ความคิดเห็นที่ 1 SCBLT1 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 หุ้น SET50 - 70% ตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว + เงินสด - 30% มีนโยบายการจ่ายปันผล ประวัติการจ่ายปันผล : http://www.scbam.com/inc/Dividend/getdiv.asp?l=th SCBLT2 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว พลัส หุ้น SET50 - 90% ตราสารหนี้ระยะสั้น + เงินสด - 10% ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล SCBLT3 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว เอ็มเอไอ หุ้น SET50 - 40% หุ้น ต่ำกว่า SET100 + MAI - 40% หุ้น Trade + เงินสด - 20% ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล การการจายลงทุนในหุ้นกลุ่มต่างๆ  และสัดส่วนหุ้น จึงวิเคราะห์แนวทางสู้กับตลาดหุ้นตามภาวะการต่างๆ - ตลาดทิศทางยังไม่แน่ชัด ไปอยู่ที่ SCBLT1 จาก ตราสารหนี้ประมาณ 30% จึงช่วยลดความผันผวนจากตลาดหุ้นลงได้บ้าง - ตลาดถูกหุ้นใหญ่ช่วงส่งดัชนีขึ้น ไปอยู่ SCBLT2 จากสัดส่วนการลงทุนในหุ้นใหญ่ๆ 90% จึงสามารถสร้างโอกาสที่วิ่งไล่ตลาดหุ้นได้ในช่วงขาขึ้น - ตลาดเล่นมันทุกกลุ่ม ทั้งเล็ก ทั้งใหญ่ ไปอยู่ที่ SCBLT3 ด้วยกลุ่มหุ้นที่ครอบคลุมทั้ง SET และ MAI ไม่ว่าตลาดจะ เก็บหุ้นใหญ่ ปั่นหุ้นเล็ก หรือแม้แต่สภาวะ SET มีแต่สีแดงๆ MAI กลับทำให้ตลาดหุ้นมีสีเขียวเจือปนได้หลายๆ ครั้งครับ จากคุณ : pjuk - [ 7 มิ.ย. 50 14:05:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตลอดปี (ภาษี) รายได้แต่ละเดือนถ้าแบ่งการลงทุน ออกมาเป็นส่วนย่อยๆ จะสามารถลงทุนได้อย่างสบายใจไม่หนักหนาสาหัส ตอนปลายปี ถ้าต้องการลงทุนเพื่อใช้สิทธิ์ในปริมาณมากๆ ครับ และตลอดปี มีเรื่องราวต่างๆ มากมาย ทำให้การลงทุนของเรามีรสชาด และได้สนุกกับการลงทุน ในสถานะการณ์ต่างๆ และยังมีโอกาสทำกำไร เพื่อ สะสมหน่วยลงทุน จากเงินลงทุนเดิม ด้วยวิธีการสับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ที่ต้องการ จากทิศทางตลาดหุ้น ที่เราไม่อาจควบคุมได้นั่นเองครับ จึงมีความเห็นว่า การทยอยการลงทุน เมื่อมีกำลังการลงทุนอยู่ น่าจะดีกว่า การโหมลงทุนตอนสิ้นปีเพียงครั้งเดียว เพราะอาจจะเกิดกรณีการลงทุนที่แพง กว่าก็ได้ครับ จากคุณ : pjuk - [ 7 มิ.ย. 50 14:10:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้ามีหมายเลขผู้ถือหน่วยลงทุนอยู่แล้ว พร้อมทั้งได้ใช้ SCB Easy Net ในการลงทุนกับกองทุนต่างๆ ของ บลจ.ไทยพาณิชย์ อย่างเช่น SCBSFF ที่มีอยู่ ก็สามารถลงทุนกับ LTF ทั้ง 3 กองทุน (กับอีก 1 กองทุน :: SCBLTS :: ที่จะตามมาเร็วๆ นี้) ได้นที โดยไม่จำเป็นต้องไปทำรายการที่ธนาคารเลยครับ โดยสามารถส่งคำสั่งซื้อ ผ่าน SCB Easy Net โดยการตัดเงินจากบัญชี ออมทรัพย์ ที่ได้ผูกไว้กับคำขอใช้บริการกองทุนตั้งแต่แรก (ที่ซื้อ SCBSFF) โดยมีขั้นต่ำในการสั่งซื้อครั้งแรก 5,000 บาท ครั้งต่อไป 1,000 บาท หรือจะใช้วิธีการสับเปลี่ยนจาก SCBSFF มาลงทุนใน LTF เพื่อเป็นการลงทุน ในครั้งแรกที่ขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 1,000 บาท ก็ได้เช่นกันครับ ซึ่งเมื่อลงทุนด้วยวิธีการสับเปลี่ยนแล้ว ก็ถือเสมือนมารายการลงทุนครั้งแรกไปแล้ว ดังนั้นในการทำรายการซื้อครั้งต่อไป จึงสามารถซื้อได้ที่ขั้นต่ำ 1,000 บาท ด้วยครับ -------------------------- สรุปคือสามารถเริ่มลงทุนทันที ผ่าน SCB Easy Net ได้เลยครับ รวมถึง SCBLTS ที่จะเปิดให้จองซื้อที่ 10 บาท ในวันที่ 15-22 มิ.ย. 50 นี้ ก็สามารถจองผ่าน SCB Easy Net ได้ด้วยครับ (ต้องใช้วิธีการซื้อ ขั้นต่ำที่ 5,000 บาท) จากคุณ : pjuk - [ 7 มิ.ย. 50 14:18:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ระบบกองทุน ของ SCBAM จะผูกบัญชีธนาคาร กับบัญชีกองทุน แบบ 1 ต่อ 1 และชื่อผู้ลงทุนในกองทุน จะต้องเป็นชื่อเดียวกับบัญชีเงินฝากธนาคาร และด้วยการสั่งซื้อกองทุน จะตัดเงินจากบัญชีธนาคาร เดียวกับ บัญชีที่รับเงินค่าขายคืน ดังนั้น การเข้า-ออก ของเงิน ก็จะวนเวียอยู่แต่ในบัญชีธนาคารของเราเท่านั้นครับ และยังมีนายทะเบียนช่วยตรวจสอบอีก ด่านด้วยครับ ว่าเงินค่าขายคืนจะ ต้องเข้าในชื่อบัญชีเดียวกับเจ้าของบัญชีกองทุนเท่านั้นครับ จึงหมดห่วงว่าเงินของเราจะหลุดไปอยู่ที่บัญชีผู้อื่น ถ้าในระบบ SCB Easy Net เราไม่มีบัญชีของบุคคลอื่นอยู่ หรือจะมีก็มีแต่บัฐชีของคนที่เรารู้จักเท่านั้นครับ --------------------------- การรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุด คือการเข้าใช้งาน และมีการตรวจสอบ จำนวนเงินในบัญชี และเงินลงทุนที่เรามีอยู่ในการทุน อย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งการติดตามดูผลตอบแทนจากการลงทุนจริง ของเราเองผ่าน รายงานรูปแบบต่างๆ ที่ SCB Easy Net มีให้อย่างครบถ้วน (และจะมีออกมาอีกเรื่อยๆ ตามความต้องการ) ครับ จากคุณ : pjuk - [ 7 มิ.ย. 50 14:25:14 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอ ปกติ การ ซื้อ LTF กับ SCBSFF สมุดที่ได้ จะต่างเล่มกันหรือไม่ เพราะผมเพิ่งลงไปกับ SFF แล้วได้สมุดเล่มนึงมา แต่เห็นว่ามีแปะสติ๊กเกอร์ SFF หน้าสมุด เลยสงสัยว่าในหนึ่งเล่ม มันจะแสดง ได้มากกว่าหนึ่งกองทุนหรือไม่ครับ ถ้าไม่ได้ แล้ว การซื้อ LTF ผ่านเน็ต มันจะต่างกับคนที่ไปซื้อครั้งแรกกับแบงค์หรือไม่ เพราะคนที่ซ์อครั้งแรกกับแบงค์ น่าจะได้สมุดมาอีกเล่มหรือป่าว ??? จากคุณ : unpungman - [ 7 มิ.ย. 50 23:43:52 A:58.136.61.105 X: TicketID:147407 ]

ความคิดเห็นที่ 6 Fund Book จะแยกเล่มกัน ตามประเภทกองทุนครับ SCBSFF - 1 เล่ม 1 กองทุน LTF -  1 เล่ม รวมไว้ 3 กองทุน (SCBLT1, SCBLT2, SCBLT3) RMF - 1 เล่ม รวมไว้ 4 กองทุน (SCBRM1, SCBRM2, SCBRM3, SCBRM4) โดยที่ Fund Book สามารถไปขอมีภายหลังได้ โดยไปขอที่สาขาไหนก็ได้ครับ เพียงแค่นำบัตรประชาชน พร้อมหมายเลขผู้ถือหน่วยลงทุน ไปด้วยเท่านั้นเองครับ ก็จะขอออก Fund Book ได้ครับ โดยสามารถติดต่อขอมี Fund Book ได้แม้เป็น วันหยุด-เสาร์-อาทิตย์ ทั้งในและนอกเวลาทำการปกติ ขอเพียงแต่สาขาที่ไปติดต่อ เปิดทำการอยู่ ก็จะสามารถให้บริการ ออก Fund Book และ Update Fund Book ให้ได้ตลอดครับ ดังนั้นแม้จะไม่ได้เริ่มลงทุนครั้งแรกที่ธนาคาร แต่เป็นการซื้อครั้งแรกผ่าน SCB Easy Net หรือ SCB Easy Phone ทั้ง SCBSFF, LTF, หรือ RMF ก็สามารถของมี Fund Book เพิ่มเติมภายหลังได้ครับ ----------------------- ระบบ Fund Book ของ SCBAM สามารถแสดงกองทุนรวมกันในเล่ม ได้มากกว่า 1 กองทุนครับ ขึ้นอยู่กับว่าระบบมีการกำหนดกลุ่มกองทุนไว้เช่นใดครับ แต่ของ บลจ. อื่นๆ ยังไม่มีการแสดงผลแบบรวมเล่มครับ แต่อนาคตคิดว่าคงตามๆ กันออกมาอีกหลายที่ เพราะขนาดคำว่า Fund Book ยังตามกันออกมาเลยครับ อดีต บลจ.อื่นๆ ที่มีสมุดแสดงผลกองทุน จะใช้คำว่า Passbook ตามบัญชีเงินฝาก ทั้งหมด โดยเริ่มคำเรียกว่า Fund Book จากของ บลจ.ไทยพาณิชย์ เป็นแห่งแรก ตามมาด้วย บลจ.ธนชาต ขนาดในห้องสินธร แรกๆ ยังเรียกว่า Passbook แต่มาระยะหลัง Fund Book เป็นคำเฉพาะเกิดใหม่ไปแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 50 08:58:06 จากคุณ : pjuk - [ 8 มิ.ย. 50 08:56:31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 . จากคุณ : pjuk - [ 8 มิ.ย. 50 08:58:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แล้ว SCBSET มี fund book ไหม? จากคุณ : วันของฉัน - [ 8 มิ.ย. 50 20:30:48 ]

ความคิดเห็นที่ 9 SCBSET ยังไม่มี Fund Book ครับ แต่ถ้าเป็นการสับเปลี่ยนกับ SCBSFF จะไปโผล่ให้เห็นใน Fund Book ของ SCBSFF ด้วยครับ จากคุณ : pjuk - [ 8 มิ.ย. 50 22:37:34 ]