ความคิดเห็นที่ 15
คุณ DD : ผมว่าน่าจะมีเวบversion Eng ของตลาดหลักทรัพย์ประเทศที่กองทุนนั้นจดทะเบียนนะครับ เหมือนอย่างของไทยก็มี www.set.or.th ที่เป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน
ผมไปเจอบทความข่าวจากsettrade.com ที่อยู่ในบอร์ดของ บลจ.ธนชาตครับ เลยพอรู้ละ criteriaของทาง Masterfund เขาคือ
"นายบุญชัยกล่าวว่า PICTET FUNDS (LUX) - PREMIUM BRANDS คัดเลือกหุ้นที่ผลิตสินค้าแบรนด์เนมมาเพียง 30-40 ตัวจาก 150 บริษัททั่วโลกเท่านั้น โดยพิจารณาจากความสามารถในการรักษายอดขาย และอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทเหล่านั้น และหากกำไรจากการดำเนินงานมีแนวโน้มลดลง จะขายหุ้นทำกำไรออกไป ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมีผลตอบแทนย้อนหลัง 2 ปี ที่ 47% และมีผลตอบแทน 6 เดือนแรกของปี 2550 ที่ 10%"
ก็คือสรุปคร่าวๆว่า เน้นซื้อ Leaders แล้วติดตามประเมินความสามารถอย่างใกล้ชิดน่ะครับ
http://www.thanachartfund.com/webboard/question.asp?QID=1261
เอาข่าวเต็มๆมาแปะให้ด้วยนะครับ "ช่วงที่ 2 กองทุนสินค้าพรีเมียม
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาต กล่าวผ่านรายการ Smart Money ว่า กองทุนเปิดธนชาตพรีเมียมแบรนด์ฟันด์ (T-PREMIUM) เป็นกองทุนที่มีแนวทางการลงทุนในรูปแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมมากในต่างประเทศ โดยลงทุนผ่าน PICTET FUNDS (LUX) - PREMIUM BRANDS ที่บริหารจัดการโดย Pictet Asset Management ซึ่งมีนโยบายการลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ผลิตสินค้าและบริการแบรนด์เนมเท่านั้น โดยแบ่งได้เป็น สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เครื่องใช้ทั่วไป เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องดื่ม ยานพาหนะ รวมถึงบริการต่าง ๆ เช่น โรงแรม เป็นต้น โดยเชื่อว่าเมื่อลงทุนในบริษัทที่ผลิตสินค้าและบริการสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับบนแล้ว จะทำให้สร้างผลกำไรที่ดีคืนกลับมาให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนได้
โดยเฉพาะในระยะนี้ที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของโลกได้เติบโตขึ้นมาก โดยเฉพาะในประเทศจีน อินเดีย ตะวันออกกลาง และรัสเซีย ที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ย 7-10% ส่งผลให้ประชากรมีความต้องการใช้สินค้าแบรนด์เนมเติบโตขึ้นมาก ขณะเดียวกันสินค้าแบรนด์เนมก็นับเป็นสินค้าที่มีจุดแข็งทางการตลาด เพราะมีคุณภาพสูง จึงมีความได้เปรียบในการกำหนดราคาส่งผลให้สินค้าเหล่านี้มีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยที่ 50%
นอกจากนี้ จากการสำรวจทางสถิติพบว่า ยอดขายสินค้าแบรนด์เนมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวถึง 38% ดังนั้น หากการท่องเที่ยวยังเติบโตได้ จะทำให้ความต้องการสินค้าเหล่านี้ยังมีความต้องการเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
สำหรับสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังที่ PICTET FUNDS (LUX) - PREMIUM BRANDS ลงทุน เช่น Louis Vuitton, Gucci, Prada, Hilton Hotels, Starwood Hotels, Harlay Davidson เป็นต้น
นายบุญชัยกล่าวว่า PICTET FUNDS (LUX) - PREMIUM BRANDS คัดเลือกหุ้นที่ผลิตสินค้าแบรนด์เนมมาเพียง 30-40 ตัวจาก 150 บริษัททั่วโลกเท่านั้น โดยพิจารณาจากความสามารถในการรักษายอดขาย และอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทเหล่านั้น และหากกำไรจากการดำเนินงานมีแนวโน้มลดลง จะขายหุ้นทำกำไรออกไป ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมีผลตอบแทนย้อนหลัง 2 ปี ที่ 47% และมีผลตอบแทน 6 เดือนแรกของปี 2550 ที่ 10%
สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนที่มีผลโดยตรงต่อผลตอบแทนของกองทุนเปิดธนชาตพรีเมียมแบรนด์ฟันด์นั้น นายบุญชัยมองว่า ปัจจุบันค่าเงินบาทได้แข็งค่าขึ้นมากแล้ว ดังนั้น ค่าเงินบาทจึงมีโอกาสอ่อนค่าลงได้ในช่วง 1-2 ปีหลังจากนี้ และหากได้ลงทุนในต่างประเทศตั้งแต่ระยะนี้ อาจทำให้นักลงทุนได้กำไร 2 ต่อ คือ จากส่วนต่างราคาหน่วยลงทุน และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ แต่หากค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นอีก บลจ. ธนชาตจะเป็นผู้บริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนให้เอง
นายบุญชัยกล่าวด้วยว่า กองทุนเปิดธนชาตพรีเมียมแบรนด์ฟันด์ เป็นกองทุนที่มีลักษณะอนุรักษ์นิยม เนื่องจากหุ้นที่ลงทุนแม้ว่าจะปรับลดลงมากเมื่อเกิดโรคระบาดและเหตุก่อการร้ายที่มีผลโดยตรงกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภค แต่เมื่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัวขึ้นแล้ว หุ้นประเภทนี้จะสามารถพลิกกลับมาได้รวดเร็วกว่าหุ้นประเภทอื่น จึงเหมาะสมกับนักลงทุนทุกวัย
กองทุนเปิดธนชาตพรีเมียมแบรนด์ฟันด์ มีขนาดกองทุน 2 พันล้านบาท เปิดเสนอขายวันแรกระหว่างวันที่ 7-16 ส.ค. ยอดเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท ซึ่งหากซื้อในระยะนี้จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแรกเข้า และจากการที่บลจ. ธนชาตสนับสนุนให้ลงทุนต่างประเทศในระยะยาว จึงกำหนดให้ผู้ที่ต้องการถอนหน่วยลงทุนเสียค่าธรรมเนียมขาออก 2% ในปีแรก และทยอยลดลงจนเหลือ 0% ในปีที่ 3
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บลจ. ธนชาต โทรฯ 0-2263-0800 "
จากคุณ :
EncodeO
- [
5 ส.ค. 50 00:53:43
]
|
|
|