PANTIP.COM : I5563571 ถามpjuk เรื่อง LTF/RMF จะวางแผนอย่างไรดี []

ความคิดเห็นที่ 2

26 สัปดาห์ ก่อนสิ้นปี
ครึ่งปีหลัง ที่ทุกๆ ปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นเริ่มมีทิศทางที่เป็นขาขึ้น
ช่วงเวลาแห่งการรอคอย รอที่จะสามารถเก็บเกี่ยวและสะสมผลตอบแทนให้มากที่สุด

และจาการลงทุนในกองทุนพิเศษ ที่ได้สิทธิ์ในการนำตัวเลขเงินลงทุน ไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ จึงทำให้เสมือนได้รับการชดเชยความเสี่ยงให้ได้อย่างมาก

และเมื่อความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของตลาดหุ้นได้รับการชดเชยจาก ภาษีที่เราจ่ายน้อยลงไปได้ ดังนั้นน่าจะพร้อมที่จะสร้างโอกาสจากความไม่แน่นอนของตลาดหุ้นให้อย่างเต็มที่

บวกกับแนวโน้มที่ตลาดหุ้นจะสดใสไปจนถึงสิ้นปี จึงทำให้เวลาที่ผ่านไปอาจจะทำให้มูลค่าการลงทุนเราเพิ่มขึ้นได้ทุกวัน แต่ความไม่แน่นอนจะยังมี และเจอได้เสมอๆ

จาก 2 จุดนี้เอง จึงอย่างแนะนำการลงทุน เพื่อแสวงหาผลตอบแทนที่ดีที่สุดเท่าที่โอกาสจะเปิดทางให้ โดยอาจเริ่มลงทุนด้วยสัดส่วนที่มากหน่อย ประมาณ 50% ของที่ตั้งใจ แล้วเหลืออีก 50% เพื่อทยอยการลงทุนในภาวะที่ตลาดหุ้น เกิดความไม่แน่นอนให้เห็นเป็นช่วงๆ ครับ

แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเรามีเงินลงทุนพร้อมอยู่ในมือหรือไม่ โดยถ้ายังไม่พร้อมการลงทุนด้วยการทยอยการลงทุนเท่าๆ กันทั้งหมดน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้ไม่หนักเกินไปที่จะได้เริ่มการลงทุนตั้งแต่ต้น ดีกว่ารอสะสมเงินก้อนไปลงทุนทีเดียวปลายปีครับ

--------------------------------
ข้อกำหนดตามความต้องการอีกเรื่องคือ เงินปันผล
จากการที่การลงทุนใน RMF & LTF ที่เป็นกองทุนพิเศษ สามารถนำตัวเลขเงินลงทุนไปใช้สิทธิ์ลดหย่อยภาษี ทำให้สามารถจ่ายภาษีได้น้อยลง
จึงเป็นแนวคิดที่เห็นด้วย ที่จะไม่เลือกรับปันผล ที่จะทำให้ต้องเสียภาษีในส่วนนี้ อย่างน้อย 10% หัก ณ.ที่จ่าย

แม้ว่าการได้รับเงินปันผล จะเสมือนการลดต้นทุนให้ต่ำลงได้วิธีหนึ่งก็ตามครับ

ทังนี้ RMF คงหมดปันหาไปเพราะทุกกองทุนของ RMF ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้เลย
-----------------------------------------

สำหรับช่วงเวลาที่ตลาดหุ้น น่าจะสดใสกว่าตลาดตราสารหนี้ ไปจนถึงสิ้นปี ก่อนหมดปีภาษี ให้สามารถลงทุนกับ RMF & LTF และนำไปใช้สิทธิ์ต่อไป

ขออนุญาตแนะนำการลงทุนไปกับตลาดหุ้น อย่างเต็มที่

สำหรับ RMF ด้วย
SCBRM4 - ไทยพาณิชย์หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ
ที่เน้นการลงทุนในหุ้นกลุ่ม SET50 พร้อมที่จะสร้างผลตอบแทนให้ได้อย่างเต็มที่ในภาวะตลาดหุ้นอยู่ในช่วงเวลาที่สามารถสร้างโอกาสได้อย่างมาก

ส่วน LTF ที่ไม่มีนโนบายการจ่ายปันผล จะมีให้เลือกได้ 3 กองทุน
SCBLT2 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว พลัส
หุ้น SET50 : 90%
ตราสารหนี้ระยะสั้น + เงินสด : 10%

SCBLT3 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว เอ็มเอไอ
หุ้น SET50 : 40%
หุ้น ต่ำกว่า SET100 + MAI : 40%
หุ้น Trade + เงินสด : 20%

SCBLTS - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวสมาร์ท
หุ้น SET50 : 65-70%
SET50 Index Futures : 3.5%
ตราสารหนี้ระยะสั้น + เงินสด : ส่วนที่เหลือ

ซึ่งทั้ง 3 กองทุนเท่านั้นที่ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล
ส่วนอีก 3 กองทุน (SCBLT1, SCBLT4, SCBLTT) จะมีนโยบายการจ่ายปันผลครับ

การการจายลงทุนในหุ้นกลุ่มต่างๆ และสัดส่วนหุ้น
จึงวิเคราะห์แนวทางสู้กับตลาดหุ้นตามภาวะการต่างๆ

- ตลาดถูกหุ้นใหญ่ช่วงส่งดัชนีขึ้น ไปอยู่ SCBLT2
จากสัดส่วนการลงทุนในหุ้นใหญ่ๆ 90% จึงสามารถสร้างโอกาสที่วิ่งไล่ตลาดหุ้นได้ในช่วงขาขึ้น

- ตลาดเล่นมันทุกกลุ่ม ทั้งเล็ก ทั้งใหญ่ ไปอยู่ที่ SCBLT3
ด้วยกลุ่มหุ้นที่ครอบคลุมทั้ง SET และ MAI ไม่ว่าตลาดจะ เก็บหุ้นใหญ่ ปั่นหุ้นเล็ก หรือแม้แต่สภาวะ SET มีแต่สีแดงๆ MAI กลับทำให้ตลาดหุ้นมีสีเขียวเจือปนได้หลายๆ ครั้งครับ

- เมื่อมีความไม่แน่ใจว่าตลาดหุ้นจะไปในทิศทางใด หรือแม้แต่มีแน้วโน้มว่าตลาดหุ้นจะกำลังไม่ดี การลงทุนที่ปลอดภัยไว้ก่อนสามารถเลือกลงทุนที่ SCBLTS ได้อย่างสบายใจ
ด้วยการลงทุนใน หุ้นกลุ่ม SET50 ประมาณ 65% แล้วถูกคานทิศทางด้วย SET50 Index Fututes ที่สามารถทำกำไรได้ในภาวะหุ้นขาลง แต่เมื่อหุ้นอยู่ในภาวะขาขึ้นก็จะปล่อยให้หุ้นทำงานได้อย่างเต็มที่ด้วยครับ

----------------------------------
แต่เมื่อในภาวะการที่ตลาดหุ้นดูจะสดใส มากกว่าขุ่นมัว การลงทุนไปกับตลาดหุ้นแบบท้าชน น่าจะสามารถสร้างโอกาสให้เกิดผลตอบแทนได้อย่างมากด้วย

จึงขออนุญาตสรุปการเลือกลงทุนด้วย
RMF :: SCBRM4
LTF :: SCBLT2, SCBLT3 ด้วยสัดส่วนเท่าๆ กัน หรือจะเลือกตัวใดตัวหนึ่งก็ได้ครับ
แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 50 21:41:36

จากคุณ : pjuk - [ 1 ก.ค. 50 09:26:35 ]