พาดหัวให้มันดูหวือหวาแบบพวกแมลงวันหัวสี
ความจริงแค่อยากเล่าประสพกาม เอ๊ยประสบการณ์
ในการไถ่ถอนพันธบัตรรุ่นช่วยชาติ
เมื่อวันอังคาร
ใกล้กำหนด หมดเวลาส่งเอกสาร
ไถ่ถอนพันธบัตรรุ่นช่วยชาติ่ให้แบงค์ชาติทางไปรษณีย์
เลยหงุดหงิดกันทั้งพ่อและลูก
ส่วนแม่ไม่ต้องหงุดหงิด เพราะยังเซนต์ชื่อได้เหมือนเดิม
ลูกหงุดหงิดว่า
ทำไมเซนต์ชื่อแค่นี้ พ่อถึงเซนต์ไม่ได้
ทั้งๆที่พยายามแนะนำอย่างไร ก็ไม่ได้ผล
ส่วนพ่อก็หงุดหงิดตัวเอง ที่เซนต์ชื่อไม่ได้แล้ว
มิหน่ำซ้ำยังโดนลูกชายตัวดี
ที่เคยเอาเงินฝากไปเจ๊งหุ้นสมัยราชาเงินทุน
มาหงุดหงิดใส่อีก
พอดีแม่นั่งอยู่ด้วย เลยพูดเตือนสติลูกชายไปว่า
"ระวังให้ดี รอให้ถึงตัวเองแล้วจะรู้สึก"
โอ้โฮ เกิดสำนึกบาปขึ้นมาทันทีเลย
นี่เรา กำลังเอาความสามารถของคนวัยห้าสิบกว่า
ไปยัดเยียดให้คนวัยเก้าสิบทำตามให้ได้
ซึ่งบางคน ก็ยังทำได้
แต่บางคนก็ทำไม่ได้แล้ว
รวมทั้งพ่อผมด้วย
ทั้งๆที่เมื่อ ๕ ปีก่อน ยังเซนต์ซื้อพันธบัตรได้
เวลาเปลี่ยน สังขารก็เปลี่ยน
ทีนี้จะทำไงดี ? ขืนพยายามจะให้เซนต์ให้ได้
ก็จะหงุดหงิดด้วยกันทุกฝ่าย
ก็เลยลองโทรไปสอบถามแบงค์ชาติ
ตามเบอร์ที่ให้มากับจดหมาย
0 2 2 8 3 5 4 4 8 - 50
เพื่อขอคำปรึกษา
ผู้รับสายเป็นเจ้าหน้าที่ชายฝ่ายพันธบัตรของแบงค์ชาติ
ได้ให้ข้อมูลที่เราไม่เคยรู้มาก่อนคือ
ถ้าเจ้าของพันธบัตรเซนต์ชื่อไม่ได้แล้ว
ก็มีทางเลือกคือ
ให้มารับตัวพนักงานแบงค์ชาติ
ไปพิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือ
ถึงสถานที่เจ้าของพันธบัตรอยู่
หรือไม่ก็
พาเจ้าของพันธบัตรซึ่งเซนต์ชื่อไม่ได้แล้ว
มาพิมพ์ลายนิ้วมือที่แบงค์ชาติ
โดยระหว่างทื่พิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือไม่ว่าที่ไหน
ต้องมีพยานรับรู้อยู่ด้วยสองคน
ถ้าได้พยานที่ไม่ใช่ญาติก็จะดี
(จะได้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียตามกฏหมาย เมื่อเกิดปัญหา)
จากข้อมูลที่เจ้าหน้าที่แบงค์ชาติแจ้งให้ทราบ
ทำเอาอึ้งไปเลย ไม่น่าหงุดหงิดเลยเรา
เจ้าหน้าที่ของแบงค์ชาติท่านนั้นบอกว่า
มีกรณีเจ้าของพันธบัตรเซนต์ชื่อไม่ได้
หรือเซนต์ชื่อไม่เหมือนเดิม
เกิดขึ้นบ่อยๆจนเป็นเรื่องปกติ
ทางออกคือการพิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าพยาน
หลังจากได้ข้อมูล
เมื่อวานนี้ ผมเลยเลือกวิธีพาพ่อไปที่แบงค์ชาติ
ไม่อยากรบกวนทางเจ้าหน้าที่
เพราะจำนวนเงินไม่ได้มากมายอะไร
ให้หลานชายซึ่งกำลังรอไปเรียนต่อออสเตรเลียในวันอาทิตย์นี้
ไปเป็นพยานอีกคน และขับรถให้ด้วย
เหตุการณ์ก็จบแบบแฮบปี้เอนดิงด์
โดยเจ้าหน้าที่ของแบงค์ชาติ
กรุณาเดินมาพิมพ์ลายนิ้วมือของพ่อ
ให้ถึงรถที่หลานชายและพ่อ นั่งเปิดแอร์รออยู่
โดยมีผมกับหลาน เป็นพยานเซนต์ชื่อรับรอง การพิมพ์ลายนิ้วมือ
ต้องขอบพระคุณ "คุณปรีชา"
เจ้าหน้าที่ฝ่ายพันธบัตรของธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่กรุณาเป็นธุระให้จนเสร็จสิ้นกระบวนการไถ่ถอนครับ
(เสร็จจากภาระกิจนี้ คุณปรีชาต้องไปพิมพ์ลายนิ้วมือต่อที่โรงพยาบาลศิริราช)
เงินทองมันไม่เข้าใครออกใคร
เห็นบ่อยๆ ที่พี่น้อง ลูกหลานฟัดกันนัวเนียเพื่อแย่งสมบัติพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย
ดังนั้นคนนอกที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย
เขาก็ต้องป้องกันตนเองจากการฟ้องร้อง
จากข้อหา ยอมให้ไถ่ถอนพันธบัตรโดยมิชอบ
คุณปรีชายังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า
ถ้ามายื่นเอกสารไถ่ถอนพันธบัตรที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้
ก็จะเป็นผลดีกับเจ้าของพันธบัตร
เพราะเอกสารยื่นเรื่องไถ่ถอน ที่ส่งมาทางอีเอ็มเอส
มีลายเซนต์ที่เซนต์ไม่เหมือนเดิม อยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน
ถ้ายื่นเอกสารครบ ลายเซนต์เหมือนกับที่เคยให้ไว้ตอนซื้อพันธบัตร
เจ้าของพันธบัตร สามารถให้ใครก็ได้ เป็นคนยื่นเอกสารไถ่ถอน
เพราะขั้นตอนสุดท้ายของการไถ่ถอน
ธนาคารแห่งประเทศไทย จะโอนเงินเข้าบัญชี
ตามที่แจ้งไว้ตอนที่ซื้อพันธบัตรโดยตรง ในวันที่ ๓ กันยายน ศกนี้
แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 50 12:22:51
แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 50 10:03:58
แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 50 09:55:42
แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 50 09:28:17