ความคิดเห็นที่ 1 SCBLTS ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผลครับ จะมี SCBLT1 ตัวเดียวที่มีการจ่ายปันผล นอกนั้น เล่นดันด้วยราคาอย่างเดียวเลยครับ ถ้าพูดถึงความเสี่ยงในด้านทฤษฎีแล้ว SCBLTS จะมีความเสี่ยงสูงสุด จากการที่มีการลงทุนใน SET50 Future ครับ จากการที่ SET50 Future ไม่มีเพดานในด้านกำไร และไม่มีพื้นในด้านขาดทุน แต่เมื่อนำมาผสมผสาน ระหว่างการลงทุนในหุ้น ไม่น้อยกว่า 65% ภายใต้ ข้อกำหนดของกองทุนหุ้น กับ SET50 Future ภายใต้กองทุน SCBLTS ที่นำมาหักล้างกันในทิศทางตรงข้าม จนเกิดสมดุลย์ในแง่ของการลงทุน จึงทำให้ ความคาดหวังของผลตอบแทน ระดับหุ้น 65% เหลือค่าสมมติฐาน ที่เกิดความเสี่ยงจากความผันผวน ในการลงทุนในตลาดหุ้น เหลือเพียงแค่ประมาณ 30-35% ครับ และจากทฤษฎีการหักล้าง จึงสามารถทำให้ การลงทุนกับ LTF เป็นเรื่องน่ายินดีที่จะสามารถลงทุน เพื่อเน้นการนำไปใช้สิทธิ์ทางภาษี ได้อย่างสบายใจมากขึ้น ครับ ผลตอบแทนจาก SCBLTS น้ำหนักที่ได้จะมาจาก - เงินปันผลของหุ้น ที่กองทุนไปลงทุน ประมาณ 65% - อัตราดอกเบี้ยจากตราสารหนี้ ประมาณ 25-30% - การเปลี่ยนแปลงจากราคาของหุ้น แต่จะมีผลน้อยมาก SCBLTS อาจมาแทนที่ SCBLT1 แต่ไม่ใช่ที่ผลตอบแทน แต่ด้วยความผันผวนที่น้อยกว่า จากการที่ SCBLTS จะสามารถลดความเสี่ยง และความผันผวน จากการสร้างสมดุลย์ ระหว่าง การลงทุนในหุ้น กับ การลงทุนใน SEt50 Future - SCBLTS ปลอดภัยขึ้น แต่ไม่มีการลดต้นทุน จากการคืนเงินลงทุน เพราะไม่มีการจ่ายปันผล - SCBLT1 ปลอดภัย 30% และสามารถลดต้นทุนได้ จากการการคืนเงินลงทุน ด้วยการจ่ายปันผล แต่ปันผลที่ได้อย่างน้อยต้องถูกหัก ภาษี 10% (ณ. ที่จ่าย) ด้วยครับ --------------------------------- ในช่วงจอง (เปิดจอง ที่ 10 บาท ระหว่างวันที่ 15 - 22 มิ.ย. 50) ยังไม่เปิดรับการสับเปลี่ยน ต้องทำรายการซื้อ เท่านั้น แต่สามารถทำรายการซื้อผ่านทาง SCB Easy Net ได้โดยไม่จำเป็นต้องไปเสียเวลาที่ธนาคารครับ แล้วจะเปิดให้ ซื้อ และสับเปลี่ยนกองทุนเพิ่มเติมได้ หลังจากจดทะเบีบนกองทุนแล้ว ในวันที่ 29 มิ.ย. 50 ครับ จากคุณ : pjuk - [ 13 มิ.ย. 50 22:28:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 และเมื่อ 4 กองทุน ทั้ง SCBLT1 - ให้ได้ด้วยเงินปันผล จากกองทุน SCBLT2 - บู๊กับตลาดหุ้น ด้วยหุ้นในกลุ่ม SET50 SCBLT3 - สวนทางดัชนีตลาดหุ้นใหญ่ ด้วยหุ้นกลุ่ม MAI และหุ้นที่อยู่ต่ำกว่า SET100 SCBLTS - สร้างสมดุลย์ระหว่างหุ้นที่เน้นในเรื่องปันผล พร้อมๆ กับหุ้นที่มีดีที่ราคา กับ SET50 Future รวมกับการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนที่ให้อิสระอย่างเต็มที่ เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนได้ตลอดเวลา ตามสถานะการณ์ ตลาดหุ้นว่าจะไปในทิศทางใด แล้วยังสามารถล็อกเงินลงทุนได้ยาวนานยิ่งขึ้น นอกเหนือจากระยะเวลาการ การสับเปลี่ยน 3 วันทำการ ด้วย SCBLTS ในยามที่ตลาดอยู่ในทิศทางขาลง ที่ยาวนาน จึงทำให้การลงทุนใน LTF ที่เป็นกองทุนหุ้น ตามข้อกำหนดเรื่องระยะเวลาการลงทุน จะไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลอีกต่อไปครับ จากคุณ : pjuk - [ 13 มิ.ย. 50 22:39:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณมากค่ะ ถามอีกนิดนะคะ ว่าถ้าเป็นการลงทุนเพื่อผลทางด้านภาษี ควรลงSCBLTS เต็มร้อยหรือสัดส่วนระหว่างSCBLTS VS SCBLT1 ควรเป็นเท่าไหร่ดีคะ จากคุณ : pompeii (POMPEII) - [ 13 มิ.ย. 50 23:06:17 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเน้นประโยชน์ทางภาษี และไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเพิ่มภาษี ที่จะต้องจ่าย เมื่อได้รับปันผลจากกองทุน รวมถึง ลดความกังวลในด้านการลงทุนที่มีความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นลง SCBLTS น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม ที่จะลงทุนเพียงกองทุนเดียวได้เลยครับ แต่ถ้ามองในด้านที่สามารถลดต้นทุนได้บ้าง จากการคืนเงินจากกองทุนในรูปของปันผล จะถือเสมือนการลงทุนที่มีต้นทุนต่ำลงได้ด้วย รวมทั้ง สร้างโอกาสจากการลงทุน ให้มีมากขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น ก็อาจจะ ลงทุนแบบ ควบคู่ระหว่าง SCBLT1 & SCBLTS เท่าๆ กันน่าจะเป็นประโยชน์เช่นกันครับ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 50 23:33:31 จากคุณ : pjuk - [ 13 มิ.ย. 50 23:32:02 ]