Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เล่าเท่าที่อยากเล่า...สตรีผู้รวยด้วยหุ้น!!!!!

    วันนี้....ตลาดทุนบ้านเราแม้วอลุ่มการเทรดจะดูเบาบางไปหน่อยแต่ก็มีหุ้นหลายตัวแกว่งตัวโยกซ้ายเอนขวากระเด้งหน้ากระเด้งหลัง..เล่นเอาคนแก่ ๆ อย่างลุงมึนหัวตึบ!! แต่ก็สนุกดีเนาะ...เอาละวันนี้ว่าง ๆ ลุงขอนั่งเล่าเรื่องจากชีวิตจริงของหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งที่คลุกคลีในวงการหุ้นจากพอกินพอใจกลายเป็นเศรษฐี จากเศรษฐีกลายเป็นหนี้บานเบอะ จากหนี้ท่วมตัวสุดท้ายตอนนี้เป็นนักเล่นหุ้นมือใหญ่พอร์ตหลายร้อยล้าน...กลวิธีการเล่น พฤติกรรมการลงทุนหน้าติดตาม..เอาเป็นว่าลุงจะเล่าให้รู้..เป็นเรื่องที่ลุงเขียนเป็นต้นฉบับเพื่อส่งให้สำนักพิมพ์เขา...แต่วันนี้ลุงอยากหยิบยกขึ้นมาเล่าก็เท่านั้นแหละ..ลองอ่านดูนะ
    ..........................การลงทุนในตลาดหุ้นสิ่งหนึ่งที่ทุกคนปรารถนานั้นคือ กำไร หรือผลตอบแทนที่สูงที่สุด แต่ความเป็นจริงนั้นการคาดหวังในสิ่งที่พึงต้องการของหลาย ๆ คน อาจจะไม่ได้มาดังใจคิด ตรงกันข้ามสิ่งที่ไม่อยากได้สัมผัสกับวิ่งเข้ามากระทบเป็นระลอกคลื่น นั้นคือผลขาดทุนที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    แต่สำหรับบุคคลคนที่จะกล่าวเล่าเรื่องของเขาให้อ่านกันนี้ เขามีวิถีชีวิตของ วัฏจักรการเล่นหุ้นที่ค่อนข้างหน้าศึกษาติดตาม เพราะความผันผวนต่อการแสวงหาในตลาดหุ้นเขาผู้นี้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาทุกรูปแบบจากจุดเริ่มต้นที่มีเงินไม่กี่บาทสามารถปั้นเงินสดนับร้อยล้านจากนั้นก็คืนสู่สามัญกายเป็นผู้ต่ำต้อยเงินในกระเป๋าติดลบนับร้อยล้าน แต่สำหรับวันนี้เขาสามารถกลับมายืนหยัดบนกองเงินสด ๆ และทรัพย์สิน นับพันล้าน
    บุคคลที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ เขาเป็นสตรีทีมีอายุพึ่งเลขห้าต้น ๆ เป็นผู้ที่มีดีกรีจบจากสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงแถวบางกะปิในระดับปริญญาโท แต่ด้วยความมีนิสัยที่รักในความเสี่ยง เธอจึงได้พลิกผันตัวเองจากพนักงานบริษัทชั้นนำหันหน้าเข้าสู่ตลาดหุ้น
    ผมขออนุญาตเรียกขานนามของบุคคลที่หยิบยกขึ้นมาศึกษาในครั้งนี้ว่า “เจ้ ฟ.” ก็แล้วกันนะครับ เพราะชีวิตจริงของเธอ คนในวงการหุ้นต่างก็พากันเรียกชื่อเธอขึ้นต้นด้วยคำว่า “เจ้” อยู่แล้ว ด้วยความมุ่งมั่นที่จะไต่เต้าหวังหากำไรจากตลาดทุน เจ้ใช้เงินเบื้องต้นไม่กี่หมื่นบาท แต่จะเป็นเพราะกลยุทธ์ที่ลึกล้ำหรือโชคช่วยก็แล้วแต่ ในระยะเวลาไม่กี่ปี เจ้ ฟ.สามารถโกยกำไรจากตลาดหุ้นในช่วงนั้นเหยียบร้อยล้านบาททีเดียว สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เจ้ ฟ.ประสบความสำเร็จเช่นนั้นได้เพราะว่าเจ้ ฟ.นั้นมีจิตใจของนักเก็งกำไรร้อยเปอร์เซ็นต์
    ผมได้มีโอกาสได้พูดคุยกับเจ้ ฟ. เมื่อเร็ว ๆ นี้เองครับ เพราะผมก็อยากนำเกร็ดเรื่องราวของเจ้ ฟ. มาขยายความเล่าบอกเป็นกรณีศึกษาให้กับผู้อ่านได้รู้แล้วนำไปต่อยอดความคิดเพื่อการลงทุนที่ดีต่อไป จึงมีการนัดทานข้าวคุยกับ เจ้ ฟ. ผมไม่ได้พบเจอกับ เจ้ ฟ.มาเป็นเวลานานแต่เมื่อพบกันอีกครั้งเจ้ ฟ.ไม่มีอะไรเปลี่ยนเลยครับ การแต่งตัวเรียบง่ายพูดจาสนุกสนานเป็นกันเอง ใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา เหมือนเดิมจริงๆ ครับ
    เจ้ ฟ. บอกผมว่า เขาเหมือนแมวเก้าชีวิต โดยก่อนหน้าชะตาชีวิตของเขามักขึ้นลงตามวิถีของดัชนีตลาดหุ้น กล่าวคือ หากหุ้นขึ้นเธอก็รวยสุด ๆ  ถ้าหุ้นลงเธอก็จนสุด ๆ เช่นกัน เพราะลักษณะการเทรดหุ้นของเธอมักมีใจที่สู้ กล้าที่จะได้ และกล้าที่จะเสีย ดังนั้นการซื้อหุ้นทุกรอบทุกครั้ง เจ้ ฟ. จะกวาดลากหุ้นเป็นแถว ๆ จากนั้นถ้าหุ้นขึ้นพอมีกำไร เจ้ ฟ.จะขายหุ้นทิ้ง โครมออกมาเป็นการล้างพอร์ตโดยไม่ยึดติดอะไรทั้งสิ้น
    ในเบื้องต้นที่เจ้ ฟ. เข้าตลาดทุน เจ้ยอมรับกับผมว่าเจ้ ฟ. รวยหุ้นนับร้อยล้านบาทได้จากเงินเริ่มไม่กี่บาทนั้นเป็นเพราะช่วงจังหวะนั้นกฎกติกาของตลาดหุ้นไม่รัดกุม โบรกเกอร์ มีการปล่อยมาร์จิ้น ปล่อยเงินให้กู้หลายเท่าของเงินวาง ประจวบเหมาะกับภาวะหุ้นตอนนั้นเป็นขาขึ้นการทำเงินจากตลาดหุ้นเลยง่ายขึ้น เจ้ ฟ. บอกว่าซื้อตัวไหนหุ้นตัวนั้นก็ขึ้นบางวันซื้อมาขายไปทำกำไรสามสี่ล้านบาทในวันเดียวสบาย ๆ เลย
    เจ้ ฟ. คุยให้ผมฟังต่อว่าช่วงชีวิตที่เจ้ ฟ.ตกอับสุด ๆ ก็ตอนปี พ.ศ.2538-2541 นั้นละ เจ้ ฟ. บอกว่าเจ้ยังจำได้ตอนมาพบผม เจ้จำคำที่ผมเคยพูดให้เจ้ฟังได้ ผมพูดกับ เจ้ ฟ. ว่า “แม่บ้านที่เดินเสริฟน้ำส่งกาแฟหน้าห้องค้าเนี่ยะ วันนี้ว่าไปแล้วพวกเขารวยกว่าพวกเราอีกนะ เพราะพวกเขาไม่มีหนี้เป็นสิบเป็นร้อยเหมือนพวกเรา” เจ้ ฟ.บอกว่าคำที่ผมพูดในวันนั้นมันเป็นเรื่องจริงที่เจ้ ฟ. ยังจดจำมาถึงวันนี้ได้เลยละครับ
    เจ้ ฟ. เริ่มสาระยายให้ผมฟังว่า ที่ เล่นหุ้นจากจนแล้วรวยจากรวยแล้วจนในเบื้องต้นนั้น เจ้ ฟ. ยอมรับว่าเป็นเพราะตัวเขาเองนั้นมีความโลภไม่รู้จักคำว่าพอเพียง ยิ่งได้  ยิ่งอยากได้มากยิ่งขึ้น จนลืมถึงความเสี่ยงที่ตามมา เจ้ ฟ. เล่าเชิงบ่นอย่างน่าเสียดายต่อความมั่งมีแล้วหมดไปอย่างง่าย ๆ ในช่วงนั้นว่า  เพราะเจ้ ฟ. ได้แล้วไม่รู้จักเก็บนั้นเอง  ยิ่งมีเงินมากยิ่งซื้อหุ้นมากมีเท่าไรทุ่มหมดตัว แถมยังไปกู้เขามาสู้อีกต่างหาก
    ในช่วงที่ถูกหุ้นกินหมดตัวเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว หลายร้อยล้านบาท แต่ที่โชคดีหน่อยคือพวกโบรกเกอร์ที่เราติดหนี้เขาก็มีอาการเดี้ยงเช่นกันสุดท้ายก็มีการตัดหนี้ลดหนี้เหลือเป็นหนี้ไม่กี่ล้านเลยพอชำระแล้วก็หลุดจากวงโคจรของผู้ที่ตกเป็นลูกหนี้ได้
    จากนั้นกลับไปทำมาหากินเก็บหอมออมริบสะสมเงินมาสู้กับหุ้นใหม่ รอบสองนี้มีเงินเข้าสู้หุ้นไม่กี่ล้านบาท แต่ยังอาศัยใช้จังหวะการเล่นหุ้นแบบเดิม ๆ อยู่คือ สู้ และลุย เจ้เล่าให้ผมฟังต่อว่า กลยุทธ์ในการเล่นหุ้นรอบใหม่ค่อนข้างใจเย็นกว่าเดิม แต่สิ่งที่ถือว่าเป็นเรื่องของโชคช่วยคือการกลับมาเล่นหุ้นครั้งล่านี้ทิศทางหุ้นเริ่มดีวันดีคืนจากดัชนีแถว 200 จุดต้น ๆ ได้ไต่ตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    เจ้ ฟ. ใช้เวลาหาเงินจากตลาดหุ้นไม่นานเช่นเคยครับ  เธอสามารถสร้างเงินเติมสินทรัพย์จนมากมายกลายเป็นมหาเศรษฐีอีกครั้ง   ผมได้สอบถามเจ้ ฟ. อย่างตรงไปตรงมาถึงกลวิธีเล่นหุ้นอย่างไรถึงได้กำไรอย่างมหาศาลเช่นนั้น เจ้ ฟ. ตอบผมง่าย ๆ ว่า ต้องใจกล้า กล้าที่จะซื้อหุ้น แม้หุ้นตัวนั้นจะมีปัจจัยพื้นฐานอย่างไรก็ตามเพียงแต่ว่า ณ จุดที่ตัดสินใจซื้อนั้นต้องประเมินให้แน่ชัดก่อนว่า ซื้อแล้วจะมีผู้คนร่วมแจมเข้ามาเล่นด้วยหรือไม่
    ทุกครั้งที่ เจ้ ฟ. จะขายหุ้น เธอบอกว่าจะมีสัมผัสที่หกเตือนตนให้รู้ว่าควรเทขาย หรือทิ้งหุ้นได้หรือยัง  ผมเองเริ่มสงสัยเช่นกันครับว่าพฤติกรรมการซื้อหรือขายหุ้นในแต่ละรอบน่าจะมีปัจจัยชี้นำที่สร้างความจูงใจให้ซื้อขายหุ้นมากกว่าสิ่งที่ เจ้ ฟ. บอกให้ฟัง ผมจึงต้องแทรกคำถามต่อครับว่า การซื้อหุ้นน่าจะต้องอิงปัจจัยที่ดีก่อนไม่ใช่หรือ มิเช่นนั้นถ้า เจ้ ซื้อหุ้นไปมาก ๆ แต่ปัจจัยพื้นฐานรับไม่ได้ เจ้ ฟ. ก็อาจติดหุ้นขายไม่ออกได้เช่นกันนะ
    คำตอบที่เจ้ ฟ. ให้กับผมคือ เธอไม่กลัวหุ้นที่ไร้ปัจจัย เพียงแต่ขอให้หุ้นที่เป็นเป้าหมายนั้นซื้อแล้วต้องมีวอลุ่มต้องมีคนร่วมเล่นด้วย และที่สำคัญคือทุกครั้งทุกรอบเจ้มักใช้วงเงินเข้าเทรดในหุ้นแต่ละตัวแต่ละรอบเพียงแค่ 10 ล้านบาท โดยนำเงินสดวางค้ำประกัน กู้โบรกฯ เล่นมาร์จิ้นเพิ่มอีกเท่าตัว เจ้ ฟ.บอกว่า โบรกที่เธอใช้บริการอยู่นั้นได้ให้ความสะดวกโดยเฉพาะเปิดให้ซื้อขายมาร์จิ้นในหุ้นทุกตัวได้หมดจะมีพื้นฐานดีหรือแย่ก็ตาม จุดนี้เจ้ ฟ. กล่าวว่าเป็นสิ่งที่เธอพึงพอใจมาก
    การเล่นหุ้นจนประสบความสำเร็จนี้ เธอเชื่อในหลักทฤษฏีในเชิงจิตวิทยามวลชน ที่คนตื่นที่จะแห่ตามในกระแสของอำนาจและแรงผลักดันจากวอลุ่มที่หนาแน่น ในเวลาเดียวกันซีกจังหวะด้านขาย เจ้ ฟ.มองว่าเรื่องของสัมผัสที่หกที่มักบ่งบอกว่าเธอต้องขายหุ้นทิ้ง หุ้นหมดรอบแล้วต้องขายทำกำไร ช่วงเวลานั้นจะสังเกตได้จากแรงซื้อเริ่มเบาบางแรงตามเริ่มอ่อน เจ้ ฟ. จะต้องทิ้งหุ้นทันทีโดยไม่คำนึงราคาว่าจะตกหล่นลงลึกเพียงใดก็ตาม แต่ที่สุดในเชิงจิตวิทยาเมื่อหุ้นลงมาในระดับหนึ่งมักมีแรงซื้อสู้ ช่วงนั้นเจ้ ฟ. ก็จะสามารถทิ้งหุ้นได้เกลี้ยงพอร์ตทุกรอบและทุกครั้งก็ทำกำไรดีเช่นกัน
    ปัจจุบัน เจ้ ฟ. โกยเงินเข้ากระเป๋าจนมีเงินสดหลายร้อยล้านบาท รอบนี้เธอกระซิบบอกผมว่า เธอจะไม่เสี่ยงที่จะทุ่มเงินเล่นหุ้นจนหมดตัวอีกแล้ว เพราะเวลานี้เธอได้สะสมสินทรัพย์เปลี่ยนจากเงินสดเป็นที่ดินติดชายทะเล ที่ดินใจกลางกรุงเทพฯ  ถือครองเงินสดอีกหลายร้อยล้าน ทั้งถ้าหากจะเล่นหุ้นก็ใช้วิธีการจัดสรรปันส่วนเงินสดที่มาเล่นหุ้นเธอย้ำอีกครั้งว่า   รอบหนึ่งจะนำเงินสู้หุ้นไม่เกินครั้งละ 10 ล้านบาทแล้วทุกครั้งเธอมักชนะตลาดแล้วโกยกำไรคืนกลับไปเป็นเท่าตัวเกือบทุกรอบ
    นี่คือผู้หญิงคนหนึ่งครับที่ประสบความสำเร็จกับการเล่นหุ้นอย่างมากที่สุดผู้หนึ่ง ในวันนี้เธอมีชีวิตที่สุขสบายเหลือล้น เสียงพูดคุย เสียงหัวเราะของเธอที่บ่งบอกถึงความสุขต่อความสำเร็จในตลาดทุนยังก้องอยู่ในโสตประสาทของผมอยู่เลยครับ เพียงแต่ว่าถ้าคุณ ๆ ผู้อ่านทั้งหลายจะใช้วิธีของเจ้ ฟ. สู้หุ้นก็อย่าลืมคำเตือนที่ว่า “การลงทุนในตลาดหุ้นนั้นมีความเสี่ยง นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณต่อการลงทุนด้วย”  ปล. ท่านที่ฝากอิเมล์ไว้ให้ลุงส่งข้อมูลให้ ลุงค่อยๆ ส่งไปให้อ่านกันแล้วเน้อ..รับได้รับไม่ได้อย่างไรช่วยบอกให้ลุงรู้ด้วยนะ...จะได้มีกำลังใจสละเวลาส่งข้อมูลดี ๆ ให้อ่านกัน

    จากคุณ : "ส้มสีแสด" - [ 11 ก.ย. 50 16:04:43 ]