ความคิดเห็นที่ 1 LTS ครับไม่ใช่ LT4 SCBLTS ยังคงวัตถุประสงค์เดิมในการช่วยพัฒนาตลาดทุนอยู่เหมือนกับกองทุน LTF ทุกกองทุน เพราะสัดส่วนการลงทุนในหุ้น ยังมีอยู่ไม่น้อยไปกว่า 65% ตามข้อกำหนด ของ กลต. ครับ ความเสี่ยงลดลงเกิดจากวิธีการบริหารกองทุน ไม่ได้เกิดจากการลดปริมาณหุ้นนะครับ การลงทุนที่ดีที่สุด คือการไม่มี และไม่ก่อหนี้ครับ จากคุณ : pjuk - [ 23 มิ.ย. 50 11:43:15 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คุณ pjuk ครับ ขออภัยที่จำชื่อกองทุนผิด กองทุนนั้นลงทุนในหุ้นมากกว่า 65% ก็จริงอยู่ แต่เพื่อลดความเสี่ยงลง ผมเชื่อว่ากองทุนจะใช้วิธีขายชอร์ตใน TFEX ซึ่งทำให้ผลลัพธ์สุทธิแล้ว ก็เหมือนกับการไม่ได้ลงทุนในตลาดหุ้นเลย แล้วมันจะได้ชื่อว่า LTF ได้อย่างไร มันเป็นอย่างนั้นจริงไหม ไม่เชื่อลองถามผู้จัดการกองทุนดูสิครับ จากคุณ : ryuken - [ 23 มิ.ย. 50 11:55:13 A:125.24.26.226 X: TicketID:143864 ]

ความคิดเห็นที่ 3 TFEX ประมาณ 3.5% ถ้าตลาดหุ้นขึ้นแน่นอน ก็ปลด TFEX ออกไป การซื้อ-ขาย หุ้นยังต้องมีอยู่เพื่อดำรงค์สัดส่วนของหุ้นให้ไม่น้อยกว่า 65% ถ้ากองทุนหุ้น มีความเสี่ยงน้อยลงได้ ผู้ต้องการปรัดภาษีก็กล้าลงทุนมากขึ้น เงินก็เข้ากองทุนมากขึ้น กองทุนก็ต้องซื้อหุ้นเพิ่ม เงินก็หมุนเวียนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นครับ จากคุณ : pjuk - [ 23 มิ.ย. 50 12:32:26 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่มีความว่า "แน่นอน" ในตลาดหุ้นครับ ผมเชื่อว่า การถือ position short ในตลาด TFEX ยังคงดำเนินต่อไป ดังนั้น การถือหุ้น 65% ของ port จะลบด้วย position นั้น.... การถือหุ้นจริงๆ อาจใกล้เคียง 0 จึงเป็นที่มาของคำว่า "ลดความเสี่ยง" ทำแบบจนแทบไม่เหลือความเสี่ยงเลยก็ได้ แบบ บลจ.วรรณ บอกว่า ผลตอบแทนใกล้เคียงตราสารหนี้ ผลลัพธ์สุทธิ ของการลงทุนแบบนี้ก็เช่นกัน ลงในหุ้นจริง 65% แล้วขาย short ด้วยปริมารเงินที่ใกล้เคียงกันมาก นั่นก็เปรียบเสมือน ไม่ได้ลงทุนในตลาดหุ้นนั่นแหละ เป้าหมายก็เพื่อ "ลดหย่อนภาษี" หรือช่วยเศรษฐีปล้นภาษีประเทศ นั่นแหละ ผมพูดผิดตรงไหน เงินหมุนเวียนเพิ่มขึ้น ให้ บลจ. และ broker อนุพันธ์ กำไรเพิ่มนะสิครับ จากคุณ : ryuken - [ 23 มิ.ย. 50 14:14:36 A:125.24.26.226 X: TicketID:143864 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ต่อไปไม่แน่ว่า SCB และ SCBAM จะหัวใสไปอีกขั้น ให้นำเอา บัญชี LTF มาวางค้ำเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อกู้เงินได้ทันที อดบ.ต่ำมาก เพราะ ความเสี่ยงต่ำสุดๆ ยิ่งเป็น SCBLTS ด้วยแล้ว ไม่ต้องรอ 3 ปี 3 วัน ถึงจะนำเงินออกได้.... เอาเงินเข้า LTF วันนี้ พรุ่งนี้ไปกู้ออกมาได้เลย ดบ.6% ต่อปีก็พอ มีบางคนบอกว่า จะมีเงินเพิ่มในบัญชี LTF ทันที 5 หมื่นล้าน หากจริง ส่วนลดภาษี 30-37% คูณดูแล้ว ประเทศไทยคงสูญเสีย ภาษีที่จะเก็บได้ไปกว่า 1.5 หมื่นล้าน....... แต่ กลุ่มไทยพาณิชย์ ได้กำไรเพิ่มขึ้นทั้ง แบงก์ และ บลจ. คุณ pjuk สนับสนุนความคิดนี้ไหมครับ จากคุณ : ryuken - [ 23 มิ.ย. 50 14:28:22 A:125.24.26.226 X: TicketID:143864 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอเสนอแนวคิดมุมมองที่ไม่หักล้าง แต่ใช้ทดแทนได้บ้าง ถ้าทำให้ บลจ.มีรายได้มากขึ้นได้ ก็ต้องจ่ายภาษีธุรกิจเพิ่มขึ้น ชดเชยไดับ้าง ค่าธรรมเนียมซื้อ ขาย หลักทรัพย์ก็จ่าย VAT บุคคลธรรมดาจ่ายภาษีลดลง ก็มีเงินใช้มากขึ้น ก็จะมีหนี้สินลดลง มีเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น และอาจทำให้หลบเลี่ยงภาษีน้อยลงครับ จากคุณ : pjuk - [ 23 มิ.ย. 50 15:20:15 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมว่าเจ้าของกระทู้ บ้าไปแล้ว เขาทำตามกติกา ก็ไปว่าเขา จริง ๆ แล้วกองทุน LTF ไม่ควรมีในประเทศนี้ด้วยซ้ำ แต่มันก็มีแล้ว คนที่หาช่องได้ไม่ผิดหรอกครับ ต้องไปว่าคนที่ออกกติกาครับ เงินประกันสังคม เป็นเงินที่เก็บแต่ละเดือนไม่มาก มีแต่คนที่ไม่มีวินัยทางการเงินเท่านั้นแหละที่จะเป็นหนี้มาก ๆ จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม - [ 23 มิ.ย. 50 15:44:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คงไม่บ้ามั้งครับ คุณผู้เฒ่าสายลม LTF ไม่ควรมี... เห็นด้วยครับ กติกา คือ ต้องลงทุนในหุ้นเกิน 65%...... เพื่อสนับสนุนตลาดทุน แต่ 2 บลจ. หลีกเลี่ยงด้วยการชอร์ตผ่าน TFEX ซึ่งก็เหมือนกับ การทำให้ การลงทุนในหุ้นสุทธิแล้วเป็น "ศูนย์" มันเลยไม่ค่อยถูกกติกานะสิครับ การหาช่องแบบไม่ค่อยถูกกติกา จึงต้องออกมาวิจารณ์กันหน่อยครับ แต่ในเมื่อ กลต. ปล่อยให้ผ่านออกมาได้ ก็คงมีเหตุผลพิเศษที่ผมไม่รู้มั้ง ส่วนกรณีของประกันสังคมนั้น เงิน 6% จะเข้ากองทุนชราภาพทุกเดือน ผมลองคำนวณดูแล้ว เงินเดือนหมื่นห้า จะออมเข้าประกันสังคมเดือนละ 900 บาท เงินจำนวนนี้หากถูกออมที่ สปส.ได้ 4.5% ขณะที่เงินขาดมือด้วยจำนวนเดียวกันไปกู้สินเชื่อเงินด่วน ดบ. 25% เงิน 900 บาทต่อเดือน เชื่อหรือไม่ ด้วยเวลา 10 ปี คนซึ่งไม่ควรจะมีหนี้สินสุทธิ เพราะ สิน่ทรัพย์และหนี้สินเท่ากันในตอนแรก.... กลับมีหนี้สินสุทธิถึงกว่า 3 แสนบาท และจะติดหนี้สินถึงกว่า 4 ล้านบาท ภายใน 20 ปี มันไม่ใช่เรื่องของวินัยทางการเงินเท่านั้น แต่มันเป็นความผิดพลาดของระบบเงินบำนาญแบบบังคับออม ซึ่งบังคับออมกับกลุ่มบุคคลที่ไม่สามารถจะออมได้ ทำให้ติดหนี้สินทับถมกันมากขึ้น. ยิ่งเวลาผ่านไปจะยิ่งแย่ ผมเชื่อว่า คุณผู้เฒ่าสายลมเป็นคนมีความรู้ดี แต่ในบางครั้งเราก็มองข้ามอะไรไปบ้างเหมือนกัน...... แม้แต่ผมเองก็ยังเคยชื่นชมกับระบบประกันสังคมเพื่อเป็นหลักประกันยามเกษียณของผู้ใช้แรงงาน แต่เมื่อมาดูความจริงที่ผู้คนติดหนี้กันมากมาย และ รายได้ไม่พอรายจ่าย แล้วก็ต้องยอมรับว่า..... มันเป็นระบบที่ผิดพลาดซึ่งต้องได้รับการแก้ไขครับ จากคุณ : ryuken - [ 23 มิ.ย. 50 17:40:42 A:125.24.11.0 X: TicketID:143864 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จ่ายเงิน ซื้อหุ้น ไม่น้อยกว่า 65% :: ทำ - เงินก็เข้าตลาดหุ้น - ตัวหุ้นก็อยู่ในกองทุน LTF - Long Term Equity Fund - คือกองทุนหุ้น ที่ลงทุนในหุ้น ไน้อยกว่า 65% ของทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ไม่ว่าผลตอบแทน จะออกมา - ติดลบแหลกราน - บวกติดยอดดอย - หรือออกมาเป็น ศูนย์ แต่ก็ยังลงทุนในหุ้นอยู่ไม่น้อยกว่า 65% การทำให้ผลตอบแทน มีความเสี่ยงน้อย ผันผวนน้อย ไม่ได้หมายถึง การที่ลงทุนในหุ้นน้อยนะครับ กรุณาแยกประเด็น และตีความ ของการลงทุนในหุ้น กับการลดความเสี่ยง :: หลีกเลี่ยงด้วยการชอร์ตผ่าน TFEX ซึ่งก็เหมือนกับ การทำให้ การลงทุนในหุ้นสุทธิแล้วเป็น "ศูนย์" :: ไม่แน่ใจ ว่า คุณ ryuken ไม่เข้าใจจริงๆ หรือตีความเพื่อให้เป็นไปตามต้องการ เพื่อให้มองว่า กองทุนไม่ได้ลงทุนในหุ้นเลยครับ จากคุณ : pjuk - [ 23 มิ.ย. 50 19:06:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าไม่หักไว้บ้าง สุดท้ายคิดหรือว่าคนที่ไม่มีวินัยทางการเงินจะมีเงินเก็บเอง เขาก็เอาเงินนั้นไปใช้จ่ายในทางที่ไม่เกิดประโยชน์อยู่ดี หักไว้บ้าง เอาไปเผื่อใช้ในกรณีเจ็บไข้ได้ป่วยหรือเป็นสวัสดิการอื่นๆดีกว่ามั้ยครับ ที่จริงผมก็ไม่ได้คิดว่าประกันสังคมบ้านเรามันดีเด่อะไรหรอก บอกได้เลยว่าไม่เคยใช้แม้แต่บาทเดียวแต่จ่ายอยู่ทุกเดือน คิดเสียว่าเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขกันไป ประเด็น LTF ความรู้ยังน้อยอยู่ขอผ่านไปดีกว่า สุดท้ายอยู่ที่ความพอเพียงครับ มีมากน้อยอยู่ที่รู้จักใช้มากกว่า เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับจขกท.นะครับ ไม่ได้ต้องการทะเลาะกับใคร จากคุณ : ยาหม้อ - [ 23 มิ.ย. 50 19:21:20 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มันก็พอจะเข้าใจได้นะครับ ว่าลงทุนในหุ้น 65% เรื่องของเรื่อง คือ คุณ pjuk เข้าใจในประเด็นของ TFEX แค่ไหน คือ "ความเสี่ยง" น้อยลง ก็หมายถึง "การลงทุน" น้อยลงนั่นแหละครับ ถ้าความเสี่ยงในหุ้นเป็นศูนย์ ก็หมายถึง การลงทุนในหุ้นเป็นศูนย์ เพราะว่า ความเสี่ยง มันไปด้วยกันกับผลตอบแทนการลงทุน ครับ สมมติว่า ผมเป็นคนซื้อสัญญา TFEX ที่ SCBLTS ขายออกมา หากผมไม่อยากรับความเสี่ยงนี้ ผมจะทำอย่างไรครับ ก็ต้อง ไปยืมหุ้นตัวใหญ่ๆ ใน SET 50 มา ขายชอร์ตออกไปจริงไหมครับ (หรือถ้าผมมีหุ้นใหญ่ๆ ในพอร์ตก็จะขายออกมาลดความเสี่ยงครับ) ซึ่งก็หมายถึง แรงขายหุ้นตัวใหญ่ๆ ใน SET 50 เป็นผลต่อเนื่องมาจาก SCBLTS ขายชอร์ตใน TFEX นะครับ ดังนั้น การซื้อหุ้นในตลาดจริง 65% กับการ short สัญญา ใน TFEX หากทำได้ดีๆ แล้ว ความเสี่ยงในตลาดหุ้นจะเหลือน้อยมากๆ และการขายชอร์ต จะมีผลคล้ายกับการขายหุ้นใหญ่ๆ ออกมานั่นแหละ ซื้อในตลาดจริง ขายชอร์ตในตลาดล่วงหน้า สรุปแล้วคือ SCBTS แทบไม่ได้ลงทุนในหุ้น...... แต่หวังผลจาก "การลดหย่อนภาษี" ซึ่งก็ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของ LTF ครับ แต่เป็นการสร้างเรื่องราวให้ เศรษฐี สามารถปล้นเงินภาษีของชาติได้ หัวข้อในการวิจารณ์ของผมก็เป็นด้วยเรืองแบบนี้แหละครับ จากคุณ : ryuken - [ 23 มิ.ย. 50 19:29:13 A:125.24.11.0 X: TicketID:143864 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณ คุณยาหม้อครับ ประกันสังคมนั้น เงิน 3% ที่หักจากผู้ประกันตนนั้น จะสมทบกับ 3% ของนายจ้าง เป็น 6% เข้ากองทุนชราภาพครับ สิ่งที่ผมติงคือ ประเด็นนี้ เงินตรงนี้เป็นเงินออม เป็นสินทรัพย์ของผู้ประกันตน ซึ่ง สปส.บังคับออม มันไม่ผิดเลยหากทำในปท.ที่คนส่วนใหญ่มีรายได้มากกว่ารายจ่าย แต่เนื่องจากข้อมูลของ ม.หอการค้าไทยที่ว่า คนไทยราว 80% มีปัญหารายได้ไม่พอรายจ่าย การบังคับออมตรงนี้ ดูในอนาคตก็เหมือนดี แต่อย่างที่ผมว่าละครับ การไปบังคับออมกับคนที่ "พอเพียง" ซึ่งมีรายได้พอดีรายจ่าย ถ้าให้ 6% นั้นคืนแก่พวกเขาทุกเดือนก็จะไม่มีปัญหา พวกเขาจะไม่มีหนี้สินเลย แต่เชื่อไหมว่า "บุคคลพอเพียง" กลุ่มนี้จะติดหนี้ถึงกว่า 3 แสนบาทภายใน 10 ปี ทั้งๆที่พอเพียงนะครับ เก็บออม 900 ทุกเดือนผ่าน สปส. และ กู้เงิน 900 บาททุกเดือนผ่านสินเชื่อเงินด่วน ส่วนต่างดบ. 4% กับ 25% จะทำงานอย่างดี แบบไม่น่าเชื่อ และภายใน 20 ปี "คนพอเพียง" กลุ่มนี้จะติดหนี้ถึงกว่า 4 ล้านบาท มันถึงทำให้ผมคิดไงครับว่า สปส.ทำบุญหรือทำบาปกันแน่ แทนที่พวกเขาจะไม่มีหนี้สิน กลับไปสร้างหนี้สินผ่านกระบวนการกู้ยืมเงินด่วนของ นันแบงก์ ซึ่งในที่สุดแล้วจะติดหนี้หลายแสนบาท คนที่เคยยืมเงินบัตรฯ นี้ไปโปะบัตรนั้นก็จะรู้ถึงกลไกการทำงานของ ดบ.ทบต้นได้ดีครับ ผมต้องเรียกร้องให้หยุดกระบวนการแบบนี้ครับ เพราะมันเป็นระบบที่ผิดพลาด การบังคับออมไม่ควรนำมาใช้กับสังคมที่คนส่วนใหญ่มีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย แต่อนาคตก็ยังคงต้องคำนึงถึง เราจึงไม่ควรจะยกเลิกกองทุนชราภาพ แล้วมาแจกจ่ายแบ่งกัน แต่ควรเปิดช่องให้ผู้เดือดร้อนทางการเงินได้ยืมเงินของตัวเองออกมาครับ ประเทศอเมริกา และ ฟิลิปปินส์ ก็มีสวัสดิการให้กู้ยืมแบบนี้เช่นกัน เราคงไม่ใช่ประเทศแรกที่ทำ แต่ถ้าเราไม่ทำ หรือ ทำช้าต่างหาก NPL ของผู้ใช้แรงงานในประเทศ อาจจะวิ่งสูงขึ้นมากจนนึกไม่ถึงครับ ภาระผ่อนต่อเดือนเฉลี่ยสูงขึ้นจาก ปี 49 ที่ 4900 บาท มาเป็น 6500 ในปี 50 สูงขึ้นกว่า 30% ทั้งๆที่รายได้แทบจะไม่เพิ่มเลย มันเป็นสัญญาณครับ ว่าภาระผ่อนซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นมากนี้ทำให้เงินแทบจะไม่เหลือในกระเป๋าคนไทยแล้วครับ จากคุณ : ryuken - [ 23 มิ.ย. 50 19:42:36 A:125.24.11.0 X: TicketID:143864 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สำหรับคุณ pjuk SCBLTS นั้น ไม่ใช่การลงทุนในหุ้นหรอกครับ แต่เป็นการทำ arbitrage โดยกำไรที่ได้ คือ เงินภาษีที่หักลดหย่อนได้ ซึ่งในสายตาของผมก็คือ การหาช่องว่างของกติกา สร้างเรื่องราวให้เศรษฐีสามารถจะปล้นภาษีของชาติได้ ถ้าคุณ pjuk ยังไม่ชัดเจน ลองคุยกับ ผจก.กองทุนดูสิครับ ว่าเป็นอย่างนั้นจริงไหม จากคุณ : ryuken - [ 23 มิ.ย. 50 20:32:04 A:125.24.11.0 X: TicketID:143864 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เริ่มจะอุ่นๆ แต่สาระหนักแน่น สมเป็นกระทู้น้ำดีของสินธร ที่ยังไม่มีการเมืองมาเอี่ยว ขอลงชื่อไว้ก่อน แล้วจะมาอ่านต่อ จากคุณ : Gunn_Sap - [ 24 มิ.ย. 50 08:50:14 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ที่ผ่านมาไม่สนใจซือ LTF แต่พอได้อ่านกระทู้นี้สนใจขึ้นมาทันที จากคุณ : pokemon trainer - [ 24 มิ.ย. 50 12:28:54 A:10.114.0.126 X:202.12.97.114 TicketID:000119 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เอาเถอะ จะพูดอย่างไรก็ตาม รัฐมีสิทธิ์จะเลิก LTF หรือออกระเบียบใหม่ ๆ มาได้ตลอดเวลา แต่ในเมื่อไม่ออก ก็แปลว่าอนุญาต ผมก็ยังไม่เห็นว่าผิดตรงไหน เรื่องประกันสังคม เป็นเรื่องที่เขามองยาว ๆ ไม่ทราบว่าไปเอาตัวเลขที่ว่านั่นมาจากไหน ที่ว่า 3 แสนล้าน มีหลักฐานหรือไม่ หรือเดาเอา แต่ในระยะยาวเมื่อทำงานจนแก่แล้ว ก็จะได้มีเงินเอาไว้ใช้ได้บ้าง ไม่งั้นแก่แล้วจะเอาอะไรกิน คนเราต้องใช้เท่าที่หาได้ คนที่ใช้มากกว่าหาได้ เรียกว่าไม่มีวินัยทางการเงิน ทำยังไงก็ช่วยไม่ได้หรอก แล้วข้อมูลของหอการค้า ถ้าไปถามว่ารายได้พอไหม ใคร ๆ ก็บอกไม่พอทั้งนั้นแหละครับ จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม - [ 24 มิ.ย. 50 19:24:52 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมเห็นว่าการมีระบบประกันสังคมแบบนี้มันไม่ใช่สาเหตุของการเกิดหนี้นะครับ ผมว่าปัญหาการมีรายได้ไม่พอรายจ่ายนั้นน่าจะเกิดจากการใช้จ่ายเกินตัวของผู้บริโภคมากกว่านะครับ หากเราใช้จ่ายให้พอดีกับรายได้ เราก็ไม่ต้องกังวลกับปัญหารายได้ไม่พอ การใช้จ่ายอย่างไม่ประมาณตนตะหากถึงเป็นสาเหตุของหนี้สินที่แท้จริง จากคุณ : ohopap (ohopap) - [ 24 มิ.ย. 50 20:32:13 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณ ผู้เฒ่าสายลม สำหรับ LTF แม้แต่คุณ pjuk ยังหยุดไปแล้วเลย เพราะความจริงก็คือ กองทุนนี้บิดเบือนกติกาครับ กองทุนแบบนี้ไม่ได้ลงทุนในหุ้นสูงกว่า 65% ตามกติกา ความจริงแล้ว คือ เสมือนแทบไม่ได้ลงทุนในหุ้นเลย เพราะเป็นการซื้อหุ้นในตลาดปัจจุบัน และ ขายออกในตลาดล่วงหน้า เป็นการทำ arbitrage และได้ส่วนกำไร คือ "ส่วนลดหย่อนภาษี" ครับ ปัญหาของหนี้ก็คือ เราเสพติดการก่อหนี้มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลทักษิณครับ ตอนนี้ คนไทยมีภาระในการผ่อนชำระหนี้ราว 40% ของรายได้ ซึ่งสูงมาก แม้แต่สหรัฐอเมริกาประเทศที่มีหนี้มากๆ ตัวเลขนี้จะอยู่ราว 20% เท่านั้น มันไม่ใช่เรื่องของการรู้จักใช้จ่ายแบบประหยัดหรือไม่ แต่ปัญหามันอยู่ที่ "หนี้สิน" ครับ ภาระการผ่อนชำระเป็นค่าใช้จ่ายต่อเดือนนั้นสูงขึ้นเร็วมาก ปีเดียวโตขึ้น 30% และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างเร็วเรื่อยๆ สินค้าก็ราคาแพงขึ้น ทำให้รายได้ไม่พอรายจ่าย... นั่นหมายถึง แนวโน้มการก่อหนี้มากขึ้นครับ เบี้ยประกันสังคมคงไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้คนติดหนี้สิน แต่ผมกำลังจะบอกว่า การเก็บเงินสมทบชราภาพ แบบบังคับออมทุกคนในภาวะเช่นนี้ มีแต่จะทำให้ภาวะหนี้สิน ของชนชั้นล่าง และ ชั้นกลาง เลวร้ายลง และมีแนวโน้มที่อาจทำให้ติดหนี้สุทธิได้ถึงหลายแสนบาท แม้จะ "พอเพียง" ก็ตาม ด้วยกลไกของ ผลตอบแทนเงินออมที่ต่ำระดับ 4% ขณะที่ต้องไปกู้มาด้วย ดบ.สูงถึง 25% ด้วยเงินเท่าๆ กันทั้ง 2 ฝั่ง ผมเข้าใจครับว่าเพื่อนๆ ในนี้มีสามารถออมเงินได้ แต่คนส่วนใหญ่ในสังคมไม่ใช่อย่างนั้น ดังนั้น ประกันสังคมจึงไม่ใช่กลไกที่เป็นประโยชน์กับผู้ประกันตนส่วนใหญ่ และผมยังขอยืนยันว่าต้องมีการแก้ไขเปิดช่องให้ ผู้ที่เดือดร้อนเรื่องหนี้สามารถจะนำเงินออมของตนเองในกองทุนชราภาพมาใช้ได้ครับ จากคุณ : ryuken - [ 24 มิ.ย. 50 20:58:25 A:125.24.19.208 X: TicketID:143864 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ที่หยุด เพราะไม่อยากต่อครับ..... เพราะพยายามอธิบายแล้ว แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความเห็นของคุณ ryuken ให้ยอมรับความจริง ที่กองทุน ให้ผู้ลงทุน มีโอกาส ขาดทุนน้อยที่สุด การลงทุนใน LTF ถ้าลงทุน แล้วต้องขาดทุน เพียงเพื่อชดเชย ภาษีที่ได้ได้จ่ายน้อยลงไป แล้วจะลงทุนไปทำไมละครับ คุณ ryuken ให้ความเห็น เพียงเพราะต้องการให้ผู้ลงทุนใน LTF มีความเสี่ยงสูงๆ เท่านั้น จะได้ไม่อยากลงทุน และยอมไปจ่ายภาษีแบบหนักหน่วงแทนหรือเปล่าครับ ชีวิตจะมีสุข ถ้าไม่มีหนี้สิน ชิวิตจะสบายขึ้น แม้มีหนี้สิน ถ้ารู้จักที่จะใช้คืน ด้วยน้ำพักน้ำแรง ทั้งแรงกาย และแรงสมองของเราเอง เมื่อเราก่อหนี้สินขึ้นมาได้ด้วยตนเอง ก็ควรจะใช้หนี้นั้นด้วยตนเองนะครับ อย่างยืมเงินคนอื่นนานจนเกินไป แล้วดอกเบี้ยจะไม่เพิ่มพูน จนใช้ไม่หมดสักทีครับ จากคุณ : pjuk - [ 24 มิ.ย. 50 23:20:54 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุณ ryuken ก็ไปฟ้องศาลให้เล่นงาน SCB เลยสิครับ มาพูดในนี้คงไม่เกิดประโยชน์อะไรหรอกครับ ถามคุณ ผู้เฒ่าสายลม หน่อย ทำไมบอกว่า LTF ไม่ควรมีในประเทศนี้ล่ะครับ จากคุณ : DD - [ 24 มิ.ย. 50 23:42:26 A:210.203.183.174 X: TicketID:100823 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ pjuk ครับ ผมชื่นชมกับการให้ข้อมูลของคุณมาตลอด ผมรู้ว่าคุณยืนอยู่ข้างผลประโยชน์ของ SCBAM แต่ผมยืนอยู่ข้างประโยชน์ของประเทศชาติ และ ความถูกต้องครับ ถ้ามันไปทางเดียวกันก็จะดีมาก แต่ถ้ามันคนละทาง..... ถือว่าแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ผมร้องเรียนไปทาง กตล.แล้ว รอดูผลครับ ถ้าไม่มีอะไรก็ถือว่า SCBAM ทำถูกต้องตามกฎ ถึงแม้ผมจะยังไม่เห็นด้วยในแนวทาง และ วิจารณ์ไปตามที่คิดครับ ผมยังยืนยันว่า LTF จะต้องลงทุนในหุ้นมากกว่า 65% แต่กอง SCBLTS นั้น ทำการชอร์ตในตลาดล่วงหน้าด้วย ดังนั้นผลลงทุนสุทธิจึงใกล้เคียงศูนย์ มันจึงเป็นธรรมดาอยู่เอง ที่ลงทุนน้อย ความเสี่ยงก็เลยต่ำลง คล้ายๆ กับแนวคิดของ LT1 นั่นแหละ ผมว่าคุณ pjuk คิดเข้าข้าง SCBAM มากกว่า เพราะคุณเองก็พูดว่าเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำมาก..... ขณะที่ตลาดหุ้นมีความเสี่ยงสูง นั่นหมายถึงอะไรครับ ก็หมายถึง การลงทุนสุทธิจริงๆ ในตลาดหุ้นมีต่ำมากๆ นะสิครับ แล้วมันจะเป็นไปตามกฎของ LTF ได้อย่างไร????? ทำไมถึงมี LTF ขึ้นมา จุดประสงค์คืออะไรต้องย้อนกลับไปดูด้วย ไม่ใช่หวังผลแต่ลดภาษีอย่างเดียวครับ จากคุณ : ryuken - [ 25 มิ.ย. 50 00:55:01 A:125.24.10.53 X: TicketID:143864 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยกับ จขกท ข้อเดียว คือ สามารถยืมเงินประกันสังคมที่ตัวเองจ่ายได้ โดยดอกเบี้ยไม่โหดมา สามารถยืมได้ในสัดส่วนที่ส่งไป จากคุณ : peggo - [ 25 มิ.ย. 50 09:50:17 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แล้วการขึ้นสัดส่วนขั้นต่ำ 10% นั้นเห็นด้วยหรือครับ ผมลองไปตรวจสอบข้อมูลของ ตปท. มา สุดยอดครับ ยกนิ้วให้ ธปท.เลย เพราะไม่มีประเทศใดเลย ที่ต้องจ่ายขั้นต่ำสูงเกินกว่า 5% จีน อินเดีย มาเลเซีย อยู่ที่ 5% อเมริกา อยู่ที่ 4% สิงคโปร์ ที่ 3-5% ธปท.นี่สุดยอดแล้ว ในการสร้างสรรค์คิดนโยบายฆ่าคนติดหนี้ และ ดูดกำลังซื้อของชนชั้นกลาง และ ของประเทศด้วย จากคุณ : ryuken - [ 25 มิ.ย. 50 10:35:22 A:125.24.15.97 X: TicketID:143864 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ ryuken ให้ข้อมูลอีกด้านได้ดีครับ มาโพสบ่อยๆนะครับ เรื่องหนี้ๆ มันเปนปัญหามากมายวุ่นวายจิงๆคับ จากคุณ : เจสปริทซ (jspiritz2) - [ 25 มิ.ย. 50 22:07:20 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เป็นการแลกเปลี่ยนทั้งสองฝ่ายได้ดีครับ.... ผมก็จะรอดูผลที่คุณ ryuken  ร้องเรียนไปละกันครับ จากคุณ : NoNameLFC - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 10:36:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 กลต.รับเรื่องร้องเรียนครับ แปลว่า "มีมูล" รอคณะกรรมการเรียกประชุมครับ จากคุณ : ryuken - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 13:40:29 A:125.24.9.90 X: TicketID:143864 ]

ความคิดเห็นที่ 27 พอดีโง่น่ะครับ เลยสงสัยว่า ""ความเสี่ยง" น้อยลง ก็หมายถึง "การลงทุน" น้อยลงนั่นแหละครับ ถ้าความเสี่ยงในหุ้นเป็นศูนย์ ก็หมายถึง การลงทุนในหุ้นเป็นศูนย์" การฝากเงินนั้นน่าจะเป็นหนึ่งในการลงทุนหรือเปล่าครับ ถึงแม้ว่าจะเอนไปทางการออมก็ตาม แล้วถ้าแบบนี้ผมฝากเงินธรรมดาๆ ซึ่งความเสี่ยงแทบจะเป็นศูนย์ซัก แสนสองแสน เท่ากับผมฝากเงินเท่ากับศูนย์หรือเปล่า งง ขอคำตอบด้วยครับ ปล.อ้อ เรื่องประกันสังคมยังไงก็ต้องเก็บครับ ยังอยากให้เพิ่มเพดานด้วยซ้ำไปครับ ญี่ปุ่นที่เค้าว่ารวยกันนักรวยกันหนา จบใหม่เงินเดือนเริ่มต้น 2 แสนเยน หักค่ากิน ค่าเช่าที่อยู่ ค่าเดินทางก็แทบจะไม่เหลือแล้ว แล้วรู้หรือเปล่าครับเค้าโดนหักภาษีกับประกันสังคม มากกว่า 30 - 40 เปอร์ด้วยซ้ำครับ แบบนั้นเค้ายังบอกเลยครับ ว่าเงินเค้าในอนาคตจะไม่พอจ่ายคืน อีกอย่างผมก็ไม่อยากจะพูดนักหรอกครับ เพราะผมก็คนไทย แต่ผมไม่ได้เห็นว่าคนมันเป็นหนี้เพราะรัฐบาลที่แล้วเลยครับ แต่ผมเห็นว่าคนไทยหน้าใหญ่ มือเติบ แต่เงินไม่ถึง (ไม่งั้นจะมีรถป้ายแดงเต็มถนนหรือ) แล้วก็งมงาย ไม่รู้จักออม อยากให้หน่วยงานไหนก็ได้โปรโมทการทำบัญชี กับ อ่านหนังสือเรื่องออมก่อนรวยกว่าด้วย ขอบคุณครับ จากคุณ : khanchang - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 17:37:26 ]

ความคิดเห็นที่ 28 SCBLTS ^^ ซื้อไปแล้ว .. จากคุณ : บันจี้ - [ 27 มิ.ย. 50 08:59:31 ]