 |
ปรัญญาเล่นหุ้นอย่างชาญฉลาด
วันนี้ลุงมีขอฝากนำมาให้ยามที่ตลาดหุ้นกำลังเกิดการปรับฐาน และ เพื่อเตรียมความพร้อมกับแนวโน้มทิศทางหุ้นในอนาคตที่ลุงมองว่าน่าจะเดินหน้าตามกระแสเม็ดเงินจากพรรคการเมืองที่ต้องมีการทุ่มทุนสร้างเพื่อการช่วงชิงที่นั่งในสภา และตลาดทุนนี่แหละที่จะเป็นตลาดแห่งการแสวงหาทรัพย์ต่อไป......แนวคิดทฤษฏีการลงทุนในตลาดหุ้น ที่ถือได้ว่าเป็นแนวคิดของนักเล่นหุ้นระดับเซียน 1000 ล้าน ลุงนำมาฝากกันคร๊าบ... อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้เราได้รู้ได้ทราบว่าปรัชญาการเล่นหุ้นที่สร้างเงินนั้นเขาทำกันอย่างไรครับ..... 1. จงให้ความสำคัญอย่างมาก ๆ สำหรับการซื้อหรือขายหุ้นแต่ละครั้ง ดั่งที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าการลงทุนในตลาดหุ้นนั้นมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ดังนั้นการพิถีพิถันต่อการลงทุนไม่ว่าจะเป็นฝั่งซื้อหรือฝั่งขายทุกครั้งก่อนตัดสินใจที่จะเข้าออกควรต้องศึกษาในตัวหุ้นให้เข้าถึงอย่างลึกซึ้งถึงความเป็นมาเป็นไป นั้นเท่ากับว่าเราให้ความสำคัญกับเม็ดเงินที่ลงทุนหรือลงทุนไปแล้ว ย่อมเป็นสิ่งที่ดี 2.จงคิดเสมอว่าถ้าจะซื้อหุ้นหากจะเลือกหุ้นเล็ก หรือหุ้นตัวใหญ่นั้นย่อมมีความสำคัญเท่าเทียมกัน เพียงแต่ว่าหุ้นตัวเล็กหรือหุ้นตัวใหญ่ที่จะให้ผลตอบแทนมากกว่ากัน นั้นเท่ากับว่าความสามารถในการทำกำไรต่อหุ้นตัวเล็กหรือตัวใหญ่ต่างหากที่มีความสำคัญที่สุด 3. จงอย่าเชื่อทุกอย่างที่ได้ยิน จงชินชากับวาจาที่ว่าหุ้นตัวนั้นดีตัวนี้เลว หากตราบใดที่เราไม่สามารถค้นคว้าหาข้อมูลที่สามารถอ้างอิงได้ว่า สิ่งนั้นคือความจริง หรือเป็นเรื่องเท็จ การลงทุนที่รู้ชัด รู้จริง รู้ลึก และรู้ก่อนใครย่อมได้เปรียบผู้อื่น เพียงแต่ว่าข้อมูลทุกเนื้อหา เนื้อแท้ที่เป็นจริงนั้นเราต้องสามารถรับรู้อย่างชัดเจน 4. เมื่อกล่าวคำว่า "เล่นหุ้นต้องมีกำไร จงหมายความตามนั้นจริง ๆ นั้นหมายถึงก่อนเล่นหุ้น ก่อนซื้อหุ้นทุกครั้งทุกรอบต้องไตร่ตรอง พิจารณาทุกแง่ทุกมุม ไม่พลีพลาม หรือด่วนตัดสินใจโดยอารมณ์เป็นมูลเหตุ ความรอบครอบ รอบรู้ จะสามารถทำให้เรา มีความมั่นใจพร้อมจะเปล่งวาจาว่า เล่นหุ้นต้องมีกำไร 5. เมื่อประสบกับ สภาพของการขาดทุน ทุกครั้งทุกรอบ ต้องรู้จัก ตั้งสติ มีสมาธิ ไม่แกว่งจนตนเองไร้ความเชื่อมั่น และมีภาวะที่จิตพกพร่อง เพราะนั้นเท่ากับว่า ความสามารถลงทุนในอนาคตจะสูญสิ้น ขาดหลักคิด หลักการ หลักของการลงทุน จงสร้างความพร้อมให้รับได้ทุกสถานการณ์ทั้งยามหุ้นขึ้นหรือหุ้นลง เพื่อแสวงหาสิ่งที่ดีกว่าต่อไป 6. ก่อนจะตัดสินใจถือครองหุ้น จงมั่นศึกษาในหุ้นตัวนั้น ๆ ให้มากเพียงพอเสียก่อน โดยเฉพาะควรพิจารณาหลักใหญ่ ๆ เช่น ดูผลการดำเนินงานทั้งอดีต ปัจจุบัน และคาดการณ์อนาคต มีค่าพีอีเดโชระดับใด มองผลตอบแทนในแง่ปันผลที่ผ่านมาสามารถให้มากน้อยเพียงใด ดูหนี้สินต่อทุน ดูโครงสร้างผู้ถือหุ้น ตรวจเช็คการดำเนินธุรกิจมีอุปสรรคมีจุดดีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไร 7. จงเชื่อมั่นในตัวตนของตัวเอง เล่นหุ้นแม้ต้องอิงปัจจัยหลายต่อหลายเรื่อง ต้องฟัง ต้องอ่าน ต้องเสพข้อมูล ต้องแสวงหาข่าวสาร แต่สุดท้ายตัวของตัวเองนั้นละ จะเป็นผู้ที่ต้องตัดสินใจ ผิดหรือถูก นั้นเป็นเรื่องที่ตัวเองจะรับรู้ และยอมรับ 8. อย่าหัวเราะเยาะความฝัน และความคิดของผู้อื่นเป็นเด็ดขาด เพราะการเล่นหุ้น ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นล้วนแล้วเป็นเรื่องในอนาคต ทุกคนมีสิทธิคิดมีคิดฝัน ถึงความเป็นไปในอนาคต ดังนั้นตัวเราเองก็ดี หรือผู้อื่นเองก็ตามทุกคนล้วนมีความฝัน แม้ความฝันนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ มันก็เป็นจิตนาการของเขาผู้นั้น เพียงแต่เราเองนั้นละต้องสร้างความฝันบนความเป็นจริงที่ควรสัมผัสได้ 9. จงอย่ารักหุ้น อย่าทะนุถนอมหุ้น หรือกอดหุ้นไว้โดยที่ไร้ผลตอบแทน และสร้างความเจ็บปวด ควรคิดเสมอว่าหากใดหุ้นที่ซื้อไว้หรือมีไว้เมื่อหุ้นตัวนั้นไม่ได้สร้างให้สินทรัพย์เพิ่มพูน มีแต่วันจะถดถอย เราควรตัดสินใจสละขายทิ้ง เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะต้องล่มจมหรือมูลค่าราคาหุ้นต้องหดหายไป มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย 10. ในเหตุการณ์ที่สับสน สรุปหนทางแนวโน้มทิศทางของหุ้นไม่รู้จะเป็นเช่นใด ควรวางตัวสงบนิ่ง เฝ้ารอคอยให้กระแสน้ำที่เชี่ยวกราดเริ่มอ่อนแรงลงพอมองเห็นทิศทางแนวโน้มของหุ้นได้ ตอนนั้นค่อยว่ากันใหม่ เพราะการเล่นหุ้นในยามที่หุ้นผันผวนไร้ทิศทางนั้นเท่ากับว่าเรากำลังสร้างความเสี่ยงให้กับตัวเองอย่างมากทีเดียว 11. อย่าตัดสินใจเล่นหุ้นปั่น เพราะเพียงแค่ความอยากเอามันเท่านั้น เพราะหุ้นปั่นที่มีการสร้างเกมขึ้นมานั้น ได้มีการหยิบยกทั้งเหตุทั้งผลมาอ้างอิงประกอบโฆษณาชวนเชื่อ และมีการกระชากลากหุ้น เพื่อให้นักเลงหุ้นเกิดการคล้อยตามในความสนุกความตื่นเต้น หากเราตัดสินใจเล่นหุ้นปั่นโดยขาดหลักคิดหวังเพียงความสนุก สุดท้าย ความเสียหาย การขาดทุนจะมาเยือน 12. จะซื้อหุ้นให้เร็วหรือให้ช้าไม่สำคัญ ความสำคัญอยู่ที่ ต้องคิดให้อย่างรอบคอบ การขับเคลื่อนของราคาหุ้นในตลาดทุนนั้น เราจะพบอยู่บ่อยครั้ง เดี๋ยวขึ้นเร็วลงเร็ว บางครั้งก็มักคืบคลานอย่างช้า ๆ ดังนั้นการตัดสินใจซื้อขายหุ้นคล้อยตามบนภาวะของตลาดก็อาจไม่ใช่เรื่องที่ถูกนัก สาระสำคัญอยู่ที่ว่าทุกครั้งทุกรอบควรตัดสินใจคิดให้รอบคอบก่อนเข้าซื้อเข้าขายน่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด 13. จงจำไว้ว่า สองสิ่งที่ยิ่งใหญ่ สำหรับการเล่นหุ้นคือ ซื้อแล้วหุ้นต้องขึ้น ขายแล้วหุ้นต้องลง ตราบใดที่เราซื้อหุ้นแล้วหุ้นลงนั้นย่อมทำให้เรามีความรู้สึกที่ผิดเพี้ยนในการเล่นหุ้นทันที ในขณะเดียวกันหากขายหุ้นแล้วหุ้นขึ้นอาการเสียดายก็มักเกิดขึ้นเช่นกัน หากตรงกันข้าม เมื่อซื้อหุ้นหรือขายหุ้นถูกทาง การเล่นรอบของหุ้นมันจะถูกจังหวะ เล่นจะทำให้เล่นหุ้นได้อย่างสนุก 14. จงคิดเสมอว่า หุ้นที่มีพื้นฐานดี ต้องมีฐานะการเงินดี ผลการดำเนินงานดี ปันผลดี มีการบริหารการจัดการที่ดี เป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องดี ส่วนหุ้นปั่น คือหุ้นที่ไร้พื้นฐาน ปัจจัยด้านการเงินแย่ บริษัทขาดทุน ทำธุรกิจล้มเหลว หนี้สินท่วมตัว ดังนั้นเมื่อเราจะเล่นหุ้นที่มีพื้นฐาน หรือหุ้นปั่น เราเองก็ควรรู้จุดยืนของเราว่าสุดท้ายควรทำตัวอย่างไร 15. เมื่อพ่ายแพ้ เจ็บปวด และ ขาดทุนหุ้น จงอย่าสูญเสียบทเรียนไปโดยเปล่าประโยชน์ สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต บางครั้งเป็นเรื่องที่เศร้า ทุกข์ แต่เราเองก็สามารถนำสิ่งเรานั้นมาเป็นกรณีศึกษา เป็นมูลฐานแห่งการเรียนรู้ ปรับปรุงตัวเพื่อสร้างความเข้มแข็ง พร้อมสู้กันต่อในอนาตคให้ได้มาในสิ่งที่ตนเองแสวงหาบนความไม่ประมาท 16. จงพยายามเข้าถึง และจดจำ ความเป็นมาเป็นไปของหุ้นที่สนใจ ให้ลึกซึ้ง เรื่องราวของหุ้นในแต่ละตัวมีความเป็นมาเป็นไปด้วยกันทั้งสิ้น และหุ้นหลาย ๆ ตัวมักมีวงจรการดำเนินธุรกิจของตนเสมอ และหุ้นบางตัวก็มักมีพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นซ้ำ ไปซ้ำมา ดังนั้นหากเราสามารถเข้าถึง จดจำพฤติกรรมของหุ้นได้ นั้นเท่ากับเราจะได้เปรียบต่อการลงทุน อย่างน้อยก็สามารถจับรอบจับจังหวะได้ถูกต้อง 17. จงอย่าให้ขาดทุนขยายวงกว้างจนรับไม่ไหว เรื่องที่สำคัญน่าเป็นห่วงที่สุดของการเล่นหุ้นคือ การที่นักเล่นหุ้นไม่สามารถกำหนดหรือสกัดกั้นการขาดทุนในกรอบที่จำกัดได้ ไม่รู้จักการตัดขายแต่ต้นลม คิดเพียงหากมีหุ้นถือหุ้นไม่ขายไม่ขาดทุน สุดท้ายภาวะการขาดทุนจะขยายเป็นวงกว้างจนรับกันไม่ไหว 18. ทันทีที่รู้ตัวว่าทำผิดพลาด อย่าปล่อยให้กาลเวลาผ่านไป ต้องลงมือแก้ไขปรับพอร์ตให้ทันถ่วงที ใครที่เล่นหุ้นหากซื้อขายหุ้นผิดจังหวะผิดตัว ย่อมถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพียงแต่ว่าเมื่อผิดพลาดไปแล้ว การแก้ไข การปรับเปลี่ยนต้องกระทำให้ทันเวลา มิเช่นนั้นแล้วอาจสายเกินกว่าจะแก้ได้ ..... ปล.ก่อนลากันวันนี้สำหรับใครก็ได้ที่ต้องการอยากได้ ปรัชญาการเล่นหุ้น กลยุทธ์การลงทุนเพิ่มเติมอีกก็บอกลุงมาเดี๋ยวลุงจะอีเมล์ไปให้เพิ่มก็แล้วกันเน้อ....สวัสดีคร๊าบ
จากคุณ :
"ส้มสีแสด"
- [
6 ก.ย. 50 16:37:43
]
|
|
|
|
|