ความคิดเห็นที่ 1 วิธีการที่ผมใช้อยู่ ผมอายุ 23 เงินเดือน 17000 ทำงาน 1 ปี 6เดือน 1. เปิดบัญชีเงินฝากทวีทรัพย์ฝากทุกเดือนๆละ 1000 เล่นๆ 24 เดือน บัญชีประเภทนี้ถอนไม่ได้ต้องรอครบกำหนดเท่านั้น ให้บริการโดยธ.กสิกรไทยแต่ธ.อื่นๆ ก็มี 2. มีบัญชีสำหรับเก็บเงิน 20% ของเงินเดือนเป็นบัญชีออมทรัพย์ธรรมดาแบบไม่มี ATM จะได้ไม่ต้องกดผมเปิดกับกรุงไทยเค้าดีตรงไม่ตื้อให้ทำบัตรATM 3. มีวงเงิน Ready credit 1 บัญชีเคยเดินบัญชีบ้างแต่กดน้อยรีบใช้คืนเสียดอกน้อยมากๆ เอาไว้ใช้เวลาหมุนเงินไม่ทันหรือฉุกเฉินจริงๆ เท่านั้น 4. มีบัตรเครดิต 3 ใบ 3 ธนาคาร ใช้เท่าที่จำเป็น จำไว้ว่าบัตรเครดิตไม่ใช่กระเป๋าโดเรม่อน ใช้แล้วต้องจ่ายคืนเต็มจำนวน ย้ำว่าเต็มจำนวน ไม่งั้นเป็นหนี้บาน... 5. ไม่ใช้เงินเกินตัวถึงจะมีบัตรเครดิตแล้วแต่เวลาอยากได้อะไรก็ยังต้องเก็บเงินซื้อ(ผ่านบัตรแล้วปลายเดือนค่อยจ่ายเต็มจำนวน) ได้ทั้งแต้ม ทั้งเงินคืน cash back คุ้มดี ส่วนถ้าคุณมีเงินเหลือมากก็อาจนำไปลงทุนด้านอื่นเช่น ตราสารหนี้ (ความเสี่ยงน้อยกว่าหุ้น มากกว่าเงินฝาก) กองทุนรวม หรือ อื่นๆ การฝากประจำหรือทำประกันให้เป็นทางเลือกท้ายๆ นะคับเพราะฝากประจำต้องหักภาษีด้วยผลตอบแทนได้น้อยในขนะที่เงินต้องจมอยู่นาน ส่วนประกันชีวิตที่บอกว่าออม นั้นให้เน้นว่าทำเพื่อหาหลักประกันในชีวิตยามตกยาก เท่านั้น ผมใช้วิธีนี้คุณลองทำดู...ชีวิตพอเพียงครับ จากคุณ : คนกลาง (jojo_new11) - [ 26 ส.ค. 50 00:34:14 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สวัสดีครับ  ยินดีด้วยกับการทำงานได้ 4  เดือนแล้วมีความคิดในการบริหารเงินเดือนและการเตรียมตัวกับอนาคตที่จะเข้ามา -ทำเป็นบัตรเครดิตน่าจะดีกว่าอย่างอื่น ด้วยเงินด้วย 16000  บาทจะได้วงเงิน  30000-40000  บาท ทำที่ได้ก็ได้ครับแต่ขอเป็งแบงค์ไทยๆ ก็ดีนะครับ ถ้าทำงานสัก 6  เดือนก็จะของ่ายขึ้น ( แต่ขอฝากไว้นะครับว่า ให้คิดว่ามีบัตเครดิตไว้ใช้ตอนฉุกเฉิน จริงๆ  ตามที่ติดไว้ตั้งแต่ต้น ) -ก็ดีครับ  จริงฝากที่ไหนก็ดีครับพยายาม ออมให้เยอะที่สุดนะครับอย่างน้อยก็ 30% ( หรือมากกว่าถ้าทำได้ ) ของรายได้ทำให้ต่อเนื่อง -เดี๋ยวจะมีพี่ที่เก่ง ๆมาแนะนำเพิ่มเติมครับ ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผิดถูกขออภัยครับ จากคุณ : boy2000 (boy2000) - [ 26 ส.ค. 50 00:40:26 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Impressive มากครับคุณ คนกลาง (jojo_new11)  ถือว่าเป็นการวางแผนการงินได้ดีมากครับ จากคุณ : K-phone - [ 26 ส.ค. 50 09:05:31 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณพี่สามคนข้างบนมากนะคะ ยังความเห็นพี่ๆท่านอื่นอีกนะคะ ทีนี้ถามต่อพี่ๆข้างบนอีกนิดนึง -------->ส่วนประกันชีวิตที่บอกว่าออม นั้นให้เน้นว่าทำเพื่อหาหลักประกันในชีวิตยามตกยาก เท่านั้น<----------- ประกันชีวิตทั่วไปเหรอคะ มีประเภทไหนหรือที่ไหนเป็นพิเศษไหมคะ พอดีคิดๆจะทำประสุขภาพ เพราะกลัวปุ๊ปปั๊ปป่วยเป็นอะไรขึ้นมาเราไม่มีเงินก้อนใากพอหรอกค่ะ เผื่อผ่าตัด อะไรแบบนี้ ถ้าเป็นประกันสุขภาพมีแบบได้ออมด้วยไหมคะ ที่ไหนมีบ้าง และอีกข้อ 5. ไม่ใช้เงินเกินตัวถึงจะมีบัตรเครดิตแล้วแต่เวลาอยากได้อะไรก็ยังต้องเก็บเงินซื้อ(ผ่านบัตรแล้วปลายเดือนค่อยจ่ายเต็มจำนวน) ได้ทั้งแต้ม ทั้งเงินคืน cash back คุ้มดี -ปกติก็เก็บเงินซื้ออยู่เเล้วค่ะ แต่ถ้าใช้บัตรจ่ายแล้วสิ้นเดือนเราจ่ายคืนบัตรเต็มจำนวน เราไม่เสียดอกเบี้ยเหรอ ค่ะ แล้วทำอย่างนี้จะถือว่าไม่ค่อยใช้บริการบัตร บริษัทที่ให้บัตรไม่ได้กำไรจะถือว่าเราเป็นลูกค้าชั้นไม่ดี ไม่มีพิจารณาขยายวงเงินให้ไหมคะ จากคุณ : สู้เพียงลำพัง (จขกท) - [ 26 ส.ค. 50 12:11:32 A:58.8.118.74 X: TicketID:153722 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สิ้นเดือนจ่ายเต็ม  เราไม่เสียดอกเบี้ย ครับ Bank ได้ดอกเบี้ยจากร้านค้าที่รูดบัตรไปแล้วประมา๊ณ 1.2% และจะได้ดอกเบี้ย เพิ่ม ถ้า เราจ่ายไม่เต็มยอด จากคุณ : Symbian - [ 26 ส.ค. 50 16:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แวะ  ... มาทักทาย จากคุณ : ZORO_007 - [ 26 ส.ค. 50 17:40:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 กระทู้ดี ครับ อืม ถ้าเราจ่ายเงินตรงเวลา ไม่ค้างชำระ อันนี้สิ ถึงจะเรียกว่า เราเป็น ลูกค้าที่มีเครดิต ดีครับ เสริมนิด   ผมว่า ทำพวก ประกันสุขภาพไว้ก็ดีนะครับ อันนี้เพิ่มเติม กรณีที่หากว่า ที่บริษัทที่ทำงานอยู่ไม่มีสวัสดิการตรงนี้ให้ แต่ถึงมี ทำไว้ ก็ดีเหมือนกัน เพราะเราอายุยังน้อย เบี้ยประกันมันไม่แพงมาก จากคุณ : บอย (ac_boykung) - [ 26 ส.ค. 50 20:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตอบข้อ 5 ของ จขกท ครับ บริษัทที่ให้บริการบัตร เค้าได้ค่าบริการ 1-3 % จากร้านค้าอยู่แล้วครับ ยิ่งใช้บัตรเยอะเค้ายิ่งชอบ แล้วก็ชอบให้ชำระเต็มด้วยครับ ถ้าชำระขาด บ่อยๆ โอกาสเป็น หนี้สูญก็เยอะ เค้าคงไม่เสี่ยงหรอกครับ จากคุณ : โจ (k_jojo) - [ 27 ส.ค. 50 01:29:16 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ต้องแยกระหว่างประกันชีวิตกับประกันสุขภาพนะครับเพราะมันต่างกัน ถ้าประกันสุขภาพเท่าที่ผมทราบมามีหลายบริษัทเปิดให้บริการแต่ก็ไม่มาก ดีตรงที่มันเบิก OPD ได้ด้วยส่วนค่าอื่นๆ ก็ตามสัญากำหนด บางบริษัทมีบัตรให้ไม่ต้องเสียเวลา Fax เคลม สามารถยื่นบัตรเค้ารักษาได้เลย ลักษณะสัญญาปีต่อปีเบี้ยแพงอยู่เหมือนกันน่าจะประมาณ 5 พันขึ้นไปขึ้นอยู่กับอายุและระดับอาชีพ (ภาษาประกัน) ไม่มีผลประโยชน์ตอนสิ้นกรมธรรม์ดูๆแล้วถ้าปีนึ่งๆ คุณเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ จะคุ้ม แต่ถ้าเข้าบ่อยๆ ก็อาจปรับเบี้ยขึ้นในปีต่อไป ส่วนประกันชีวิตเท่าที่ทราบส่วนใหญ่นั้นยังไม่คุ้มครอง OPD (อันนี้ไม่แน่ใจแต่คิดว่าว่าส่วนใหญ่ครับ) แต่ดีตรงถ้าเป็นผู้ป่วยในก็เบิกได้ตามที่กรมธรรม์กำหนด(ไม่ได้ทุกโรค) บางเจ้าอาจให้ผลประโยชน์ตอบแทนระหว่างสัญญา ทุนประกันก็มักเริ่มตั้นที่ 1 แสน แต่หลักใหญ่ใจความของการทำประกันชีวิตนั้นเป็นการทำเพื่อหาหลักความมั่นคงในชีวิตส่วนในรูปแบบของการออมเงินนั้นส่วนตัวผมคิดว่าเป็นผลพวงมากกว่าครับ จริงๆ แล้วสำหรับประกันบางแบบที่ไม่มีผลประโยชน์ตอบแทนระหว่างสัญญา เบี้ยอาจถูกว่าพวกมีผลประโยชน์ด้วยซ้ำไป...ถ้าคิดจะทำประกันชีวิตจริงๆ ศึกษารายละเอียดของแบบประกันหลายบริษัทให้ดีครับ มีข้อดีข้อเสียต่างกัน และที่สำคัญต้องคำนึงถึงว่าจะต้องมีกำลังเงินในการส่งเบี้ยไปตามที่สัญญากำหนดนั่นแหละเราถึงได้ประโยชน์สูงสุดจากประกันชีวิตครับ จากคุณ : คนกลาง (jojo_new11) - [ 27 ส.ค. 50 09:50:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าจะคุณแม่ยังอายุไม่ถึง 60 ไม่มีโรคประจำตัวอะไรตอนนี้ น่าจะลองศึกษาการทำประกันชีวิตให้คุณแม่นะ เดี๋ยวนี้มีหลายแบบทั้งประกันชีวิต+ประกันสุขภาพ มีทั้งระยะสั้นระยะยาว น่าจะได้ประโยชน์กว่าทำประกันสุขภาพให้ตัวเอง เพราะเงินเดือนขนาดนี้บริษัทน่าจะมีสวัสดิการหลายๆ อย่างที่คุ้มครองได้พอสมควร อย่างน้อยก็ประกันสังคม ซึ่งถ้าเลือกดีๆ อาจจะโชคดีเหมือนเรา คือได้โรงพยาบาลดี แม้ป่วยบ่อยก็ไม่เคยเจอปัญหากับการใช้ประกันสังคมเหมือนที่คนอื่นเจอ (โชคดีมากๆๆ) แตกต่างจากคุณแม่ แม้จะมีสวัสดิการจากราชการ แต่ตอนนี้ก็มีส่วนที่เบิกไม่ได้อยู่เยอะมาก ยิ่งอายุมากยิ่งป่วยบ่อยและหนักขึ้น ตอนนี้เลยเสียดายที่เมื่อก่อนไม่ได้คิดทำประกันไว้ มาทำตอนนี้ก็สายไปแล้ว ลองเอาบทเรียนจากเราไปหาทางหนีทีไล่ดูนะ จากคุณ : เสียงลมหนาว - [ 28 ส.ค. 50 20:35:44 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เข้าใจเลย เพราะ เราก็ไม่อยากพึ่งใครเหมือนกัน เราว่า บัตรเครดิต อ่ะ น่าทำนะ เพราะยามฉุกเฉิน น่ะ มันช่วย ชีวิต เราจริง ๆ แต่ ขอย้ำ ว่าให้ใช้เฉพาะยามฉุกเฉิน นะ ส่วนตัวเรา มีใบเดียว สำหรับจำเป็น จริง ๆ จะเน้น ใช้เงินสดมากกว่า จะได้ ไม่กล้าใช้เยอะ ส่วนเรื่องประกันชีวิตน่ะ เราว่า ก็ออม ไว้ใช้ตอนแก่ ก็ได้นะ ลองเลือกดูมีหลากหลายมาก ถ้าสนใจ เราจะส่งรายละเอียดให้ มีแบบปี ละ 6-7 พันก็มี ไว้มีตังเราก็ค่อยซื้อเพิ่ม งัยก้อเมล์มาขอรายละเอียดเราได้เพื่อเอาไปเปรียบเทียบ เสิรมนิดค่ะ เราว่าคุณแม่ น่าทำสุขภาพอ่ะค่ะ ถ้าท่านยังไม่มี น่ะเคยได้ยินมั๊ยค่ะ เค้าว่า เจ็บป่วยครั้งเดียว แทบหมดตัวอ่ะค่ะ จากคุณ : parueda@hotmail.com - [ 2 ก.ย. 50 14:53:12 A:124.120.177.141 X: TicketID:102350 ]