ขอรวบรวมคำถามไว้ในกระทู้นี้นะครับ เนื่องจากมีคนถามเข้ามาหลังไมค์ และหน้ากระทู้กระจายกันไป จะได้อ่านมันรวดเดียวเลยละกันครับ

Q : KTDF ผลตอบแทนดีกว่า Fixed Income Fund กองอื่นจริงหรือ?
A : สำหรับคำถามนี้ ไปดูที่กระทู้เปรียบเทียบผลการดำเนินงานกองทุนครับ
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I5373742/I5373742.html

ดูผลการดำเนินงานเสร็จแล้ว อย่าลืมดูนะครับ ว่า NAV ของ KTDF ผันผวนกว่ากองทุนอื่นๆด้วยเช่นกัน High Risk High Return เป็นธรรมดา

Q : แล้วความเสี่ยงของกองทุนนี้?
A : ความเสี่ยง เอาแบบง่ายๆขอให้พิจารณา 2 อย่างก็พอครับ
1. ความเสี่ยงด้าน Credit Risk ของผู้ออกตราสารหนี้ที่กองทุนไปลงทุน ความเสี่ยงด้านนี้ ดูที่การจัดอันดับ Rating ของผู้ออกตราสารครับ ว่าเป็นยังไง
สำหรับ KTDF ลงทุนในหุ้นกู้ 22% โดย Rating ต่ำสุดที่ลงทุนคือ AA ครับ
ลงทุนในพันธบัตรรัฐ และแบงค์ชาติ 54% ที่เหลือเป้นเงินฝากธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยอัตราของ นิติบุคคล

2.ความเสี่ยงอีกแง่หนึ่ง คือ Interest Rate Risk หรือ ความเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากอัตราดอกเบี้ยในตลาดเปลี่ยนไป ดูที่ duration port ของกองทุนครับ
สำหรับ KTDF ถือว่ามี duration สูงสุดเลยในบรรดากองทุนตราสารหนี้ที่เปิดให้ซื้อได้ทุกวันทำการ ปัจจุบันอยู่ที่ 3.51 ยิ่งดอกเบี้ยลง กองทุนนี้ยิ่งได้ผลต่าง capital gain มากขึ้น

แต่ความเสี่ยงด้าน interest rate risk ที่นักลงทุนต้องรู้ก็คือ เมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดเริ่มทรง ผลตอบแทนส่วนต่างที่กองทุนเคยได้รับ ก็จะหายไป กำไรที่นักลงทุนจะได้รับสุดท้ายก็คือ ผลตอบแทนหน้าตั๋วของตราสารหนี้นั้นๆ เท่านั้นเอง ไม่มี Capital Gain อีกต่อไป
เพราะฉะนั้น หลักการลงทุนใน Fixed Income Fund ก็คือ เข้าก่อน กำไรก่อน ลงทุนช้าก็กำไรน้อยลง

Q : หากลงทุนวันนี้ Expected Return ในกองทุน KTDF จะเป็นเท่าไหร่
A : ผลการดำเนินงานในอดีต ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคตฉันใด ผลการดำเนินงานในอนาคตสำหรับกองทุนเปิดก็ไม่สามารถการันตีได้ฉันนั้นครับ

แต่เราสามารถเดาแนวโน้มผลตอบแทนของกองทุนได้จากแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยในตลาด

ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ประชุม กนง. วันที่ 23 พ.ค. นี้ แบงก์ชาติจะปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.5% แต่หลายฝ่ายก็มองว่า ราคาน้ำมันแพงอย่างนี้ กระทบกับเงินเฟ้อหรือเปล่า อันนี้ขึ้นกับ กนง. ครับ แต่จากนักวิเคราะห์และแบงก์ชาติที่ส่งสัญญาณออกมา เสียงส่วนใหญ่บอกว่าลดแน่ๆ แต่จะ 0.25% หรือ 0.50% ต้องคอยดูกัน

หากลดจริง Fixed Income Fund ในตลาด ก็ยังคงให้ผลตอบแทนที่ดีแน่นอน แต่คงดีไม่เท่าผลการดำเนินงานในอดีต เพราะยอาลืมว่า ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา กนง. ลดดอกเบี้ยไปแล้วถึง 1% เพราะฉะนั้น KTDF ใน 1 ปีหลังจากนี้ ผลตอบแทนที่คาดหวัง ต่ำกว่า คนที่ลงทุนตั้งแต่ 3 เดือนแรกแน่นอนครับ อาจจะอยู่ประมาณ 7%-10%ต่อปี

Q : เดินไปถามที่ธนาคารมา ไม่เห้นใครร้จักกองทุนนี้
A : รู้เอาไว้นะครับ ว่า ชาวสินธร รู้ก่อนพนักงานสาขาของกรุงไทยแน่นอน หากต้องการข้อมูล ก็ติดต่อ บลจ.โดยตรง หรือผ่านตัวแทนสนับสนุนดีกว่า

Q : ต้องการข้อมูล!!!
A : -*- ok ครับ วิธีการลงทุนกับ บลจ.กรุงไทย นั้นอาจจะเหมือนยุ่งยาก แต่จริงๆก็ยุ่งยากจริงๆนั้นล่ะครับ แหะๆ

ขั้นตอนการเปิดบัญชี และสั่งซื้อกองทุน
-- บลจ.กรุงไทย ไม่สามารถผูกบัญชีเพื่อตัด ATS ในการลงทุนได้เหมือนกับ หลายๆ บลจ. เพราะฉะนั้น ต้องใช้วิธีโอนเงินเข้ากองทุน ไม่ก็จ่ายเป้นเช็ค สั่งจ่ายกองทุนโดยตรงแทน --
1. ขอแบบฟอร์มคำขอเปิดบัญชีได้ที่สาขาของกรุงไทย และตัวแทนสนับสนุนการขายอื่นๆ กรอกให้เรียบร้อย และใบคำสั่งซื้อด้วยครับ
แนบเอกสาร 2 อย่าง สำเนาบัตรประชาชน และ สำเนาหน้า book เงินฝาก ของ กรุงไทย เท่านั้น!!! คนที่ไม่มีบัญชีกรุงไทย ลำบากหน่อยนะครับ
2. สำหรับ KTDF นั้น นักลงทุนต้องแจ้งความประสงค์ในการลงทุนกับ บลจ. หรือตัวแทน ก่อนเที่ยง แต่สามารถส่งคำสั่งได้ถึง 15.30น. สำหรับการลงทุนผ่านสาขา และ 14.00น. สำหรับการลงทุนผ่านตัวแทนฯ
โดยโอนเงินเข้าบัญชีกองทุนโดยตรง และยืนยันการทำรายการกับตัวแทนขาย
3. หากใครไม่สะดวกลงทุนด้วยวิธีที่ 2 สามารถโอนผ่านระบบ KTB Online ได้ครับ
โดยผูกบัญชีโอนเงินไปยังบุคคลอื่นๆ แล้วระบุเลขที่บัญชีกองทุนลงไป และโอนผ่านระบบ KTB Online เสร็จแล้ว ก็ print รายการ fax ให้ บลจ. หรือ ตัวแทน หรือจะส่งเป็น e-mail ก็ได้ แล้วแต่เงื่อนไขของตัวแทนแต่ละแห่ง

Q : แล้ว กรณี ขายล่ะ?
A : กองทุนนี้ ขายคืนได้แค่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยทำรายการทุกวันทำการแรกของสัปดาห์ สามารถส่งคำสั่งขายได้ล่วงหน้าครับ กรอกแบบคำขอขายคืนหน่วยแล้ว ก็ Fax ไปที่ บลจ. หรือ ตัวแทนสนับสนุน เลยครับ ไม่ต้องเดินไปธนาคาร สะดวกดี

Q : แล้วเรื่องปันผลละ เห็นกองนี้ปันผลด้วย
A : แบบฟอร์มคำขอเปิดบัญชีกองทุนทุกแห่ง จะมีให้นักลงทุนเลือกว่า เงินปันผล นักลงทุนจะให้หักภาษี ณ ที่จ่าย หรือ ไม่ให้หักก็ได้ครับ

กรณีที่เลือกว่าให้หักทันที่ เงินปันผลที่ได้รับ จะหักทันที 10% นักลงทุนที่เลือกวิธีนี้ ควรเป็นนิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดา ที่มีฐานภาษี 20% ขึ้นไป

กรณีเลือกไม่ให้หักภาษี เงินปันผลจะได้รับเต็มจำนวน นักลงทุนที่เลือกแบบนี้ ควรเป็นนักลงทุนที่ไม่ต้องเสียภาษี หรือไม่รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษีครับ

แต่นักลงทุนสามารถเลือกที่จะไม่รับเงินปันผลได้ ด้วยการขายหน่วยลงทุนออกจากกองทุน ก่อนที่กองทุนจะจ่ายเงินปันผลออกมา แล้วไปซื้อกลับตอนนี้  NAV กองทุนลดลงมาแล้วครับ

Q : ขนาดของกองทุนนี้ และนักลงทุนที่อยู่ในกองทุนเป็นใคร
A : จากที่ได้คุยกับทาง Marketing ของ บลจ.กรุงไทย นะครับ เกินกว่า 40% ของกองทุน เป็นนิติบุคคลที่มาลงทุนครับ เหตุผลหลักๆก็คตือ ผลตอบแทนดี และมีปันผล ซึ่ง นิติบุคคลหากรับปันผล ก็จะไม่ต้องนำผลตอบแทนที่ได้มารวมคำนวนภาษีในรอบปีบัญชีนั้น เหมือน capital gain จากกองทุนที่มีนโยบายไม่จ่ายปันผล ส่วนขนาดของกองทุน ปัจจุบัน อยู่ประมาณ 1,200 ลบ. แล้วครับ เดือนที่แล้วโตเร็วมาก ไม่รู้ใครแอบได้ยินเราคุยกันในสินธรหรือเปล่านะเนี่ย

Q : สรุป หากสนใจลงทุนกองทุนนี้ มีอะไรต้องพิจารณา
A : อย่างแรกเลย กองทุนนี้ ควรเป็นกองทุนไว้กระจายความเสี่ยง ไม่ใช่กองทุนไว้เก็งกำไรครับ เพราะสภาพคล่องที่ไม่สูงเท่ากับบางกองของ บลจ.อื่น และด้วยความที่ NAV แกว่งตัวแรง หากจะลดความเสี่ยง ก็ต้องลงทุนในระยะยาวขึ้นหน่อยครับ แนะนว่าเป็นเงินเย็นอยู่ได้เกิน 6 เดือนขึ้นไป

อย่างที่สอง กองทุนนี้ลงทุนในหุ้นกู้เอกชนถึง 22% เพราะฉะนั้น ความเสี่ยงด้านผิดนัดชำระหนี้ อาจสูงกว่าหลายๆกองที่บริหารจัดการโดย บลจ. อื่นๆอยู่บ้าง ถ้าเอาให้ชัวร์ เข้าไปดูหุ้นกู้เหล่านี้รายตัวเลยครับ ว่าเรารับได้หรือไม่
ตามนี้ครับ
http://www.ktam.co.th/th/newsse.php?id=262&

สุดท้าย ก่อนการลงทุนควรศึกษา Fund Fact Sheet และหนังสือชี้ชวนให้ละเอียดถึงเงื่อนไขต่างๆในการลงทุนด้วยนะครับ

------------------------
โชคดีในการลงทุนครับ