ผลตอบแทนดี เพราะ interest risk ใช่ไหมครับ เป็นไปได้ไหมว่า ถ้าต่อไป เศรษฐกิจไทยดีเยี่ยมหลังมีรัฐบาลใหม่ ดอกเบี้ยแบงค์ พุ่งกระฉูด 10% กองทุนระยะกลางเหล่านี้ผลตอบแทนจะติดลบ ?? เอ่อ ฝันกลางวันไปเองนี่ครับ ขออภัย จากคุณ : Vancin - [ 9 พ.ค. 50 11:07:12 ] ถ้าดอกเบี้ยขึ้นไป 10% จริง ก็เจ๊งกันระนาวล่ะครับ แต่ผมหวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้นน่ะ ดอกเบี้ยต่ำเตี้ยอย่างนี้ งานที่ผมทำมันลำบากจริงๆ จากคุณ : kab - [ 15 พ.ค. 50 00:08:45 ]

ความคิดเห็นที่ 53 วันนี้ไปดูกราฟที่ www.combobuy.com เห็นNAVของบางกองทุนติดลบเล็กน้อยครับ หวังว่าพรุ่งนี้คงเดินหน้าต่อนะครับ จากคุณ : tet - [ 16 พ.ค. 50 10:06:23 A:203.188.34.126 X: TicketID:143504 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ช่วงนี้ NAV ของ TSB กับ AYFMTFI ลงมาสองสามวันแล้วค่ะ แต่ไม่เป็นไร เพราะถือยาว ไม่จำเป็นไม่ขายเด็ดขาด จากคุณ : หวานใจกัปตัน - [ 24 พ.ค. 50 08:23:57 ]