ความคิดเห็นที่ 1 เท่าที่ผมถามข้อมูลมาได้สรุปง่ายๆดังนี้ครับ เงินที่ซื้อ RMF จะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนๆ ดังนี้ ส่วนแรก เอาวันที่ซื้อเป็นหลักโดยต้องซื้อก่อนวันที่ 1 ตค 2550 ส่วนสอง เอาวันที่ซื้อเป็นหลักเหมือนกันโดยซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ตค 2550 เป็นต้นไป ส่วนแรกไม่ต้องสนใจอายุคนซื้อ ขอให้ถือครบ 5 ปีบริบูรณ์นับจากวันที่ซื้อครั้งแรกสามารถขายคืนได้ โดยไม่ต้องคืนภาษีลดหย่อนกับภาษีกำไร ส่วนสอง อายุคนซื้อต้องครบ 55 และถือครบ 5 ปีบริบูรณ์นับจากวันที่ซื้อครั้งแรกของส่วนนี้ เท่านั้น (คือตั้งแต่ 1 ตค 2550 เป็นต้นไป) สามารถขายคืนได้ โดยไม่ต้องคืนภาษีลดหย่อนกับภาษีกำไร แต่คงต้องดูประกาศกรมสรรพากรเป็นทางการอีกทีครับ ... จากคุณ : PSN - [ 26 ก.ย. 50 07:52:17 A:124.121.80.195 X: TicketID:133395 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เพิ่มเติม เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกระทรวงการคลัง แต่เป็นความผิดพลาดของกรมสรรพากรเองครับ ต้นตอของเรื่องยุ่งๆนี้อยู่ที่ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 90) http://www.rd.go.th/publish/3111.0.html ครับที่ข้อ 1 วรรค 2... (2) ผู้มีเงินได้จะต้องถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก และไถ่ถอนหน่วยลงทุนดังกล่าวเมื่อผู้มีเงินได้นั้นมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปี บริบูรณ์ [b][u]หรือเมื่อผู้มีเงินได้นั้นถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก[/u][/b] ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับในกรณีผู้มีเงินได้ไถ่ถอนหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ เพราะเหตุทุพพลภาพหรือตาย ... จากคุณ : PSN - [ 26 ก.ย. 50 08:12:30 A:124.121.80.195 X: TicketID:133395 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เรียนถามต่อ....ในcaseของผมจะครบ5ปีในเดือน พย.50นี้และตั้งใจจะซื้อลงทุนในเดือน ธค.50นี้เพิ่มอีก เพื่อใช้ลดภาษีของรายได้ปี50 ดังนั้นถ้าผมจะขายในต้นปี51นี้ ผมสามารถทำได้หรือไม่ ขอผู้รู้ช่วยกรุณาด้วย...ขอบคุณครับ จากคุณ : ผ่านมา และอยากทราบ - [ 26 ก.ย. 50 08:46:40 A:172.18.57.23 X:202.6.107.51 TicketID:135121 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ควรซื้อภายในวันที่ 28 พย นี้ครับ เพื่อให้เงินก้อนนี้อยู่ในส่วนแรก ตามคห 1 ซึ่งถือว่าได้ลงทุนในปีนี้ไปแล้วครับ จากนั้นก็ขายคืนได้ทั้งหมดในเดือน พย (ครบ 5 ปี + 1 วัน) แล้วถือว่าล้างไพ่ใหม่ทั้งหมด แล้วเริ่มต้นซื้อใหม่ตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นไปครับ ยังไงก็คงต้องดูประกาศกรมสรรพากรเป็นทางการอีกทีครับ แต่ควรซื้อภายใน 28 พย นี้ครับแล้วว่ากันอีกที .... จากคุณ : PSN - [ 26 ก.ย. 50 09:46:10 A:203.146.20.17 X: TicketID:133395 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แก้ไข คห4 เป็นควรซื้อภายในวันที่ "28 กย" นี้ครับ จากคุณ : PSN - [ 26 ก.ย. 50 15:20:43 A:203.146.20.17 X: TicketID:133395 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่าให้ดูเจตนาเป็นหลักดีกว่าครับ 1. เจตนาของ กฎหมาย ต้องการให้ออมยาว ถึง 55 ปีขึ้นไปถึงถอนออกมา แลกกับผลประโยชน์ทางภาษี แต่เพราะมันยาวมาก บางคนอาจมีความจำเป็นต้องถอนออกมาก่อน ก็มีบทปรับให้คืนภาษีเพียง 5 ปีย้อนหลัง เป็นต้น 2. เจตนาคนซื้อ ผมว่าส่วนใหญ่ก็ตั้งใจออม จนถึง 55 ปีขึ้นเหมือนกัน 3. ปัญหาเรื่องการตีความส่วนใหญ่ก็ตีแบบเข้าข้างตัวเอง สำหรับคนที่เดือดร้อนต้องการใช้เงินจริงๆ ต้องผิดเงื่อนไข แบบนี้มันช่วยไม่ได้ คืนภาษีก็ต้องคืน แต่สำหรับคนทั่วไป ขณะที่ยังไม่ชัดเจน จะเสี่ยงกับสรรพากรทำไมครับ ขายก่อนกับไม่ขายถือต่อไปเรื่อยๆ ผลต่างผลประโยชน์มันต่างกันมากขนาดไหน คงต้องประเมินเป็นกรณีๆไปครับ สำหรับผมตั้งใจออมยาวอยู่แล้ว ถึงเอาออกมาก็ต้องเอามาลงใน 4 กลุ่มเหมือน RMF อยู่ดีต่างกันที่ มันอาจถูกใช้หมดก่อนอายุ 55 ได้ จากคุณ : ปลาทู - [ 26 ก.ย. 50 19:37:15 A:58.8.125.110 X: TicketID:116053 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถามอีกนิดนึงนะครับ RMF พ่อของผมตกลงจะฝากในปีนี้ก่อนตุลาคมครับ (ปีนี้ปีที่3ครับ) เดือนที่ครบกำหนดคือเดือนธันวาคมครับ แบบนี้พ่อของผมจะขายคืนออกมาได้ ในเดือน ธันวาคม 2552 ใช่ไหมครับ (ครบ 5 ปีพอดี) คือจุดประสงค์ที่คิดไว้คือ ขายคืนเอาเงินออกมาก่อนแล้วจะซื้อใหม่ในปี 2553 ครับ เพื่อที่ว่าจะได้ซื้อทั้ง RMF & LTF ในวงเงินกองทุนละ 300000บาท(ทุนจากที่ขาย RMF ออกมา) เพื่อที่จะได้ช่วยหักตัวภาษีเงินได้ของปี 2553 ครับ(ส่วนเงินได้ในปี 2553ผมจะได้นำไปลงทุนในหุ้นต่อไปครับ) ผมคิดแบบนี้ถูกต้องรึปล่าวครับ?? ปล. ขอขอบคุณ คุณ PSN และคุณปลาทูมากนะครับที่เข้ามาให้ความรู้ครับ^^ จากคุณ : หมาขาว - [ 26 ก.ย. 50 23:10:47 A:124.120.139.26 X: TicketID:156258 ]