ความคิดเห็นที่ 10
ลองใช้ http://www.scbam.com/brochure/Funds-TAX49.xls คำนวณ สิทธิที่สามารถลงทุนใน LTF & RMF ดูคราวๆ ได้ครับ ว่า กองทุนแต่ละประเภท เราจะลงทุนได้สูงสุดเท่าไหร่ครับ
โดยทั้งนี้สิทธิที่เราใช้ได้สำหรับกองทุนแต่ละประเภท จะแยกออกจากันโดยอิสระครับ ซึ่งสามารถใช้สิทธิได้เต็มที่แบบไม่ซ้ำซ้อกันครับ
กล่าวคือ
เงินได้ที่ใช้คำนวณ จะคำนวณจาก รายได้ ก่อนหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อยต่างๆ โดยสูงสุดที่ 2 ล้านบาท
เพราะมีข้อจำกัดหนึ่งคือ [15% ของรายได้] แต่ไม่เกิน 3 แสนบาท
:: 15% ของ 2 ล้าน = 3 แสนบาท (2 ล้าน x 15% = 3 แสน)
RMF :: ลงทุนได้ไม่เกิน 15% ของรายได้ และเมื่อรวมกับ กบข (ปีละ 10,000 บาท) และไม่เกิน 3 แสนบาท
ดังนั้นจากคำถามแรก + คห.8 จึงลงทุนใน RMF ได้สูงสุดคือ 290,000 บาท (300,000 - 1,0000) ครับ
LTF :: ลงทุนได้ไม่เกิน 15% ของรายได้
ดังนั้นจาก คห.8 แรก จึงลงทุนใน LTF ได้สูงสุดคือ 300,000 บาท
รวมการลงทุนทั้ง 2 ประเภท ได้สูงสุดถึงปีละ 590,000 บาทครับ
----------------------
การหักลดหย่อนภาษี
จะเป็นเสมือนว่าเรานำตัวเลขเงินลงทุนใน RMF และ LTF ไปหักออกจากรายได้ หลังจากที่หักลดหย่อน และค่าใช้จ่ายไปแล้ว ลงไปอีก จึงทำให้จำนวนเงินที่ใช้ในการคำนวณขั้นภาษีลดลงไปอีกครับ
:: รายได้ทั้งเงินเดือนและรายได้พิเศษราว 2 ล้านกว่า หักค่าลดหย่อนแล้วเหลือ 8 แสนกว่า
:: 8 แสนกว่า - (RMF + LTF)
:: และจึงนำไปคำนวณ ภาษีเป็นขั้นตอนสุดท้ายครับ
:: ซึ่งถ้าสามารถลงทุนใน LTF & RMF ได้แบบเต็มที่สูงสุด 590,000 บาท อาจทำให้ขั้นภาษีสูงสุดเหลือแค่ 10% ก็ได้ครับ
-------------------------
การลงทุนกับ RMF & LTF สามารถลงทุนในหลายๆ กองทุน รวมถึงการทยอยการลงทุน โดยสุดท้ายแล้วดูแค่เงินลงทุนรวมในปี ภาษีนั้นๆ ก็สามารถนำตัวเลขเงินลงทุน ไปใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ครับ
:: คำนวณให้มั่นใจนะครับ ว่าจะไม่ลงทุนเกินสิทธิ์ที่ได้ เพราะส่วนที่เกินสิทธิ์ที่ใช้ได้ อาจทำให้เสียประโยชน์ มากกว่าจะได้ครับ
จากคุณ :
pjuk 
- [
วันวิสาขบูชา 07:57:02
]
|
|
|
