ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ทราบครับ.. เศษเนื้อไม่กินครับ...กินมาเยอะแล้ว....ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่  อิอิอิ... ขอบคุณครับที่ตั้งกระทู้ให้ได้พูดอย่างนี้.... จากคุณ : ข้างบูรพา - [ 16 ก.ย. 50 20:43:47 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าพูดถึงนักล่าแล้ว พอเขาเกิดขึ้นมา เขาก็เป็นนักล่าโดยสายเลือด ถ้ากล่าวว่าตลาดหุ้นจะมีนักล่าเข้ามา...เขาเหล่านั้นก็จะยังเป็นนักล่าฮับ ไม่มีใครเป็นเหยื่อ ...มาอุดหนุนกระทู้ฮับ ^.^ จากคุณ : นกเพนกวินอ้วน - [ 16 ก.ย. 50 20:46:20 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สั้น ๆ แต่กระแทกใจจังครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : BenZCoM - [ 16 ก.ย. 50 20:55:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เคยเห็นต่างมุมมอง ก็เลยเข้าไปบอกว่า เศษเนื้อนั้นน่ะ ผมโยนทิ้งไปแล้ว ก็เลยมีคนยอมรับไม่ได้  โดนซะ จากคุณ : ปลานิลจิ๋ว - [ 16 ก.ย. 50 21:07:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คนไทยส่วนใหญ่ก็แบบนี้ ชอบสบาย ไม่ขวนขวาย จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม - [ 16 ก.ย. 50 21:07:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมเอาเศษเนื้อมาให้ครับ gc tvo mcs mfec  รับทานซะครับ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 50 21:12:27 จากคุณ : ter2million - [ 16 ก.ย. 50 21:09:22 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โดนใจจังครับพี่ GS Mobile หลายๆครั้งผมก็ให้หุ้นไปเหมือนกัน แต่ไม่ได้เล่น จากคุณ : เล่นรอบ - [ 16 ก.ย. 50 21:16:55 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าจะเป็นนักล่าเนื้อ  ก็ต้องฝึกฝนจนช่ำชอง  แต่ถ้ายังไม่เก่งนักก็ค่อยๆ หากินเศษเนื้อไปก่อนน่าจะดีกว่าครับ   แต่อย่าไปกินคำใหญ่ครับ  แค่พอขำ ๆ หาประสบการณ์ไปน่าจะดีครับ ตอนนี้เห็นพี่ ๆ  บ่นกันเยอะว่ามีการขัดแย้งกันมากในสินธร  ค่อยคิดค่อยทำกันดีกว่าครับ  ให้อภัยกันบ้างก็น่าจะดีกว่าครับ จะได้เป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้านกันไปตราบนานเท่านาน สีรักทุกคนครับ  แต่ตอนนี้สีกำลังร้อนเงิน  กร๊ากกกกกก  มามะ มามะ จากคุณ : สีหราช - [ 16 ก.ย. 50 21:21:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เข้ามาอ่านกระทู้ตัวเองหน่อย คนตอบส่วนใหญ่จะเป็นคนที่หาเนื้อด้วยตัวเอง  แต่มีคนรับเศษชิ้นเนื้อจากคนอื่นหลงมาคน  ระวังกินแล้วท้องเสียล่ะครับ   ด้วยความเห็นห่วงครับ พี่ๆ หลายคนเป็นทั้งนักล่า และสอนด้วยครับ  ผมติดตามอ่านมา  พบว่าถึงแม้จะบอกหุ้น  หรือเชียร์หุ้น  แต่ก็ให้เหตุผลประกอบ  เพื่อให้คนรับสามารถรู้วิธีการล่า  และนำไปพัฒนาตัวเองต่อไปได้ครับ พี่สี ฯ คนที่ยังไม่เก่งก็ค่อยๆ ฝึกได้ครับ  รับแต่ของเขาอย่างเดียว  โดยไม่มีการวินิจฉัยเนื้อที่จะกิน  เกิดเขาโยนเนื้อเน่าให้กินขึ้นมาจะเป็นเรื่องครับ  ใครกินมากก็ท้องเสียมาก  ใครกินน้อยก็ท้องเสียน้อยครับ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 50 21:36:40 จากคุณ : GS Mobile - [ 16 ก.ย. 50 21:34:39 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มันเป็นป่าเปิด. . ซาฟารี .  ฟรีสไตล์ จึงเป็นที่ประชุม ของสัตว์ทั้งหลาย ทั้งล่า ผู้ถูกล่า ผู้ร่วมรุมสกัม และผู้สังเวย . . จากคุณ : พ่อให้เงินแม่ให้ทอง - [ 16 ก.ย. 50 21:42:25 ]

ความคิดเห็นที่ 11 นายพรานที่เก่ง ไม่จำเป็นต้องเข้าป่าล่าเนื้อทุกวัน รอแค่จังหวะเวลาและโอกาส เมื่อได้เนื้อชั้นดี ก็สามารถเก็บกินได้นานๆ ส่วนใครที่หลับหูหลับตา เข้าป่าทุกวัน โดยไม่มีการวางแผนอย่างรัดกุม นอกจากไม่เจอเนื้อ หรือแม้กระทั่งเศษเนื้อ แต่ดันไปเจอ เสือ สิงห์ กระทิง แรด อาจจะต้องบาดเจ็บกลับมาจนแทบเอาชีวิตไม่รอด จากคุณ : pichatey - [ 16 ก.ย. 50 21:50:19 ]

ความคิดเห็นที่ 12 พี่ GS Mobile ครับ อิอิ  ยังจะแช่งให้สีท้องเสียอีกแน๊ะ  กร๊ากกกก  แค่นี้สีก็แย่แว้ววววว... สีไม่ได้หาเศษเนื้อจากไหนหรอกครับ  เดี๋ยวนี้สีพัฒนาไปเล่น tfex แล้วครับ รอบนี้ยังติดลบทางบัญชีอยู่เลยครับ  เอิ๊กก ๆ พี่รู้ไหมว่าใครได้เงินสีไป  ก็คนข้างบนนี่แหละ  กร๊ากกก  แถมเอาเงินสีไปกิน ฟูจิ  กับสาวสวยอีกนะ  กร๊ากกกก เดี๋ยววันจันทร์สีจะไปกินอาหารที่   ซิสเล่อร์  มั่งล่ะ  อิอิ  เงินใครไม่รู้  แต่ไม่ใช่เงินพี่พิเชฐแน่ ๆ เพราะพี่แก่เล่นทางเดียวกัน แต่ต้นทุนพี่แกสูงกว่าสีมาก  แง้ ๆ ไม่ยอม  ๆ จากคุณ : สีหราช - [ 16 ก.ย. 50 22:01:32 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ลืมรูป  กร๊ากกกกก นี่ไง   จากคุณ : สีหราช - [ 16 ก.ย. 50 22:03:47 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ก่อนไปนอนเอารูปสวย ๆ มาฝากกันก่อน   ให้พี่ GS Mobile ไว้ชื่นชม  แต่ห้ามทำไรนะครับ สีหวง  อิอิ เอารูปนี้แล้วกัน  รูปอื่นมีแต่โป้ ๆ  โพสไปเดี๋ยวอมยิ้มของสีจะอันตทานไปซะ ฝันดีทุกท่านครับ  บะบาย บะบาย จากคุณ : สีหราช - [ 16 ก.ย. 50 22:08:08 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พี่ GS Mobile ครับ โดนใจผมมากๆ แต่คงบาดใจอีกหลายคน ผมเคยโพสต์ประมาณว่า หัดหาปลาเองดีกว่า รอเขาโยนปลามาให้ โดนด่าไปหลายดอกเลยครับ เล่นเอาจ๋อยเหมือนกันครับ จากคุณ : JChai - [ 16 ก.ย. 50 22:10:33 A:202.91.18.205 X: TicketID:087120 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณสำหรับรูปครับ แหม...ระดับเทพสีคงไม่ท้องเสียเพราะกินเนื้อเน่าหรอกครับ ระดับพี่สีแยกแยะออกอยู่แล้วว่าเนื้อชั้นดีลักษณะเป็นอย่างไร ความเห็นพี่ pichatey นี่บ่งบอกว่าเป็นนายพรานมืออาชีพเลยครับ จากคุณ : GS Mobile - [ 16 ก.ย. 50 22:13:19 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถามจริงเถอะ ไปรู้ได้ยังไงว่าเป็นเศษเนื้อ บางคนก็ไปขุดผลประกอบการมาอ้างทั้งๆที่หุ้นลงทุกวัน บางคนตลกยิ่งกว่าพอหุ้นลงก็ไปหาเหตุมาคุยเพียงแต่สงสัยทำไมไม่บอกก่อน จากคุณ : ผมเอง - [ 16 ก.ย. 50 22:16:23 A:58.8.191.29 X: TicketID:131528 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไหนครับ กระทุ้สอนล่าเนื้อที่ GS mobile เขียน เคยมีด้วยเหรอ มีแต่ด่าคนเอาหุ้นมาให้ แล้วบอกว่าให้หาเอง แล้วไหนล่ะวิธี กระทุ้ไหนช่วยบอกทีครับ จากคุณ : ส้มเขียวหวาน - [ 16 ก.ย. 50 23:35:27 A:58.8.117.179 X: TicketID:155470 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตอนนี้มันระบาดไปหลาย webbord ครับ ไม่ใช่คนเดียวแล้ว แม้แต่ thaivi ยังมีเลย จากคุณ : thrill - [ 17 ก.ย. 50 00:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อืม......น่าสนใจครับ สรปคือ การสอนให้ล่าเนื้อ ....การฝึกประสบการณ์ ดูกราฟ วิเคราะห์เหตุการณ์ข้างหน้าให้เป็น ตีโจทย์ให้ถูก การคอยรับเศษชิ้นเนื้อ.....คือ รอการบอกจากผู้อื่น ซึ่งบ้างที่คนที่สำรอกออกมา เค้ารับไปเต็มปอดแล้ว เพื่อดันให้สูงขึ้นแล้วจะได้ปล่อยของที่ราคาสูงๆ ผมเข้าใจถูกไหม.......ท่าน GS Mobile ตามนั้น..... จากคุณ : ตี๋น้อยMBA - [ 17 ก.ย. 50 00:27:35 ]

ความคิดเห็นที่ 21 .....ผมก็ทำ blog ลงทุนอยู่ครับ.... ....รอบนี้ก็ยังขาดทุนอยู่เลย... ....แต่ผมต้องการ  ทำ เป็น case study เท่านั้นนะครับ.. ..ถ้าเพื่อนๆ  พี่ ๆ เห็นว่ามันจะเกิดผลเสีย...ก็ช่วยชี้แนะด้วยครับ... จากคุณ : chat156 - [ 17 ก.ย. 50 00:30:37 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณGS Mobile ครับ ผมเข้าใจ วัตถุประสงค์ที่ดี ของคุณนะครับ แต่ภาษาที่คุณใช้เขียนนั้น มันอ่านแล้ว รู้สึกไม่ดีอย่างวัตถุประสงค์ที่คุณต้องการจะสื่อน่ะครับ จากคุณ : เกมส์การเงิน - [ 17 ก.ย. 50 00:54:03 ]

ความคิดเห็นที่ 23 การที่จะเป็นผู้ล่าเนื้อได้เองก็จะต้องผ่านการฝีกฝนและมีความชำนาญพอ สมควรแล้ว  ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาหลายปี ผมคิดว่านักลงทุนส่วนใหญ่ก็คง อยากที่จะเป็นผู้ล่าเนื้อเองได้ แต่ถ้ายังเป็นนักลงทุนหน้าใหม่ประสบการณ์น้อยก็คงต้องคอยหา ประสบการณ์ไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีความชำนาญพอที่จะหาเนื้อเองได้ ซึ่งก็ ต้องใช้เวลาพอสมควร การหาเงินในตลาดหุ้นมีวิธีการใหญ่ๆเพียงแค่สองวิธี คือ ใช้ปัจจัยพื้นฐานกับ วิธีเทคนิคแค่นั้นเอง  แต่การฝึกฝนคงต้องใช้เวลานานพอควร สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ได้จากเวปบอร์ดแห่งนี้ก็คือ ข้อมูลครับ อยากให้มีการแชร์ข้อมูลกันมากๆ ทั้งทางด้านพื้นฐานและเทคนิค มากกว่าที่จะมา เกทับใส่กัน โดยเฉพาะวิธีไหนดีกว่าวิธีการไหน ตลาดก็ยังต้อนรับนักลงทุนหน้าใหม่ๆอยู่เสมอเพื่อเงินก้อนใหม่ที่จะเข้า มาสนับสนุนตลาด จากคุณ : นิแรน - [ 17 ก.ย. 50 01:17:45 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ของคุณพี่ Chat156 ผมเข้าใจว่า ใน Blog มีความพยายามสอนว่า เพราะเหตุใดจึงตัดสินใจซื้อขาย โดยมองผ่าน Trend Line ก็ดีแล้วครับ ปล.ไม่เคยเอาหุ้นที่คนนู้นคนนี้บอกไปซื้อ-ขายเลย เพราะ ดูเองตัดสินใจง่ายกว่า อยากให้ห้องนี้กลับมา มีเรื่องของวิธีการล่าเนื้อเยอะๆ เหมือนสมัยช่วงปี 2544 จากคุณ : chinn - [ 17 ก.ย. 50 02:59:06 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตามนั้น...พี่ตี๋น้อย จากคุณ : GS Mobile - [ 17 ก.ย. 50 05:59:16 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ส้มเขียวหวาน หรือ TicketID:155470  ---> ผมพอเดาออกนะว่าเป็นใคร  คุณเป็นนักใบ้หุ้น  มีหลาย Login และ ID ผมเองก็ไม่ใช่คนเก่งอะไร  ความเห็น  และการวิเคราะห์นั้นอยู่บนพื้นฐานของ Fundamental analysis ครับ  ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่  หรือเข้าใจยาก  หรือว่าเข้าถึงไม่ได้  เพียงมีความตั้งใจ  อย่างน้อยๆ เดินเข้าร้านหนังสือ  หรือห้องสมุดคุณก็ค้นพบได้แล้วครับ อย่างใน Blog ผมเขียนกรอบแนวทางการลงทุนเอาไว้  เพื่อให้คนที่เข้ามาอ่าน  ได้กรอบทางความคิดเกี่ยวกับการลงทุนไป  ต่อไปเขาไปอ่าน  หรือศึกษาตำราหลายๆ เล่มจะได้เข้าใจง่ายขึ้น ใครที่ยังไม่เคยเข้าไปอ่าน  ก็อ่านตรงนี้เลยล่ะกัน (สำหรับคนที่คลิกเข้ามาในกระทู้นี้  แต่คนที่ไม่ได้คลิกเข้ามาก็คงไม่เห็น) ........................................................................................................ ภาพรวมหลักการลงทุน นักลงทุนส่วนใหญ่ ที่ประสบกับปัญหาการขาดทุน สาเหตุมาจากการขาดความรู้และความเข้าใจที่ดีพอในเรื่องของการลงทุน โดยสามารถแบ่งสัดส่วนนักลงทุนได้เป็นสามกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรกนักลงทุน กลุ่มที่สองคือนักเก็งกำไร สองกลุ่มนี้มีความรู้ในด้านการลงทุน แต่จะต่างกันในเรื่องของระยะเวลา และวิธีการวิเคราะห์ กลุ่มสุดท้ายคือนักพนัน ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ กลุ่มนี้ขาดความรู้และความเข้าใจในการลงทุนที่เป็นระบบ โดยมองว่าการซื้อหุ้นก็เหมือนกับการเสี่ยงดวง นั่นคือไม่ได้ก็เสีย อย่างไรก็ดี การมีความรู้ ความเข้าใจในการลงทุนก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถทำกำไรจากตลาดได้ทุกคน ทั้งนี้เป็นเพราะว่าขาดกลยุทธ์ในการลงทุน และขาดความเชื่อมั่นในการวิเคราะห์ของตัวเอง คือพอเห็นข่าว หรือมีคนอื่นวิเคราะห์ตรงกันข้ามกับเรา ก็ทำให้จิตใจเกิดความกลัว จนส่งผลต่อกลยุทธ์ และความเชื่อมั่นของตัวเอง กลยุทธ์ คือการรวบรวมสรรพกำลังทั้งหมดของเรา แล้วประเมินทรัพยากรที่มีว่าเป็นอย่างไร จากนั้นก็ทำการกำหนดเป้าหมายหลักของเรา แล้วก็จัดสรรทรัพยากรที่มีให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับทรัพยากรและเป้าหมายหลัก ทั้งนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายหลังของเรา เมื่อกำหนดเป้าหมายแล้ว ต่อมาเราก็ต้องมาทำการเลือกหุ้นที่เราจะถือ โดยทั้งนี้เราจะต้องตอบคำถามตั้งต่อไปนี้ให้ได้ก่อน คือ 1.What to buy? การจะตอบว่าจะซื้อหุ้นอะไรดีนั้น เราจะใช้การวิเคราะห์ที่เรียกว่า การวิเคราะห์ทางเทคนิค เป็นการวิเคราะห์ที่ดูปริมาณ ราคา เป็นสำคัญ และการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน โดยเริ่มจากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก และการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน ซึ่งคือการวิเคราะห์ตัวกิจการ 2.When to buy? ตรงจุดนี้สำคัญ หลังจากตัดสินในได้แล้วว่าจะซื้ออะไร การเข้าซื้อหุ้นต้องอาศัยจังหวะเวลาที่เหมาะสม หรือ Timing ทั้งนี้อาจใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเข้ามาช่วย บัฟเฟต์ต ได้กล่าวไว้ว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ชอบไปหา Mr. Market แต่ว่าเขาชอบที่จะรอให้ Mr. Market มาเคาะประตูหน้าบ้านของตัวเองมากกว่า กล่าวคือ เมื่อตลาดหุ้นมีการซื้อขายปริมาณมาก ดูคึกคัก นักลงทุนส่วนใหญ่ก็จะเข้าไปในตลาด ไปไล่ราคาหุ้นทำให้ได้หุ้นราคาแพงกว่าที่ควรจะเป็น คือมีแต่คนจะซื้อมากกว่าคนจะขาย (สุดท้ายก็ติดดอย) แต่เวลาที่ตลาดหุ้นไม่ค่อยดี มีแต่คนเสนอขายมากกว่าคนซื้อ นักลงทุนส่วนใหญ่จะกลัวที่จะซื้อหุ้น ทั้งที่ราคาหุ้นหลายตัวลดลงต่ำกว่าราคาพื้นฐานมากแล้วก็ตาม ซึ่งก็เป็นโอกาสในการได้ซื้อของดีราคาถูก 3.When to sell? คำถามนี้ก็มีสำคัญไม่แพ้กัน คือซื้อเป็นแล้วจะต้องขายเป็นด้วย การขายช่วยทำให้เราได้รับกำไร หรือช่วยหยุดการขาดทุนของเรา ทั้งนี้จะขายเมื่อไหร่นั้น ก็พิจารณาว่าหุ้นที่เราถือเกินกว่ามูลค่าที่แท้จริงหรือยัง หรือขายในกรณีที่ปัจจัยพื้นฐานของกิจการมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดี ก็ต้องขายตัดขาดทุนก่อน (การตัดขาดทุน Cut Loss เป็นกฎข้อสำคัญที่จะต้องมีอยู่กับนักลงทุนทุกประเภท เราต้องรักษาวินัยในกฎข้อนี้ให้ดี) การวางแผน เป็นการกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าว่าจะทำอะไร ทำเมื่อไร ทำที่ไหน ทำอย่างไร และใครเป็นผู้รับผิตชอบ นั้นก็คือเป็นเรื่องเกี่ยวกับอนาคตซึ่งยังไม่เกิด การจัดการการลงทุน ประกอบด้วยกระบวนการดังนี้ เริ่มจากการกำหนดวัตถุประสงค์การลงทุน ก่อนว่าเราต้องการอะไรจากการลงทุน ซึ่งก็เกี่ยวกับเรื่องของผลตอบแทน และความเสี่ยง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของเงินทุนของเราด้วย เช่น เป็นเงินออม เงินกู้ เป็นต้น จากนั้นก็มากำหนดแนวทางหรือกรอบการลงทุนของเรา ที่สอดคล้องกับการวัตถุประสงค์การลงทุน (ผลตอบแทน และความเสี่ยง) เช่นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และความเสี่ยงสูงในสัดส่วนเท่าใด ซึ่งนโยบาย (Policy) เป็นเครื่องมือที่เชื่อมโยงระหว่างวัตถุประสงค์และการดำเนินงาน ต่อมาก็เป็นขั้นตอนวิเคราะห์หลักทรัพย์ ซึ่งก็แบ่งเป็น Fundamental analysis และ Technical analysis ในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน จะวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทั้งภายนอกและภายใน สภาพแวดล้อมภายนอก จะวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทั่วไป ได้แก่ เศรษฐกิจ เทคโนโลยี การเมืองและกฎหมาย สังคม และวิเคราะห์สภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม ด้วย 5 forces model สภาพแวดล้อมภายใน เป็นการวิเคราะห์กิจการ ด้วย Value chain และวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน ซึ่งก็วิเคราะห์จากงบการเงิน ด้วยอัตราส่วนทางการเงิน ขั้นตอนต่อไปก็เป็นการเลือกหลักทรัพย์ เราต้องนำหุ้นที่เลือกมาคำนวณหาอัตราผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนในรูปของเงินปันผล กำไรส่วนทุน ซึ่งก็ต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และนโยบายการลงทุน ทำไมต้องกระจายการลงทุน? การลงทุนในตัวเดียวเป็น Stand alone risk คือความเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ไม่ดีกับกิจการที่เราเลือกลงทุน เราก็จะได้รับผลกระทบไปเต็มๆ การกระจายการลงทุน (Portfolio investment) จะช่วยกระจายความเสี่ยงออกไปได้ ซึ่งก็เป็นวิธีการลดความเสี่ยง สุดท้ายคือการควบคุม ก็เป็นการติดตามและประเมินผลการลงทุนของเราว่าเป็นอย่างไร โดยเปรียบเที่ยบกับมาตรฐาน กับผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริง แล้วนำผลที่ได้มาประเมิน เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการปรับเปลี่ยนการลงทุนต่อไป แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 50 06:09:11 จากคุณ : GS Mobile - [ 17 ก.ย. 50 06:08:20 ]

ความคิดเห็นที่ 27 การวิเคราะห์ การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก (External Environment Scanning) การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก เป็นตรวจสอบสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบองค์การ ที่จะมากระทบต่อองค์การ ซึ่งสภาพแวดล้อมภายนอกนั้นจะก่อให้เกิดอุปสรรค หรือโอกาสแก่องค์การ สภาพแวดล้อมภายนอกเป็นสิ่งที่องค์การไม่สามารถควบคุมได้ แต่บางครั้งก็สามารถที่จะหลีกเลี่ยงภัยที่มาคุกคามได้ การตรวจสอบสภาพแวดล้อมภายนอก จะตรวจสอบสภาพแวดล้อมทั่วไป (General Environment) และสภาพแวดล้อมทางอุตสาหกรรม (Industry Environment) สภาพแวดล้อมทั่วไป ได้แก่ -เศรษฐกิจ เช่น อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ ฯลฯ -เทคโนโลยี -การเมืองและกฎหมาย -สังคม ในที่นี่จะตรวจสอบว่า ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ นี้จะส่งผลดี (โอกาส) และผลเสีย (อุปสรรค) กับอุตสาหกรรมหรือธุรกิจใดบ้าง เมื่อเราทราบแล้วว่าอุตสาหกรรมใดได้รับผลดี เราก็จะเลือกกิจการในอุตสาหกรรม/ธุรกิจ เพื่อจะลงทุน เมื่อเลือกอุสาหกรรมแล้วก็จะใช้ five force model เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์อุสาหกรรม ซึ่งเป็นรูปแบบของการวิเคราะห์แรงผลักดัน 5 ประการ (บางตำรา จะมี 6 forces) อันได้แก่ 1.อุปสรรคของผู้เข้ามาใหม่ กิจการที่มีการเข้ามาของผู้เข้ามาแข่งขันทำได้ยากถือว่าดี เช่น ต้องการเงินลงทุนมาก 2.อุปสรรคจากสินค้าทดแทน เช่น ดื่มกาแฟ แทนเครื่องดื่มชูกำลัง (กระทิงแดง เอ็ม 150 ฯลฯ) 3.การแข่งขันภายในอุตสาหกรรม ถ้าสูงมากก็ไม่น่าสนใจ เพราะในการแข่งขันสูง จะทำให้ได้รับกำไรน้อย 4.อำนาจต่อรองของลูกค้า ถ้ากิจการมีลูกค้ารายใหญ่เพียง 2-3 ราย ถือว่ามีความเสี่ยงสูงกว่ากิจการที่มีลูกค้ามากมาย เช่น มาม่า มีคนกินเป็นล้าน ถ้ามีคนเลิกกินไป 10 คน ก็ไม่กระทบอะไร 5.อำนาจต่อรองของผู้จัดจำหน่ายวัตถุดิบ เมื่อเราเห็นว่ากิจการใดในอุสาหกรรมได้รับผลดีเราก็เลือกกิจการนั้น มาวิเคราะห์ต่อไป การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภาพใน จะเป็นวิเคราะห์ -Resources เป็นทรัพยากรในองค์การ เช่น คน เงิน วัตถุดิบ เครื่องจักร เทคโนโลยี -Structure โครงสร้างองค์การต้องสอดคล้องกับกลยุทธ์ เช่น simple structure Functional structure matrix teamwork Network เป็นต้น -Culture เช่น ทัศนคติ ค่านิยม ซึ่งมีผลต่อรูปแบบการดำเนินงานขององค์การ สำหรับวัตถุประสงค์ของการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในของกิจการก็เพื่อทำให้เราทราบถึง จุดแข็ง และจุดอ่อนของกิจการ Value-Chain Analysis เป็นการวิเคราะห์กิจกรรมต่างๆ ในองค์การตั้งแต่เริ่มต้น ไปจนถึงกิจกรรมสุดท้าย ว่าแต่ละกิจกรรมที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องนั้น ก่อให้เกิดคุณค่าอย่างไร ซึ่งก็คือไปเพิ่มส่วนเกินกำไร (Profit Margin) ให้แก่องค์การหรือไม่ การวิเคราะห์ Value Chain จะแบ่งกิจกรรมหลัก 2 กิจกรรม ได้แก่ ในการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน ไม่มีหลักเกณฑ์ในการวิเคราะห์ที่แน่นอน ต้องเอา Value chain มาวิเคราะห์ ซึ่งใช้สำหรับกิจการที่ผลิตสินค้าที่มีตัวตน สำหรับกิจการบริการการนำเอา Value chain มาจับทำได้ค่อนข้างยาก 1.กิจกรรมพื้นฐาน (Primary Activities) ประกอบด้วย Inbound logistics การเครื่องย้ายและการเก็บรักษาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต Operations เครื่องมือ เครื่องจักรในการผลิต จุดประกอบการผลิตสินค้า การทดสอบกระบวนการ การทดสอบสินค้าที่ผลิต Outbound logistics การเก็บรักษาสินค้า และการจัดส่งสินค้าเพื่อนำไปจำหน่าย Marketing and Sales การโฆษณา การส่งเสริมทางการตลาด การตั้งราคาสินค้า ช่องทางการจัดจำหน่าย Services การบริการก่อนและหลังการขาย เช่น การติดตั้ง ซ่อมแซม และการสนับสนุนด้านอะไหล่ 2.กิจกรรมเสริม (Support Activities) Procurement ก่อนจะได้ Inbound เราจะต้องมีการจัดหา การจัดซื้อวัตถุดิบ เครื่องจักร อะไหล่ ฯลฯ Technology Development การปรับปรุงกระบวนการผลิต และR&D Human Resource Management ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมการสรรหา การคัดเลือก การฝึกอบรม พัฒนาเส้นทางอาชีพของพนักงาน การประเมินผล การเลื่อนต่ำแหน่ง สุขภาพและความปลอดภัย และแรงงานสัมพันธ์ Firm Infrastructures การจัดการทั่วไป การบัญชี การเงิน การวางแผนกลยุทธ์ หากกิจการที่ผลิตสินค้าทำได้เป็นอย่างดีในทุกกระบวนการ ก็จะทำให้กิจการมี Margin สำหรับกิจกรรมสนับสนุน (Support Activities) บางกิจการอาจมีกิจกรรมไม่ครบทั้ง 4 อย่างก็ได้ สำหรับกิจกรรมที่อยู่นอกเหนือจากทั้ง 7 กลุ่ม ก็จับนำเข้ามาไว้ใน Firm Infrastructure จากประสบการณ์ของผมที่ผ่านมา คิดว่าการวิเคราะห์ Value chain ทำได้ค่อนข้างจะยากในทางปฏิบัติ เพราะว่าเราจะต้องทราบข้อมูลกระบวนการ และกิจกรรมของกิจการ ว่าเป็นอย่างไรบ้างในสภาพของความเป็นจริง ทั้งนี้เราสามารถที่จะทราบได้ว่ากิจกรรมของกิจการมีอะไร เป็นอย่างไร จากในรายงานประจำปี ซึ่งเขาก็จะเขียนไปในด้านดีของกิจการ นอกจากนี้ในการวิเคราะห์นั้นการหาข้อมูลให้ครบสมบูรณ์ก็ทำได้ยากอีกเช่นกัน ดังนั้น เรามีข้อมูลเท่าไรก็นำมาจับใส่ในหัวข้อกิจกรรมต่างๆ กิจกรรมใดไม่มีก็เว้นเอาไว้ เพราะว่าการได้รู้ก็ดีกว่าไม่รู้อะไรเลย ขั้นตอนต่อมาก็เป็นการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของกิจการ ด้วยการใช้การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน (Financial Ratio) ซึ่งก็เป็นการวิเคราะห์เชิงในเชิงตัวเลข หรือเชิงปริมาณ หลังจากก่อนหน้านี้เราวิเคราะห์กิจการในเชิงคุณภาพมาแล้ว ทั้งนี้ในการวิเคราะห์ที่ดีนั้น เราจะต้องวิเคราะห์ทั้ง 2 อย่างควบคู่กันไป อันที่จริงการวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน ผมไม่ได้วิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินครบทุกตัวหรอกนะครับ คือว่าผมจะดูอัตราส่วนที่ผมคิดว่าสำคัญๆ เท่านั้น โดยทั้งนี้ผมจะดูงบการเงิน(งบดุล งบกำไรขาดทุน) ของกิจการ ก็พอจะทำให้มองอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญได้แบบคร่าวๆ สรุป การวิเคราะห์ทั้งหมดที่กล่าวมา คือ SWOT Analysis นั่นเอง เพียงแต่การวิเคราะห์ SWOT นั้น จะทำให้เรารู้แบบกว้างๆ ซึ่งไม่ค่อยจะมีประโยชน์สักเท่าไรในการนำไปใช้ ดังนั้นจึงมีการคิดเครื่องมือในการวิเคราะห์แบบต่างๆ ออกมา ซึ่งทำให้การวิเคราะห์แคบลง และสามารถนำไปใช้งานได้ตรงตามความต้องการมากขึ้น จากคุณ : GS Mobile - [ 17 ก.ย. 50 06:08:37 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อย่างความเห็นนี้  เป็นการทฤษฎีมาจับเหตุการณ์จริง  ซึ่งตอนปีนั้นกลุ่มเรือ และปิโตรเคมี hot มาก จากคุณ : GS Mobile - [ 17 ก.ย. 50 06:13:45 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ราคาเหมาะสมของหุ้นคืออะไรกันแน่ ? อยากให้ทุกๆ คนช่วยแสดงความคิดเห็นครับ สำหรับผมแล้วผมมีความคิดว่า หุ้นทุกตัวไม่มีราคาเหมาะสมครับ แม้ว่าจะมีค่า มีสูตรการคำนวนต่างๆ PE BV หรือการดูด้วยภาพทางTechnic ก็ตาม เพราะราคาของหุ้นนั้นขึ้นอยู่กับความคาดหวังของบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับหุ้นนั้นๆมากกว่า ภาพทางTechnic หรืองบการเงิน ค่าต่างๆ ไม่ได้บอกถึงราคาของหุ้นนั้น ๆ เลย เพียงแต่บอกถึง โอกาส เสียมากกว่า ว่าหุ้นตัวนั้น ๆ มีโอกาสจะขึ้นมากกว่า หรือลงมากกว่า เห็นหุ้นมากมายที่ราคาต่ำกว่า BV อยู่ตลอด หรือ มี PE ต่ำอยู่ ตลอด แต่ก็ไม่ไปไหน หรือหุ้นบางตัว PE เป็น 100 ก็ยังมีคนเล่นกันอยู่ หรือบางตัวภาพทาง technic ดูดีแต่ก็ไม่ขึ้นหรือไปไม่รอด ผมจึงเชื่อว่าราคาของหุ้นทุกตัว เป็นราคาของความเชื่อของคนครับ ราคาของหุ้น ณ ปัจจุบัน จึงเป็นความเชื่อของคน ณเวลานั้นๆ คนที่ซื้อหุ้น ก็เพราะคิดว่ามันจะขึ้น คนที่ขาย ก็เพราะคิดว่ามันจะลง แล้วคุณหล่ะ คิดว่าราคาเหมาะสมของหุ้นคืออะไร ? จากคุณ : น้องส้มเด็กดี  - [ 17 ก.ค. 48 15:25:39 ] จากคุณ : GS Mobile - [ 17 ก.ย. 50 06:17:47 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ที่จริงมีคนตอบเยอะครับ  แต่จะเอามาลงหมดคงยาวเป็นหางว่าว  ขอเฉพาะความเห็นผม  ซึ่งก็ไม่ได้วิเศษจากคนอื่น  แต่พอดีผมเป็นคนตั้งกระทู้เลยต้องเอาของผมเป็นหลักครับ ........................................................................................................ ก็แล้วแต่คนจะมอง แต่ว่าไม่ว่าจะมองแนวไหน  อย่างไรเสีย  ก็ต้องดูมูลค่าของกิจการด้วย ขออธิบายแบบนี้ล่ะกันครับ เริ่มแรกลองนึกถึงว่าคุณกำลังจะซื้อบริษัททั้งบริษัท บริษัท abc ปีหนึ่งมีรายได้  2,000 ล้านบาท  หักค่าใช้จ่ายแล้วมีกำไร 100 ล้านบาท  ซึ่งบริษัทสามารถทำกำไรได้ในระดับนี้มาต่อเนื่อง 10 ปี ต่อมาคุณอยากได้บริษัท acb ที่นี้ลองเปรียบเทียบดูนะครับ 1.ถ้าคุณเสนอซื้อทั้งบริษัทนี้ในราคา 10,000 ล้านบาท  คุณว่าราคาที่คุณซื้อ ทั้งบริษัทเหมาะสมหรือไม่? 2.ถ้าคุณเสนอซื้อทั้งบริษัทในราคา 200 ล้านบาท คุณว่าราคาที่คุณซื้อทั้ง บริษัทเหมาะสมหรือไม่? 3.ถ้าคุณเสนอซื้อทั้งบริษัทนี้ในราคา 1,000 ล้านบาท  คุณว่าราคาที่คุณซื้อ ทั้งบริษัทเหมาะสมหรือไม่? ในการเสนอซื้อที่ 10,000 ล้านบาท  สิ่งที่คุณจะได้รับคือ ลงทุน 10,000 ล้านบาท  คุณได้รับกำไร 100 ล้านบาทต่อปี  เท่ากับผลตอบแทนต่อเงินลง ทุนเท่ากับ 1% ต่อปี คิดว่าคุ้มมั้ยกับการซื้อบริษัททั้งบริษัทในราคานี้  แล้วจะทำให้คุณได้ผลตอบ แทน 1% ต่อปี ?  แต่ที่รู้แน่ๆ คือ เจ้าของเก่าจะรีบขายให้คุณทันที ในการเสนอซื้อที่ 200 ล้านบาท  สิ่งที่คุณจะได้รับคือ ลงทุน 200 ล้านบาท   คุณได้รับกำไร 100 ล้านบาทต่อปี  เท่ากับผลตอบแทนต่อเงินลงทุนเท่ากับ 50% ต่อปี คิดว่าคุ้มมั้ยกับการซื้อบริษัททั้งบริษัทในราคานี้  แล้วจะทำให้คุณได้ผลตอบ แทน 50% ต่อปี ? แต่ที่รู้แน่ๆ คือ เจ้าของเก่าจะไม่ขายให้คุณแน่นอน สุดท้ายในการเสนอซื้อที่ 1,000 ล้านบาท  สิ่งที่คุณจะได้รับคือ ลงทุน 1,000 ล้านบาท  คุณได้รับกำไร 100 ล้านบาทต่อปี  เท่ากับผลตอบแทนต่อ เงินลงทุนเท่ากับ 10% ต่อปี คิดว่าคุ้มมั้ยกับการซื้อบริษัททั้งบริษัทในราคานี้  แล้วจะทำให้คุณได้ผลตอบ แทน 10% ต่อปี ? ราคานี้อาจจะทำให้ตัดสินใจยากทั้งสองฝ่าย แล้วที่นี้ลองคิดกลับมาเป็นหุ้นนะครับ  คือมองว่าคุณไม่มีเงินพอที่จะซื้อ กิจการได้ทั้งหมด  แต่ว่าคุณสามารถมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของได้  ด้วย การเป็นหุ้นส่วน สมมติบริษัท abc มีพาร์ที่ 10 บาท มีจำนวนหุ้นทั้งหมด 50 ล้านหุ้น คุณคิด ว่าควรจะเข้าเป็นหุ้นส่วนเขาที่ราคาหุ้นละเท่าไรดีครับ ? *********************************** ขอใช้ความเห็นเก่าแล้วกันครับ เริ่มจากให้มองเป็นการซื้อทั้งบริษัท แล้วจึงมาทำความเข้าใจว่าทำไมถึงต้องมีหุ้นสามัญ ซึ่งก็เป็นการอธิบายถึงการประเมินราคาหุ้นแบบง่ายๆ ครับ แน่นอนว่าการที่ตลาดหุ้นเปิดสัปดาห์ละ 5 วัน การซื้อขายที่เกิดขึ้น  ยอมทำให้ราคาหุ้นมีการ เปลี่ยนแปลง  ซึ่งก็เป็นไปตามกฎอุปสงค์และอุปทาน แต่ในระยะยาวแล้ว  ไม่ว่าหุ้นประเภทไหน  ซึ่งก็แล้วแต่คน จะนิยามกันไป   สุดท้ายราคาหุ้น(ตลาด) ก็ยอมจะสะท้อน มูลค่าที่แท้จริงของกิจการ มูลค่าที่แท้จริงของกิจการไม่ได้มาจากความเชื่อครับ   แต่มาจากการวิเคราะห์ที่มีหลักการมารองรับ (ตามข้าง บน)  สำหรับคนที่ใช้ความเชื่อ  นั้นหมายถึงเขากำลังเล่น พนันด้วยหุ้นอยู่ครับ ตัวอย่างนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ  เป็นคนที่มองมูลค่า ของกิจการ  ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อหรือขาย  ซึ่งก็มาจาก การทำงาน (การบ้าน)  มาเป็นอย่างดี  ซึ่งแตกต่างจากนัก ลงทุนส่วนใหญ่  ที่ต้องการผลตอบแทนสูงๆ  แต่ใช้ความ พยายามเพียงเล็กน้อย  ซึ่งสุดท้ายส่วนใหญ่ก็จะผิดหวัง พอไม่เป็นไปตามที่หวังก็จะโทษโน้นนี่ไปเรื่อย ก็ขอจบแค่นี้แหละครับ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 48 16:12:53 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 48 16:07:39 จากคุณ : GS Mobile   - [ 17 ก.ค. 48 16:03:51 ] แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 50 06:21:23 จากคุณ : GS Mobile - [ 17 ก.ย. 50 06:20:23 ]

ความคิดเห็นที่ 31 พอแค่นี้ดีกว่าครับ  ยาวๆ คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ชอบอ่าน การล่าเนื้อไม่จำเป็นว่าต้องทำคนเดียว  แต่ทำเป็นกลุ่มได้ อย่างเช่นในเว็บ TVI ซึ่งหลายๆ คนช่วยกันวิเคราะห์  และ แชร์ข้อมูลกัน  สุดท้ายก็ไปสู่เป้าหมายพร้อมๆ กันครับ ก่อนจบ คนที่ต้องการผลตอบแทนสูงๆ  แต่ใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อยเป็นไปได้ ? แต่ผมเชื่อว่าผลตอบแทนมันมักจะไปในทิศทางเดียวกับความพยายาม จากคุณ : GS Mobile - [ 17 ก.ย. 50 06:29:53 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สงสัยโดนหลายคนที่เห็น ๆ คือโดนเต็ม ๆ คุณคนไทย คุณ jr handsome เพราะว่าเค้าเคยบอกว่าพวกคุณเอาแข่งมาใส่ปลาผมหาปลามาให้ อะไรทำนองนี้ สอนไม่ได้แต่จะจับมาให้ แบบนี้คือเศษเนื้อใช่ไหมครับคุณ gs mobile จากคุณ : ref - [ 17 ก.ย. 50 07:53:45 A:222.123.45.183 X: TicketID:144854 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ก่อนเป็นนักล่าเนี้อก็ต้องเก็บเศษเนื้อกินก่อน จากคุณ : niroj2248 (niroj2248) - [ 17 ก.ย. 50 09:42:05 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ความคิดเห็นที่ 6   ผมเอาเศษเนื้อมาให้ครับ gc tvo mcs mfec  รับทานซะครับ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 50 21:12:27 จากคุณ : ter2million  - [ 16 ก.ย. 50 21:09:22 ] <<<<< ที่คุณ ter2million ให้มาไม่ใช่เศษเนื้อนะครับ มีบางตัว ที่เป็นเนื้อๆเน้นๆ อยู่ครับ ขึ้นอยู่กับว่าตาดีกันหรือเปล่า จากคุณ : alien Flu - [ 17 ก.ย. 50 09:49:14 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมทราบครับว่าทุกตัวดีหมด แต่ประชดเข้าใจไหม alien จากคุณ : ter2million - [ 17 ก.ย. 50 10:52:25 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ... ขอบคุณครับ จากคุณ : GABLIEL - [ 17 ก.ย. 50 10:59:15 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ทำไมไม่มีใครโหวตให้กระทู้นี้ จากคุณ : endophine - [ 17 ก.ย. 50 11:28:39 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อย่างน้อยถ้าจะรับเศษเนื้อก็น่าจะดูเป็นว่าเศษเนื้อนั้นยังดีอยู่หรือเปล่า มองอีกมุมหนึ่งกินเศษเนื้อปลอดภัย ไม่เจ็บตัวไม่เหนื่อย ถ้าเลือกเป็น เผลอ ๆ เศษเนื้อนั้นอาจเป็นเศษเนื้อชั้นดีก็ได้นะจะบอกให้ จากคุณ : ต่างมุม (ออสระโอ) - [ 17 ก.ย. 50 11:46:46 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อย่าดูถูกเศษเนื้อเชียวนะครับ ทำต้มแซ่บอร่อยมาก ถูกอีกตะหาก จากคุณ : DojoMAG - [ 17 ก.ย. 50 12:36:37 ]

ความคิดเห็นที่ 40 แบบนี้หล่ะครับ ผมเองอยู่ในตลาดมานาน เห็นคนออกจากตลาดมาเยอะ ตอนนี้ก็เหมือนวัฏจักรเดิมๆ ที่วนกลับมาอีกครั้ง แต่นึกไปนึกมา เราก็ต้องขอบคุณเค้านะครับ เพราะในฐานะ Trader แล้วเค้าคือผู้อุปการะคุณให้เราอยู่รอดได้มาจนถึงทุกวันนี้ ประสบการณ์ที่เราได้เจอได้เรียนรู้มาบางทีก็ยากที่จะสื่อให้คนอื่นๆได้เข้าใจ และระวัง เหมือนกับเตามันร้อนน่ะครับ คงต้องปล่อยให้เค้าได้ไปสัมผัสความร้อนของเตาดูสักครั้ง จะได้รู้ว่าความร้อนแท้จริงมันเป็นยังไง จากคุณ : unietrade - [ 17 ก.ย. 50 12:49:57 ]

ความคิดเห็นที่ 41 นั่นซิพี่เอ็นโด สงสัยมีแต่ผมกับพี่โหวต อิอิ จากคุณ : เล่นรอบ - [ 17 ก.ย. 50 14:17:45 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เศษเนื้อที่โยนให้อร่อยเหาะไม๊ล่ะ tvo จากคุณ : ter2million - [ 17 ก.ย. 50 14:48:14 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ไหนครับ กระทุ้สอนล่าเนื้อที่ GS mobile เขียน เคยมีด้วยเหรอ มีแต่ด่าคนเอาหุ้นมาให้ แล้วบอกว่าให้หาเอง แล้วไหนล่ะวิธี กระทุ้ไหนช่วยบอกทีครับ จากคุณ : ส้มเขียวหวาน - [ 16 ก.ย. 50 23:35:27 A:58.8.117.179 X: TicketID:155470 ] ฝากไว้ให้อ่านครับ จากหลายๆ ท่าน http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mhakkeaw&group=1 ผมโหวตให้กระทู้นี้... สังคมสินธร ปัจจุบัน มันเปลี่ยนไปแล้ว เข้าสู่ยุคที่ 4 ซึ่งเป็นยุคเสื่อมจริงๆ ของสินธร... ยุคที่ 1 พันทิปก่อนมีอมยิ้ม ยุคที่ 2 ช่วงมีอมยิ้ม จนถึงช่วงปี 46 ช่วงนี้ นักล่าเนื้อเยอะมาก และโพสต์สอนวิธีการล่าเนื้อหลากหลาย ยุคที่ 3 ปี 46 ถึง กลางปี 49 ช่วงรุ่งโรจน์ของสินธร กลยุทธ์การลงทุนของหลายๆ สำนักถูกนำเสนอโดยเซียน...ไม่ว่าจะเป็น DSM หรือ Temple Boxing ยุคที่ 4 กลางปี 49 ถึงปัจจุบัน ช่วงแรกเหมือนจะดี เป็นยุคของกองทุน ที่มีผู้โพสต์ดีๆ แนะนำสิ่งดีๆ ซึ่งเป็นทางเลือกแก่นักลงทุน แต่หลังๆ ชักยังไงชอบกล กลับกลายเป็นมีคนรอหาของจากคนอื่นมาให้ซะอย่างนั้น พอพี่ๆ แนะให้หน่อย กลับไปแขวะพี่เขาซะนี่ อย่างนี้เรียก น้องใหม่ แต่ดันเปรี้ยว... หลายเดือนก่อน คุยกับเฮีย คค ทางหลังไมค์ ว่าเราจะมีนัดมีตติ้งกันอีกเมื่อไหร่ ซึ่งก็ได้รู้กันแล้วว่า ปีนี้คงจะไม่มีเป็นแน่... เนื่องจากบรรยากาศดีๆ ที่เราเคยมีให้กันแบบพี่น้อง มันเปลี่ยนไป... ผมอ่านอยู่หลังฉากมาตลอด เห็นการเปลี่ยนแปลง...แต่ไม่อยากโพสต์อะไรมาก... เพราะอย่างที่ได้บอกไว้เมื่อครั้งที่เจอเฮีย คค เมื่อมีตติ้งคราวก่อนว่า "เจ้านายขอไว้ไม่ให้โพสต์อะไรอีกในสินธร..." คนที่รู้จักผม คงจะรู้ว่า ผมทำอะไรอยู่ และคงจะเข้าใจว่า ทำไมผมจึงไม่โพสต์อีก... สุดท้ายนี้ ผมเสนอแนะวิธีแก้ให้แล้วกันครับ สำหรับคนที่ชอบกินเศษเนื้อ ก็รวมตัวกันซะ ไปเปิดคลับสำหรับกลุ่ม ทำได้ง่ายๆ ขอให้มีสมาชิกที่มีอมยิ้ม ประมาณ 10 คน ตั้งกระทู้ขึ้นมา และส่งอีเมลให้ทางทีมงานพันทิป บอกว่าของตั้งคลับขึ้นมา อาจจะเป็น คลับสิงห์เดย์เทรดก็ได้ เหมือนกันกับคลับในสินธร ที่ปัจจุบันมี 2 คลับ คือ DSM กับ CFA & CISA Forum จะได้เป็นทางเลือกให้กับพวกคุณ อยากคุยอะไร ก็ไปคุยกันในคลับ แยกกันไปเลย บรรยากาศจะได้ไม่เสีย... นานๆ โพสต์ที วันนี้เอาแค่นี้ จากคุณ : หมากเขียว - [ 17 ก.ย. 50 14:48:17 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เสียดาย คนตายไม่ได้อ่าน จากคุณ : supertuvok - [ 17 ก.ย. 50 14:58:30 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ก็ดีนะ....โหวตให้อีก 1 จากคุณ : ตี๋น้อยMBA - [ 17 ก.ย. 50 15:06:49 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แรกเริ่มที่ผมเข้ามาในสินธร ก็เพราะอยากเล่นหุ้นเป็น แต่พอเข้ามา กลับเป็นมาคอยเก็บเศษเนื้อกิน สนุกดี ง่ายมาก เก็บกินได้ไม่กี่ครั้ง อาหารเป็นพิษ ต้องกลับมานั่งคิดว่าจะรักษาด้วยวิธีไหน สุดท้ายก็ได้ยาดีจากDSM กับ TVI รวมทั้งเซียนกราฟในสินธรที่ค่อยๆแพลมวิธีล่าให้ ตอนนี้เริ่มมีความสุข ถึงแม้จะยังล่าได้ไม่เก่ง แต่ก็รู้ว่าเริ่มต้นได้ยืนได้ด้วยตัวเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จำได้แม่นว่าพบในสินธร "If U can't wait, Stock market is not for U" คอยเตือนว่าจายเย็นๆ ตลาดไม่หนีไปไหน จากคุณ : Arteeart - [ 17 ก.ย. 50 15:29:25 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เห็นด้วยกับพี่หมากเขียวครับ .................. ตัวผมเอง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด  เพราะจากประการณ์ ... คนเข้ามาลงทุน จะเจอ หุ้นประเภท "เขาว่ามา" เสมอๆ ไม่ว่าจะไม่มีเวบบอร์ด หรือ มีเวบบอร์ด ... หุ้น "เขาว่ามา" ก็มีเสมอ ตั้งแต่เป็นกระดาษเล็กๆ เหมือนโพยหวยใต้ดิน การคุยกระซิบแต่คนอื่นได้ยิน แฟกซ์ ตะโกนเทรด เชียร์หุ้น คุยในร้านอาหาร นักลงทุน ต้องทำใจให้หนักแน่นกับสิ่งเหล่านี้เสมอๆ ผมเชื่อว่าทุกคนมีวิจารณญาณครับ ... หุ้นเน่า หุ้นดี เลือกให้ถูกนิสัย บางคนเลือกไม่ถูกเลยไม่ซื้อเลยซักตัวก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง (เพราะไม่รู้ เลยไม่ซื้อ ... ดีกว่า ไม่รู้แล้วซื้อ) เรื่องพวกนี้มันเป็นธรรมดาของโลก มีคนที่เรารัก ก็ต้องมีคนที่เราชัง และ มีคนที่รักเราและชังเราเช่นกัน หากต้องการฟังแต่คำชม คำไพเราะ ไม่ต้องการฟังคำด่าทอ คำหยาบคาย... โลกนี้คงไม่ไช่โลกแล้ว .... ว่าแล้ว กด โหวต ด้วยคนครับ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 50 15:58:08 จากคุณ : KENG76 - [ 17 ก.ย. 50 15:55:46 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อาจจะเป็นเศษเนื้อที่วางอยู่บน ปากหลุมพรางก็ได้ จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 17 ก.ย. 50 17:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 49 โหวตไม่ได้ อยากโหวต แต่ชอบทู้นี้ ถ้ามานั่งรออ่าน หาหุ้นเด็ดจากในนี้ รอเจ้าพ่อมาใบ้ ด่าขาใหญ่หละ แนะนำให้ตื่นมาตอนเช้าขูดหาหุ้นตามต้นไม้จะดีกว่า ไม่เปลืองไฟด้วย ขอโบก จากคุณ : มุ้งมิ้ง - [ 17 ก.ย. 50 17:59:36 A:124.120.171.13 X: TicketID:121387 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ... ขอบคุณครับ จะว่าไป... เป็นอย่างทุกวันนี้ก็ดีอย่างนะครับ...   จะได้ไม่เข้าไปยุ่งกับหุ้นที่เรียก เศษเนื้อ... กลัวอย่างเดียว...  วันไหนที่แกหยิบเศษเนื้อมาให้... ดันเป็นเนื้อที่เราครอบครองอยู่... อ่านผ่านๆ พอให้ได้มองโลกได้ง่ายขึ้น... ไม่เครียดครับ... จากคุณ : Mr.Zack - [ 17 ก.ย. 50 18:49:00 ]

ความคิดเห็นที่ 51 โหวตครับ จากคุณ : helga - [ 17 ก.ย. 50 20:19:41 ]

ความคิดเห็นที่ 52 โหวตให้พี่หมากเขียวครับ ...แล้วทำไง  คลิ๊กตรงไหนก่อนหว่า... จากคุณ : ข้างบูรพา - [ 17 ก.ย. 50 21:42:44 ]

ความคิดเห็นที่ 53 โหวตให้ค่ะ ขอบคุณที่นำข้อคิดดี ๆ มาให้อ่านค่ะ จากคุณ : หวานใจกัปตัน - [ 18 ก.ย. 50 08:27:02 ]

ความคิดเห็นที่ 54 โหวต จากคุณ : DarkEnemy - [ 18 ก.ย. 50 10:33:16 ]

ความคิดเห็นที่ 55 รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา ถ้าผู้บริโภคพลังเงียบ หรือสาวกเลือกที่จะกินเนื้อเน่า แล้วมีอันต้องหายจากตลาด ก็มิน่าสงสารแต่ประการใด เนื่องจากเขาทั้งหลายเลือกทางเลือกเขาด้วยตัวเขาเอง ใยศิษย์พี่ทั้งหลายที่เคยเยือกเย็น จึงต้องเอาไม่สั้นไปรัด "อุนจิ" ให้เสียรังวัด หรือมีเหตุร้อนอาสน์จนทนไม่ไหว เพียงเพราะ"เขา" ไม่ใช่ "พวกเรา" (เพราะส่วนตัวเรา....ก็ไม่ขอเป็นพวกกะใครเช่นกัน) หากคิดไปคนพวกนี้ก็เหมือนหุ้นในตลาด บางตัวก็หุ้นพื้นฐาน บางตัวก็หุ้นปั่น บางตัวก็หุ้นเน่า ในเมื่อ "คนที่เชื่อ" แบบไม่ลืมหูลืมตา ไม่มีสมองของตัวเอง ก็คือ "เหยื่อ" และเหมือนกับหุ้นที่เขาเลือกเล่น ดังนั้นเชื่อเถอะครับ ว่าคนเลือกจะเชื่อก็ปล่อยเขา แล้วถ้าคนป้อนเหยื่อเน่าพวกนี้ สาวกเยอะจริง......ป่านนี้ คงไม่ต้องมาตอดหาเหยื่อ จากแถวนี้หรอกครับ รับรองป่านนี้ตั้งสำนักกันใหญ่โตฃ เท่ากับอัตตาของเขาเองหมดแล้ว จากคุณ : กึ่งสำเร็จรูป - [ 18 ก.ย. 50 10:48:48 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณ พี่ GS Mobile  มากๆๆครับ ผมอยากได้ ข้อมูล แบบนี้มานานแล้ว และจะนำแบบ ไปหาหุ้น เนื้อที่แน่นๆ ครับ จากคุณ : E20PBO - [ 18 ก.ย. 50 13:44:59 ]

ความคิดเห็นที่ 57 โหวตครับ จากคุณ : ไทไท - [ 18 ก.ย. 50 14:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณทุกความเห็นครับ ขอเพิ่มเติมนิดหน่อยครับ หลังจากเขาโยนเศษเนื้อไปให้  บางคนอาจจะโชคดีได้เศษเนื้อที่กินได้  บางคนอาจจะได้เศษเนื้อบูด  หรือบางคนอาจจะได้เศษเนื้อที่มีสารปนเปื้อน คนที่ได้กินเศษเนื้อที่ไม่มีปัญหาก็ดีไป  แต่บางคนกินเนื้อเน่า  หรือปนเปื้อนเข้า  เลยบอกกับคนที่โยนเศษเนื้อมาให้ว่ากินแล้วไม่อร่อยบ้าง  ท้องเสียบ้าง  หรือบางคนอาจถึงขั้นต้องส่งโรงพยาบาลบ้าง   เมื่อคนนั้นได้ยินเสียงบ่นเข้า  ก็ตวาดกับผู้รับเศษเนื้อ  แล้วพูดว่า  เฮ้ยพวกคุณห้ามติ  ห้ามวิจารณ์อะไรทั้งสิ้น  เพราะว่าเศษเนื้อนี้ผมเป็นคนหามาให้พวกคุณฟรีๆ ก็ดีแค่ไหนแล้ว  พวกคุณอยู่เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย  จะเอาอะไรนักหนา  หากคราวหน้าใครบ่นผมอีก  คนๆ นั้นจะไม่ได้รับเศษเนื้ออีก ข้างบนเป็นการเล่าเรื่องเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นภาพก่อนที่จะนำไปให้เห็นของจริงของพฤติกรรมนักใบ้หุ้นคนหนึ่ง  ได้เอาอีเมล์ และหลังไมค์ที่คนอื่นส่งมาให้เขาออกมาแฉ  ซึ่งเป็นการกระทำที่ไร้มารยาทอย่างมาก  เนื่องจากเอาเรื่องส่วนตัวของคนอื่นมาโพสต์ในที่สาธารณะ ---------------------------------------------------------------------------- @@ผมขอร้องหน้าไมค์น่ะครับ กรุณาอย่าเมลล์หรือโทรมาถามผมเรื่องหุ้นแบบนี้ ผมไม่ใช่มาร์เกตติ้งของใคร!!!!!!!!!!!!!! เมลล์ขยะแบบนี้มีเยอะมาก  พวกคุณซื้อกันเอง พอติดแล้ว ก็โทรมาถามผม  อีเมลล์มาก็เยอะ  เต็มกล่องเมลล์ทุกวัน  ถามตัวคุณหรือมาร์เก็ตติ้ง หรือเซียนที่คุณเชื่อพวกเขาในเวบบอร์ดหุ้นกันสิ  ว่าจะช่วยพวกคุณได้อย่างไร  ผมไม่ใช่มูลนิธิน่ะครับ From:   Add to Address Book  Add Mobile Alert   To: trendy_thai@yahoo.com CC: Subject: Re: ขอสมัครสมาชิก JR Fanclub ครับผม Date: Wed, 12 Sep 2007 09:50:28 +0000   Dear JR I just picked up "EMC-W1" 2,000,000 x 1.90 = 3,800,000 bht this afternoon. It closed at 1.86 bht. How should I do for the stock? thankz แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 50 23:08:41 จากคุณ : JR_Handsome   - [ 12 ก.ย. 50 23:00:47 ]   Date: Tue, 11 Sep 2007 08:48:36 -0700 (PDT) From:  " Add to Address Book  Add Mobile Alert Yahoo! DomainKeys has confirmed that this message was sent by yahoo.com. Learn more Subject: Re: สมัครจ้า   To: trendy_thai@yahoo.com   สวัสดีค่ะคุณ A วันนี้ว่าจะโทรไปหาค่ะ แต่กลัวว่าจะดึกเกินไป เลยเขียน email มาแทน วันนี้ขาดทุนตัว EMC เต็มปรี่ ทั้งที่เมื่อวานก้อเล็งๆ อยู่ว่าจะเข้าอะไรดีระหว่าง CCET-W1 TOG และ EMC และในที่สุดก้อเลือก EMC และก้อเจ็บใจมากๆ เพราะว่าอีก 2 ตัวที่ไม่ได้ซื้อ ดันขึ้น แต่เจ้าตัวที่ซื้อดันดิ่งนรกแตกเลยค่ะ เศร้ามากๆ คุณ A พอจะมีหุ้นตัวไหนแนะนำได้บ้างคะ ของ  ไม่ได้เล่นแบบ day trade นะคะ สามารถ hold ข้ามวันได้ ไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้อง net set ค่ะ ยังไงอยากจะรบกวนคุณ A บอกเล่าเก้าสิบหุ้นสักตัวให้ได้ไหมคะ แค่พอว่าจะล้างขาดทุนไอ้เจ้าตัวแสบ EMC ได้น่ะค่ะ ขอบคุณมากๆ ล่วงหน้าเรยนะคะ 5555555555555555 เขียนถามอย่างนี้  โทรถามอย่างนี้ ต้องไปถามพวกเวบเสี่ย หรือเวบ ปี้บๆ ดีกว่าไหม  ที่เขาเก็บเงินพวกคุณเดือนล่ะห้าร้อย ขั้นต่ำไงครับ  หรือว่าเสียจนติดดอยเลือดสาดหมดแล้วครับ พวกเนี้ยน่ะครับ  ถ้าแน่จริงน่ะ  ไม่มานั่งเก็บเงินเดื่อนล่ะห้าร้อย เดือนละพัน จากรายย่อยที่หลงไปเป็นเหยื่อหรอกครับ  รับบริหารพอรต์ไปเลย   เดือนนึงเคลียร์กำไรขาดทุนกันครั้งนึง  ทำสัญญากันให้ถูกต้องกันไปเลย  กำไรรับส่วนแบ่งเท่าไหร่  ขาดทุนรับผิดชอบด้วยเท่าไหร่????????  ไม่รวยกว่ากันเยอะเหรอ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 50 23:12:30 จากคุณ : ผมไม่เก็บตังส์แบบนั้นหรอกครับ (JR_Handsome)   - [ 12 ก.ย. 50 23:06:36 ] อ่านกระทู้เต็มได้ตาม link ข้างล่างครับ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I5812221/I5812221.html จากคุณ : GS Mobile - [ 18 ก.ย. 50 21:15:23 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ยกตัวอย่างเศษเนื้อชั้นดี อร่อย ๆ ที่กินแล้วท้องไม่เสียครับ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I5830064/I5830064.html จากคุณ : ter2million - [ 19 ก.ย. 50 05:04:49 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เมื่อยังเป็นลูกเสือ  ก้อต้องคอยกินเศษเนื้อจากแม่เสือ เมื่อเติบใหญ่แก่กล้า  จึงออกล่าหาเนื้อกินเอง เข้าใจท่าน  จขกท.ครับ  ว่าต้องการสื่อสิ่งใด เด๋วนี้มีกระทู้แปลก ๆ  ไม่ค่อยสร้างสรรค์  แต่ก้อเป็นสีสันของบอร์ด คิดมากส์รากผมเน่า  นาคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ มันมีเป็นช่วง ๆ  เหมือนกระทู้การเมืองนั้นแระ  บางคนบอกเกี่ยวกะหุ้น  บางคนบอกไม่เกี่ยว เถียงกันจะเป็นจะตาย  แล้วกาลเวลาก้อผ่านไป  (ผมชอบแจมเสียด้วย) ขอบคุณที่เป็นห่วงสมาคมชาวสินธรหน้ามืด  เอ๊ย  หน้าใหม่ ๆ ต้องรู้จักล่าเนื้อกินเอง  แต่โรงเรียนสอนมันไม่มี  เหมือนโรงเรียนกวดวิชานะซีครับท่าน ต้องอ่านเอง  ศึกษาเอง  ยังกะเรียน  มสธ.  เป็นทำมะดา  ของคนที่อยากรวยแบบสบาย ๆ   เป็นนิสัยของคนไทยครับ  ผมยังชอบแทงบอล  เล่นม้า  เล่นหวยเรยย์ คนชอบเสี่ยง  ชอบอะไรง่าย ๆ  มีอยู่ทั่วไป  เหมือนเฮียสองคอว่า  พวกแด๊กส์ด่วน  อิอิ ปล.ความรู้ที่ท่านให้มา  เก็บใส่ไว้ในลิ้นชักแระ  สุดสัปดาห์จะไปเปิดอ่านครับ ถ้าสงสัยสิ่งใด  จะมาถามนะครับ  ท่านระพิน  ไพรวัลย์ จากคุณ : จอนฟอน - [ 19 ก.ย. 50 13:31:42 ]

ความคิดเห็นที่ 61 โหวตครับ ผมเข้ามาสินธร ราวปี 46 หลังตระเวนไปทั่ว ช่วงนั้นมีหลายท่าน ให้ความรู้ดีมาก ตอนนี้อมยิ้ม หลายท่านไม่มาโพสแล้ว เช่น คุณหมากเขียว ,มือเก่าหัดขับ, 007-s ,J_abac,พี่ Pretty,etc ที่หลงเหลือ อยู่ และยังให้ความรู้อยู่สม่ำเสมอ ก้อ เฮียคค,อาจารย์ปลา,อาจารย์ nowya,คุณ gs mobile,อาจารย์ gantz,พี่หมอ Gabrial พี่หมอ X หลังๆ ลับๆ ล่ิอ อยู่กันสงบๆ เถอะครับ จากคุณ : โตนปลิว - [ 19 ก.ย. 50 20:48:01 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เพิ่งหัดซื้อขายหุ้นเป็น ได้ไม่นานนี้เอง สรุปแล้วบางครั้งบวก บางครั้งลบทำให้ท้อแทบอยากหันหลังให้วงการนี้ แต่ด้วยความหวังว่าจะโชคดีกับเขามั่งจึงพยายามศึกษาและขอความเห็นจากพวกพี่ทุกคน แต่พอเข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกไม่สบายใจเลย เหมือนว่าพวกพี่ๆคนละขั้วกัน แล้วพวกน้องใหม่จะหันหน้าไปเพิ่งใครได้หละ..................รักและเคารพพี่ทุกคนจากใจ จากคุณ : กาแฟร้อนที่บราซิล (กาแฟร้อนที่บราซิล) - [ 21 ก.ย. 50 02:08:39 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เพิ่งเข้ามาอ่านเช้านี้เอง เชยจัง .... แหะๆ ทั้งที่ในพันทิปนี่ก็อ่านห้องนี้เป็นหลัก โหวตแล้วค่ะ ช่วยๆกันโหวต กระทู้จะได้อยู่บนนี้นานๆ .... ขอบคุณทั้งผู้ตั้งกระทู้ และผู้ร่วมเสวนา ทำให้ผู้อ่านได้ข้อคิดดีๆ ..... ทั้งที่ตอนแรกอ่านแล้วไม่ค่อยเก็ตเท่าไรว่า มีมากขนาดนั้นหรือ เรื่องเศษเนื้อเป็นอุปรมาอุปรมัยที่เห็นภาพชัดเจน (แต่ภาพไม่ง้าม ไม่งาม ...) คงตั้งใจให้เป็นข้อคิด เตือนสติว่าอะไรกำลังดำเนินอยู่ .... หวังว่า จะไม่ระคายใจใคร จนลุกมาถกเถียงกัน (ตรงนี้เข้ามาเติม ... เพราะอ่านคุณข้างบน ว่าไม่สบายใจเห็นพี่ๆไม่ปรองดองกัน ... อยากบอกว่า น่าจะสบายใจว่า มีรุ่นพี่คอยดูแล ห่วงใย รุ่นหลัง ... แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ... ต่างจิต ต่างความคิด ต่างความเห็น ที่สำมะคัญ ต่างกระเป๋าเงิน ... แฮ่ ... ) อ่านแล้ว สงสัย ..ให้ฉุกคิด เอ .... เราเป็นผู้โยนหรือผู้รับหรือเปล่าเนี่ย ไม่ได้รับมากิน แต่ก็รับมาพิจารณาเสมอเมื่อมีโอกาส .... คือ ถ้าอ่านแล้วเห็นหุ้นตัวไหนเตะตา (คนพูดถึงเยอะ)  ก็จะเข้าไปดูประวัติ ฯลฯ แล้วก็ตามดูว่าจะขึ้นลงตามนั้นไหม (ที่จำได้ก็เช่น กระเบื้องเยอรมันจะไปสองบาท ไออีซี้เลี้ยวจะคืนชีพ เป็นต้น)  เป็นข้อมูลให้ตัวเองได้ศึกษาอีกแบบนึง .... เข้ามาอ่านๆ และซื้อๆขายๆ (ไม่มาก แค่พอเพลินๆ)  ซักสองปีเห็นจะได้ (แต่รู้สึกว่าเมื่อเร็วๆนี้เอง...) สังเกตว่า ทำไมน้องๆมือใหม่ทั้งหลาย หลังๆนี้ ไม่ค่อยช่วยตัวเองเลยแม้ในเรื่องข้อมูลเล็กๆน้อยๆ ...จึงไม่น่าแปลกใจที่จะกระโดดเข้าไปรับข้อมูลสำคัญ .....   ขอบคุณ จขกท อีกครั้งค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 50 09:15:20 จากคุณ : nijja - [ 22 ก.ย. 50 08:55:21 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณครับ ชอบกระทู้นี่มาก ตามความเห็นคือ สอนให้คนหาปลา ดีกว่าให้ปลาไปเลย เพราะหากคุณไม่ให้ ต่อไปคนรับก็อาจไม่ได้กินเลย ....แต่ตามความเป็นจริง คุณต้องสอนเค้าไป พร้อมให้ความดูแล ช่วยเหลือเค้าไปด้วย จนกว่าเค้าจะเริ่มทำได้เอง จึงค่อยปล่อยให้เค้าทำทั้งหมดด้วยตัวเองนะครับ ........  อย่างไร ผมก็เห็นด้วยกับทั้ง 2 ความคิด รอใบ้หวย อย่างเดียว กินได้ แต่อาจโดนวางยา หาเนื้อเองได้ แต่ต้องใช้เวลา และขวนขวายครับ **** ขอร่วมแสดงความคิดเห็นเท่านั้นครับ จากคุณ : pom_sw (pom_sw) - [ 23 ก.ย. 50 11:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ทำอย่างไรก็ได้ถ้าทำแล้วผลออกมาดี เนื้อหาสำคัญกว่ารูปแบบครับ จากคุณ : @erawan (@erawan) - [ 23 ก.ย. 50 12:15:00 ]

ความคิดเห็นที่ 66 จะเศษเนื้อหรือเนื้อชิ้นโต ก็แล้วแต่ ก่อนรับประทานควรเอามาทำให้สุกเสียก่อนนะ อ้อ แล้วอย่าลืมล้างมือให้สะอาดก่อนด้วยล่ะ อิอิ จากคุณ : kunimi_winterfall - [ 23 ก.ย. 50 16:08:35 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ช่วงนี้ชักอยากได้เศษเนื้อชิ้นโตๆ เนื้อหวานๆ อ่ะ ล่าเนื้อเองมันเหนื่อยนะคร๊าบ พี่น้อง จากคุณ : อิอิ - [ 24 ก.ย. 50 12:23:02 A:203.146.147.190 X: TicketID:145768 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 24 ก.ย. 50 19:13:56 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ใช่ครับผมได้พูดไว้อย่างนั้นจริงๆตามคคหที่ 32  แต่ถ้าฟังแล้วไม่ชอบ ผมก้ขอโทษด้วยครับ สำนวนมันพาไปหนะครับ ที่ผมเน้นคือวิธีดูหุ้นที่ได้ผลมันสอนกันไมได้ เพราะพอรู้กันทัวแล้วมันก้ใช้ไม่ได้ผล  ผมจึงยินดีที่จะแนะนำตัวหุ้น แต่ไม่สามารถสอนวิธีดูหุ้นได้ ไม่ได้แกลัง ไม่ได้หยิ่ง ไม่ได้ฟรอ์ม  ไม่ได้แก้ตัว แต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆครับ เอาเป็นว่าตอ่ไปผมจะไม่พูดจาให้มันดูเหมือันกับไม่น่าฟังอย่างนี้อีกแล้วกันครับ ไม่ทันได้คิดจริงๆครับ ในส่วนเจ้าของกระทู้ ผมว่าเป็นผู้ทรงภูมิ ที่น่านับถือ ผมว่าเป็นการเตือนนะ แต่แน่ละการชี้ทางนึงมันก้กระทบกับทางตรงกันข้าม เป็นปรกติ การพูดให้คนพอใจ ทั้งหมดและไม่พอใจทั้งหมด เป็นไปไม่ได้ ก็ต้องมีบางคนฟังแล้วดี กับบางคนฟังแล้วรู้สึกไม่ดีเป็นธรรมดาครับ เวปใหญ่ๆผู้คนเยอะๆก้มักเป้นอย่างนี้   ไม่พุดเยอะแล้ว เดียวเกิดไปผิดหูใครเข้าให้อีก ขอแสดงความคิดเห็นตามนี้ครับ ^_^ จากคุณ : khonthai.tk. (khonthai.tk.) - [ 25 ก.ย. 50 02:14:22 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ผมชอบเศษเนื้อที่สุด จากคุณ : Sponsored by my wife - [ 25 ก.ย. 50 17:47:44 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ยิ่งอ่านก็ยิ่งงง จะเถียงกันไปทำไมครับ  เศษเนื้อ ชิ้นเนื้อ ห้องสินธรคนถืออัตตา อีโก้สูง!!!!! มีเยอะ  อย่างคุณเจ้าของกระทู้ พิมพ์เสียยืดยาว แต่ไม่เห็นมีสาระอะไรเท่าไหร่ บอกหน่อยสิครับว่าคุณมองแนวโน้มตลาดเป็นอย่างไรตอนนี้ หุ้นกลุ่มไหนดีบ้าง  ผมชอบอ่านแบบสั้นๆ ง่ายๆ   เข้ามาห้องนี้ กันทำไมครับ ถ้าไม่ใช่อยากได้วิธีการเล่นหุ้นที่ดี  ได้แนวทางตัวหุ้นที่สามารถซื้อแล้วไม่ขาดทุน  สามารถขายได้กำไรแล้วก็เอาเงินทุนไปซื้อหุ้นตัวอื่น เพื่อหาทางขายแพงกว่าอีก   ผมแนะนำเพื่อนๆที่นี่ ตามไปเวบใหม่นี้ดีกว่าครับ http://richhoon.122mb.com/webboard/index.php     ผมไม่ได้ชอบเศษเนื้อ แต่ผมชอบชิ้นเนื้อ และผมก็ได้มาตลอด จากการเป็นผู้ได้รับ  ซึ่งคนให้ เขาก็เต็มใจให้ด้วย  อย่างคุณ คนไทย อีกคน  ผมนับถือ จากคุณ : ธนา (I-LOVE-JR) - [ 25 ก.ย. 50 20:23:57 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ^ ^ อยากรู้ว่ามองอย่างไร  ก็หาเอาจากระทู้ในสินธรล่ะกันครับ อย่ารอแต่ให้คนอื่นป้อนให้ถึงปาก  รู้จักหาใส่ปากเองบ้างนะครับ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 50 05:32:56 จากคุณ : GS Mobile - [ 26 ก.ย. 50 05:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 73 กระทู้นี้ไม่ได้บอกว่าใครต้องทำอะไร ?  ใครต้องเลือกอะไร ? นะครับ คุณๆ จะตัดสินใจเลือกอย่างใดก็ขึ้นอยู่กับพวกคุณ   หากคุณเห็นว่าการรับเศษเนื้อเป็นเรื่องดี (ใครบอกอะไรก็เชื่อ  และตัดสินใจซื้อ-ขายเลย)  คุณก็เลือกไป   หากคุณเห็นว่า  เราควรลงทุนกันด้วยเหตุผล  ไม่ใช่เห็นใครใบ้หุ้น  เชียร์หุ้นก็เชื่อเลย  แต่ควรนำมาทำการบ้านด้วยตัวเองก่อน ว่าหุ้นตัวนั้นดีจริงอย่างที่คุยหรือเปล่า ?  คุณก็เลือกที่จะเป็นได้ครับ ทั้งหมดนี้เป็นสิทธิของพวกคุณ  ไม่มีใครสามารถไปบังคับได้ครับ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 50 06:51:44 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 50 06:50:32 จากคุณ : GS Mobile - [ 26 ก.ย. 50 06:48:30 ]

ความคิดเห็นที่ 74 โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับคุณ GS Mobile เกือบทั้งหมดครับ เพราะว่าคนเราจะยืมจมูกคนอื่นหายใจได้ตลอดไปหรือ จากคุณ : @scholly@ - [ 26 ก.ย. 50 17:40:36 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เปียบเทียบได้โดนใจมาก ในฐานะผู้ต่อต้านตลาดหุ้น แสดงภาพได้ชัดเจนครับ ตลาดหุ้น ไม่ใช่ สถานที่ของการสร้างเสริมระบบทุนนิยมที่แท้จริง จากคุณ : g9h - [ 26 ก.ย. 50 19:21:06 ]

ความคิดเห็นที่ 76 THAI VI มีใบ้หุ้นด้วยเหรอครับ ไม่เคยเห็นนะ ถ้าใบ้ไปคนตอบกระทู้คุณเป็น 0 แน่นอน บางครั้งถาม ว่าหุ้นตัวนี้ดีไหม เผลอ ๆ จะโดนย้อนถามว่า แล้วทำไมคุณถึงเลือกหุ้นตัวนั้น ผมว่าความรู้มันไม่ได้อยู่ใน สินธร เท่านั้น แต่สินธรเป็นแหล่ง แรก ๆ ที่นักลงทุนหน้าใหม่จะนึกถึง เป็นเหมือนกับที่รวมคนทุกกลุ่มมีทุกประเภท จะใบ้หุ้นกันบ้างก็โอเค แต่แน่นอนว่าผมไม่เชื่อว่าคนใบ้หุ้นหวังดี คนเราทุกคนเห็นแก่ตัว ผมเห็นด้วยกับคุณคนไทย ถ้าทุกคนคิดเหมือนกันหมด เมื่อนั้นตลาดหุ้นคงแปลกพิลึก อยากซื้อหุ้น A เหมือนกันหมด มันก็ไม่มีคนขาย ตลาดหุ้นมันอยู่ได้ด้วยความเห็นที่แตกต่างกัน นักลงทุนใหม่ ๆ คงต้องหัดป้องกันตัวเองด้วย มีคนเตือนอย่างคุณ GS ก็ต้องฟังไว้บ้างนะครับ... เขาไม่ได้บอกให้คุณไม่ต้องกินเศษเนื้อ แต่เขาบอกให้คุณดูเศษเนื้อก่อนกิน เท่านั้นเองครับ จากคุณ : Man Call Hero - [ 27 ก.ย. 50 18:39:52 ]

ความคิดเห็นที่ 77 โห้.....เข้ากระทู้แนะนำเรียบร้อย!!!!! ผมอยากสรุปคราวๆ จากความคิดเห็น.....ที่อยู่ข้างบน "เขาไม่ได้บอกให้คุณไม่ต้องกินเศษเนื้อ แต่เขาบอกให้คุณดูเศษเนื้อก่อนกิน เท่านั้นเองครับ " " เพราะว่าคนเราจะยืมจมูกคนอื่นหายใจได้ตลอดไปหรือ " "เราควรลงทุนกันด้วยเหตุผล  ไม่ใช่เห็นใครใบ้หุ้น  เชียร์หุ้นก็เชื่อเลย  แต่ควรนำมาทำการบ้านด้วยตัวเองก่อน ว่าหุ้นตัวนั้นดีจริงอย่างที่คุยหรือเปล่า ?  คุณก็เลือกที่จะเป็นได้ครับ" "จะใบ้หุ้นกันบ้างก็โอเค แต่แน่นอนว่าผมไม่เชื่อว่าคนใบ้หุ้นหวังดี คนเราทุกคนเห็นแก่ตัว" นอกนั้น ....คิดกันเองนะว่าจะพิจารณายังไง ตามนั้น....... จากคุณ : ตี๋น้อยMBA - [ 29 ก.ย. 50 19:02:00 ]