Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ลองตอบคำถามคุณ author unknown...คำตอบสุดท้ายคือ.....{แตกประเด็นจาก I5767016}

    ขอเฮียสัก2เรื่อง  
    เรื่องกลวิธีการคัทลอส

    กับ

    "การสู้กับอารมณ์ตัวเอง แบบคุณ KENG76"

    จากคุณ : author unknown


    ผมมาลองนึกๆดูแล้ว
    ขอตอบว่า  
    การควบคุมอารมณ์หรือวิธีการลงทุนของเรา
    มันเป็นเรื่องของ  

    "ปัจจัยพื้นฐานสะสมของแต่ละคน ซึ่งมีไม่เท่ากัน"

    เรื่องต่างๆ บอกเล่าให้ฟังกันได้  
    เรียนรู้กันได้
    แต่นำที่เรียนรู้ มาทำให้เกิดประโยชน์
    ได้หรือไม่ได้  
    มันขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานสะสมของแต่ละคนนั่นแหละ


    เอาเรื่องคัทลอสก่อน

    สำหรับคนที่ไม่เคยคัทลอสมาก่อน
    มันไม่ใช่เรื่องที่จะฝึกได้ง่ายๆ
    กว่าผมจะทำได้อย่างจริงจัง
    ก็ใช้เวลาเกือบสามสิบปี !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    ปัจจุบันนี้
    ถ้าหุ้นที่กะว่าจะถือแบบ vi  ไม่เป็นไปตามที่คิด
    ผมจะยอมคัทลอสไปตามปัจจัยพื้นฐานของหุ้น
    ถ้าเป็นหุ้นกลุ่ม ๔  อย่างยืดเยื้อ
    โดยมีค่าพีอีเพิ่มขึ้นสูงมากๆ อย่างรวดเร็วและยาวนาน
    ยิ่งถ้าไม่มีเงินปันผล  มีหนี้สินต่อทุน สูงเกินสองต่อหนึ่งขึ้นไป
    ยอมทิ้งแบบ ขายทุกราคาที่มีคนตั้งซื้อ (เช่นหุ้น sun)

    แต่วิธีนี้ทำให้เจ๊งหนักๆได้  
    เพราะกว่าviจะรู้ ก็สายเสียแล้ว
    พวกvs เขาลงมือไปตั้งแต่
    หุ้นออกมาอาการผ่านเส้นกราฟ
    หุ้นตัวหนึ่งในหมวดอัญมณี
    กว่าจะยอมขายทิ้ง ตามปัจจัยพื้นฐานที่รู้ล่วงหน้า
    จากแหล่งข่าวดิวิสั้นสาม (หาจากเนตกับโทรถาม)
    มันก็ลงจากยี่สิบกว่าบาท มาเหลือให้ขายได้ที่สิบสี่บาท

    yuckyuckyuckyuckyuckyuckyuckyuckyuckyuck

    ถ้าเป็นหุ้นแบบวีเอสโอพี
    ประเภทเจอข่าวดีบรรทัด สองบรรทัดก็ซื้อเลย
    มักจะตั้งจุดสต๊อบลอสไว้ที่ประมาณห้าเปอร์เซนต์
    เอามันง่ายๆแบบนี่แหละครับ

    yuckyuckyuckyuckyuckyuckyuckyuckyuckyuck

    ส่วนหุ้นเดย์เทรด  
    นานๆทีก็เข้าไปเล่น ให้เสียสุขภาพจิต สุขภาพกาย
    ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ

    "รู้ดี  แต่ทำไม่ได้"

    ถ้าจะเล่นเดย์เทรด  
    สิ่งสำคัญที่สุด ในความเห็นของผม
    ไม่ใช่  ไม่ขายไม่กำไร
    แต่เป็นการตั้งจุดขายตัดขาดทุนไว้ในใจ  
    ลงมาถึงราคาที่ตั้งไว้ในใจ
    ต้องยอมขายทันที
    ไม่ว่าจะขายหมูหรือเปล่า



    ทีนี้มาว่ากันถึงเรื่องใหญ่

    "การควบคุมอารมณ์ตัวเอง (ไม่ให้โดนคนอื่นครอบงำ)"

    ผมลองนึกๆดูแล้ว
    มันต้องขึ้นอยู่กับ
    ความสามารถในการเรียนรู้ จากประสบการณ์สะสมของแต่ละคน
    เราต้องมองย้อนกลับไป  
    แล้วก็พยายามดึงมันออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับตัวเราเอง

    ทำไมผมไม่เล่นเดย์เทรด  ไม่เล่นสั้นๆ

    พอลองนึกย้อนกลับไป
    คำตอบคือ
    ปัจจัยพื้นฐานสะสมของผมมันเป็นแบบนี้
    (แน่นอนว่า  ของแต่ละท่านจะไม่เหมือนกัน
    ดังนั้น ต้องต่อยอดกันเอาเอง)

    เริ่มแรกที่เข้าตลาดเลย
    ผมไม่มีเวลาตามติดไปนั่งห้องค้าทุกวัน
    ดังนั้น  จึงไม่โดนจิตวิทยามวลชนในห้องค้าครอบงำ
    ตั้งแต่ตอนเริ่มแรก

    และที่สำคัญมากๆคือ  
    ในชีวิตจริง
    ผมเป็นคนไม่ค่อยจะชอบพูดคุยกับคนแปลกหน้า
    "ชอบคิดอะไรด้วยตัวเอง"
    ดังนั้น  พอไปนั่งห้องค้า
    ก็เลยไม่ได้โดนจิตวิทยามวลชนในห้องค้าครอบงำ

    ปัจจัยพื้นฐานสะสมอีกอย่างคือ
    ผมไม่เคยเห็นพ่อผม
    เล่นการพนัน ไม่ว่าชนิดไหนทั้งสิ้น
    แม้แต่ล็อตเตอรี่ก็ไม่เคยซื้อ

    ดังนั้น  ผมจึงไม่มีนิสัยชอบทำอะไรที่คิดว่ามันเสี่ยง

    จุดเริ่มต้น  มันจะค่อยๆต่อยอดสะสม
    จากนิสัยก็กลายเป็นเออ  เอาง่ายๆคือกลายเป็นสันดาน

    ๑ ไม่เล่นหุ้นตามขาใหญ่ในห้องค้า หรือขาใหญ่ไม่ว่าที่ไหน
    พอนานๆเข้า  มันก็ต่อยอดกลายเป็นว่า
    ไม่เคยเล่นตาม แม้แต่ที่มาร์เก็ตติ้งคิดจะแนะนำ

    ถ้าเป็นตอนนี้ ที่เริ่มรู้จักการคัทลอสแล้ว
    ไอ้หุ้นประเภท ใบ้หุ้นเด็ด  
    ถ้าจะซื้อตาม ก็ต้องใช้กฏการเล่นเดย์เทรด
    ตั้งจุดสต๊อบลอสที่แน่นอน  
    ไม่ใช่เป้าราคาที่เขาบอกยั่วกิเลส

    yuckyuckyuckyuckyuckyuckyuckyuckyuckyuck

    ๒ เล่นหุ้นที่สามัญสำนึกเราเตือนว่า
    มันเป็นไปได้หรือไม่ได้ในชีวิตจริงของคนเรา
    ผมเลยไม่เล่น สุดยอดหุ้นปั่นเมื่อเกือบสามสิบปีก่อน

    ราชาเงินทุนไม่เคยซื้อเลย
    แต่เล่นมาบุญครองซักสองสามครั้งได้
    เพราะถือว่ามีผลประกอบที่เป็นไปได้รองรับ

    ๓ คิดไว้ในใจว่า  พอร์ตเราเล็ก
    จะซื้อๆขายๆ ให้เสียค่านายหน้าเยอะๆไม่ได้
    ทางเดียวที่จะได้กำไรมากๆเป็นกอบเป็นกำคือ  
    ต้องยอมรอเลือกกินคำใหญ่ๆเท่านั้น
    ปัจจัยพื้นฐานสะสมข้อนี้
    ทำให้ผมเล่นทุ่งคาแบบวีเอสโอพี
    กำไรมาสามรอบใหญ่รวม หนึ่งล้านกว่าบาท
    เสียค่าคอมไปไม่ถึงสองหมื่นบาท)

    พอปัจจัยพื้นฐานะสะสม (สำหรับการเล่นหุ้น)
    มันเริ่มจากจุดนั้นแล้ว

    การควบคุมอารมณ์ของเรา  
    ไม่ให้โดนจิตวิทยามวลชนของตลาดหุ้นครอบงำ
    ไม่ให้โดนสไตล์การเล่นหุ้นของคนอื่นครอบงำ
    ก็ทำได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่โดนเลย

    เพราะ to err is human

    ผมเชื่อว่า
    ปัจจัยพื้นฐานสะสมของแต่ละคน มีไม่เท่ากัน
    การจะทำได้หรือไม่ได้  จึงมีไม่เท่ากัน

    เท่าที่ผมอ่านจากกระทู้ในห้องสินธร
    ขอสันนิษฐานว่า
    พวกเจนเรชั่นวายส่วนใหญ่ที่อยู่ในห้องสินธร
    เลือกเล่นสั้นหรือเดย์เทรด
    เพราะมีปัจจัยพื้นฐานส่วนตัวสะสมมาดังนี้

    ๑ ต้องการรวยมากๆและรวยแบบง่ายๆให้ได้ ในเวลาที่รวดเร็ว

    ๒ สำคัญมากๆคือ มีเวลาอยู่หน้าจอคอมได้เกือบตลอดเวลา

    ๓ มั่นใจว่า ความรู้ของตัวเอง
    มีมากพอจะรับมือกับความผันผวนตลาดหุ้น

    ๔  ย้อนกลับไปอ่านสามข้อแรก

    ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า

    สรุปแบบจบเอาดื้อก็คือ

    ปัจจัยพื้นฐานสะสมของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน
    ดังนั้น  ความสำเร็จในตลาดหุ้นจึงมีไม่เท่ากัน
    จะสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเอง ไม่ให้ถูกคนอื่นครอบงำหรือไม่ ก็มีไม่เท่ากัน

    ถ้าเอาตามกฏของพาเรโต้ยอดฮิตของหนุ่มสองเอ็ม
    ก็คงประมาณว่า

    ๘๐ เปอร์เซนต์ของข้อมูลดีๆ

    มีนักลงทุนเพียง ๒๐ เปอร์เซนต์เท่านั้น
    ที่สามารถนำไปต่อยอด ดัดแปลง ประยุตก์ใช้
    ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองได้

    จะเล่นลงทุนระยะสั้น  เล่นเดย์เทรด
    ก็ต้องดึงเรื่องกราฟที่รู้มาร้อยเปอร์เซนต์
    ให้ออกมาใช้งานได้จริงๆ  ซักยี่สิบเปอร์เซนต์ก็พอ
    รู้จริง ทำได้ แค่ยี่สิบเปอร์เซนต์  
    แต่ทำเงินได้แปดสิบเปอร์เซนต์ของพอร์ต

    ส่วนความรู้อีกแปดสิบเปอร์เซนต์
    ที่รู้ไม่จริงหรือรู้จริง แต่ใช้ประโยชน์ไม่ได้
    ก็ต้องพยายาม ทำให้มันสร้างความเสียหาย
    แค่ยี่สิบเปอร์เซนต์ของพอร์ตเท่านั้น

    แค่นี้  เล่นระยะสั้น เล่นเดย์เทรดก็ยังรวยได้
    ถึงจุดหมายปลายทางได้แบบ
    คนนั่งรถเมล์มินิบัส
    ซึ่งมีมาร์เก็ตติ้งเป็นคนขับ

    คนขับมินิบัส ต้องขับแข่งกัน  
    เพราะกินเปอร์เซนต์จากค่าตั๋วเท่านั้น
    คนนั่งจะเป็นไงก็

    เรื่องของมืง

    ถ้าเราบอกเตือนว่า  
    ผมเสียหายคุณก็อดกินค่าต๋ง เอ๊ยค่าตั๋วนะ
    เขาก็คงบอกว่า

    เรื่องของกู

    ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า


    แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 50 12:03:20

    แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 50 11:59:12

    แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 50 11:55:20

    แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 50 11:37:30

    แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 50 11:20:44

     
     

    จากคุณ : endophine - [ 6 ก.ย. 50 10:33:47 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom