ความคิดเห็นที่ 3
..
เจอคำถามแบบนี้บ่อยๆ เลยนะครับ ว่า เอาไงดี
นี่เป็นคำถามที่สวนทาง กับ เศรษฐกิจพอเพียง เลยทีเดียว
เพราะหลักการข้อหนึ่งของเศรษฐกิจพอเพียง คือ ต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดี
หมายถึงว่า หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่เป็นไปตามแผนนี้ๆ (หรือคนนั้นคนนี้บอก) คุณมีวิธีการรับมือ หรือ จัดการกับมันอย่างไร
นั่นหมายความว่า คำถามของคุณ ต้องการให้ใครสักคนบอกคุณว่า เอาอย่างนี้สิ เอาอย่างนั้นสิ แล้วคุณก็เลือกเอามาซักวิธีหนึ่ง
คุณอาจจะเลือกเข้าไปในกองทุนอันหนึ่ง หรือ อาจจะเลือกเข้าไปลงทุนกับหุ้นตัวหนึ่ง (ตามคำแนะนำที่คุณเลือก)
แต่ถามว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ตรงข้ามกับการตัดสินใจของคุณ คุณมีทางออกอย่างไร (อย่าลืมนะครับ แม้แต่การฝากเงินในธนาคารธรรมดา ไม่ได้ลงทุนอะไร คุณก็สามารถสูญเงินของคุณไปได้เหมือนกัน)
นี่เป็นเหตุผลที่ผมมาตอบกระทู้นี้
เพราะไม่มีใครหยั่งรู้อนาคตได้ พอที่จะฟันธงได้ถูกทุกครั้งไป
และการกระทำแบบนั้น ก็เหมือนกับพระใบ้หวย ซึ่งบอกใบ้ไปหลายๆ ครั้ง ก็ต้องมีสักครั้งที่ถูก และครั้งที่ถูกนั้น มีคุณเข้าไปร่วมได้ประโยชน์กับเขา แล้วคุณก็จะศรัทธาคนผู้นั้นมากขึ้น หากเขาบอกได้ถูกมากกว่าผิด
แต่ชีวิตคุณจะเสี่ยงกับการเดิมพันกับคำพูดของใครสักคนหรือครับ
สิ่งที่คุณควรจะใส่ใจค้นหาก็คือ คนที่เขาลงทุนและอยู่รอดได้ในตลาดหุ้น เขาทำอย่างไร
บางคนบอกว่า ให้คุณเดินตามครูเดินตามอาจารย์ไปก่อน ครูเลือกหุ้นตัวไหน ก็ให้เลือกหุ้นตัวนั้นตาม
แต่คุณคงไม่รู้ว่า ครูก็ผิดได้เหมือนกัน
และหากคุณทำอยู่อย่างนั้น คุณก็จะไม่มีทางเติบโตได้ เพราะครูคนนั้น สักวันก็ต้องตายไป ในขณะที่คุณยังคิดเองไม่เป็น คุณก็ต้องคอยพึ่งแต่คนอื่น (ครูคนใหม่) อีก
คุณจะคอยดูว่า เขาเลือกหุ้นตัวไหน แล้วคุณก็เลือกตาม คุณจะคอยดูว่า เขาเลือกกองทุนอันไหน แล้วคุณก็เลือกตาม
คุณอาจจะได้เงินบ้างเล็กๆ น้อยๆ หากวิ่งตามครูได้ทัน แต่คุณจะไม่รู้ว่า ทำไมเขาจึงเลือกหุ้นตัวนั้น ทำไมจึงเข้าซื้อในช่วงเวลาอย่างนั้น
เพราะคุณคอยแต่ถามเขาเสมอไป
สิ่งที่คุณต้องใส่ใจก็คือ ไปศึกษาเรียนรู้ว่า คนที่เขาร่ำรวยในตลาดหุ้นนั้น เขาคิดอย่างไร เขาวิเคราะห์อย่างไร เขาลงทุนอย่างไร
คนที่เขาร่ำรวยในตลาดหุ้นนั้น ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ แต่เพราะเขามีหลักในการคิด มีหลักวิเคราะห์ที่สมเหตุสมผล
แน่นอนว่า ไม่มีคนที่ทำตามหลักการใดๆ แล้วได้ผลลัพธ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่การรู้ทางหนีทีไล่ ทำให้เขารู้ว่าจะก้าวต่อไปอย่างไร และปลายทางนั้นมีอะไรรออยู่
วิธีการลงทุนนั้นมีหลากหลายวิธี และแต่ละวิธีก็มีระบบความคิดที่ต่างกันไป คุณต้องเลือกมาก่อนว่า วิธีการแบบไหนที่เหมาะกับคุณ
เมื่อเลือกแล้ว คุณต้องศึกษาว่า ในวิธีการนั้นๆ มีรายละเอียดปลีกย่อย มีทางหนีทีไล่อย่างไรบ้าง
บางคนชอบเรื่องกราฟ บางคนชอบเรื่องข้อมูลวงใน บางคนชอบดูพื้นฐาน บางคนชอบที่มันวิ่งขึ้นวิ่งลง
นี่ผมเองก็ไม่ได้รู้อะไรมากนะครับ (อาจจะเป็นการเอามะพร้าวห้าวไปขายสวนก็ได้)
แต่สิ่งที่ผมพูดนั้นเป็นความจริง ซึ่งไม่สำคัญหรอกว่า ผมสำเร็จจากตลาดหุ้นหรือยัง
ฝากให้พิจารณาดูนะครับ
..
จากคุณ :
ไม่เป็นดั่งใจ
- [
1 ส.ค. 50 00:08:18
]
|
|
|