Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    อยากแนะนำมือใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเริ่มเทรดหุ้นสักนิดนะครับ

    ขอออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้เก่งกาจอะไรนะครับ แล้วก็เคยเจ๊งกับการเล่นหุ้นมาเป็นจำนวนเงินมากแล้ว (ผมใช้คำว่าการเล่นหุ้นนะครับตอนเจ๊ง) แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนมาเป็นการลงทุนในหุ้นแล้ว ไม่ใช่เล่นหุ้นอย่างในอดีต

    อยากแนะนำน้องๆที่เพิ่งเข้ามาใหม่ หรือกำลังจะเข้ามาลงทุนในหุ้น หรือเล่นหุ้นก็เถอะว่า ทุกๆคนที่ก้าวเข้ามาก็หวังผลกำไรจากการลงทุนทั้งสิ้น แต่ตลาดหุ้นเป็นตลาดที่มีความผันผวนมาก ความเสี่ยงสูง ตัวแปรเยอะ

    โดยเฉพาะตลาดหุ้นบ้านเรามีหุ้นตัวที่คิดว่าควรจะลงทุนระยะยาวได้ไม่ถึง 20% ด้วยซ้ำ(ในความเป็นจริง) ที่เหลือจะเป็นหุ้นปั่น หุ้นเน่า หุ้นเล่นข่าว หุ้นมีเจ้ามือ และอีกสารพัดหุ้นที่ไม่สามารถลงทุนระยะยาวได้เลย


    ผมขอเอาบทเรียนของตัวเองมาแบ่งปันให้กับน้องๆมือใหม่และคนที่กำลังจะก้าวเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นนะครับว่า อย่าโลภเลยครับ

    เมื่อคุณเข้ามาใหม่ๆคุณจะเห็นหุ้นบางตัว ในบางจังหวะที่ตลาดเป็นใจ ทำการปั่นราคาโดยไม่มีเหตุผลที่หุ้นตัวนั้นๆควรจะปรับราคาขึ้นอย่างรุนแรงแบบนั้น ซึ่งก็คือพวกหุ้นปั่นนั่นเอง

    ผมไม่ใช่มือเก๋าอะไร และก็เคยโลภมาก่อน สมัยก่อนที่ลงทุนใหม่ๆก็เคยผิดวินัยมานักต่อนักแล้ว และก็กระโจนเข้าใส่หุ้นเหล่านี้ด้วยความโลภ

    ถ้าคุณลงทุนในหุ้นเหล่านี้มันจะเหมือนคุณเล่นการพนันกลายๆ คือยิ่งได้ยิ่งโลภ สุดท้ายแล้วก็คืนเจ้ามือไปหมดรวมทั้งทุนของคุณเองด้วย เพราะฉะนั้นไม่ว่าราคาหุ้นปั่นเหล่านี้จะขึ้นไปเท่าใดก็ขอให้มองหุ้นเหล่านั้นด้วยความมั่นใจว่า " มันไม่ใช่ทางของเรา"

    ทางของเราคือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ มีความเสี่ยงที่ยอมรับได้ แต่ไม่ใช่การลงทุนแบบการพนัน นี่คือกฏข้อแรกที่ผมอยากแนะนำสำหรับมือใหม่และคนที่กำลังจะก้าวเข้ามา

    ผมเองยอมรับว่าเข็ดกับการลงทุนไปหลายปี แต่ในขณะที่เจ๊งหมดเงินไปหลายและออกไปนั่งมองอยู่นอกตลาดหลายๆปี (แต่ยังติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวโดยรวมอยู่สม่ำเสมอ) ก็พบว่าตลาดหุ้นมีไซเคิลของมัน คือขึ้นๆลงๆ

    ถ้าคุณจับจุดได้ถูกผมว่าน่าจะหากำไรจากมันได้ไม่ยากเย็นนัก ผมจึงเปลี่ยนสไตล์การลงทุนของผมเป็นการซื้อตอนที่ตลาดเป็นตัวแดงๆ มันเป็นกลยุทธ์ที่สุดแสนจะง่าย และเบสิคที่สุดแต่กลับหานักลงทุนที่จะใจเย็นรอแบบผมได้ยากนัก

    ยกตัวอย่างเช่นตลาดหุ้นในระยะสองสามเดือนมานี้ ตอนที่หุ้นเขียวปี๋ทั้งกระดาน ดัชนีทยานขึ้นนับร้อยจุดในระยะเวลาอันสั้น ผมได้แต่ติดตามข่าวสาร นั่งดูราคาหน้าจอทุกๆวัน แต่ไม่เคยคิดจะโดดเข้าไปลงทุนในเวลานั้นเลย

    เพราะความพยายามที่จะรักษาวินัยของผม และรู้ว่าถึงจุดๆนึงนักลงทุนต่างชาติจะต้องขายทำกำไรออกมาแน่นอน ประกอบกับผมมองตลาดหุ้นกับภาวะเศรษฐกิจบ้านเราในขณะนี้นั้นไม่ได้สอดคล้องกันเลย

    ใครที่ทำการค้าน่าจะรู้ดีว่าเศรษฐกิจขณะนี้เป็นเช่นไร แต่ตลาดหุ้นบ้านเรากลับวิ่งสวนทางเศรษฐกิจแบบไม่มีเหตุผล โดยในขณะที่หุ้นวิ่งขึ้นเอาๆ นักวิเคราะห์ทั้งหลายก็จะหาเหตุผลมาสนับสนุนดัชนีที่กำลังวิ่งอย่างเมามันส์

    แต่ถ้าเราคิดพิจารณาตามเหตุผลที่แท้จริงจะพบว่าสภาพเศรษฐกิจขณะนี้ไม่ได้เป็นใจให้ตลาดหุ้นขึ้นได้เลยแม้แต่น้อย ที่มันขึ้นๆอยู่เดือนสองเดือนนี้นั้นล้วนมาจากการเก็งกำไรของเงินทุนจากต่างชาติทั้งสิ้น

    ในขณะที่พิมพ์อยู่นี้ผมไม่มีหุ้นอยู่ในมือเลย ขณะที่นักลงทุนรายย่อยแย่งกันขายหนีตายออกมานั้น ผมกลับนั่งมองตัวเลขดัชนีด้วยความมั่นใจว่า การลงทุนครั้งต่อไปของผมย่อมทำกำไรให้กับผมได้อย่างแน่นอน

    ยิ่งดัชนีลงมากเท่าไหร่ยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้ผมมากเท่านั้น เพราะผมจะซื้อในตอนที่ตลาดซบเซา ไม่ใช่ซื้อตอนตลาดกำลังลงนะครับ

    คือลงไปจนคนเริ่มไม่สนใจตลาดหุ้นแล้วนั่นแหละ ผมถึงจะเข้าซื้อหรืออีกกรณีในเหตุการณ์ที่เกิดการ panic เทขายกันออกมามากๆ ดัชนีร่วงจนต่ำกว่าพื้นฐานที่ควรจะเป็น

    ช่วงนั้นจึงจะเป็นช่วงที่ผมเข้าซื้อหุ้น และต้องอดทนถือในบางครั้งนานหลายเดือน หรือบางครั้งอาจจะนานนับปี ด้วยความมั่นใจ และขายหุ้นออกมาในภาวะที่นักลงทุนทั่วไปมั่นใจสุดๆ ซื้อกันแบบกลัวตกรถ นั่นคือเวลาที่ผมขายหุ้นออกมาครับ

    ด้วยการลงทุนแบบนี้จะทำให้ต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน ในบางครั้งบางปีผมได้เทรดแค่ครั้งหรือ สองครั้งเท่านั้น

    แต่กลับทำให้ผมทำกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ และรู้สึกว่าน่าจะแบ่งปันประสบการณ์การลงทุนอันน้อยนิดของผมให้กับนักลงทุนมือใหม่ หรือคนที่กำลังสนใจจะก้าวเข้ามาลงทุนในหุ้น ได้รับรู้วิธีการเอาชนะตลาดหุ้นอีกรูปแบบหนึ่ง

    ซึ่งเป็นวิธีลงทุนที่ไม่มีเทคนิคอะไรซับซ้อนเลย เพียงแต่ต้องอาศัยประสบการณ์ และการติดตามราคาและดัชนีของตลาดโดยรวมเป็นประจำเท่านั้น ก็จะทำให้การลงทุนของเราประสบความสำเร็จได้

    ผมประเมินนิสัยนักลงทุนไทยส่วนใหญ่มักจะใจร้อน กลัวตกรถ กลัวซื้อหุ้นไม่ทัน กลัวว่าราคาจะแพงกว่านี้ถ้าซื้อช้า ซึ่งเป็นการเล่นตามกระแสแทบทั้งนั้น

    คนส่วนใหญ่มักจะเข้าซื้อหุ้นตอนตลาดกำลังทะยานและยิ่งไล่ซื้อหนักเมื่อดัชนีและราคาหุ้นโดยรวมทั้งกระดานวิ่งขึ้นทั้งแผง แต่ความเสี่ยงมันอยู่ที่ตรงไม่มีใครรู้ว่าราคาที่เราไล่ซื้อไปนั้นมันสูงเกินไปหรือยัง เมื่อนักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นเหล่านั้นออกมา จึงมักจะมีนักลงทุนรายย่อยติดดอยอยู่เป็นประจำ

    กระทู้ที่ผมตั้งขึ้นมานี้ไม่บังอาจไปสอนนักลงทุนมือเก๋าทั้งหลายที่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชนแล้ว แต่หวังจะให้ประสบการณ์ของผมเป็นบทเรียนให้กับนักลงทุนรุ่นใหม่นำไปพิจารณาประกอบการตัดสินใจเวลาที่จะซื้อขายหุ้น

    การลงทุนแบบผมต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน วันๆได้แต่นั่งดูคนอื่นเล่น และต้องรักษาวินัยอย่างเคร่งครัด ขายเมื่อถึงเวลาที่สมควรขาย ซื้อเมื่อถึงเวลาที่สมควรซื้อ ไม่โลภเมื่อเห็นราคาหุ้นกำลังวิ่งทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    เมื่อถึงจุดที่เราตั้งเป้าเอาไว้ก็ต้องขาย นี่เป็นวิธีการลงทุนที่สุดแสนจะง่ายดาย แต่อาจจะทำตามลำบากนิดสำหรับคนใจร้อน แต่ผมขอยืนยันได้ว่า ถ้าคุณทำได้ตามนี้ คุณจะทำกำไรได้แทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุนเลย

    และผมได้พิสูจน์มาแล้วว่า สามารถสร้างกำไรได้มากกว่าการนั่งเทรดทุกวันอีกด้วย คุณจะมีเวลาเอาไปทำงานอย่างอื่น โดยติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวอยู่แบบห่างๆ ปล่อยให้เงินของคุณทำงานแทนคุณไปเรื่อยๆ

    สำหรับนักลงทุนมือเก่าที่ผ่านประสบการณ์มามากแล้ว หากกระทู้ของผมมีการแนะนำอะไรที่ผิดไปจากที่ควรจะเป็น กรุณาชี้แนะด้วยนะครับ จะได้เป็นประโยชน์ให้กับน้องๆมือใหม่และคนที่สนใจจะเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์บ้านเราในอนาคต ขอบคุณครับ

    จากคุณ : นักลงทุนระยะยาว - [ 10 ส.ค. 50 11:54:03 A:124.120.62.82 X: TicketID:106043 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom