PANTIP.COM : I5706056 ตัดเท้าให้เข้ากับรองเท้า วิเคราะห์สาเหตุที่หุ้นตก ..... b n' b []

ตัดเท้าให้เข้ากับรองเท้า วิเคราะห์สาเหตุที่หุ้นตก ..... b n' b

คนสินธรสมัยก่อน มีคำพูดเจ็บๆไว้ล้อเลียนคนวิเคราะห์หุ้นเวลาหุ้นขึ้นหรือตกว่า
เป็นพวกชอบตัดเท้าให้เข้ากับเกือก เลยเอามาจั่วหัวเสียเลย กันคนว่าไว้ก่อน

ว่ากันภาษาชาวหุ้นคงจะไม่เป็นไร จริงมั่งฝอยมั่ง ไม่ต้องอ้างอิงหลักวิชาใดๆ
ผิดถูกคงไม่ว่ากัน เอามาคุยเล่นกันวันหยุด

ทำไมหุ้นตก............................
ครับคงหูชากันไปแล้วกับSubprime หนี้อสังหาคุณภาพรอง
พวกเครดิตต่ำกว่าเกณฑ์ ที่ขอกู้ซื้อบ้าน ในสหรัฐ
การกู้คุณภาพรองเหล่านี้คือ Sub-prime loan ที่ว่า
หลายคนอาจสงสัย รู้ว่าเครดิตไม่ดีแล้วไปให้เขากู้ทำไม
โธ่คุณ จะมีอะไรดีกว่าหากินกับคนจน ไม่เชื่อไปถามยายเมี้ยนปากซอย
ไม่มีปากมีเสียงแถมโขกดอกเบี้ยได้แพงๆ
แบงค์ดีดลูกคิดรางแก้วแล้วก็ให้กู้ เอาสินทรัพย์(บ้าน)เป็นประกัน

เพราะรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นของร้อน มีฝีมือซะอย่าง
แบงค์ ก็จัดแจงออกตัวต้วยความชำนาญ เอาความเสี่ยงของหนี้เหล่านี้ไปขายต่อให้ชาวบ้าน
โดยรวมลูกหนี้เหล่านี้เข้าเป็นชุดๆทำเป็นตราสารอนุพันธ์ ตั้งชื่อเพราะๆ
ใช้สินทรัพย์ของพวกที่กู้เป็นหลักประกัน แล้วขอให้พวกบริษัทหากินกับเครดิตออกเครดิตเรตติ้งให้หน่อย
เท่านี้ก็เอาไปเร่ขายได้
พวกเฮ็ดฟันด์เห็นผลตอบแทนดี (เห็นว่าได้กัน9-10%คำสารภาพของ BT)ก็ซื้อกันอุดตลุด
และตามแบบฉบับของเฮ็ดฟันด์ที่ดี มีทุน 1ต้องซื้อ 5
(ก็กู้แม่อีก4 นั่นแหละ วิธีนี้ทำกำไรง่ายๆ สมมุติได้ส่วนต่างเงินกู้กับผลตอบแทนCDO=2%
เท่ากับทำกำไรให้ผู้ถือหน่วย 9+(4x2)=17% สบายแบบเบิร์ดๆเลย)
ก็ขายกันต่อๆไป มันก็แพร่ไปทั่วโลก เห็นว่าเมืองไทยก็มีหลายแบงค์ที่ซื้อไว้
(แบงค์ชาติไทยบอกว่าCDOพวกนี้มีประมาณ 700ล้านUSD เป็น subprime ประมาณหนึ่งในหก
ก็คงประมาณ 110ล.เหรียญ ประมาณ 3740ล.บาท จริงเปล่าไม่รู้ ใครเขาจะบอก)

แล้วก็ถึงเวลาที่ระเบิดเวลาทำงาน หนี้คุณภาพต่ำ ก็ต้องเป็นหนี้คุณภาพต่ำ ที่ไม่จ่ายหนี้วันยังค่ำ
สองอาทิตย์ที่แล้วก็เริ่มปะทุเป็นข่าว คนก็เริ่มเห็นท่าไม่ดีขายหน่วยลงทุนหนีตาย
พอเเป็นข่าว สภาพคล่องของตราสารพวกนี้ก็เหือดหาย
(ถึงตอนนี้ทุกคนก็มีดวงตาเห็นธรรมขึ้นมาเชียว ครายจะไปโง่ซื้อต่อวะ)
กองทุนนั้น ต้อง Mark to market พอไม่มีคนซื้อ ตราสารพวกนี้มูลค่ามันเข้าไกล้ศูนย์เข้าไปทุกที
คนเห็น NAVของกองทุนซึ่งหมายถึงเงินในกระเป๋าของตัวเองลดลง ก็ยิ่งตกใจขายกันเป็นวงจรอุบาทว์
กองทุนต่างๆต้องเริ่มหาเงินมาคืนผู้ถือหน่วย

ตามทุภาษิตของแบงค์และสถาบันการเงินที่ถือเป็นสโลแกนหลัก "ฝนตกต้องเอาร่มคืน"
นอกจากไม่ให้เงินกู้พวกกองทุนแล้ว ยังดึงเงินกู้คืนเสียอีก
ทำให้ตลาดเกิดภาวะเงินตึงตัวขนาดหนัก(ไม่มีใครให้ใครกู้ระแวงกันไปหมด)
เฮ็ดฟันด์ก็กลายเป็นเฮ็ดหยัง ประกาศระงับการจ่ายเงินกันเป็นแถว ตามที่เป็นข่าว

พอตลาดขาดเงิน ก็เป็นกรรมของไอ้ปื๊ด ขายหุ้นซีครับ
เป็นวิธีหาเงินได้เร็วที่สุด สภาพคล่องดีทีทีสุด
พอเริ่มขาย คนที่ไม่เกี่ยวอย่างคุณอย่างผมก็ช่วยกันถล่มขายด้วย
ตามหลักการ วิ่งหนีก่อนย่อมได้เปรียบ
อาทิตย์ที่แล้วหุ้นก็ตกกันทั้งโลกอย่างที่เห็นกัน

ถามว่ามันจบแล้วยัง ............................
ผมว่ามันจบแล้วนะ จากที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆประกาศอัดเงินกันเป็นการใหญ่
จำนวนเงินน่าจะมากพอที่ดึงความเช์อมั่นของผู้ถือหน่วยคืนมา
ส่วนจะตอกฝาโลงให้เรื่องนี้จบสมบูรณ์ นั้นให้รอดู
เมื่อใดที่กองทุนอีแร้งเริ่ม ลงมากินซากตราสารอนุพันธ์พวกนี้ ด้วยราคาที่ขายไปร้องไห้ไป
สภาพคล่อง ก็จะกลับคืนมา แล้วตลาดก็เป็นปกติสุขอีกครั้ง

จนกว่า แมลงสาบตัวใหม่จะโผล่ออกมาตามทฤษฎีแมลงสาบของผมที่ว่า
เมื่อไรที่คุณเห็นแมลงสาบหนึ่งตัว เชื่อขนมกินได้เลยว่ามันยังมีอีกแยะ

จบแล้วครับ ขอบคุณ

สุขสันต์วันแม่ครับ

ถ้าพอจะมีคุณงามความดีอยู่บ้าง ขออานิสงค์นั้นเกิดแก่แม่ที่ยิ่งใหญ่ทุกคนของแผ่นดินนี้
ตลอดจนตัวประกันชาวเกาหลี ผู้ที่หลายคนเป็นแม่ และหลายคนเป็นลูกที่แม่กำลังร้องไห้ห่วงใย
ขอให้รอดปลอดภัย ให้ธรรมดลใจตาลีบันไห้ปลดปล่อยผู้บริสุทธิ์เหล่านั้นเสียเถิด........

จากคุณ : K.nobody - [ วันแม่แห่งชาติ 12:47:18 ]