ลุงเพิ่งกลับจากธุระ...พอกลับเข้าอ๊อฟฟิต..รีบแจ้นเปิดห้องสินธร...เพราะได้เกริ่นไว้วันก่อนว่าจะหยิบยกเรื่องของ "เสี่ย ย." มาเล่าให้ชาวพันทิปได้อ่านกัน..พอเปิดเข้าห้องได้ปุ๊บ...โอ้โห..พ่อคุณ...ได้อ่านข้อความที่โพสของผู้เข้าชม...เห็นความคิดความอ่านหลากหลายจริงๆ....เนี่ยแหละ..ลุงว่าเรื่องของประชาธิไตยในใจของคนในห้องนี้กำลังเบ่งบาน..ใครใคร่คิด.. คิด..ใครใคร่อ่าน ..อ่าน..ลุงว่าดีนะ..แต่ทุกคนต้องมีวิจารณาณ..ต้องรู้จักไตร่ตรอง..และควรแยกแยะให้ออกอะไรดีอะไรไม่ดี..ลุงเองคงไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ความคิดความเห็นของท่านใดทั้งสิ้นครับ..แต่ก็จะจดจำสิ่งดี ๆ ที่ชาวสินธรส่งถึงลุง...เอาละวันนี้ลุงขอเล่าเท่าที่คิดออก เกี่ยวกับเรื่องของ เสี่ย ย. ให้อ่านกัน ลุงขอย้ำนะ...ลุงไม่มีเจตนารมณ์ที่จะเชิดชู หรือต่อต้านกับวิธีการและแนวทางในการลงทุนของผู้ที่ลุงได้เอ่ยอ้างในบทเขียนแต่อย่างไร เพียงแต่แค่ยกขึ้นมาเป็นกรณีศึกษาก็เท่านั้นเองครับ ....
วันนี้หากนับเรียงรายคนผู้ที่ประสบความสำเร็จจากตลาดทุนชั้นหัวแถวแนวหน้า แน่นอนครับเราจะได้ยินชื่อ เสี่ย ย. ซึ่งบุคคลคนนี้ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเซียนหุ้นระดับ พันล้านเช่นกัน วันนี้ผมขอหยิบยก สไตล์การเล่นหุ้นของเสี่ย ย. ขึ้นมาเป็นกรณีศึกษาในครั้งนี้ ตามคำเรียกร้องของผู้คนในห้องนี้
เสี่ย ย. มีผลงานการเล่นหุ้นอันงดงาม ซึ่งไม่แพ้หรือด้อยไปกว่าบรรดาเซียนหุ้นระดับพันล้าน แม้แต่น้อย เพราะเขามีลีลากลยุทธ์เล่นหุ้นที่เหนือชั้นจนน่าติดตาม
ด้วยสไตล์การเทรดหุ้น ของ เสี่ย ย. ทุกครั้งทุกรอบ ผู้คนมักต้องเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวหุ้นที่เป็นเป้าหมายในการเทรดของเขา
ผลงานของเสี่ย ย. ที่เป็นตัวการันตีความสามารถในการเล่นหุ้นของเขานั้นคือ เงินสด ๆ ก้อนโตกว่า 500 ล้านบาทที่ตุงอยู่ในกระเป๋าของเขา แถมทรัพย์สินมูลค่าอีกนับไม่ถ้วนที่เขาแสวงหาได้มาจากตลาดทุนด้วยมันสมองและสองมือของเขานั้นเอง
ย้อนหลังไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เสี่ย ย. เป็นนักเลงหุ้นตั้งแต่ยังรุ่นกระทง ผมเองได้รู้จักมักคุ้นจนถึงกับสนิทสนมเป็นอย่างดีกับเสี่ย ย. จะด้วยเพราะว่าเสี่ย ย. เป็นผู้ที่มีอัธยาศัยใจคอกว้างขวาง เขาจึงมีเพื่อนฝูงในวงการหุ้นค่อนข้างมาก
และจุดนี่เองละครับที่ทำให้เสี่ย ย. สามารถต่อยอดความเป็นคนที่เข้ากับคนง่ายกลายเป็นสิ่งที่เปรียบเสมือนสะพานทอดพาเขาก้าวสู่ความเป็นนักเลงหุ้นผู้ยิ่งใหญ่ได้
ในยุคเริ่มต้นที่เขาก้าวสู่วงการ
เสี่ย ย. เล่าให้ผมฟังว่าเขาเหมือนคนร่องลอย เพราะช่วงนั้นบ้านเขาถูกไฟไหม้วอดวายจนเกือบหมดตัวมีเงินเหลือติดกระเป๋าไม่กี่หมื่นบาท ชีวิตเลยเหมือนไม่มีอะไร ต้องดั้นด้นจากอยุธยาบ้านเกิด เข้ามากรุงเทพฯ อาศัยอยู่กับพี่ชาย
ผมยังจำได้แม่นว่า หลายปีก่อนในช่วงระยะเวลาอันยาวนานพอสมควร ที่ผมกับเสี่ย ย. มีเวลาว่าง ๆ เราทั้งสองคน มักร่วมในการพัฒนาสมองด้วยกัน โดยวิธีการ เล่นเกม เลี๊ยบตุ่ย ซึ่งจากเกมที่เล่นกัน ผมก็พอมองออกว่า เสี่ย ย. เป็นคนที่ลุ่มลึก คิดอะไรเป็นระบบมองเกมหลายชั้น
เสี่ย ย . เป็น ผู้หนึ่งที่ต้องมานั่งห้องค้าเป็นประจำ แต่ด้วยความเป็นผู้ที่เข้ากับคนง่าย เสี่ย ย. เลยเป็นที่รู้จักของคนในห้องค้านั้น ๆ เป็นอย่างดี วันหนึ่งโอกาสของความร่ำรวยกำลังเคลือบคลานมาหาเขา เมื่อหุ้น BLAND กำลังรอจ่อเข้าตลาดหุ้น โดยที่ บล. ธนสยามเป็นแกนนำอันเดอร์ไรท์
เสี่ย ย. คุยให้ผมฟังว่า ตอนนั้นทาง บล. ธนสยาม เขียนป้ายตัวโตใหญ่ติดที่บอร์ดหน้าห้องค้าว่า ต้องการซื้อหุ้น BLAND ในราคาที่สูงกว่าราคา IPO ค่อนข้างมาก ทั้งต้องการจำนวนเยอะด้วย
เสี่ย ย. จึงไม่ยอมให้โอกาสทองเช่นนี้พลาดไป เขารีบสอบถามเพื่อความแน่ใจว่า ป้ายที่ประกาศรับซื้อหุ้น BLAND นั้นนะ ของจริงหรือปลอม ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่บอกว่าจริง มีเท่าไร รับซื้อหมด เพราะคนที่ซื้อต้องการดันราคาหุ้นให้พุ่งขึ้นก่อนหุ้นจะเขาเทรดในตลาด
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น เสี่ย ย. จึงเริ่มออกแสวงหาหุ้นเพื่อมาขายทำกำไร โชคเข้าข้างเสี่ย ย.จริงๆ ครับ เมื่อเขาสามารถสะสมหุ้นได้มากพอควร แล้วก็นำมาขายให้กับผู้ที่ต้องการซื้อ งานนี้ เสี่ย ย.บอกว่าได้เกิดจริงๆ เพราะเขาสามารถโกยกำไรเฉพาะงานนี้ก็มากโขทีเดียว
ชีวิตของเสี่ย ย. ในวงการหุ้นเสมือนหนึ่งพึ่งเริ่มต้น เสี่ย ย. คุยให้ผมฟังต่อว่า เขาได้รับคำแนะนำจาก เสี่ยที่ประสบความสำเร็จจากตลาดหุ้นคนหนึ่งว่า ถ้าเอ็งอยากรวยด้วยหุ้น เอ็งต้องกล้าได้กล้าเสียหน่อย
คำที่ว่า กล้าได้กล้าเสีย จากผู้ที่ให้แนวคิดนี้ เสี่ย ย. บอกว่าเขาต้องการให้เราพร้อมที่จะลุยหุ้นหากรู้ว่าลุยแล้วต้องชนะ และกล้าที่จะเสียคือพร้อมที่ต้องสละขาดทุนเมื่อถึงคราวจำเป็น เมื่อ เสี่ย ย. ได้คัมภีร์สู้หุ้นนี้มา เขาเริ่มรู้สึกตัวเองว่า ถึงเวลาแล้วที่เขาต้องสู้หุ้นแบบลุย !!!
เสี่ย ย. เริ่มต้นตามสูตรที่ว่าด้วย วิธีการเปิดพอร์ตมาร์จิ้น นำเงินที่สะสมจากการกำไรหุ้นเบื้องต้นทุ่มหมดตัววางค้ำมาร์จิ้น หุ้นตัวแรกที่เสี่ย. ย ซื้อในระบบมาร์จิ้นคือ หุ้นตระกูลแบงก์ เพราะด้วยความที่ยังไม่กล้าพอเลยต้องซื้อหุ้นประเภทความเสี่ยงน้อยไว้ก่อน แต่หุ้นตัวดังกล่าวก็สามารถทำให้เขามีกำไรพอควรเช่นกัน
แต่จุดที่ทำให้ เสี่ย ย. เกิดความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของตนเองนั้นคือ การเข้าไปซื้อหุ้นตามการวิเคราะห์และจากมุมมองของตนเองอย่างแท้จริง นั้นคือหุ้น PTT เมื่อยิ่งซื้อหุ้นยิ่งขึ้นเขาก็ยิ่งซื้อต่อไปเรื่อย ๆ ด้วยการหาเม็ดเงินจากการกู้ยืมโดยระบบมาร์จิ้นนั้นเอง เฉพาะหุ้นตัวนี้ตัวเดียวทำให้เขาโกยกำไรจากตลาดหุ้นได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
จากนั้นต่อมา เสี่ย ย. พยายามเล่นหุ้นในลักษณะเกาะติดตามกระแสของรอบตลาดและ เจาะลึกเข้าถึงรายละเอียดของตัวหุ้น แล้วก็ทำกำไรเป็นรอบ ๆ ผลงานที่มีการซื้อหุ้นแล้วสามารถโกยกำไรได้อย่างงดงามคือหุ้น TPI หรือ IRPC ในปัจจุบัน
เสี่ย ย. มักบอกกับผมเสมอว่า เมื่อไรที่หุ้นหมดรอบ ควรต้องหยุดเล่น วางอาวุธ สงบนิ่งอยู่เฉย ๆ จนกว่ารอบใหญ่ของหุ้นจะมาถึง และหุ้นที่เข้าไปเล่นแต่ละรอบต้องเป็นหุ้นที่นำตลาด หรือขึ้นมากกว่า SET เพราะการเล่นหุ้นถูกรอบ แต่ถ้าค้นหาหุ้นที่จะขึ้นมากกว่าตลาดไม่ได้เราอาจเสียจังหวะเสียดายรอบดี ๆ ของตลาดที่เราไม่สามารถทำเงินจากหุ้นได้
ผมได้สนทนาพูดคุยกับ เสี่ย ย. เขาบอกผมว่า การเล่นหุ้นเพื่อให้ได้มาตามสิ่งที่พึงหวังนั้น สูตรตายตัวย่อมไม่มีแน่นอน แต่สิ่งที่เขาค้นหาและมองหาตัวหุ้นเป้าหมายคือ หุ้นที่มีความสามารถฟื้นกลับ จากจุดที่ย่ำแย่และเริ่มจะดูดีขึ้น เขาบอกว่าหุ้นเหล่านี่ละจะเป็นหุ้นทำเงินได้ดีมากที่สุด และหุ้นตัวไหนทีมีค่า พีอี ต่ำ แต่ราคาหุ้นไม่ขยับหุ้นเหล่านั้นก็ย่อมไม่มีอะไรน่าสนใจ สู้เล่นหุ้นที่มีพีอีสูง ๆ แต่บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีในอนาคตได้ หุ้นประเภทนี้ละจะทำเงินได้มากกว่า
วันนี้ชื่อชั้นของ เสี่ย ย. เป็นที่รู้จักกว้างขวางในวงการหุ้น และเขาก็เป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยๆ ทั้งหลายที่ประสบความสำเร็จร่ำรวยด้วยหุ้น วิถีชีวิตของนักสู้หุ้นรายนี้คงโลดแล่นต่อไป หากตราบใดตลาดทุนแห่งนี้ยังเป็นแหล่งรวมของเม็ดเงินมหาศาลเช่นนี้ ...
ปล.. อ่านจบ..แล้วแสดงความคิดความเห็นได้นะคร๊าบ....พวกเรารัก ๆ กันไว้...มีอะไรก็พึ่งพิงกันนะ..วันพรุ่งนี้ลุงจะนำกลยุทธ์เล่นหุ้นมาฝากนะ...ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรงดี ร่ำรวย สุขี ๆ...สวัสดีครับ
แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 50 15:37:13