PANTIP.COM : I5374433 แนะนำการลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน []

ความคิดเห็นที่ 2

เห็นพูดถึงความเสี่ยงกองทุนตราสารหนี้มีความเสี่ยงอะไรบ้าง

ถ้าว่ากันตามตำรา เขาบอกว่ากองทุนตราสารหนี้มีความเสี่ยงตั้ง 10 อย่าง แต่ถ้าจะพูดทั้งหมด ก็จะกลายเป็นตำราไป เพราะบางอย่างก็ไม่มีนัยสำคัญมากนัก เอาเป็นว่าเราสนใจเฉพาะความเสี่ยงเฉพาะ 2 อย่างที่จะพูดถึงต่อไปนี้น่าจะเพียงพอ

ความเสี่ยงอย่างแรก เรียกว่า ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ หรือ พูดภาษาชาวบ้าน คือ เบี้ยวหนี้ ซึ่ง ก็คือ การที่บริษัทที่ออกหุ้นกู้ ซึ่งเป็นตราสารหนี้แบบหนึ่ง ไม่มีเงินพอที่จะชำระหนี้ตามกำหนด ทำให้บริษัทกองทุนรวม ต้องแทงหนี้สูญไปก่อน ทำให้ผลตอบแทนที่ควรจะได้ลดลง หรือ อาจทำให้เงินต้นสูญหาย (แต่ถ้าบริษัทนี้ยังประกอบการได้อยู่ วันหนึ่งก็อาจได้คืนก็ได้ครับ) ความเสี่ยงประเภทนี้ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Default Risk หรือ Credit Risk

ความเสี่ยงอย่างที่ 2 คือ ความผันผวนของราคาตราสารหนี้ อันเนื่องมาจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยในตลาด ความเสี่ยงในข้อนี้ทำให้อัตราผลตอบแทนอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็ได้ เนื่องจากตอนที่ออกตราสารหนี้ อัตราดอกเบี้ยอาจอยู่ที่ค่าหนึ่ง เช่น สมมติว่าซื้อตราสารหนี้เอาไว้ตอนดอกเบี้ย 5 เปอร์เซนต์ ดังนั้นเมื่อคำนวณผลตอบแทนของตราสารหนี้ก็คำนวณที่ 5 เปอร์เซนต์ แต่เมื่อเวลาผ่านไป อัตราดอกเบี้ยเกิดเพิ่มเป็น 8 เปอร์เซนต์ ถ้ายังถือตราสารหนี้นั้นอยู่ก็จะได้ผลตอบแทนแค่ 5 เปอร์เซนต์ ในขณะที่คนอื่นที่ซื้อตราสารหนี้ที่ออกใหม่ ก็จะได้อัตราผลตอบแทนที่ 8 เปอร์เซนต์ ดังนั้นตราสารที่เราถือ ก็จะมีคนต้องการน้อย เพราะมันได้ผลตอบแทนน้อยเมื่อเทียบกับตลาด ขายใครก็ไม่ค่อยมีคนต้องการ ดังนั้นถ้าจะขายก็ต้องขายถูก ๆ จึงจะมีคนซื้อ

ในกรณีที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าเป็นบุคคลทั่วไป ก็อาจไม่ต้องสนใจอะไรมาก ก็ถือเอาไว้จนครบอายุ ก็จะได้ผลตอบแทน พร้อมเงินต้น ตามที่ได้ตกลงกันไว้แต่แรก เมื่อได้เงินคืนมาแล้ว ค่อยมาคิดใหม่ แต่บริษัทกองทุนรวมทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะบริษัทกองทุนรวมไม่ได้ตัดสินใจ ซื้อ ขาย หรือ ถือ ตราสารหนี้อย่างอิสระ เพราะถ้าผู้ถือหน่วยลงทุนพากันไถ่ถอนเงินออกไป บริษัทกองทุนรวมก็ต้องขายตราสารหนี้ออกไปเช่นเดียวกัน และด้วยความที่บริษัทกองทุนรวม ไม่ทราบว่าจะต้องซื้อตราสารหนี้ หรือขายตราสารหนี้มากน้อยเท่าใดในอนาคต ดังนั้นกองทุนรวมก็จะต้องมีหน้าที่สะท้อนมูลค่าตลาดออกมาในมูลค่าของหน่วยลงทุน เพื่อให้เกิดความยุติธรรม เช่น ตราสารหนี้ที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น อาจมีมูลค่าลดลงอย่างมาก กองทุนรวมก็จะต้องปรับลดมูลค่าของหน่วยลงทุนตามมูลค่าที่แท้จริง ถามว่าจะรู้ได้ยังไงว่ามูลค่าที่แท้จริงเป็นเท่าไร คำตอบก็คือ ให้ไปดูการซื้อขายตราสารตัวนั้นในตลาด ว่ามีการซื้อขายกันที่ราคาเท่าไร ก็จะถือว่านั่นเป็นมูลค่าของตราสารนั้น ณ เวลานั้น กองทุนก็จะปรับราคาของตราสารตามตลาดไป ซึ่งการกระทำเช่นนี้มีศัพท์เฉพาะเรียกว่า Mark to Market

ความเสี่ยงแบบนี้มีชื่อภาษาอังกฤษเรียกว่า Interest Risk หรือ Price Risk หรือ Market Risk อย่างไรก็ตามสำหรับกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นแล้ว ความเสี่ยงในข้อนี้จะมีผลน้อย เนื่องจากว่าตราสารหนี้ที่ถือมีอายุที่สั้น เช่น 3 เดือน 6 เดือน หรือกี่เดือนก็แล้วแต่ แต่ไม่เกิน 1 ปี ซึ่งใน 1 ปีนั้น ดอกเบี้ยจะไม่เปลี่ยนไปมากนัก เช่น เราจะเห็นว่าในปีนึง ดอกเบี้ยอาจเปลี่ยนแปลงอย่างมากก็ 1 เปอร์เซนต์ ซึ่งกว่าที่ผลกระทบจะเห็นชัด ตราสารหนี้ก็หมดอายุไปแล้ว ก็ต้องไปหาตราสารหนี้ตัวใหม่ ซึ่งก็จะได้อัตราผลตอบแทนใหม่ด้วย ดังนั้นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น มักจะมีผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ย โดยจะมากกว่าดอกเบี้ยเล็กน้อย

สำหรับกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นแล้ว ความเสี่ยงอย่างแรก ถือว่าเป็นความเสี่ยงที่ต้องระวังมากกว่า ซึ่งอาจมีผู้ถามว่าจะระวังอย่างไร การระวังคือ ในการซื้อตราสารหนี้นั้น เราจะต้องทราบว่าบริษัทกองทุนรวม เอาตราสารหนี้ของเราไปลงทุนอะไรบ้าง และมีความเสี่ยงหรือไม่

จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม - [ 3 พ.ค. 50 21:14:17 ]